หลังจากก่อนหน้านี้ได้แนะนำรุ่นน้อง : สรุปจุดเด่นและสเปค realme 10 Pro 5G สเปคดี หน้าจอ 120Hz กล้อง 108MP ราคาหมื่นต้นๆ ต่อไปมาดูพี่ใหญ่กันบ้าง สำหรับ realme 10 Pro+ 5G ที่มีความโดดเด่นในแง่ของหน้าจอกับสเปค แต่น่าเสียดายที่ใช้ชิปเซ็ตรุ่นเก่าไปหน่อย นั่นคือ Dimensity 920 5G แต่เมื่อดูรวมๆ แล้วก็ยังมีเสน่ห์อยู่ว่าแต่มีความแตกต่างจากรุ่นน้องอย่างไรบ้าง มาหาคำตอบกัน
สำหรับข้อแตกต่างระหว่าง realme 10 Pro 5G กับ realme 10 Pro+ 5G มีดังนี้
เริ่มจากดีไซน์กันก่อนจะมีการใช้เทคนิคเฉพาะในการออกแบบมากขึ้น เพราะหน้าจอที่มีความโค้งทั้งสองข้างนั่นเอง โดยใช้เทคนิคขั้นสูง เพื่อเพิ่มความทนทานมากยิ่งขึ้น ซึ่งใช้หน้าจอประเภท OLED การันตีมาตรฐานความคมชัดของแสงและสีเป็นธรรมชาติด้วย DCI-P3 มากถึง 100% กับมาตรฐานการแสดงผล HDR10+ รวมถึงอัตราการแสดงผลของสีสันระดับ 1.07 พันล้านเฉดสี ด้วยอัตราส่วนคอนทราสต์ 5,000,000:1 ทำให้แต่ละพิกเซลมีความแม่นยำสูงในการแสดงผล
นอกจากนี้มีเทคโนโลยี 2160Hz PWM Dimming ที่จะช่วยถนอมดวงตาคุณมากยิ่งขึ้นแม้จะเป็นช่วงขณะแสงน้อยหรือแสงมาก พร้อมการันตีมาตรฐานจาก TÜV Rheinland Flicker Free Certificate กับมาตรฐานป้องกันแสงสีฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ TÜV Rheinland Low Blue Light Certificate ส่วนความสว่างก็สู้แสงกลางแจ้งได้ มีความสว่างสูงสุด 800nits มาพ้รอมโหมด HyperVision Mode ที่สามารถขับแสงและสีได้จัดจ้านมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าทุกคอนเทนต์จะเพลิดเพลินกันไปเลย
อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นหน้าจอขอบโค้ง เชื่อว่าหลายคนคงมีประสบการณ์กันมาบ้าง แต่ก็อาจอุ่นใจขึ้นได้บ้าง เพราะหน้าจอมีการครอบทับกระจกขอบโค้งสองชั้น ซึ่งทางแบรนด์เคลมว่าไม่มีปัญหาในการทัชสกรีนหน้าจอแต่อย่างใด อีกทั้งมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่ปลดล็อครวดเร็วแม่นยำ มีฮาร์ดแวร์ช่วยสั่นสะเทือนด้วย เพิ่มประสบการณ์ในการใช้งาน (Tactile Engine 2.0) รวมถึงลำโพงสเตอริโอพลังเสียง Hi-res
ด้านประสิทธิภาพการใช้งาน อย่างที่เกริ่นข้างต้นน่าเสียดายในแง่ของชิปเซ็ตเพียงอย่างเดียว ที่อาจจะเก่าไปหน่อย แต่ก็ทดแทนด้วยความแรงของ RAM ที่มีสูงสุด 24GB จากสเปคเครื่อง 12GB และฟังก์ชั่นสร้าง RAM เสมือนอีก 12GB ต่อด้วยแบตเตอรี่ความจุ 5000mAh มีเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 67 วัตต์ เคลมว่าจาก 0%-50% ใช้ระยะเวลาเพียง 17 นาที
สรุปสเปคเบื้องต้นของสมาร์ทโฟน realme 10 Pro+ 5G
realme 10 Pro+ 5G ก้าวไปสู่โลกทัศน์ใหม่ที่เหนือระดับในราคาเพียง 15,999 บาท มีสองเฉดสีให้เลือก ได้แก่ Hyperspace Gold และ Dark Matter ราคาพร้อมเเพคเกจ จาก 3 เครือข่าย AIS/dtac และ truemove h เริ่มต้นต่ำสุดเพียง 7,390 บาท เปิดจองแล้วตั้งแต่วันนี้ - 16 ธันวาคม 2565 มาพร้อมของแถมมูลค่า 2,999 บาท กับประกันหน้าจอแตกนาน 12 เดือน และสิทธิ์ผ่อน 0% สูงสุด 12 เดือนกับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ
วันที่ : 9 ธันวาคม 2565
realme GT Neo 5 SE พาดูความแรงชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 7+ Gen 2
realme 10T 5G ตามมาติดๆ ชิปเซ็ต Dimensity 810 กล้อง 50MP ในราคาไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
realme C55 ราคาหกพันมีทอน กล้องหลัง 64MP ฟีเจอร์คุ้นๆ Mini Capsule
Samsung Galaxy A54 5G กล้องชัด โฟกัสเก่ง สมาร์ทโฟนสุด AWESOME
Samsung Galaxy A54 5G vs vivo V27 5G จะม่วงหรือจะเขียว เลือกรุ่นไหนดี!
Nokia Clarity Earbuds 2 Pro หูฟัง TWS ตัดเสียงรบกวน ANC ฟังเพลงชัดคุยสายสบาย
เหมาไป 8 อันดับ! เผยผลสำรวจแชมป์สมาร์ทโฟนขายดีที่สุดในโลกปี 2022
ทำความรู้จัก HUAWEI WATCH Buds สมาร์ทวอชที่มีหูฟังไร้สายซ่อนอยู่ ล้ำหน้าเกินปุยมุ้ย
HONOR Magic 5 Ultimate Edition ขั้นสุดของซีรีย์ อัพเกรดจัดหนัก
Samsung Galaxy A54 และ Galaxy A34 หลุดภาพเรนเดอร์ และสเปคที่คาด อาจเปิดตัว 15 มีนา 2023
Redmi Note 12 Turbo ประกาศวันเปิดตัว อีกหนึ่งชิปเซ็ต Snapdragon 7+ Gen 2 5 ชั่วโมงที่แล้ว
AI influencer คืออะไร?8 ชั่วโมงที่แล้ว