ซอฟต์แวร์ (Software) | วันที่ : 25 สิงหาคม 2565
Huawei Smart Office คือ 1 ใน 5 ประสบการณ์ที่หัวเว่ยทุ่มเทพัฒนาและผลักดัน เพื่อยกระดับประสบการณ์การทำงานแบบออฟฟิศอัจฉริยะ ขยายศักยภาพการทำงานเมื่ออุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ สามารถเชื่อมถึงกันและทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อและครบวงจร
โดยมีศูนย์กลางเป็น “แล็ปท็อป” อุปกรณ์คู่ใจตลอดกาลของคนรักงานทั้งหลาย ซึ่งแล็ปท็อปก็สามารถเชื่อมต่อกับทุกดีไวซ์ในอีโคซิสเต็มของหัวเว่ยได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ผ่านฟีเจอร์ที่เรียกว่า Huawei Super Device นั่นเอง วันนี้เรามีตัวอย่างวิธีใช้งาน Huawei Super Device ที่มีมาให้ในแล็ปท็อปรุ่นล่าสุดอย่าง Huawei MateBook D 16 และ Huawei MateBook 16s รวมถึงแท็บเล็ตระดับโปร Huawei MatePad Pro 11-inch มาเล่าให้ฟัง ไปส่องความล้ำด้วยกันเลย !
1. เชื่อมทุกดีไวซ์ง่ายด้วยปลายนิ้ว
หน้าต่างของฟีเจอร์ Huawei Super Device ที่ปรากฏบนจอแล็ปท็อป จะแสดงไอคอนแล็ปท็อปไว้ตรงกลาง และแสดงไอคอนดีไวซ์อื่นๆ ของหัวเว่ยที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงล้อมรอบไว้ เราสามารถเชื่อมต่อแต่ละดีไวซ์เข้าหากันได้ เพียงแค่ “ลากเพื่อเชื่อมต่อ” โดยไม่ต้องใช้สายใดๆ ให้ยุ่งยาก เท่านี้ทุกอุปกรณ์ของหัวเว่ยที่เชื่อมต่อผ่าน Huawei Super Device ก็สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะเป็นแล็ปท็อป สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต มอนิเตอร์ สมาร์ทวิชั่น หรือหูฟังไร้สาย
2. เสิร์ชข้ามดีไวซ์ด้วย AI Search
กรณีที่ใช้หลายอุปกรณ์ทำงานสลับกันไปตามแต่สถานการณ์จะอำนวย บางวันก็พกแล็ปท็อป บางวันก็ถือแค่แท็บเล็ต หรือบางวันมีแค่สมาร์ทโฟนติดตัว ก็ทำงานผ่านสมาร์ทโฟนไปก่อน แต่ปรากฏว่าพอจะหาไฟล์สำคัญ ดันจำไม่ได้ว่าเก็บไว้ที่เครื่องไหน หัวเว่ยจึงคิดโซลูชันมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ เพียงเชื่อมต่อ Huawei MateBook D 16 เข้ากับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของหัวเว่ยผ่าน Huawei Super Device ก็สามารถกดปุ่ม AI Search ที่ให้มาบนแป้นคีย์บอร์ดของแล็ปท็อป เพื่อค้นหาไฟล์หรือข้อมูลที่ต้องการได้แบบข้ามดีไวซ์ ผ่านการเสิร์ชบนแล็ปท็อปแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ขอเพียงแค่ล็อกอินทุกดีไวซ์ด้วย Huawei ID เดียวกัน ทุกดีไวซ์ก็จะสามารถเชื่อมต่อและทำงานร่วมกันได้เสมือนเป็นหนึ่งเดียว
3. จัดการงานและประชุมให้อยู่หมัดสไตล์คน multi-task
