ไลฟ์สไตล์ (Lifestyle)  |   วันที่ : 24 พฤษภาคม 2566

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

อากาศร้อนแบบนี้ อีกหนึ่งวิธีคลายร้อนของคนส่วนใหญ่คือการเปิดแอร์ หรือเปิดเครื่องปรับอากาศ แต่ในยุคที่ค่าไฟแพง กลับกลายเป็นว่ายิ่งร้อนยิ่งหนาวเมื่อบิลค่าไฟมา ทว่าคุณสามารถช่วยลดค่าไฟได้เล็กน้อย เปิดแอร์ประหยัดไฟมากขึ้น เพราะคุณอาจกำลังใช้แอร์อย่างผิดวิธี ลองปรับเปลี่ยนเล็กน้อย เคล็ดไม่ลับทำได้ง่ายๆ

1. เปิดแอร์เท่าไหร่ยังร้อน ไม่ช่วยเลย คุณลืมอะไรหรือเปล่า : รู้หรือไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรืออาคารสำนักงาน ใช่ว่าการเปิดแอร์อย่างเดียวจะช่วยให้เย็นลงได้ ถ้าคุณยังมองข้ามสองอย่างนี้ คือ...

  • เปลี่ยนหลอดไฟในบ้านเป็นหลอดไฟ LED หรือยัง : ถ้ายังคุณกำลังทำให้อุณหภูมิภายในบ้านสะสมความร้อนไปโดยปริยาย พวกหลอดไส้ต่างๆ เมื่อเปิดใช้งานนานจะมีความร้อน ยิ่งหลายดวง ยิ่งสะสมความร้อนมากขึ้น ดังนั้นควรเปลี่ยนหลอดไฟ LED ได้แล้ว
  • เปิดม่านไว้หรือเปล่า : การเปิดม่านให้แสงแดดส่องเข้ามา เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อุณหภูมิภายในห้องร้อนเช่นกัน เพราะความแรงของแดดทำให้อุณหภูมิร้อน หากต้องการเปิด แนะนำว่า ให้เปิดไว้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และควรติดตั้งม่านป้องกันแสง UV

2. เลือกใช้งานแอร์อย่างถูกวิธี : คุณรู้หรือไม่ปัจจัยหนึ่งที่แอร์ไม่เย็น คือ หลายคนอาจติดตั้งอย่างผิดวิธี คือ

  • ต้องคำนวณพื้นที่ที่ติดตั้งแอร์ให้เหมาะสมกับ BTU ถ้าแอร์มี BTU ไม่พอต่อขนาดห้อง ส่งผลให้แอร์ทำงานหนัก และเรายังไม่รู้สึกเย็น ยิ่งเปิดอุณหภูมิต่ำลง สิ้นเปลืองไฟมากกว่าเดิม
  • ติดตั้งคอยล์ร้อนของแอร์ที่มีแดดส่องทั้งวัน นอกจากทำให้คอยล์ร้อนเสื่อมประสิทธิภาพไว ยังทำให้อุณหภูมิอาจแกว่ง ผิดเพี้ยน เมื่อมีความร้อนของคอยล์ร้อนแล้วยังเจอกับแดดส่องตลอดเวลาอีก สิ้นเปลืองไฟอย่างชัดเจน
    • เคล็บลัดเพิ่มเติม : การติดตั้งคอยล์ร้อน ควรยกเหนือพื้นดินเล็กน้อย เพื่อให้อากาศถ่ายเท ติดตั้งในร่ม แต่ไม่ใช่มุมอับ จะช่วยรักษาคอยล์ร้อนให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  • การล้างแอร์ตามระยะเวลาเหมาะสม : ช่วยประหยัดไฟมากขึ้น เมื่อชิ้นส่วนต่างๆ แอร์สะอาด ไร้ฝุ่นและสิ่งสกปรก จะไม่มีสิ่งที่ขัดขวางการทำงานของแอร์ ระยะเวลาที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 6 เดือน หากใช้งานหนักเป็นพิเศษ อาจเป็นบริเวณติดถนนหรือมีการก่อสร้างอาจเลื่อนให้เร็วขึ้นเป็น 2-3 เดือนต่อครั้ง

3. เลือกซื้อแอร์อย่างไร : ต่อเนื่องจากปัจจัยของ BTU เมื่อคำนวณให้ปริมาณเหมาะสมแล้ว แต่ควรเผื่อให้มากกว่าเล็กน้อย เผื่อปัจจัยอื่นๆ เช่น 9,000BTU ให้เลือก BTU เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ไม่ควรเกิน 1,000BTU เหมาะสมคือระหว่าง 300-600 เผื่อปัจจัยอื่นๆ ซึ่งการเผื่อเหลือเผื่อขาด เป็นข้อคิดที่ดี

  • การเลือกซื้อแอร์ควรเลือกแอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ตั้งแต่ 1 ดาวขึ้นไป ถ้าเป็นแอร์ที่ได้ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จำนวน 3 ดาว หมายถึงประหยัดไฟสูงสุด

4. เปิดพัดลมช่วยได้จริง : ไม่ต้องเปิดพัดลมแอร์แรง และอุณหภูมิให้ต่ำ คุณเปิดแค่ 26-27 องศาเซลเซียล แล้วเปิดพัดลมก็ถือว่าช่วยได้เยอะ นอกจากทำให้อากาศหมุนเวียน แต่ยังทำให้ลมเย็นไปปะทะตัวคุณด้วยเช่นกัน ทำให้รู้สึกว่าเย็นสบายกำลังพอดี

5. ห้องของคุณเหมาะแก่การเปิดแอร์หรือไม่ : ควรตรวจสอบว่าห้องของคุณมิดชิดหรือไม่ หมายถึงว่า อุณหภูมิภายนอกไม่เข้าห้อง อุณหภูมิภายในไม่ออกจากห้อง ไม่เช่นนั้นเปิดเท่าไหร่ก็ไม่เย็น ทำให้แอร์ทำงานหนัก

นอกจากนี้การมีอุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดความร้อน เช่น ตู้เย็น, เตารีด, ตู้แช่แข็ง เป็นต้น อย่างน้อย คุณไม่ควรตั้งวางใกล้แอร์ เพราะจะทำให้อุณหภูมิภายในห้องผิดเพี้ยนได้ ทำให้เรารู้สึกไม่เย็นสักที

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 เทคนิคการใช้งานแอร์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและประหยัดไฟ เรื่องบางเรื่องคุณอาจมองข้ามทำให้ค่าไฟคุณสูงก็เป็นได้

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่