อุปกรณ์สวมใส่ (Wearable)  |   วันที่ : 7 ธันวาคม 2565

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

Amazfit Falcon สมาร์ทวอทช์สาย Rugged จากแบรนด์ Amazfit ซึ่งดูจากรูปลักษณ์แล้ว ต้องเป็นสมาร์ทวอทช์ระดับพรีเมี่ยมแน่ๆ โดยเป็นการผสมผสานระหว่างความถึกทน และความพรีเมี่ยมเข้าด้วยกัน โดยตัวเรือนใช้วัสดุจากไทเทเนี่ยม TC4 เกรดเดียวกับยานอวกาศ รวมไปถึงปุ่มข้างตัวเรือนทั้ง 4 ปุ่ม ก็ทำจากไทเทเนี่ยมเช่นเดียวกัน ไม่พอแค่นั้นยังได้มาตรฐานทางทหาร MIL-STD 810G ด้วยการผ่านการทดสอบมาถึง 15 การทดสอบ และได้มาตรฐานกันน้ำลึก 20ATM กันน้ำได้ลึก 200 เมตร ถือว่าเป็นรุ่นแรกของสมาร์ทวอทช์จาก Amazfit ที่ทำได้ขนาดนี้

หน้าปัดของ Amazfit Falcon จะเป็นทรงกลม ใช้หน้าจอสัมผัส พาแนล AMOLED กว้าง 1.28 นิ้ว ความละเอียด 416x416 พิกเซล ความหนาแน่นของพิกเซล 326ppi ปรับความสว่างได้สูงสุด 1,000nits และรองรับการใช้งานโหมด Always-On Display นอกจากนี้ยังถูกเสริมความแข็งแกร่งด้วยกระจก Sapphire Crystal Glass ซึ่งมีความแข็งแกร่งระดับ 9 เป็นรองแค่เพียงเพชรเท่านั้น และมีการเคลือบสาร Anti-fingerprint coating เพื่อลดรอยนิ้วมือ

ไฮไลด์เด่นยังไม่หมดเพียงแค่นั้น ยังมีเรื่องของระบบระบุตำแหน่ง ซึ่งจะรองรับระบุตำแหน่งจากดาวเทียมถึง 6 ระบบ และระบบ GPS จะเป็นแบบ Dual-Band ทั้ง L1 และ L5 เรียกว่าการระบุตำแหน่งมีความแม่นยำสูง และยังสามารถติดตามตำแหน่งแบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย

ส่วนฟังก์ชั่นการใช้งานก็มาหมดทั้งเรื่องของสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น ติดตามการเต้นของหัวใจ, ตรวจวัดค่า SpO2, ติดตามการนอนหลับ, และวัดความเครียด ในขณะที่โหมดการออกกำลังกายก็มีให้ใช้งานทั้ง Indoor และ Outdoor ถึง 150 โหมด การออกกำลังกายยังมีโค้ช AI อย่าง Zepp Coach ซึ่งจะช่วยให้การออกกำลังกายเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง และข้อมูลการออกกำลังกายทั้งหมดยังสามารถซิงค์ไปยังแอพฯ ต่างๆ มากมาย เช่น Google Fit, Apple Health, Relive, Strava, และ Adidas Running app

รายละเอียดอื่นๆ Amazfit Falcon จะรันบนระบบปฏิบัติการ Zepp OS รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 BLE ทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 ขึ้นไป และ iOS 12 ขึ้นไป ส่วนแบตเตอรี่มีขนาก 500mAh ใช้งานได้นานสุดถึง 14 วัน และใช้งานหนักๆ เปิด GPS เต็มที่ได้ 21 ชั่วโมง

เบื้องต้น Amazfit Falcon มีการเปิดตัว และวางขายแบบ Global จนล่าสุดมีการเปิดตัวใกล้ๆ บ้านเราอย่างประเทศอินเดีย สนนราคาอยู่ที่ 44,999 รูปี หรือประมาณ 19,500 บาท สุดท้ายทางประเทศไทยยังคงต้องรอลุ้นกันตามระเบียบ

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่