สำหรับคนทำงานในระหว่างประชุม อาจจะมีเรื่องต่างๆ ที่ต้องทำไปพร้อมกัน ทั้งจดโน้ต ตอบแชทเพื่อนร่วมงาน และเสิร์ชหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตไปด้วย เพื่อการใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด ดังนั้น Huawei จึงตอบโจทย์การทำงานของคนยุคใหม่ ให้สามารถทำงานหลายอย่างไปได้พร้อมกัน เพียงเชื่อมต่อ Huawei MateBook D 16 เข้ากับแท็บเล็ต Huawei MatePad Pro 11-inch ด้วย Extend Mode เพื่อใช้แท็บเล็ตเป็นหน้าจอที่ 2 แยกหน้าต่างประชุมออกมา และใช้แล็ปท็อปทำงานอื่นๆ ต่อ เพียงเท่านี้ คุณก็สะสางงานต่างๆ ได้อย่างลงตัว สะดวกสบาย เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Huawei MatePad Pro 11-inch สามารถมอบประสบการณ์ Smart Conference ด้วยลำโพง 6 ตัว ซึ่งใช้ระบบเสียง Huawei SOUND เป็นครั้งแรก ช่วยให้เสียงมีความชัดเจน พร้อมให้ประชุมออนไลน์ลื่นไหลอย่างมืออาชีพ ผ่านกล้องความละเอียดสูง 16MP กับเลนส์มุมกว้าง ซึ่งมีฟีเจอร์ FollowCam ที่สามารถขยับเฟรมตามการเคลื่อนไหวของผู้พูดได้ รวมถึงระบบเสียงอัจฉริยะอย่าง AI ตัดเสียงรบกวนและ Personal Voice Enhancement เน้นเสียงผู้พูดให้คมชัดและรับเสียงได้จากรอบทิศทางในรัศมี 5 เมตร
4. ตัดต่อวิดีโอหรือแต่งภาพอย่างเซียน บนหน้าจอขนาดใหญ่ที่ให้สีแม่นยำ
ใครที่ต้องทำงานตัดต่อวิดีโอ ทำกราฟิก หรือปรับแต่งภาพนิ่ง นอกจากจะต้องมีแล็ปท็อปพลังแรงๆ แล้ว มอนิเตอร์จอใหญ่ๆ ที่แสดงสีได้แม่นยำก็เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทดีไวซ์ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานให้เร็วและได้คุณภาพ กรณีนี้สามารถปลดล็อคทุกความสร้างสรรค์อย่างมืออาชีพด้วยการเชื่อมต่อ Huawei MateBook 16s กับ Huawei MateView ใน Mirror Mode เพื่อแสดงหน้าจอแบบเดียวกันทั้งในแล็ปท็อปและในมอนิเตอร์
โดย Huawei MateBook 16s ยืนหนึ่งกับหน้าจอ 2.5K พร้อมขอบเขตสี sRGB ที่ 100% และเฉดสีที่มากถึง 1.07 พันล้านสีช่วยไล่เรียงสีได้สมจริง โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ ΔE<1 ทำงานคู่กับเทคโนโลยี Huawei Real Color FullView Display ที่ช่วยให้หน้าจอแสดงสีได้แม่นยำและเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ร่วมด้วยเทคโนโลยี 3D LUT หรือการปรับเทียบสีระดับฮาร์ดแวร์ให้ตรงกันในทุกโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์
ขณะที่ Huawei MateView ก็มาพร้อมหน้าจอแสดงผลระดับ 4K+ Ultra-HD และมีขอบเขตสีระดับเดียวกับภาพยนตร์ เพิ่มทัศนวิสัยการทำงานให้กว้างขึ้นบนหน้าจอขนาดใหญ่ 28.2 นิ้ว เมื่อผสานกับประสิทธิภาพการประมวลผลที่เร็วและแรงของ Huawei MateBook 16s ด้วยโปรเซสเซอร์ 12th Gen Intel® Core™ i7-12700H มีดีไซน์ระบบระบายความร้อนที่สูงถึง 54W รองรับกราฟฟิกระดับสูงและการประมวลผลไฟล์ขนาดใหญ่ได้แบบไม่มีสะดุด การันตีความแรงจาก Intel® Evo™ ว่าเป็นนวัตกรรมที่ทรงพลังและอัดแน่นด้วยคุณภาพ
