NEWS

เจาะลึก MariSilicon X ที่ยกระดับการถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟน บันทึก 4K AI HDR Night Video ได้ คาดมาใน OPPO Find X รุ่นถัดไป

สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 21 ธันวาคม 2564

ปรับขนาดตัวอักษร - ก +ก

แชร์

OPPO ได้จัดงาน OPPO INNO DAY 2021 เพื่ออัปเดทกลยุทธ์ พร้อมแสดงความสำเร็จด้านเทคโนโลยี ภายใต้สโลแกน ‘Reimaging the Future’ พลิกโฉมเทคโนโลยีสู่อนาคต ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 14-15 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยในงานนี้ OPPO มีการเปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ OPPO Find N, OPPO Air Glass และ MariSilicon X Imaging NPU ที่จะมายกระดับการถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนให้ล้ำหน้าไปอีกขั้น มอบประสบการณ์การใช้งานด้านภาพและวิดีโอได้ดีที่สุด

โดยปกติแม้ว่ากล้องบนสมาร์ทโฟนจะมี AI ช่วยในการประมวลผลการถ่ายภาพให้ออกมาสมบูรณ์อยู่แล้ว แต่การทำงานของ AI กล้องนั้น ยังคงต้องใช้การประมวลผลผ่านชิปเซ็ตหลักของเครื่อง ซึ่งมีข้อจำกัดที่ทำให้ไม่สามารถดึงประสิทธิภาพการทำงานของกล้องออกมาได้ไม่เต็มที่ แต่เมื่อมี MariSilicon X Imaging NPU แล้ว ก็จะแยกการประมวลผลของกล้องออกมาโดยเฉพาะ จะทำให้การถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนนั้นมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ลดเวลาในการประมวลผลต่างๆ ของภาพลง ซึ่งในขณะเดียวกันยังช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย

OPPO ใช้ระยะเวลาสามปีในการออกแบบ MariSilicon X Imaging NPU สำหรับการถ่ายภาพที่ล้ำสมัยตัวแรก ผลิตด้วยกระบวนการขนาด 6 นาโนเมตร ซึ่งรวม NPU, ISP ที่ OPPO ออกแบบเอง และสถาปัตยกรรมหน่วยความจำขั้นสูง Multi-tier Memory Architecture เพื่อให้พลังการประมวลผลและประสิทธิภาพขั้นสูง เพื่อตอบสนองความเฉพาะของ OPPO ในการประมวลผลภาพ สามารถประมวลผล RAW domain ได้แบบไม่สูญเสียรายละเอียด บันทึก 4K AI Night Video โดยคาดว่าเจ้า MariSilicon X นี้ จะเปิดตัวในไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 บน OPPO Find X Series สมาร์ทโฟนแฟล็กชิพรุ่นถัดไป

ประมวลผลเร็วแรง เต็มประสิทธิภาพขั้นสูง โดยไม่สิ้นเปลืองพลังงาน

OPPO ได้ออกแบบ MariSilicon X Imaging NPU ให้มีความสามารถในการคำนวณชุดคำสั่งได้มากถึง 18 TOPS ประมวลผลได้ถึง 18 ล้านล้านรายการต่อวินาที มอบความเร็วสูงสุดในการประมวลผล ซึ่งมากเพียงพอในการทำงานรวมกับอัลกอริธึม AI อย่างเต็มประสิทธิภาพขั้นสูงสุด โดยไม่สิ้นเปลืองพลังงานจากแบตเตอรี่ ด้วยการใช้พลังงานไปเพียง 11.6 TOPS ต่อวัตต์เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น เมื่อใช้งาน AI noise reduction ที่มี MariSilicon X จะสามารถลด Noise ในวิดีโอ 4K ที่ 40fps ซึ่งเร็วกว่าใน OPPO Find X3 Pro ถึง 20 เท่า แถมยังใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 50% อีกด้วย

