Samsung Galaxy S25 Edge สมาร์ทโฟนบางเฉียบที่มาพร้อมประสิทธิภาพระดับเรือธง

ในงาน Galaxy Unpacked เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา Samsung ได้เปิดตัว Galaxy S25 Edge ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่บางและพกพาสะดวก แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพและฟีเจอร์ระดับเรือธง โดยมีจุดเด่นในด้านการออกแบบที่บางเฉียบและสเปคที่น่าสนใจ ดังนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  iQOO 13 5G ขุมพลัง Snapdragon 8 Elite แบต 6150mAh รองรับ 120W FlashCharge พร้อม Bypass Charging
• 
  Samsung Galaxy S25 Series มาแล้ว! ประกาศวันเปิดตัว และลงทะเบียนจองล่วงหน้าได้ทันที

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่

ดีไซน์และหน้าจอ

• ความบางเฉียบ: Galaxy S25 Edge มีความหนาเพียง 5.84 มม. ซึ่งบางกว่ารุ่น Galaxy S25 ปกติ (7.2 มม.) และบางที่สุดในซีรีส์นี้
• หน้าจอ LTPO AMOLED: ขนาด 6.2 นิ้ว รองรับรีเฟรชเรท 1-120Hz พร้อมความสว่างสูงสุดถึง 2,600 นิต ทำให้ใช้งานได้ดีแม้ในแสงแดดจ้า
• วัสดุระดับพรีเมียม: ตัวเครื่องใช้กรอบอะลูมิเนียม Armor Aluminium และกระจก Corning Gorilla Glass Victus 2 เพื่อความทนทานต่อการใช้งาน

กล้องถ่ายรูป

• กล้องหลัก 200MP: ใช้เซนเซอร์ ISOCELL HP2 เช่นเดียวกับรุ่น Galaxy S25 Ultra ให้ภาพถ่ายที่คมชัดและรายละเอียดสูง
• กล้อง Ultrawide 12MP: แม้จะไม่มีเลนส์ Telephoto แต่สามารถซูมด้วยเซนเซอร์หลักได้ ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับการถ่ายระยะไกล
• กล้องหน้า 12MP: เหมาะสำหรับการถ่ายเซลฟีคุณภาพสูง

ประสิทธิภาพและซอฟต์แวร์

• ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite: ให้ประสิทธิภาพสูง รองรับการใช้งานหนัก เช่น การเล่นเกมหรือการทำงานหลายแอปฯ พร้อมกัน
• RAM 12GB และพื้นที่เก็บข้อมูลแบบ UFS 4.0: ช่วยเพิ่มความเร็วในการประมวลผลและการจัดเก็บข้อมูล
• ระบบปฏิบัติการ Android 15 พร้อม One UI 7: มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ เช่น Now Bar และ Now Brief ที่ช่วยให้ใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น

แบตเตอรี่และการเชื่อมต่อ

• แบตเตอรี่ขนาดเล็กลง: ความจุ 3,900mAh ซึ่งเล็กกว่ารุ่นปกติ แต่ยังคงใช้งานได้เต็มวันด้วยประสิทธิภาพของชิปเซ็ตที่ช่วยประหยัดพลังงาน
• Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4: รองรับการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียร
• ระบบชาร์จไว 25W: แม้จะไม่เร็วที่สุดในตลาด แต่ยังคงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป

การวางจำหน่ายและราคา

Galaxy S25 Edge คาดว่าจะวางจำหน่ายในช่วง ไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 โดยมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1,299 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 44,XXX บาท สำหรับรุ่นความจุ 256GB

แหล่งที่มา 9to5google