รีวิวโทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy S8+ - ซัมซุง
Samsung Galaxy S8+ ได้พัฒนาจากรุ่นก่อนหน้าไปพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นด้านดีไซน์ที่มาพร้อมหน้าจอใหญ่กว่าเดิม แต่สามารถออกแบบให้ตัวเครื่องมีขนาดเล็กว่า S7 edge ยังไม่รวมด้านฟังก์ชั่นและสเปกจัดเต็ม สามารถตอบโจทย์ด้านการบันเทิงด้วยคอนเทนต์ HDR รวมถึงคอนเทนต์ VR ได้ดีด้วยหน้าจอความละเอียด 2K+ ผสมผสานเทคโนโลยีหน้าจอ Super AMOLED ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับอัตราส่วนหน้าจอ จึงทำให้การแสดงผลมีความสดใสสวยงาม นอกจากนี้ยีงมีระบบยืนยันตัวตนทั้งสแกนม่านตากับลายนิ้วมือ และสามารถกันนํ้ากันฝุ่นมาตรฐาน IP68 สุดท้ายไฮไลท์สำคัญคือผู้ช่วยส่วนตัวของเราที่จะทำให้การใช้งานสมาร์ทโฟนกลายเป็นเรื่องง่ายยิ่งกว่าเดิม พร้อมเพิ่มเติมความบันเทิงด้วยหูฟัง AKG ที่แถมมาให้ในกล่อง
Samsung Galaxy S8+ ซัมซุงพิถีพิถันในการออกแบบมากขึ้นตัวเครื่องดีไซน์ให้สมมาตรจับถือได้สะดวกกับฝ่ามือแม้มีหน้าจอขนาดใหญ่ โดยมีขนาดตัวเครื่อง 159.5 x 73.4 x 8.1 มม. นํ้าหนัก 173 กรัม
หน้าจอมีความโค้งทั้งสองด้านแต่ไม่ได้โค้งมากเท่ากับรุ่นก่อนอาจสามารถช่วยลดปัญหาการติดฟิลม์หรือกระจกกันรอยได้บ้าง ซึ่งมีอัตราส่วน 18.5:9 ขนาดกว้าง 6.2 นิ้ว ความละเอียด 2960 x 1440 พิกเซล มีความหนาแน่นพิกเซล 529 ppi กับมี Always ON Display ครอบทับกระจก Corning Gorilla Glass 5
เหนือหน้าจอขึ้นไปมีเซ็นเซอร์ และเลนส์กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมออโต้โฟกัส โดยเซ็นเซอร์ตรวจจับม่านตาจะอยู่ฝั่งซ้ายของลำโพงสนทนาที่อยู่บริเวณกึ่งกลางหน้าจอ
** กรุณาตรวจสอบรุ่นมือถือที่รองรับเครือข่าย 3G, 4G อีกครั้ง **
ถัดมาด้านล่างจะไร้ทั้งปุ่มโฮมและปุ่มควบคุมต่างๆ โดยจะย้ายไปไว้บนหน้าจอแล้วสามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้แสดงแบบใด ล่าสุด-หน้าหลัก-กลับ หรือ กลับ, หน้าหลัก-ล่าสุด ซึ่งปุ่ม Home จะรับรู้แรงกดที่แตกต่างกันสำหรับใช้งานในแต่ละฟังก์ชั่น
ฝั่งซ้ายตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่มเสียงและลดเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่มสำหรับเรียกการใช้งานผู้ช่วยส่วนตัว Bixby โดยจะเข้าหน้าแสดงข้อมูลทั้งหมดในรูปแบบการ์ดตามความสนใจที่เราได้เลือกไว้ เช่น กีฬา, บันเทิง หรือข่าวสารรอบโลก เป็นต้น
ด้านบนตัวเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ดประเภท Hybrid รองรับซิมการ์ดประเภท Nano SIM ส่วน MicroSD Card สูงสุด 256GB ถัดไปเป็นรูไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