โดยฟีเจอร์ NPU มีระบบหน่วยความจำย่อย Tera bps ที่ล้ำสมัย ซึ่งช่วยให้ MariSilicon X สามารถใช้ประโยชน์จากพลังการประมวลผลของ NPU โดยไม่ถูกจำกัดด้านหน่วยความจำได้อย่างเต็มที่ ทำให้สามารถลดระยะเวลาในการคัดลอกข้อมูลระหว่างหน่วยเก็บข้อมูลและหน่วยประมวลผลได้อย่างมากนั่นเอง

ISP อันทรงพลังบน Ultra HDR

OPPO ยังได้ออกแบบ ISP ที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อเสริมความสามารถในการถ่ายภาพวิดีโอให้โดดเด่น ด้วยช่วงไดนามิกที่สูงพิเศษถึง 20 bit ซึ่งกว้างกว่า OPPO Find X3 Pro ถึง 4 เท่า ซึ่งมีช่วงไดนามิกสูงสุดที่ 18 บิต โดยวิดีโอดังกล่าวจะมี contrast ratio 1 ล้านต่อ 1 ระหว่างส่วนที่สว่างที่สุดและมืดที่สุดของภาพ ให้แสงและสีสันที่สวยงามสมจริง เทียบได้กับสิ่งที่มองเห็นด้วยสายตามนุษย์เลยทีเดียว

ประมวลผล RAW แบบเรียลไทม์ โดยไม่สูญเสียรายละเอียด

ด้วยความที่ MariSilicon X มีหน้าที่เกี่ยวกับการประมวลผลภาพจากกล้องโดยเฉพาะ จึงประสานขั้นตอนการประมวลผลภาพของ OPPO ได้อย่างเต็มรูปแบบ สามารถรับภาพที่มี signal-to-noise ratio ที่ 8dB และสามารถเก็บรายละเอียดได้มากขึ้น 30% เมื่อเทียบกับ image pipeline ทั่วไป จึงทำให้คุณภาพของภาพเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ไม่สูญเสียรายละเอียด และยังแสดงตัวอย่างภาพถ่ายและวิดีโอแบบ HDR ได้แบบเรียลไทม์ มอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่เหนือระดับขั้นสุด

RGBW Pro Mode อัปเกรดเพื่อภาพและวิดีโอที่สมบูรณ์แบบ

MariSilicon X ยังปลดล็อกความเป็นไปได้ต่างๆ ผ่านการโต้ตอบกับองค์ประกอบอื่นๆ ใน imaging system อย่าง เซ็นเซอร์ RGBW ของ OPPO ด้วยดีไซน์ Dual Image Pipeline และ 2-time RAW super sampling มาช่วยรองรับการคัดแยกและรวบรวม RGB กับ White signals ทำให้มีอัตราส่วน สัญญาณเสียงต่อสัญญาณรบกวน (signal-to-noise ratio) ที่ดีขึ้น 7.9 เท่า และเพิ่มคุณภาพของรายละเอียดพื้นผิวถึง 1.7 เท่า ช่วยให้วัตถุต่างๆ ที่อยู่ในภาพและวิดีโอมีความลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ดูสวยงามสมบูรณ์แบบ แม้จะถ่ายด้วยกล้องสมาร์ทโฟนก็ตาม

บันทึกภาพ 4K AI Night Video

ด้วยศักยภาพขั้นสูงของ MariSilicon X จึงสามารถบันทึก 4K AI HDR Night Video บนสมาร์ทโฟนแอนดรอย์ได้ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของโลก ปลดปล่อยพลังแห่งอัลกอริธึม AI Noise Reduction เพื่อมอบวิดีโอที่คมชัดและสมจริงมากขึ้น รวมถึงทำให้ช่วงไดนามิกมีความกว้างมากขึ้น มอบภาพที่มีสีสันมากขึ้นและวิดีโอที่คมชัดสดใสเสมือนเป็นภาพนิ่งในแต่ละเฟรม

