Microsoft Edge ปรับปรุงฟังก์ชัน Block มีเดียเล่นเองอัตโนมัติขณะท่องเว็บไซต์

Microsoft Edge เบราว์เซอร์แบบ Chromium-based Edge จาก Microsoft ได้เพิ่มฟังก์ชันใหม่ ที่มาพร้อมกับการปรับปรุงการ Block มีเดียที่เล่นเองอัตโนมัติ ให้ดีขึ้นกว่าเดิมในระหว่างการท่องเว็บไซต์ของผู้ใช้งาน

จากรายงานของทาง Microsoft บนเว็บไซต์ Edge Insider site ระบุว่า ได้ปรับปรุงและเพิ่มการตั้งค่าการ Block มีเดียที่เล่นเองขณะที่ผู้ใช้ท่องเว็บไซต์บน Microsoft Edge ซึ่งฟังก์ชันนี้มีเดิมอยู่แล้วก่อนการอัปเดตในรุ่น Canary Release แต่ยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  รีวิว POCO X7 หน้าจอ 120Hz กันน้ำ IP68 ได้กล้องหลัง 3 เลนส์ และกระจกหน้าจอ Gorilla Glass Victus 2
• 
  ชมก่อนเปิดตัว! Samsung Galaxy A26, A36 และ A56 สามพี่น้องตระกูล A อัปเกรดจัดเต็มก่อนบุก MWC 2025

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่

ซึ่งทาง Microsoft ได้กล่าวว่าการปรับปรุงในครั้งนี้ จะเน้นไปที่การ Block Automatic Playback หรือการปิดกั้นการที่มีเดียอย่างวิดีโอ , เสียง , รูปภาพเคลื่อนไหว , เล่นเองอัตโนมัติระหว่างการที่เราท่องเว็บไซต์ ที่อาจจะรบกวนท่องเว็บไซต์ของผู้ใช้ อย่างการทำให้เกิดความรำคาญ หรือทำให้ตกใจเพราะไม่ทันได้ตั้งตัวกับเสียง หรือวิดีโอที่เล่นอัตโนมัติทันทีที่เริ่มเว็บไซต์นั้นๆ

โดยทาง Microsoft กล่าวเพิ่มเติมว่า เราได้รับรีเควสอย่างท่วมท้นล้นหลามจากผู้ใช้ว่า ต้องการ การ Block มีเดียที่ดี และรัดกุมขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากปัญหาเหล่านี้ได้ตามกวนใจเหล่าผู้ใช้เป็นอย่างมากระหว่างการท่องเว็บไซต์ ซึ่งเรารู้สึกตื่นเต้นมาก ที่จะแจ้งให้ทุกคนได้ทราบว่า ในที่สุด ฟังก์ชันนี้ ก็ได้ถูกปรับปรุงและเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว บน Microsoft Edge

ซึ่งการปรับปรุงในครั้งนี้ จะทำให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับประสบการณ์แบบใหม่ ในการเลือกที่จะหยุดการเล่นอัตโนมัติจากทุกมีเดีย บนทุกเว็บไซต์ระหว่างการท่องเว็บบน Microsoft Edge ทั้งยังตั้งค่าเพียงแค่ครั้งเดียว ระบบก็จะบันทึกและจดจำการตั้งค่านั้นไว้ โดยที่ไม่ต้องกลับมาเปิดใหม่อีกครั้งในการท่องเว็บไซต์นั้นๆในครั้งต่อไป

Microsoft ยังเผยเพิ่มเติมอีกว่า ฟังก์ชันนี้ เปิดให้ใช้บริการแล้วก็จริง แต่ยังไม่ครอบคลุมทุกประเทศในโลก โดยจะค่อยๆ ทยอยเปิดให้ใช้บริการอย่างเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ต่อไป แต่สำหรับผู้ที่ใช้ Microsoft Edge ในรุ่น Canary ส่วนใหญ่ ก็จะพบกับการตั้งค่านี้แล้วบน Setting ภายในตัวเบราว์เซอร์

โดยผู้ใช้สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ Setting -> Cookies and site permissions -> จากนั้นเลื่อนลงมาที่ Media autoplay ->  Control if audio and video play automatically on sites จากนั้นคลิกลูกศรเลื่อนลงตรงมุมขวา แล้วเลือกแอคชั่น Block แต่ก่อนการตั้งค่า ต้องอัปเดต Microsoft Edge ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเสียก่อน

ในขณะที่เบราว์เซอร์คู่แข่งอย่าง Google Chrome ถึงแม้จะยังไม่มีออปชั่นสำหรับการ Block การเล่นมีเดียอัตโนมัติ แต่ก็มีฟังก์ชันที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน อย่างฟังก์ชัน Mute บน Tabs ที่มีการเล่นของมีเดียอยู่ ด้วยการคลิกขวาบน Tab ดังกล่าว จากนั้นเลือก Mute Site

ทั้ง Google Chrome นั้นยังมีฟังก์ชันที่สามารถปิดการเล่นเสียงได้สำหรับทุกเว็บไซต์ แต่นั่นดูเหมือนจะเกินความจำเป็นไปนิด เพราะถ้าฟังก์ชันดังกล่าวถูกเปิด การเล่นเสียงทุกรูปแบบบนเบราว์เซอร์จะถูกปิดทันที ไม่ใช่เฉพาะมีเดียที่ถูกเล่นเองอัตโนมัติ แต่จะรวมถึงมีเดียที่เราตั้งใจเปิดขึ้นมาด้วย ทำให้ต้องเสียเวลากลับไปกดปิดการตั้งค่านั้นอีกครั้ง

ซึ่งก็ตามมาด้วยกระแสที่ว่าผู้ใช้ Google Chrome หลายๆ รายออกมาบ่นว่า Google Chrome น่าจะมีการตั้งค่าแบบ Microsoft Edge บ้าง ที่เปิดการตั้งค่าแค่ครั้งเดียวแต่สามารถ Block การเล่นเองอัตโนมัติของมีเดียได้หมดเลย ทั้งยังมีกระแสทิ้งทวนมาว่าทาง Google Chrome เอง ก็กำลังซุ่มพัฒนาฟังก์ชันดังกล่าวอยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้าเป็นเรื่องจริง ก็จะถือว่าดีต่อผู้ใช้มากเลยทีเดียว