ไลฟ์สไตล์ (Lifestyle) | วันที่ : 8 เมษายน 2566
Tim Cook หัวเรือใหญ่จาก Apple แนะผู้ปกครอง ถึงเวลาแล้วที่เราต้องใช้ไม้แข็งกับเด็กๆ ที่ใช้เวลาบนหน้าจอนานเกินไป โดย Cook ได้เผยกับ GQ Magazine เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า “อิงจากพฤติกรรมของลูกชายผมเอง ที่ชื่นชอบการอยู่กับหน้าจอสมาร์ทโฟนตลอดเวลา ”
ดังนั้น“เรา” ในฐานะพ่อแม่ ผู้ปกครองต้องเข้ามามีบทบาทในการควบคุมพฤติกรรมส่วนนี้ของลูกๆ ให้มากขึ้น เพราะเด็กสมัยนี้เกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยี นั่นหมายความว่า พวกเค้านั้นกลายเป็นเด็กดิจิทัลกันไปแล้ว
“ผมไม่ต้องการเห็นใครจดจ่ออยู่กับสิ่งนี้มากเกินไป นั่นเป็นเหตุผลว่าว่าทำไมเราถึงได้คิดค้นเครื่องมือ หรือฟังก์ชัน Screen Time นี้ขึ้นมา เพื่อให้ผู้ใช้ได้ตระหนักถึงเวลาที่ผู้ใช้ได้ใช้ไปกับอุปกรณ์เหล่านี้ เทียบกับเวลาที่ผู้ใช้ได้ใช้ไปกับผู้คนรอบข้าง อย่างน้อยให้มันเกิดความตงิดในใจขึ้นมาบ้าง เพราะเราควรมีลิมิตในการจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง นั่นรวมไปถึงลูกๆของเราด้วย”
Cook แนะให้เห็นว่า Apple ได้คิดค้นฟังก์ชัน Screen Time เพื่อ Tracking หรือติดตามพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้งาน เพื่อชี้ให้เห็นถึงเวลาที่ผู้ใช้อาจจะใช้ล่วงเลยจากเวลาที่ควรจะเป็น รวมถึงให้ง่ายต่อผู้ปกครอง ในการลิมิตการใช้เวลาบนหน้าจอสำหรับลูกๆ ด้วย
Cook นั้น ถือในคติที่ว่า “if you’re looking at the phone more than you’re looking in somebody’s eyes, you’re doing the wrong thing” ถ้าเรามองจอโทรศัพท์มากกว่าการมองตา หรือมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่อยู่รอบตัวเรา นั่นถือว่า เรากำลังอะไรที่ผิดพลาดอยู่
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Cook ออกมาติติงเรื่องการใช้เวลาบนหน้าจอของผู้คน เพราะเมื่อปี 2020 โฆษกของ Apple เคยเผยในรายการ The Outside Podcast ว่า Cook นั้น ได้สั่งให้ทาง Developer ของ Apple ลดทอนการแจ้งเตือน Notification ลง เพื่อเบี่ยงความสนใจของผู้คน ให้ออกห่างจากสมาร์ทโฟนมากที่สุด โดยอิงจาก Screen Time ของตัวเขาเองในขณะนั้น ที่สูงมากๆ
เพราะ Cook นั้นเชื่อว่า คนเรามักจะพะวงและมี Logic ที่ว่า "จะมีใครส่งอะไรหาเราหรือเปล่า" อยู่เสมอ นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เราคอยก้มหน้าไปที่หน้าจอ เพื่อคอยเช็คการแจ้งเตือน และพร้อมที่จะกดเข้าไปหามันทันทีเมื่อมีการแจ้งเตือน ทำให้เราลืมและทิ้งทุกอย่างที่ทำ ณ ขณะนั้น เพื่อเทความสนใจทั้งหมดไปที่สมาร์ทโฟนในทันที
แล้วเราควรใช้เวลาบนหน้าจอเฉลี่ยกี่ชั่วโมง ?
