สมาร์ทโฟน (Smartphone)  |   วันที่ : 9 พฤษภาคม 2565

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

ที่ผ่านมา ชิปเซ็ตจากบริษัท MediaTek มักถูกมองเป็นมวยรองอยู่เสมอ แต่ในช่วงหลังมานี้ MediaTek ก็ได้ยกระดับตัวเองขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ และสมาร์ทโฟนแบรนด์ดังๆ ก็เลือกใช้ชิปเซ็ตของพวกเขามากขึ้น แม้แต่ในยุค 5G ทาง MediaTek เองก็ก้าวตามทันโลกที่หมุนอย่างรวดเร็ว ซึ่งได้ส่งชิปเซ็ต MediaTek Dimensity Series ออกมาตอบโจทย์สมาร์ทโฟนในยุค 5G ได้อย่างยอดเยี่ยม จนล่าสุดตลาดระดับไฮเอนด์มีสั่นสะเทือน โดย MediaTek ข้อท้าชิปเซ็ตระดับเรือธง ด้วยการส่ง MediaTek Dimensity 9000 ชิปเซ็ต 5G ตัวแรง เพื่อขับเคลื่อนให้สมาร์ทโฟนเรือธงโดยเฉพาะ ว่าแต่ MediaTek Dimensity 9000 มีอะไรดี ? ทำไมสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ถึงต้องเลือกใช้ ? ต้องตามมาดูได้ทางด้านล่าง

ทำความรู้จักชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9000
MediaTek Dimensity 9000 เป็นชิปเซ็ต 5G สุดทรงพลังจากค่าย MediaTek และถูกออกแบบมาเพื่อสมาร์ทโฟนระดับเรือธงโดยเฉพาะ ซึ่ง MediaTek Dimensity 9000 เป็นชิปเซ็ตขนาด 4 นาโนเมตร ใช้กระบวนการผลิต TSMC N4 (4nm-Class) เป็นรุ่นแรกของโลก โดย MediaTek Dimensity 9000 สามารถขับเคลื่อนสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ให้มีประสิทธิภาพสูง เพิ่มการประหยัดพลังงานได้ยอดเยี่ยม มีชิป APU เพิ่มความสามารถให้กับระบบ AI  แถมยังชาวให้ใช้งานเทคโนโลยีชั้นใหม่ล่าสุด และสเปคสมาร์ทโฟนในอนาคตอีกมากมาย

ประสิทธิภาพการทำงาน
ภายใน MediaTek Dimensity 9000 ใช้หน่วยประมวลผลสถาปัตยกรรม Armv9 โดยมี CPU เป็นแบบ 8 คอร์ หรือ Octa-Core ซึ่งไฮไลท์เด่นจะอยู่ตรง CPU ใหญ่ตัวหลักอย่าง Arm Cortex-X2 ที่มีการนำมาใช้กับ MediaTek Dimensity 9000 เป็นรุ่นแรกในโลก พร้อมทำความถี่ติดต่อกันได้ถึง 3.05GHz โดย Arm Cortex-X2 ทำงานเป็นหัวใจหลักของ MediaTek Dimensity 9000 เน้นขับเคลื่อนการใช้งานแบบหนักๆ ให้กับอุปกรณ์ พร้อมดันประสิทธิภาพในด้านต่างๆ ให้สูงขึ้น หากนำไปเทียบกับรุ่นก่อน Cortex-X1 จะมีความเร็วมากขึ้นถึง 16%

ด้ารคอร์อื่นๆ ยังมี Arm Cortex-A710 อีก 3 ตัว ซึ่งเป็นคอร์สนับสนุน ช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานระดับปานกลาง และมี Arm Cortex-A510 อีก 4 ตัว โดยสนับสนุนการทำงานแบบเบาๆ แต่ให้ความลื่นสูง ซึ่งมีการใช้พลังงานที่ต่ำ ช่วยในการประหยัดแบตเตอรี่

การประมวลกราฟฟิกจะใช้เป็น Arm Mali-G710 MC10 ซึ่งมีการนำมาใช้กับ MediaTek Dimensity 9000 เป็นที่แรกเช่นกัน ทั้งหมดส่งผลให้ชิปเซ็ตมีประสิทธิภาพการทำงานสูงมาก เหมาะกับสมาร์ทโฟนเรือธงที่มีฟีเจอร์ใหม่ๆ และต้องการการทำงานที่รวดเร็ว พร้อมกับการประผลมวลกราฟฟิกที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการเล่นเกม

รายละเอียดคอร์ต่างๆ ภายใน

  • Ultra-Core  Cortex-X2 ความเร็ว 3.05GHz จำนวน 1 ตัว
  • Super-Cores - Cortex-A710 ความเร็ว 2.85GHz จำนวน 3 ตัว
  • Efficiency Cores - Cortex-A510 จำนวน 4 ตัว
  • หน่วยประมวลกราฟฟิก Mali-G710 MC10
  • แคชขนาดใหญ่ - สูตร 8MB L3 แคช + 6MB System แคช