** กรุณาตรวจสอบรุ่นมือถือที่รองรับเครือข่าย 3G, 4G อีกครั้ง **
ด้านล่างตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลเมตร ถัดไปเป็นพอร์ต USB Type-C และสุดท้ายคือช่องลำโพง (ไม่ใช่ระบบสเตอริโอ)
ส่วนฝั่งขวาตัวเครื่องมีปุ่ม Power เท่านั้น
ขณะที่ด้านหลังตัวเครื่องเลนส์กล้อง Dual Pixel ได้ปรับปรุงซอฟต์แวร์แต่ความละเอียดเท่าเดิม มีไฟแฟลชหนึ่งดวง และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือกับเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งทุกอย่างจะเป็นหนึ่งเดียวกับตัวเครื่องไม่มีรอยนูนยื่นออกมาแต่อย่างใด
การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง Samsung Galaxy S8+ เมื่อถือใช้งานในมือของผู้ชาย (ซ้าย) และมือผู้หญิง (ขวา)
การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง Samsung Galaxy S8+ กับไม้บรรทัด
ระบบปฏิบัติการ
Samsung Galaxy S8+ รันแพลตฟอร์มแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.0 Nougat ครอบทับส่วนติดต่อผู้ใช้งาน Samsung Experience เวอร์ชั่น 8.1 ที่มีการดีไซน์ให้ไอคอนของเหล่าแอพฯ ดูมีมิตและสยงามยิ่งขึ้น เฉกเช่นเดียวกับเมนูและการแสดงผลต่างๆ มีความเรียบง่ายไม่ซับซ้อน
หน้าจอล็อค
สามารถตั้งรูปแบบการล็อค 8 รูปแบบ อาทิ ไม่มี, เลื่อน, รูปแบบ, PIN, ลายนิ้วมือ, รหัสผ่าน, ใบหน้า, ม่านตา โดยแต่ละอย่างมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
หน้าจอหลัก
ด้วยการออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้งานใหม่อาจทำให้เหล่าสาวกซัมซุงต้องมีการปรับตัวเล็กน้อย โดยก็กดค้างเพื่อเพิ่มหน้าจอหรือตั้งค่าด่วนได้ นอกจากนี้ทุกครั้งที่เราติดตั้งแอพฯ ก็จะไม่ต้องไปมองหาในหน้ารวมแอพฯ ให้ยุ่งยากอีกต่อไป เพียงแค่ปัดขวาก็จะมีหน้าต่างแสดงรวมแอพฯ ใหม่ที่เพิ่งติดตั้ง ส่วนปัดซ้ายก็เข้าสู่หน้าการใช้งาน Bixby ขณะที่ปัดลงหรือปัดขึ้นจะเข้าสู่หน้ารวมแอพฯ
หน้ารวมแอพพลิเคชั่น
สามารถเข้าใช้งานได้ง่ายๆ ด้วยการปัดขึ้นหรือปัดลงบริเวณหน้าจอและวิธีการปิดใช้งานก็เช่นกัน ขณะที่วิธีการสร้างโฟลเดอร์ก็ลากแอพฯ ที่ต้องการจัดไว้หมวดหมู่เดียวกันไปทับแอพฯ นั้นจากนั้นก็ตั้งชื่อและเลือกสีพื้นหลังได้ ส่วนตารางการแสดงแอพฯ จะอยู่ที่รูปแบบ 4 x 6
หน้า Notification และเมนูการตั้งค่าลัด
จัดเรียงได้ตามต้องการให้เหมาะสมไลฟ์สไตล์การใช้งานของเรา
หน้าแผง EDGE
ใช้งานง่ายยิ่งขึ้นและมีฟังก์ชั่นให้เลือกดาวน์โหลดเพิ่มเติมด้วย โดยแผง EDGE จะเลือกใช้ได้สูงสุด 9 แผง และสามารถบริหารจัดการได้
วิธีการบันทึกภาพหน้าจอ
ทำได้โดยการกดปุ่ม Power พร้อมกับปุ่มโฮม โดยเมื่อจับภาพแล้วสามารถเลือกจุดที่เราต้องการจะแคปเท่านั้นพอได้ ด้วยการกดตัดบางส่วนหรือจับภาพหน้จอแบบยาวๆ ก็กดเลื่อนการจับภาพไปเรื่อยๆ รวมถึงการเขียนอธิบายสิ่งต่างๆ ก็ใช้ฟังก์ชั่นวาด และถ้าต้องการให้ผู้อื่นเห็นข้อมูลเหมือนเราก็แชร์ออกไปได้เลยทันที