โดยปกติแล้ว เวลาในการใช้หน้าจอที่เหมาะสม ที่แนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่าไม่ควรเกิน 2-5 ชั่วโมงต่อวัน เพราะการใช้เวลาในการเพ่งที่หน้าจอนานเกินไปนั้น นอกจากจะส่งผลเสียในแง่ของเวลา ยังส่งผลเสียระยะยาวต่อสุขภาพด้วย อย่างการทำให้ตาแห้งเนื่องจากตาสร้างน้ำตาไปเลี้ยงที่ตาไม่ทัน ส่งผลให้แสบตา และตาล้าจากการเพ่งมอง
ทั้งยังส่งผลให้มีความอยากนอนลดน้อยลงในกรณีที่เล่นโทรศัพท์ก่อนนอน เพราะแสงสีฟ้านั้นจะไปรบกวนจอประสาทตา ทำให้เรารู้สึกตื่นตัวมากขึ้น ระยะยาวมีโอกาสที่จอประสาทตาจะเสื่อมสภาพ หรือที่มองเห็นเป็นวุ้นๆ ลอยไปลอยมาในภาพนั่นเอง
เห็นถึงผลเสียกันขนาดนี้แล้ว ยังไงก็อย่าลืมลองกลับไปสังเกตพฤติกรรมการใช้เวลาบนหน้าจอของตัวเองกันดูนะเพื่อนๆ ว่าเราเข้าข่ายใช้เวลาบนหน้าจอนานเกินไปหรือเปล่า หรือถ้าใครมีบุตร/หลาน ก็ให้รีบตักเตือนในขณะที่ยังตักเตือนได้ อย่ารอให้เกิดอะไรขึ้นเสียก่อน ค่อยมาตระหนักในภายหลัง เพราะอะไรที่มากเกินไป ย่อมไม่ดีเสมอ
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
ที่มา : nypost.com วันที่ : 8 เมษายน 2566
รวมข่าวลือ iPad Air 2024 (Gen 6th) เพิ่มทางเลือกหน้าจอ 12.9 นิ้ว เร็วแรงขึ้นด้วยชิป M2
Apple ลั่นกลองประกาศกิจกรรม 7 พ.ค. 2024 คาดส่ง iPad รุ่นใหม่ อาจเห็น Apple Pencil รุ่น 3 มาด้วย
iPhone 16 พบภาพหลุดตัวดัมมี่ ปรับดีไซน์กล้องหลัง รุ่น Pro เพิ่มขนาดหน้าจอ
สิ้นสุดการรอคอย! Apple เตรียมลงแอปเครื่องคิดเลขบน iPad ปลายปีนี้
Apple ประกาศจัดงาน Let Loose ในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ คาดว่าอาจเปิดตัว iPad รุ่นใหม่
Samsung ครองแชมป์จำหน่ายสมาร์ทโฟนมากสุดไตรมาสแรก 2024 ขณะที่ iPhone ยอดขายลดฮวบ ทำไม ?
Polestar Phone เมื่อแบรนด์รถยนต์ EV เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของตนเอง สเปคจัดเต็ม!
Insta360 X4 กล้อง Action 360 องศารุ่นเรือธง ยกระดับความคมชัดสู่ยุค 8K พร้อมฟีเจอร์ครบครัน
Redmi Note 13 Pro+ World Champions Edition รุ่นพิเศษฉลองแชมป์
แตกต่างอย่างไร! ระหว่าง vivo Y100 4G vs vivo Y100 5G ราคาต่างกัน 1,700 บาท
Tecno POVA 6 และ POVA 6 Neo เน้นแบตเตอรี่ใหญ่จุใจ หน้าจอ 120Hz พลังเสียง Dolby Atmos
ส่องฟีเจอร์ใหม่! ปุ่ม Lookup บนแอปฯ Phone ของสมาร์ทโฟน Android ช่วยเช็คเบอร์มือถือ ป้องกันมิจฉาชีพ