ประสิทธิภาพ AI ชั้นยอด ด้วยชิป MediaTek APU 590
ประสิทธิภาพของระบบ AI มาอย่างฉลาดเต็มประสิทธิภาพ เพราะมีชิป MediaTek APU 590 ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผล AI รุ่นที่ 5 มีการออกแบบเอ็นจิ้น AI แบบ End-to-end มาใหม่ทั้งหมด ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ AI ได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งการทำงานด้าน กล้องถ่ายรูป, วิดีโอ และโซเชียลที่มีการ AI เข้าไปช่วย ทั้งนี้การจัดการกับพลังงานก็ฉลาดล้ำ ช่วยประหยัดพลังงานได้ดีขึ้นถึง 4 เท่า เมื่อนำไปเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

รองรับสเปคสุดแรง และเทคโนโลยีในอนาคตมากมาย
ภายในชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9000 ยังมีเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย เพื่อรองรับการทำงานร่วมกับสเปคสมาร์ทโฟนระดับเรือธง ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผล, กล้องถ่ายรูปเครือข่าย 5G, การเชื่อมต่อ และเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมระดับสูง

  • หน้าจอแสดงผล
    เทคโนโลยี MiraVision 790 จะอยู่ในชิป MediaTek Dimensity 9000 ช่วยให้สมาร์ทโฟนใช้สเปคหน้าจอที่มีความละเอียดสูง และรองรับอัตรา Refresh Rate ที่สูงเช่นกัน ทำให้ใช้หน้าจอแสดงผลได้อย่างชัดเจน พร้อมความลื่นที่เข้ากับแอพฯ ต่างๆ โดยสนับสนุนหน้าจอความละเอียดสูงสุดที่ WQHD+ มีอัตรา Refresh Rate 144Hz และความละเอียดระดับ FHD+ อัตรา Refresh Rate ที่ 180Hz 
  • RAM LPDDR5X
    รองรับ RAM แบบ LPDDR5X ความเร็ว 7500Mbps ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่สำหรับ RAM ช่วยให้หน่วยความจำตอบสนองได้ทันที พร้อมใช้งานตลอดเวลา และยังประหยัดพลังงานได้มากกว่าเดิมถึง 20% หากเทียบกับ LPDDR5
  • กล้องถ่ายรูป
    MediaTek Imagiq 790 เป็นเทคโนโลยีเพื่อกล้องถ่ายรูปบนชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9000 มีการใช้พลังงานที่น้อยกว่าเดิม พร้อมความโดดเด่นที่ระบบ HDR-ISP 18bits ทำให้บันทึกวิดีโอจากกล้อง 3 ตัวพร้อมกัน และมีการเปิดรับแสงได้ทั้ง 3 ระดับ รวมไปถึงการ Live สตรีมก็สามารถเลือกเปลี่ยนกล้องได้ทันทีขณะสตรีม ส่วนการถ่ายภาพนิ่งกล้องแต่ละตัวจะมีการทำงานร่วมกันได้ และมีการปรับปรุงแก้ไขภาพในภายหลัง ยังมีการใช้พลังงานที่น้อยกว่าเดิม

    ทั้งนี้ยังมีหน่วยประมวลภาพ ISP 9Gpixel/s ช่วยให้รองรับกล้องสมาร์ทโฟนที่มีความละเอียดสูงถึง 320 ล้านพิกเซล ช่วยให้ถ่ายภาพในความละเอียดสูงพิเศษ ซูมได้ 2 เท่าโดยไม่เสียรายละเอียด และการบันทึกวิดีโอก็ทำความละเอียดได้สูงสุดที่ 4K HDR ส่วนระบบ AI ก็ยังมีส่วนร่วมกับกล้องถ่ายรูป ซึ่ง AI จะเข้ามาช่วยลด Noise ในการบันทึกวิดีโอ

   

  • เทคโนโลยีเพื่อการเล่นเกม
    MediaTek Dimensity 9000 เป็นชิปเซ็ตสำหรับเล่นเกมบนระบบปฏิบัติการ Android โดยเฉพาะ ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยี MediaTek HyperEngine 5.0 หลักๆ จะช่วยให้เล่นเกมได้แบบต่อเนื่อง โดยไม่เกิดปัญหาการเชื่อมต่อ ภาพไม่กระตุก และเฟรตเรตที่เสถียรตลอดการเล่น นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีรุ่นที่ 5 ทำงานร่วมกับระบบ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลภาพที่สวยงาม และประหยัดพลังงานได้ดีขึ้น พร้อมลดการทำงานหนักภายใน GPU

               