รูปภาพแคปหน้าจอไม่ใช่ภาพแบบธรรมดาอีกต่อไป
ทุกครั้งที่เราแคปภาพหน้าจอจะจบอยู่ที่ไม่แชร์ก็วาดภาพเพิ่มเติม แต่เมื่อทาง Samsung Galaxy S8+ มี Bixby จึงทำให้เราสามารถหาข้อมูลของภาพภาพนั้นได้ เช่น เมื่อแคปภาพหน้าจอกุหลาบก็จะแสดงข้อมูลภาพกุหลาบลักษณะเดียวกันเพิ่มเติม หรือหากภาพแคปมีข้อความก็สามารถกดลากประโยคที่ต้องการแล้ว
หน้าการตั้งค่า (Setting)
การโทร/ข้อความ/นาฬิกา/ปฏิทิน/สภาพอากาศ/เครื่องคิดเลข/ไฟล์ส่วนตัว/บันทึกเสียง
รายละเอียดสเปกสมาร์ทโฟนรุ่น Samsung Galaxy S8+ มีดังต่อไปนี้
พื้นที่เก็บข้อมูลภายในและ RAM
Samsung Galaxy S8+ มีพื้นที่หน่วยความจำภายใน 64GB สามารถใช้ได้จริง 53GB ขณะที่แรมมีว่างให้ใช้อยู่ประมาณ 1.7GB จากสเปกเครื่อง 4GB
สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy S8+ ในการทำงานด้วยผลคะแนน Benchmark
หน้าจออัตราส่วน 18.5:9 ไร้กรอบบดบังสายตา
เชื่อว่าทุกคนเคยประสบปัญหาการรับชมคอนเทนต์ใดก็ตามบนสมาร์ทโฟน แต่ต้องพบปัญหาขอบจอที่มาบดบังทำให้รู้สึกไม่เพลิดเพลินเท่าใดนัก แต่สมาร์ทโฟนอย่าง Samsung Galaxy S8+ ตอบโจทย์ผู้ที่ชอบดูวิดีโอหรือเล่นเกมแน่นอน ด้วยหน้าจอ Super AMOLED ผสมผสานความละเอียดหน้าจอมากกว่า 2K
หมายเหตุ : ภาพแคปหน้าจอทั้งหมดคือไฟล์วิดีโอความละเอียด 4K เปรียบได้กับการชมบน Samsung Galaxy S8+ เสมือนดูบนโทรทัศน์
ปรับความละเอียดหน้าจอ (การตั้งค่า > จอภาพ)
หลายคนตั้งคำถามว่าความละเอียดหน้าจอระดับนี้สิ้นเปลืองแบตฯ แน่นอน ดังนั้นซัมซุงจึงทำตัวเลือกให้ผู้ใช้สามารถปรับเลือกความละเอียดได้
Always ON Display (การตั้งค่า > จอภาพ)
ไม่ต้องเปลืองแบตฯ และมากขั้นตอน ก็สามารถรับรู้การแจ้งเตือนต่างๆ ได้ เพราะด้วยฟีเจอร์นี้จะรายงานการแจ้งเตือนให้ทราบเสมอโดยที่ไม่ต้องปลดล็อคเครื่อง
โหมดหน้าจอ (การตั้งค่า > จอภาพ)
ปรับเลือกรูปแบบการแสดงผลได้ตามสไตล์การใช้งานไม่ว่าจะเป็น พื้นฐาน, รูปถ่าย หรือแบบโรงภาพยนตร์
โหมดถนอมสายตา (การตั้งค่า > จอภาพ)
ด้วยขนาดหน้าจอที่เหมาะสมแก่การดูวิดีโอหรืออ่านข่าวสารยามคํ่าคืนก่อนนอน เพื่อช่วยถนอมสายตาจึงควรเปิดโหมดดังกล่าว จากนั้นเมื่อเปิดใช้งานระบบจะตัดแสงสีฟ้าออกและแสดงผลโทนสีอุ่นเพื่อความสบายตา
แถบการนำทาง (การตั้งค่า > จอภาพ)
อย่างที่ทุกคนทราบว่าจะไม่มีปุ่มควบคุมแบบกายภาพอีกต่อไปแล้ว โดยเหล่าปุ่มควบคุมถูกย้ายไปไว้ในหน้าจอหรือ On-Screen มี 3 ปุ่มเหมือนเดิม และสามารถปรับเปลี่ยนสีพื้นหลังได้
VIDEO ENHANCER (การตั้งค่า > จอภาพ)
เพิ่มประสบการณ์การชมวิดีโอให้ดียิ่งขึ้น ด้วยฟีเจอร์นี้จะปรับความสว่างของภาพและเฉดสีจึงทำให้การแสดงผลมีความสวยงาม (ขึ้นอยู่กับระดับความละเอียดวิดีโอ)