นอกจากนี้ ในงาน OPPO INNO DAY 2021 ยังได้เผยโฉม สมาร์ทโฟนจอพับรุ่นแรกของแบรนด์ หรือ OPPO Find N และ OPPO Air Glass อุปกรณ์ aR (assisted Reality) สุดล้ำ ที่จะมาตอบโจทย์การใช้งานแห่งอนาคต โดยมีความน่าสนใจ ดังนี้

OPPO Find N สมาร์ทโฟนแฟลกชิพจอพับรุ่นแรก ซึ่งใช้เวลาในการวิจัยและพัฒนามากว่า 4 ปี เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ผู้ใช้งาน โดย OPPO Find N มาพร้อมขนาดที่กะทัดรัด อัดแน่นด้วยฟังก์ชันมากมาย หน้าจอด้านนอก มีขนาด 5.49 นิ้ว และเมื่อกางออก หน้าจอด้านในจะมีขนาด 7.1 นิ้ว ดีไซน์บานพับแบบ water-drop hinge จะช่วยลดรอยพับบนหน้าจอได้ถึง 80% เมื่อเทียบกับอุปกรณ์แบบพับรุ่นอื่นๆ ให้การแสดงผลที่คมชัด สีสันสวยสดใส

OPPO Find N ติดตั้งกล้องระดับแฟล็กชิพมาให้ถึง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก ความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ Sony IMX 766, เลนส์ ultra-wide ความละเอียด 16MP และเลนส์ telephoto ความละเอียด 13MP ให้ถ่ายภาพและวิดีโอคุณภาพสูงได้ครบครันตามความต้องการ

การใช้งานลื่นไหลด้วย Qualcomm Snapdragon 888 Mobile Platform พร้อมหน่วยความจำ 2 ขนาดความจุ (RAM 8GB + ROM 256GB) และ (RAM 12GB + ROM 512GB) แบตเตอรี่ ความจุ 4,500mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W SuperVOOC Flash Charge ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น

ส่วน OPPO Air Glass อุปกรณ์ aR (assisted Reality) แว่นตาอัจฉริยะล้ำสมัยนี้ มาพร้อมดีไซน์ที่แปลกตาไปกว่าเดิม ด้วยแรงบันดาลใจจากปีกของจักจั่น น้ำหนักเบามาก ประมาณ 30 กรัมเท่านั้น มี Spark Micro Projector ที่ OPPO ได้พัฒนาขึ้นเอง เป็นเสมือนเครื่องฉายขนาดเล็กเท่าเมล็ดกาแฟอยู่ภายใน ฉายผ่านแสง Micro LED อันล้ำสมัย ลงบนจอแสดงผล optical waveguide แบบเลี้ยวเบนที่ปรับแต่งเอง ใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน Smart Glass บน OPPO Watch 2 และสมาร์ทโฟน OPPO ทุกรุ่นที่ติดตั้ง ColorOS 11 หรือสูงกว่า

รองรับการโต้ตอบที่สะดวกสบายถึง 4 แบบ ได้แก่ การสัมผัส เสียง การเคลื่อนไหวของมือ และการเคลื่อนไหวของศีรษะ มาพร้อมฟีเจอร์แปลภาษาที่จะแปลงเสียงเป็นตัวอักษร เช็กสภาพอากาศ หรือการแจ้งเตือนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลสุขภาพ, ปฎิทิน, การนำทาง หรือแม้แต่เครื่องบอกสคริปต์ ช่วยให้การพรีเซ็นต์งานของคุณง่ายขึ้น

และทั้งหมดนี้คือนวัตกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ จากงาน OPPO INNO DAY 2021 และ OPPO ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความก้าวหน้าบทใหม่ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ผู้ใช้งาน พลิกโฉมเทคโนโลยีสู่อนาคต ตอกย้ำพันธกิจของแบรนด์อย่าง ‘Technology for Mankind, Kindness for the World’