สมาร์ทโฟน (Smartphone)  |   วันที่ : 26 มีนาคม 2566

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

HUAWEI ปล่อยไม้ตาย ส่งสมาร์ทวอทช์ตัวถึกทน ท็อปสุดในบรรดาสมาร์ทวอทช์ของพวกเขา โดยมีชื่อว่า HUAWEI Watch Ultimate แน่นอนว่าเป็นคู่ต่อกรกับ Apple Watch Ultra นอกจากความแข็งแกร่ง ยังใส่ลุยได้ทุกที่ สามารถใส่ดำน้ำลึกถึง 100 เมตร ระบุตำแหน่ง และพิกัดจุดได้แม่นยำ ส่วนฟีเจอร์มาตรฐานก็มากันครบทั้งด้านติดตามสุขภาพและการออกกำลังกาย รวมไปถึงแบตเตอรี่ยาวนานชาร์จเร็ว

HUAWEI Watch Ultimate มีดีไซน์ที่ล้ำๆ ตัวเรือนเป็นทรงกลม ใช้วัสดุโลหะผสมเซอร์โคเนียม ทนทาน และเบากว่าสแตนเลสหลายเท่าตัว ขอบ Bezel ใช้เป็นเซรามิก และกระจกหน้าปัดแบบ Sapphire กันรอยขีดขวนในระดับดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีเม็ดมะยมอยู่บนซ้าย และปุ่มใช้งานอีก 2 ปุ่มทางซ้าย และขวา ส่วนสายรัดข้อมือมีให้เลือก 2 แบบคือ สายไทเทเนียม และสายยางไนไตรล์ไฮโดรจิเนต ซึ่งมีน้ำหนักเบาทนทาน ใส่ลุยได้ทุกที่

แน่นอนว่า HUAWEI Watch Ultimate เป็นสมาร์ทวอทช์สายลุยขนาดนี้ ใส่ดำน้ำก็ย่อมได้ โดยสามารถดำน้ำลึกถึง 100 เมตร การันตีด้วยการรับรอง ISO 22810 และ EN13319 รวมไปถึงมาตรฐาน 10ATM

หน้าจอแสดงผลเป็นทรงกลมเช่นกัน เป็นพาแนล AMOLED กว้าง 1.5 นิ้ว สนับสนุนอัตรา Refresh Rate สูงสุด 60Hz เป็นแบบ LTPO ปรับอัตโนมัติได้ตั้งแต่ 1Hz ถึง 60Hz ด้านแบตเตอรี่มีขนาด 530mAh ใช้งานทั่วไปได้นานถึง 14 วัน หรือใส่กิจกรรมหนักๆ จะอยู่ได้ราวๆ 8 วัน ทั้งนี้ยังสนับสนุนการชาร์จไร้สายแบบ Qi สามารถชาร์จตั้งแต่ 0% ถึง 100% ในเวลาเพียง 60 นาที

อีกความโดดเด่นของ HUAWEI Watch Ultimate คือ รองรับฟังก์ชั่น Beidou satellite messages สามารถรับส่งข้อความผ่านสัญญาณดาวเทียมนอกโลก เมื่อไม่มีสัญญาณเครือข่ายในภาคพื้น ซึ่งจะเป็นการใช้งานผ่านแอพฯ HUAWEI Sports Health Apps นอกจากนี้ยังมีการระบุตำแหน่งที่แม่นยำ ด้วย Dual-Frequency แบบ GNSS 5 ระบบ สามารถเข้าไปป่าลึกๆ และกดตั้งที่ตั้ง หรือ Waypoint ได้อีกด้วย

ฟังก์ชั่นการใช้งานพื้นฐานก็มีมาครบ โดยเฉพาะโหมดออกลังกาย ก็มีให้เลือกกิจกรรมลุยๆหนัก ๆ ไม่ว่าจะเป็นดำน้ำ ปีนเขา เผากระท่อม (อันหลังไม่มี) หรือการออกกำลังกายแบบมืออาชีพ 20 โหมด และกีฬาพื้นฐาน 100 กว่าโหมด ส่วนการติดตามสุขภาพก็มีทั้ง ติดตามการเต้นของหัวใจ, วัดค่า SpO2, ตรวจความผิดปกติของหัวใจ ECG และติดตามการนอนหลับเป็นต้น

ในช่วงแรก HUAWEI Watch Ultimate เริ่มวางขายในประเทศจีนเป็นที่แรก และจะตามมาฝั่งยุโรปในช่วง 3 เมษายน 2023 ในขณะที่ตัวเลือกสี และราคามีให้เลือก 2 แบบคือ Expedition Black (สายยาง) ราคา 5,999 หยวน (ประมาณ 29,800 บาท) และ Voyage Blue (สายไทเทเนียม) ราคา 6,999 หยวน (ประมาณ 34,800 หยวน)

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่