Samsung Pay
เพลินเพลินไปกับทุกการใช้จ่ายพร้อมสิทธิพิเศษมากมาย ดังนั้นจึงไม่ต้องพกเงินสดหรือบัตรเครดิตให้ยุ่งยาก
คุณภาพและเอฟเฟ็กต์เสียง (การตั้งค่า > เสียงและการสั่น)
เลือกโทนเสียงให้เหมาะสมกับสไตล์ของเราหรือปรับเปลี่ยนตามความต้องการได้เลย
การรับสายและการวางสาย (การตั้งค่า > เสียงและการสั่น)
หากเชื่อมต่ออุปกรณ์ Bluetooth หรือหูฟังระบบจะรับสายให้ทันทีเมื่อมีสายเรียกเข้าหลังจาก 2 วินาที ส่วนวางสายให้กดปุ่ม Power
การเตือนอัจฉริยะ (การตั้งค่า > เสียงและการสั่น)
รับรู้ทุกความเคลื่อนไหวของสมาร์ทโฟนเนื่องจากบางครั้งเราอาจพลาดการติตด่อสื่อสารใดไป แต่เมื่อเปิดฟีเจอร์นี้จะรับรู้ทันทีว่ามีสายที่ไม่ได้รับหรือข้อความหากมีการสั่น
ธีม (การตั้งค่า > วอลเปเปอร์และธีม)
เลือกธีมที่ต้องการได้ตลอดและยังอัพเดทแบบใหม่ให้เสมอ ดังนั้นไม่มีความจำเจแน่นอน
Game Launcher (การตั้งค่า > คุณสมบัติขั้นสูง)
สัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมไปอีกขั้น ด้วยระบบการตั้งค่าที่ดูแลเรื่องเกมเฉพาะ อาทิ การแจ้งเตือน, การเร่งประสิทธิภาพระบบ, การปิดเปิดเสียง เป็นต้น โดยแค่กดในเมนูดังกล่าวก๋จะพบเกมที่เราได้ดาวน์โหลดไว้ทั้งหมดภายในเครื่องแบบที่ไม่ต้องไปเลื่อนค้นหาอีก
เมื่อเข้าเล่นเกมใดก็ตามผู้ใช้สามารถเปิดเมนู Game Tool ด้วยการเลื่อนแถบเมนูขึ้นมา โดยจะสังเกตเห็นมีสองไอคอนขึ้นใหม่ ด้านบนสุดคือการล็อคหน้าจอขณะที่เกมยังเปิดไว้ เพื่อกรณีที่ไปทำธุระแปปเดียวแต่ไม่ต้องการมานั่งรอเปิดเกมใหม่ แต่จะปรัหยัดแบตฯ มากกว่าหยุดเล่นเกมชั่วคราวในระบบของเกม ส่วนด้านล่างสุดกดเพื่อเปิดเมนูควบคุม อาทิ จับภาพหน้าจอ, บันทึกภาพแบบวิดีโอ, ล็อคการสัมผัสหน้าจอเพื่อไม่ขัดจังหวะการเล่น เป็นต้น
พูดเรื่องเกมกันแล้วก็ต้องลองทดสอบว่าสำหรับ Samsung Galaxy S8+ จะทำได้ดีแค่ไหน
จากที่ทดสอบพบว่าไม่ว่าจะเป็นเกมใดก็เล่นได้ไหลลื่น เสถียรไม่มีหน่วงให้ปวดหัว โดยการเล่นเกม Asphalt Xtreme ระยะเวลาการเล่นประมาณ 1 ชั่วโมงติดต่อกัน พบว่าเครื่องอุ่นไม่ร้อนจนน่าใจหาย ส่วนแบตฯ จาก 92% เหลือ 78%
ใช้ระบบระบุตัวตนในการเข้าใช้งาน Samsung Galaxy S8+ ได้สามแบบพร้อมกัน (การตั้งค่า > หน้าจอล็อคและระบบป้องกัน)
ในกรณีที่ไม่สามารถสแกนม่านตาได้ด้วยเหตุใดก็ตาม ก็ยังมีระบบสแกนลายนิ้วมือและรูปแบบรองรับ เพื่อแก้ปัญหาไม่สามารถเข้าใช้งานสมาร์ทโฟนได้
สแกนม่านตา (การตั้งค่า > หน้าจอล็อคและระบบป้องกัน > ตัวสแกนม่านตา > ตัวอย่างมาสก์หน้าจอ)
เชื่อว่าหลายคนอาจรู้สึกแปลกเมื่อสแกนม่านตา ดังนั้นทางซัมซุงจึงเพิ่มความน่ารักขึ้นอีก ด้วยการนำสติ๊กเกอร์มาเป็นลูกเล่น
สแกนใบหน้า (การตั้งค่า > หน้าจอล็อคและระบบป้องกัน)