ใครที่สนใจ Huawei MateBook 16s และ Huawei MateBook D 16 สามารถเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ โดยสามารถเข้าไปดูข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ https://consumer.Huawei.com/th/
ส่วน Huawei MatePad Pro 11-inch ที่รองรับการใช้งาน Huawei Super Device เพื่อการทำงานไร้รอยต่อในสถานการณ์ที่หลากหลาย ทั้ง Mirror Mode แสดงเนื้อหาเดียวกันบนจอแล็ปท็อป Extend Mode เป็นหน้าจอส่วนขยายของแล็ปท็อปใน Collaborate Mode ถ่ายโอนไฟล์งานจากแล็ปท็อปสู่แท็บเล็ตเพื่อการทำงานแบบคล่องตัว มีให้เลือกทั้งรุ่น WIFI (8 GB+128GB) ราคา 24,990 บาท และรุ่น LTE (8GB+256GB) ราคา 29,990 บาท
ห้ามพลาดกับโค้งสุดท้ายของโปรโมชัน พรีออเดอร์ที่ราคานี้ จะได้ของสมนาคุณไปเลยฟรีๆ ไม่ว่าจะเป็น Huawei Smart Magnetic Keyboard, Huawei M-pencil 2nd generation และสิทธิประโยชน์มากมายจาก Huawei AppGallery อาทิ บริการ Huawei Cloud ฟรี 3 เดือน บริการ Huawei Music ฟรี 3 เดือน บริการ Huawei Video ฟรี 1 เดือน ใช้งาน WPS Office ฟรี 3 เดือนรวมถึงรับ Lazada Voucher มูลค่า 50 บาท เป็นต้น รวมมูลค่าของสมนาคุณ 12,282 บาท เมื่อสั่งจองระหว่างวันนี้ ถึงวันที่ 26 สิงหาคม 2565 ผ่านหน้าร้าน Huawei Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่างเว็บไซต์ Huawei Store ร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบนแอปพลิเคชัน Lazada
ติดตามอัปเดตข่าวสารล่าสุดก่อนใครได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ Huawei Mobile TH
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
วันที่ : 25 สิงหาคม 2565
เตรียมเปิดตัว HUAWEI MatePad 12 X แท็บเล็ตฟังก์ชันเรือธง ผสานการทำงานกับอุปกรณ์เสริมอย่างไร้รอยต่อ
เปิดตัว HUAWEI FreeBuds Pro 4! หูฟังไร้สายรุ่นแรกที่ใช้ HarmonyOS NEXT
HUAWEI MatePad Pro 13.2 (2025) แท็บเล็ตระดับพรีเมียมรุ่นใหม่ ตอบโจทย์ทั้งการวาดภาพและการทำงาน
Huawei เผยโฉม IdeaHub รุ่นเรือธงพร้อมอัดโปรเด็ดหนุนผู้นำจออัจฉริยะเพื่อออฟฟิศยุคใหม่
รีวิว HUAWEI Watch D2 สมาร์ทวอทช์ที่ยกระดับการตรวจวัดความดันโลหิตด้วย ABPM ตัวแรกของโลก
Redmi ฉลอง 11 ปี ปล่อยโลโก้ใหม่! พร้อมเปิดตัว Redmi K80 เรือธงสเปคจัดเต็ม
สรุปจุดเด่นและสเปค OPPO Pad 3 Pro หน้าจอ 144Hz ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 ลำโพง 8 ตัว แบตฯ 9510mAh
iQOO 13 5G ขุมพลัง Snapdragon 8 Elite แบต 6150mAh รองรับ 120W FlashCharge พร้อม Bypass Charging
vivo Y300 5G หน้าจอ AMOLED-120Hz ทนน้ำทนฝุ่น IP64 ชาร์จเร็ว 80W ลำโพง Hi-Res