    ไม่พอแค่นั้น MediaTek HyperEngine 5.0 ยังใส่เทคโนโลยีใหม่ๆ มามากมาย อย่างเช่น AI-VRS หรือเทคโนโลยี Variable Rate Shading ที่ช่วยเรนเดอร์เงาให้เหมาะสมในส่วนต่างๆ ภายในเกม, Hybrid AI-GPU Super Resolution เพิ่มความละเอียดภาพด้วย AI, และระบบ Raytracing SDK บน Vulkan ที่ช่วยปรับภาพ และแสงภายในเกมดูสมจริง ซึ่งก่อนหน้านี้จะอยู่บนการ์ดจอของคอมพิวเตอร์เท่านั้น

           

  • เครือข่าย 5G 
    การรับเครือข่าย 5G จะได้โมเดม 3GPP Release-16 ในการรับสัญญาณ ซึ่งช่วยให้รับคลื่นความถี่แบบ Sub-6GHz และใช้ความเร็วได้สูงสุดถึง 7Gbps ด้วยระบบรวมความถี่ 3CC Carrier Aggregation (300MHz) ซึ่งหาได้จากความถี่ Sub-6GHz เท่านั้น พร้อมทำงานได้ทั้ง 5G Standalone (ไม่ทำงานร่วมกับ 4G ได้ความเร็วที่มากกว่า เสถียรกว่า) และ 5G Non-Standalone (ทำงานร่วมกับ 4G) ทั้งนี้ยังรองรับฟีเจอร์การโทรด้วยเสียงแบบวิดีโอคอล (VoNR) เปิดประสบการณ์ 5G แบบเต็มสูบ ส่วนการประหยัดพลังงานก็ชั้นยอด ด้วยระบบ ?MediaTek 5G UltraSave 2.0 ช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่อย่างลงตัว

         

  • การเชื่อมต่อสู่อนาคต
    การเชื่อมต่อไร้สาย ก็ขนเทคโนโลยีใหม่ๆ และรองรับการใช้งานในอนาคตมาทั้งนั้น โดยอย่างแรกเป็นการรับสัญญาณ Wi-Fi 6E 2x2 (BW160) ทำงานได้ดีขึ้นถึง 15% หากเทียบกับคู่แข่ง และยังรองรับความถี่ใหม่อย่าง 6GHz ต่อมาเป็น Bluetooth ซึ่งรองรับมาตรฐาน Bluetooth 5.3 บนสมาร์ทโฟนเป็นรุ่นแรก ทำให้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อมีค่าความหน่วงต่ำมากๆ และมีเทคโนโลยี Bluetooth LE Audio ทำให้เปิดประสบการฟังเสียงแบบ Stereo บนอุปกรณ์เสียงไร้สายอย่างแท้จริง (Dual-Link) และความไฮไลท์ของการเชื่อมต่อสู่อนาคตจะเป็น การทำงานร่วมกันแบบไฮบริดระหว่าง Wi-Fi และ Bluetooth ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือเป็นพิเศษ เหมาะกับอุปกรณ์ IoT เป็นอย่างมาก

ผลทดสอบ Benchmark ทะลุหลอดทั้งประสิทธิภาพ และด้าน AI
ตอนนี้ก็ได้รู้ที่มาที่ไปของความแรงบนชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9000 กันไปแล้ว ก็ขอให้การทดสอบ Benchmark เป็นเครื่องยืนยันอีกแรงว่า MediaTek Dimensity 9000 ประสิทธิภาพการทำงานจะรุนแรงมากแค่นั้น ซึ่งจากการทดสอบ ก็ได้คะแนนจาก AnTuTu Benchmark V9.0.7 ไปสูงถึง 1,017,488 คะแนน ถือว่าเป็นชิปเซ็ตตัวแรกที่ได้คะแนนเหยียม 1,000,000 คะแนน ในหมวดสมาร์ทโฟน Android และยังได้คะแนนจาก Geekbench V5.1 ในแบบมัลติคอร์ไปสูงถึง 4,324 คะแนน ส่วนความฉลาดของ AI ได้ใช้ Benchmark จาก ETHZ AI (v5) ซึ่งได้คะแนนได้ถึง 1,024 คะแนน และขึ้นชาร์ตเป็นอันหนึ่งด้าน AI บนเว็บไซต์ ai-benchmark ซึ่งเป็นการทดสอบบนสมาร์ทโฟน OPPO Find X5 Pro Dimensity Edition

ก็ถือว่าน่าสนใจทีเดียวกับชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9000 โดยตอนนี้ในประเทศจีนได้มี OPPO Find X5 Pro Dimensity Edition ที่ใช้งานเป็นรุ่นแรก และตามมาด้วย Redmi K50 Pro ก็ต้องมาติดตามกันว่าประเทศนอกประเทศจีน รวมถึงประเทศไทย จะมีโอกาสได้ลองความแรงของ MediaTek Dimensity 9000 เมื่อไหร่ แต่แอบแว้วๆ ว่า อาจต้องรอถึงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2565 และเป็นแบรนด์ Vivo ที่จะนำมาตีตลาดแบบ Global หรือหากเร็วกว่านั้นก็คือ Redmi K50 Pro ในเวอร์ชั่น Global

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่