สมาร์ทโฟน (Smartphone)  |   วันที่ : 10 กันยายน 2567

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ iPhone 16 Series ทั้ง 4 รุ่น ได้แก่ iPhone 16, iPhone 16 Plus, iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max โดยบทความนี้จะสรุปจุดเด่นและสเปคแค่สองรุ่นก่อน คือ iPhone 16 และ iPhone 16 Plus ว่ามีอะไรบ้าง ส่วนรุ่นพี่ทั้งสองรุ่นจะเป็นสรุปข้อแตกต่างที่ต่างจากรุ่นน้อง

ความน่าสนใจด้านราคา คือ iPhone 16 และ iPhone 16 Plus ในแต่ละโมเดลความจุ มีราคาเปิดตัวลดลง 3,000-4,000 บาท เมื่อเทียบกับ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ทำให้ผู้ใช้หลายคน คิดอยากจะเปลี่ยนรุ่นใหม่กันเลย เพราะทั้งสีและจุดเด่นกับสเปค ต้องบอกว่าน่าจับจองเป็นเจ้าของมากๆ รายละเอียดดังนี้...

ดีไซน์ตัวเครื่องสุดพรีเมียม และแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

สองพี่น้อง iPhone 16 และ iPhone 16 Plus วัสดุตัวเครื่องอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอากาศยาน แข็งแรงทนทาน มีมาตรฐานป้องกันน้ำป้องกันฝุ่น IP68 ตามมาตรฐาน IEC 60529 (ความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที) ด้านหลังตัวเครื่องมีการใช้เทคนิคการผลิตเฉพาะทำให้สีมีความเงา สีสันสวยสดใส เข้มกว่ารุ่นอื่นๆ ที่ผ่านมา

นอกจากนี้หน้าจอแสดงผลมีการครอบทับกระจก Ceramic Shield เคลมว่าแข็งแรงทนทานกว่ากระจกรุ่นอื่นๆ ในอุตสาหกรรม โดยมี 5 เฉดสี ได้แก่ สีดำ, สีขาว, สีชมพู, สีเขียวอมฟ้า และสีน้ำเงินอัลตร้ามารีน

หน้าจอแสดงผลประเภท OLED กับเทคโนโลยี Super Retina XDR - True Tone - HDR - Display P3 ที่สามารถแสดงสีสันได้สมจริงมากยิ่งขึ้น พร้อมใช้กระจกป้องกันหน้าจอ Ceramic Shield เคลือบสารกันรอยนิ้วมือ ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนและไม่เกิดรอยนิ้วมือ ทำความสะอาดหน้าจอได้ง่าย เพิ่มเติมด้วยความสว่างหน้าจอ 1600nits สูงสุดคือ 2000nits จึงไม่เกิดอุปสรรคเมื่อใช้งานกลางแจ้ง จุดที่น่าเสียที่สุดคือ อัตรารีเฟรชเรทยังเป็น 60Hz เหมือนเดิม...

ปุ่มใหม่ด้านข้างตัวเครื่อง

ปุ่ม Camera Control จัดวางตำแหน่งด้านล่างขวาของเครื่อง ลักษณะปุ่มแบบสัมผัสและกดสำหรับการควบคุมเมนูกล้อง เมื่อกดปุ่มหนึ่งครั้งจะเปิดใช้งานแอปฯ กล้องถ่ายรูป ถ้ากดหนึ่งครั้งจะถ่ายรูป เมื่อใช้นิ้วเลื่อนบนปุ่มจะเรียกตัวควบคุมสำหรับการถ่ายรูป หรือเริ่มบันทึกวิดีโอเมื่ออยู่ในโหมดบันทึกวิดีโอ เช่น กดเบาๆ เพื่อเปิดตัวควบคุมอย่างการซูม หรือกดสองครั้งเบาๆ เพื่อตั้งค่าอื่นของกล้อง อาทิ ค่าแสงหรือมิติความชัดลึก แล้วเลื่อนเพื่อปรับการตั้งค่านั้นๆ

ปุ่มใหม่อีกปุ่ม Action Button ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ

