อุปกรณ์ชาร์จ EV (EV Charger)  |   วันที่ : 31 มกราคม 2568

ปรับขนาดตัวอักษร - ก+ก

แชร์

การติดตั้งที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่บ้าน เป็นทางเลือกที่สะดวกและประหยัดสำหรับผู้ใช้รถ EV แต่สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจข้อควรระวังและแนวทางการติดตั้งที่ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน สำหรับผู้ที่กำลังหาข้อมูลกี่ยวกับข้อควรระวังในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน รวมถึงคำแนะนำในการเลือกพื้นที่สำหรับติดตั้งที่เหมาะสม เรารวบรวมสิ่งที่คุณควรรู้มาไว้ให้แล้ว

ข้อควรระวังในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน

การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านอาจมีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ หากไม่ปฏิบัติตามข้อควรระวังอย่างเหมาะสม โดยข้อควรระวังที่สำคัญมีดังนี้

  1. ระบบไฟฟ้าในบ้าน: ก่อนติดตั้งที่ชาร์จ EV ควรตรวจสอบระบบไฟฟ้าในบ้านให้แน่ใจว่าสามารถรองรับกระแสไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากการชาร์จรถ EV จะใช้กระแสไฟฟ้าสูงกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป หากระบบไฟฟ้าไม่พร้อม อาจทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร ไฟฟ้าดับ ทั้งยังอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ จึงควรปรึกษาบริษัทที่มีความชำนาญในการติดตั้ง เพื่อตรวจสอบและปรับปรุงระบบไฟฟ้าหากจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับปัญหาเหล่านี้

    • ขนาดมิเตอร์ไฟฟ้า: ตรวจสอบขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าว่าเพียงพอต่อการใช้งานร่วมกับที่ชาร์จ EV หรือไม่ หากมิเตอร์มีขนาดเล็ก อาจต้องขอเพิ่มขนาดมิเตอร์จากการไฟฟ้า
    • ตู้ควบคุมไฟฟ้า (MDB): ตรวจสอบสภาพและความพร้อมของตู้ MDB ว่ามีพื้นที่สำหรับติดตั้งเบรกเกอร์เพิ่มเติมสำหรับที่ชาร์จ EV หรือไม่ และสายไฟภายในตู้มีสภาพดีหรือไม่
    • สายไฟเมนและเบรกเกอร์ลูกย่อย: ตรวจสอบขนาดและสภาพของสายไฟเมนและเบรกเกอร์ลูกย่อย ซึ่งควรเลือกใช้สายไฟที่มีขนาดเหมาะสมกับกระแสไฟฟ้าของที่ชาร์จ EV ที่สำคัญควรเลือกใช้เบรกเกอร์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน
  1. สายดิน: การต่อสายดินที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อความปลอดภัย ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า มีการต่อสายดินที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าดูด นอกจากนี้ ยังควรติดตั้งสายดินแยกเฉพาะสำหรับที่ชาร์จ EV โดยเฉพาะ ไม่ควรใช้สายดินร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ
  2. อุปกรณ์ชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐาน: การใช้อุปกรณ์ชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐานหรืออุปกรณ์ดัดแปลงอาจเป็นอันตรายอย่างมาก เพราะฉะนั้นการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ควรเลือกใช้อุปกรณ์ชาร์จที่มีมาตรฐานรับรอง เช่น มาตรฐาน IEC หรือ UL และซื้อจากผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ
  3. ความชื้นและน้ำ: ควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งที่ชาร์จในบริเวณที่มีความชื้นสูงหรือมีโอกาสโดนน้ำฝนโดยตรง แม้ว่าที่ชาร์จ EV ส่วนใหญ่จะออกแบบมาให้กันน้ำได้ในระดับหนึ่ง แต่การสัมผัสกับน้ำโดยตรงเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดความเสียหายและอันตรายได้ ควรติดตั้งในบริเวณที่มีหลังคาหรือที่กำบัง
  4. สายไฟและปลั๊ก: ตรวจสอบสภาพของสายไฟและปลั๊กอยู่เสมอ หากพบว่าสายไฟชำรุด ปลั๊กหลวม หรือมีความร้อนสูงผิดปกติ ควรรีบหยุดใช้งานและตรวจสอบโดยช่างผู้ชำนาญ
  5. การใช้งานที่ไม่ถูกต้อง: ควรปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้งานที่ให้มาพร้อมกับอุปกรณ์ชาร์จอย่างเคร่งครัด ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขอุปกรณ์ด้วยตนเอง
  6. เด็กและสัตว์เลี้ยง: ควรระมัดระวังไม่ให้เด็กและสัตว์เลี้ยงเข้าใกล้บริเวณที่ชาร์จขณะใช้งาน เพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า
  7. ตรวจสอบอุณหภูมิ: ในขณะชาร์จ ควรสังเกตอุณหภูมิของสายไฟ ปลั๊ก และตัวเครื่องชาร์จ หากพบว่ามีความร้อนสูงผิดปกติ ควรรีบหยุดการชาร์จและตรวจสอบหาสาเหตุ

