ทำความรู้จักกับ Material 3 Expressive ที่จะยกระดับให้ Android 16 และ Wear OS 6 สวยและฉลาดกว่าเดิม

Google ได้เปิดตัว Material 3 Expressive ซึ่งเป็นการปรับปรุงครั้งสำคัญของระบบการออกแบบ Material Design โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างสรรค์อินเทอร์เฟซที่สามารถเชื่อมโยงกับผู้ใช้งานในระดับอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น Google ระบุว่านี่คือ "การปรับปรุงที่ผ่านการวิจัยมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา" และจะเป็นส่วนหนึ่งของ Android 16 และ Wear OS 6 ที่กำลังจะมาถึง

Material 3 Expressive เป็นวิวัฒนาการที่ต่อยอดจาก Material You ที่เน้นการปรับแต่งส่วนบุคคลอยู่แล้ว โดยจะนำเสนอตัวเลือกการปรับแต่งที่หลากหลายยิ่งขึ้น พร้อมแอนิเมชันใหม่ๆ, โทนสีที่ได้รับการปรับปรุง, และความลื่นไหลที่เพิ่มขึ้นทั่วทั้งระบบ

ฟีเจอร์เด่นของ Material 3 Expressive บน Android 16

Android 16 จะมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้นหลายประการ

• แอนิเมชันระบบใหม่: จะมีการนำเสนอแอนิเมชันระบบใหม่ที่ดูเป็นธรรมชาติและมีชีวิตชีวามากขึ้น
• การตอบสนองแบบสัมผัส (Haptic Feedback): เพิ่มการสั่นแบบสัมผัสที่ละเอียดอ่อนสำหรับการกระทำต่างๆ เช่น เมื่อปัดแจ้งเตือนทิ้ง
• ธีมสีแบบไดนามิกที่ได้รับการปรับปรุง: Dynamic Color Themes จะมีความสวยงามและสอดคล้องกับภาพรวมของระบบมากยิ่งขึ้น
• การปรับโฉม Quick Settings: ผู้ใช้จะสามารถปรับขนาดและจัดเรียงเมนู Quick Settings ได้ตามต้องการ พร้อมเพิ่มเอฟเฟกต์พื้นหลังแบบเบลอให้กับทั้ง Quick Settings และ Notification Shade (แถบแจ้งเตือน)

ประสบการณ์ใหม่บน Wear OS 6

Wear OS 6 จะให้ความสำคัญกับการแสดงผลบนหน้าปัดทรงกลม และนำเสนอการปรับปรุง UI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พื้นที่และทำให้การแตะใช้งานบนหน้าจอสะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับการปรับธีมสีทั่วทั้งระบบ (system-wide color theming) และแอนิเมชันที่ลื่นไหลยิ่งขึ้น โดย Google เคลมว่า Wear OS 6 จะมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่ได้รับการปรับปรุง ส่งผลให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้นถึง 10% และที่น่าสนใจคือ Google จะนำผู้ช่วย AI อย่าง Gemini มาสู่ผู้ใช้สมาร์ทวอทช์ด้วย

หลักการของ Expressive Design

Material 3 Expressive เกิดจากการวิจัยเชิงลึกและทำงานร่วมกันระหว่างนักวิจัย ดีไซเนอร์ และวิศวกร โดยพบว่าดีไซน์แบบ Expressive ส่งเสริมอารมณ์ความรู้สึกในเชิงบวก เช่น พลังงาน, ความคิดสร้างสรรค์, ความสนุกสนาน และความเป็นมิตร

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิด Expressive Design ได้แก่

• สีสัน (Color): ใช้ชุดโทนสีที่ลึกขึ้นและโทเค็นที่หลากหลาย เพื่อสร้างธีมสีที่สดใสและบ่งบอกอารมณ์
• รูปทรง (Shape): ใช้รูปทรงที่หลากหลายทั้งคลาสสิกและนามธรรม เพื่อสร้างความน่าสนใจทางสายตา
• ขนาด (Size): ใช้ขนาดเพื่อดึงความสนใจไปยังองค์ประกอบสำคัญ
• การเคลื่อนไหว (Motion): มีระบบการเคลื่อนไหวที่ง่ายต่อการนำไปใช้งาน ทำให้การเปลี่ยนผ่านต่างๆ มีความลื่นไหลและเป็นธรรมชาติ
• การจัดวาง (Containment): การจัดกลุ่มองค์ประกอบต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างมีกลยุทธ์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถนำทางและทำความเข้าใจอินเทอร์เฟซได้เร็วขึ้น

การนำไปใช้งาน

Material 3 Expressive จะเปิดตัวบนสมาร์ทโฟน Android เป็นลำดับแรก (เริ่มใน Android 16) คาดว่าจะเห็นบนสมาร์ทโฟน Pixel รุ่นถัดไปก่อน จากนั้นจะขยายไปสู่แอปพลิเคชันต่างๆ ของ Google เช่น Google Photos, Fitbit และ Gmail

Material 3 Expressive ถือเป็นก้าวสำคัญของ Google ในการพัฒนา User Interface และ User Experience ของทั้ง Android และ Wear OS ซึ่งจะนำมาซึ่งความสวยงาม, ความลื่นไหล, ความเป็นส่วนตัว และความเชื่อมโยงทางอารมณ์ที่มากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานในอนาคต

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  Samsung ปล่อย One UI 7 Beta ให้กับอุปกรณ์ Galaxy ขยายการใช้งาน AI บนมือถือทั่วโลกด้วยฟีเจอร์ Galaxy AI
• 
  สรุปฟีเจอร์ใหม่น่าใช้ใน iOS 19 พร้อมรายชื่อ iPhone ที่คาดว่าจะได้รับการอัปเดต

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่