ปุ่มกดเพื่อเรียกใช้งานเร็ว เสมือนเป็นทางลัดพิเศษแค่กดค้างไว้ก็เรียกใช้เมนูโปรดตามที่คุณตั้งค่าไว้ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นไฟฉาย, เสียงบันทึก, โหมดปิดเสียง, กล้อง, แปลภาษา, แว่นขยาย, ตัวควบคุม, การช่วยการเข้าถึง เป็นต้น นอกจากนี้ยังตั้งค่าคำสั่งลัดให้เปิดแอปฯ ต่อเนื่องกันได้ ตามช่วงเวลาหรือสถานที่ที่คุณอยู่ เพิ่มความสะดวกคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้นไปอีก

iPhone 16 และ iPhone 16 Plus ต่างมีความจุแบตเตอรี่มากยิ่งขึ้น เมื่อทำงานร่วมกับชิปเซ็ต Apple A18 ที่นอกจากมีประสิทธิภาพประมวลผลระดับสูงแล้ว ยังประหยัดแบตเตอรี่ด้วย ทำให้เมื่อรับชมคอนเทนต์วิดีโอ iPhone 16 เล่นได้นานสูงสุด 22 ชั่วโมง ส่วน iPhone 16 Plus เล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 27 ชั่วโมง

นอกจากนี้ที่ชาร์จ MagSafe ใหม่ สามารถชาร์จแบบไร้สายได้เร็วยิ่งขึ้นด้วยความเร็วสูงสุด 25 วัตต์เมื่อใช้กับอะแดปเตอร์แปลงไฟขนาด 30 วัตต์หรือสูงกว่า สามารถชาร์จได้ถึง 50% ในเวลาประมาณ 30 นาทีอีกด้วย

ชิปเซ็ต Apple A18 หัวใจสำคัญของ iPhone 16 และ iPhone 16 Plus

จุดขายสำคัญเลยก็ว่าได้ เพราะชิปเซ็ตดังกล่าวจะรองรับการใช้งาน Apple Intelligence เต็มรูปแบบ พร้อมทั้งเอาใจคอเกมมากยิ่งขึ้นด้วยประสิทธิภาพขั้นสุด เปิด ray tracing เล่นเกมได้เพลิดเพลิน ภาพสวยคมชัด รองรับเกม AAA สบายๆ นอกจากนี้ชิปเซ็ตดังกล่าวยังประหยัดพลังงานแบตเตอรี่อีกด้วย

ออกแบบโมดูลกล้องใหม่ กล้องดิจิตอลเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง

Apple iPhone 16 และ Apple iPhone 16 Plus ไม่ได้เปลี่ยนสเปคกล้อง เลนส์หลักมีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Quad-pixel และจุดพิกเซลขนาดใหญ่ 100% จึงโฟกัสรวดเร็ว มาพร้อมโหมดถ่ายภาพใหม่ๆ ให้คุณใช้งานอย่างมืออาชีพ นอกจากนี้มีระบบซูมภาพแบบออปติคัลได้ 4 ระดับ อาทิ 0.5 เท่า, 1 เท่า และ 2 เท่า ซึ่งเลนส์ อัลตร้าไวด์ ยังทำหน้าที่เป็นเลนส์มาโครได้อีกด้วย เรียกได้ว่าถ่ายภาพเล็กไปจนถึงภาพใหญ่ได้เลย

