สุขภาพและความงาม (Health & Beauty)  |   วันที่ : 6 พฤศจิกายน 2565

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

ถ้ามองตามหลักความเป็นจริงแล้วเสื้อชูชีพเป็นอุปกรณ์ที่เข้าถึงได้ยาก โดยเฉพาะประชาชนบางกลุ่มที่มีรายได้น้อย เนื่องจากราคาของเสื้อชูชีพมาตรฐานหนึ่งตัวจะอยู่ประมาณ 500 - 1,500 บาท

ยิ่งในประเทศยากจน ผู้คนยิ่งเข้าถึงอุปกรณ์ป้องกันจมน้ำนี้ได้ยากมากทำให้หลายคนต้องเสียชีวิตจากการจมน้ำ เพียงแค่เพราะไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลือซึ่งมันไม่คุ้มกันเลย

ในบางประเทศต้องประสบกับปัญหาเหล่านี้มากมายนับไม่ถ้วน ยกตัวอย่างเช่น บังกลาเทศมีเด็กจมน้ำเสียชีวิตมากกว่า 19,000 คนต่อปี หรือเฉลี่ยมากถึง 53 คนต่อวัน

Ewan Morrell บัณฑิตนักออกแบบจากสหราชอาณาจักรจึงได้เล็งเห็นถึงปัญหาเหล่านี้และเป็นผู้ที่รู้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น อีกทั้งบริเวณที่เขาอยู่อาศัยก็เผชิญเหตุการณ์น้ำท่วมที่ค่อนข้างรุนแรงบ่อยครั้ง

เพราะเข้าใจความยากลำบากของผู้ประสบภัยน้ำท่วม Morrell จึงตัดสินใจออกแบบ Bot Lifejacket เสื้อชูชีพสำหรับเหตุการณ์น้ำท่วม ซึ่งเขาตั้งใจว่าเสื้อชูชีพนี้จะมีส่วนช่วยให้ประชาชนในประเทศยากจนอย่างบังกลาเทศและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียมีโอกาสรอดจากเหตุการณ์อุทกภัยมากยิ่งขึ้น

Morrell กล่าวว่า จำนวนเด็กเสียชีวิตจากการจมน้ำทำให้ผมเข้าใจว่าปัญหาน้ำท่วมในบังกลาเทศและประเทศอื่นๆ ในเอเชียนั้นรุนแรงขนาดไหน นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมอยากลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยเหลือพวกเขา

Bot Lifejacket ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทฟาสต์แฟชั่นขนาดใหญ่อย่าง ‘Primark’ ในการผลิตและแจกจ่ายเสื้อชูชีพไปยังบรรดาประเทศยากจนที่มีอัตราการจมน้ำสูง

อีกทั้งยังนำเศษผ้าเหลือใช้จากกระบวนการผลิตมาขึ้นเป็นตัวเสื้อชูชีพของ Morrell ด้วย ส่วนวัสดุที่ทำให้ตัวเสื้อลอยน้ำได้ก็ทำจาก ขวดน้ำพลาสติกเหลือใช้ เพียง 4 ขวดเท่านั้น โดยแบ่งเป็น 3 ขวดสำหรับสอดใส่ผ้าด้านหน้า และอีก 1 ขวดสำหรับด้านหลัง

Bot Lifejacket ถือว่าเป็นอีกหนึ่งการออกแบบอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยสำหรับช่วยเหลือประชาชนในประเทศที่มีรายได้น้อย อีกทั้งยังเป็นช่องทางในการรีไซเคิลเศษผ้าและนำขยะอย่างขวดพลาสติกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยเช่นเดียวกัน

แหล่งที่มา www.dezeen.com

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่