การเลือกพื้นที่ติดตั้งที่ชาร์จที่บ้าน

การเลือกพื้นที่ติดตั้งที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเป็นไปอย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย ซึ่งควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้

  1. ระยะห่างจากจุดจอดรถ: ควรติดตั้งที่ชาร์จในบริเวณใกล้กับจุดจอดรถ โดยระยะห่างระหว่างที่ชาร์จและช่องเสียบชาร์จของรถยนต์ไม่ควรเกินความยาวของสายชาร์จ (โดยทั่วไปประมาณ 5-7 เมตร) เพื่อความสะดวกในการใช้งานและป้องกันการดึงหรือกระชากสายไฟ
  2. ระยะห่างจากตู้ไฟฟ้าหลัก: ควรติดตั้งที่ชาร์จใกล้กับตู้ไฟฟ้าหลักของบ้าน (MDB) เพื่อความสะดวกในการเดินสายไฟและลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง
  3. พื้นที่แห้งและมีหลังคา: ควรเลือกพื้นที่แห้งและมีหลังคาเพื่อป้องกันที่ชาร์จจากฝนและแดด แม้ว่าที่ชาร์จส่วนใหญ่จะกันน้ำได้ แต่การติดตั้งในที่ร่มจะช่วยยืดอายุการใช้งาน
  4. พื้นที่โล่งและระบายอากาศได้ดี: พื้นที่โล่งและระบายอากาศได้ดีเหมาะกับการติดตั้งที่ชาร์จ เพื่อป้องกันความร้อนสะสมในขณะชาร์จ
  5. หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงอันตราย: หลีกเลี่ยงการติดตั้งในพื้นที่เสี่ยงอันตราย เช่น บริเวณที่มีวัตถุไวไฟ บริเวณที่อาจมีการชนกระแทก หรือบริเวณที่มีเด็กและสัตว์เลี้ยงเข้าถึงได้ง่าย
  6. ความสะดวกในการใช้งาน: ควรเลือกพื้นที่ที่สะดวกในการใช้งาน เช่น บริเวณโรงจอดรถ หรือบริเวณที่จอดรถหน้าบ้าน
  7. การเดินสายไฟ: พิจารณาเส้นทางการเดินสายไฟจากตู้ไฟฟ้าหลักไปยังที่ชาร์จ ควรเลือกเส้นทางที่ปลอดภัยและไม่กีดขวางการใช้งานอื่นๆ
  8. การติดตั้ง Wallbox: หากเลือกใช้ Wallbox ควรติดตั้งบนผนังที่แข็งแรงและมั่นคง โดยมีความสูงที่เหมาะสมกับการใช้งาน

การติดตั้งที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจในรายละเอียดและความปลอดภัย จึงควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนการติดตั้ง เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยสูงสุด 

ติดตามข่าวสารมือถือได้ที่
www.facebook.com/siamphonedotcom

ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ

มือถือออกใหม่