ข้อมูลรายละเอียดกล้องหลังของทั้งสองรุ่น

  • เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ระยะโฟกัส 26 มม. รูรับแสง f/1.6 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ Optical รองรับภาพถ่ายความละเอียดสูงพิเศษ (24MP และ 48MP)
  • เลนส์อัลตร้าไวด์ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มุมมองการถ่ายภาพกว้าง 120 องศา ระยะโฟกัส 13 มม. รูรับแสง f/2.4 ทั้งมีเลนส์เทเลโฟโต้ในตัว ทำงานโดยเซ็นเซอร์แบบ Quad-pixel
  • ซูมเข้าแบบออปติคัล 2 เท่า ซูมออกแบบออปติคัล 2 เท่า และช่วงซูมแบบออปติคัล 4 เท่า
  • ซูมดิจิทัลได้สูงสุด 10 เท่า
  • ผลึกแซฟไฟร์ป้องกันหน้าเลนส์
  • แฟลช True Tone
  • การบันทึกวิดีโอความละเอียด Dolby Vision แบบ 24/25/30/60 เฟรมต่อวินาที และ HDR - Dolby Vision แบบ 60 เฟรมต่อวินาที
  • โหมดภาพยนต์สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียด 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
  • วิดีโอสโลว์โมชั่นความละเอียด 1080p ที่ 120 เฟรมต่อวินาที หรือ 240 เฟรมต่อวินาที
  • วิดีโอไทม์แลปส์ พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว
  • ไทม์แลปส์ในโหมดกลางคืน
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 ออโต้โฟกัสด้วย Focus Pixels มีชุดเลนส์ทั้งหมด 6 ชิ้น และ Retina Flash
  • กล้องหน้ารองรับการบันทึกวิดีโอ 4K/HDR - Dolby Vision, วิดีโอสโลว์โมชั่น และวิดีโอไทม์แลปส์ พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว

สเปคเพิ่มเติมของ Apple iPhone 16 และ Apple iPhone 16 Plus

  • ขนาดตัวเครื่อง :
    • 147.6 x 71.6 x 7.8 มม. -- iPhone 16
    • 160.9 x 77.8 x 7.8 มม. -- iPhone 16 Plus
  • น้ำหนัก :
    • 170 กรัม -- iPhone 16
    • 199 กรัม -- iPhone 16 Plus
  • ระบบปฏิบัติการ : iOS 18
  • หน้าจอแสดงผล :
    • iPhone 16 : Super Retina XDR แบบ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2556 x 1179 พิกเซล มีความหนาแน่นต่อพิกเซล 460ppi ให้ความสว่างสูงสุด 1600 นิต และความสว่างสูงสุดเฉพาะจุด 2,000 นิต (กลางแจ้ง) อัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000:1
    • iPhone 16 Plus : Super Retina XDR แบบ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2796 x 1290 พิกเซล มีความหนาแน่นต่อพิกเซล 460ppi ให้ความสว่างสูงสุด 1600 นิต และความสว่างสูงสุดเฉพาะจุด 2,000 นิต (กลางแจ้ง) อัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000:1
  • หน่วยประมวลผล : ชิปเซ็ต Apple A18
  • TrueDepth เพื่อการจำใบหน้า
  • ระบบเชื่อมต่อ : 5G, 4G LTE, WiFi 6, Bluetooth 5.3, NFC, GPS, GLONASS, เข็มทิศดิจิตอล
  • มาตรฐานป้องกันน้ำป้องกันฝุ่นระดับ IP68
  • รองรับการชาร์จไร้สายแบบ MagSafe 25 วัตต์ และ Qi 7.5 วัตต์
  • เทคโนโลยีชาร์จเร็ว รองรับ และต้องซื้ออะแดปเตอร์ต่างหาก ถ้าชาร์จจาก 0%-50% ใช้ระยะเวลา 30 นาที ต้องใช้อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 20 วัตต์
  • รองรับไฟล์วิดีโอ : HEVC, H.264, MPEG-4 Part 2 และ Motion JPEG
  • รูปแบบไฟล์เสียงที่รองรับประกอบด้วย AAC, MP3, Apple Lossless, FLAC, Dolby Digital, Dolby Digital Plus และ Dolby Atmos
  • Face Time : ความละเอียดสูงสุด FullHD (1080p)
  • พอร์ต USB Type-C สำหรับชาร์จ, ถ่ายโอนข้อมูล และใช้เป็น Display Port มีมาตรฐานความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล 480Mb/s

ราคาวางจำหน่ายสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ตั้งแต่ 13 กันยายน เวลา 19.00 และหาซื้อได้ที่ตัวแทนชั้นนำทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายนเป็นต้น

ราคา iPhone 16

  • ความจุ 128GB : ราคา 29,900 บาท
  • ความจุ 256GB : ราคา 33,900 บาท
  • ความจุ 512GB : ราคา 41,900 บาท

ราคา iPhone 16 Plus

  • ความจุ 128GB : ราคา 34,900 บาท
  • ความจุ 256GB : ราคา 38,900 บาท
  • ความจุ 512GB : ราคา 46,900 บาท

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่