หากไม่ต้องการใช้ม่านตาเพื่อสแกน เนื่องจากบางคนอาจรู้สึกว่าแปลกก็ใช้การปลดล็อคลักษณะนี้ได้ วิธีใช้เพียงแค่ให้ใบหน้าของเราอยู่ในตำแหน่งเดียวกับช่องเซ็นเซอร์จากนั้นระบบสแกนและปลดล็อคหากมีโครงสร้างเหมือนที่ลงทะเบียนไว้ สามารถเลือกแบบปลดล็อคทันทีได้โดยไม่ต้องปัดเลื่อน
มัลติวินโดวส์หรือการทำงานแบ่งหน้าจอ (การตั้งค่า > คุณสมบัติขั้นสูง)
สามารถกดปุ่มแอพฯ ล่าสุดและกดไอคอนที่ถัดจากเครื่องหมายกากบาท หรือลากมุมหน้าจอเพื่อย่อส่วนของหน้าต่างแอพฯ ได้เลย
ระบบอำนวยความสะดวกด้วยท่าทาง (การตั้งค่า > คุณสมบัติขั้นสูง)
เช่น การใช้ฝ่ามือติดกับหน้าจอเลื่อนจากขวามาซ้ายเพื่อจับภาพหน้าจอ, เปิดหน้ารายชื่อผู้ติดต่อที่ต้องการสื่อสารด้วยแล้วแนบหูระบบก็จะทำการโทรให้อัตโนมัติ
การบำรุงรักษาอุปกรณ์ (การตั้งค่า)
ศูนย์รวมการทำงานของระบบไว้ทั้งหมดหากมีปัญหา เช่น แบตฯ ใกล้หมด, เครื่องหน่วงใดก็สามารถเข้าที่เมนูนี้ได้
หน้าจอรับรู้แรงกดแตกต่างกัน
สามารถกดหรือแตะที่เมนูหรือแอพฯ เพื่อใช้งานในลักษณะต่างกันได้
Bixby ผู้ช่วยส่วนตัวเรียนรู้และปรับตัวตามพฤติกรรมการใช้งาน
ต้องเกริ่นก่อนว่าเครื่องที่นำมารีวิวนั้นไม่ใช่เครื่องวางจำหน่ายจริง เป็นเพียงเครื่องทดสอบจึงทำให้บางฟีเจอร์ไม่สามารถใช้งานได้ โดยขอหยิบยกฟีเจอร์ที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟัง
การรายงานข่าวสารและการแจ้งเตือนทั้งหมด
สามารถเข้าใช้งานด้วยการกดปุ่ม Bixby หรือปัดซ้ายบนหน้าจอหลัก เรียกได้ว่าครบในหนึ่งเดียว เช่นค้นหาร้านอาหารในละแวกใกล้เคียงโดยจะอิงข้อมูลจาก Foursquare ซึ่งจะมีแสดงทั้งการเดินทางและ Feedback ของร้านอาหารเหล่านั้น
ข้อมูลน่าสนใจของแอพฯ จะถูกนำมารายงานด้วย
ยกตัวอย่างเช่นแอพฯ CNN ก็จะมีการรวบรวมข่าวสารรอบโลกที่มีการอัพเดทไว้ตลอดเวลามาแสดง โดยที่ไม่ต้องเข้าแอพฯ เลย
Clear View Standing Cover
แม้สมาร์ทโฟน Samsung Galaxy S8+ จะครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แต่ก็ต้องปกป้องอยู่ดีเพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เนื่องจากใส่เคสก็สามารถผ่อนหนักเป็นเบาได้บ้าง ส่วนฟังก์ชั่นการใช้งานมีดังต่อไปนี้
กล้องดิจิตอล
Samsung Galaxy S8+ มาพร้อมกล้องเทคโนโลยี Dual Pixel ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS รูรับแสง f/1.7 จุดพิกเซลขนาด 1.4µm ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.55 นิ้ว รองรับการบันทึกวิดีโอสูงสุด 4K (พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว VDIS) โดยสามารถกดปุ่ม Power สองครั้งติดต่อกันเพื่อเรียกใช้งานเมนูกล้อง ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส รูรับแสงกว้าง f/1.7 จุดพิกเซลขนาด 1.22µm ขนาดเซ็นเซอร์ 1/3.6 นิ้ว มุมมองการถ่ายภาพกว้าง 80 องศา พร้อมเอฟเฟ็กต์ปรับแต่งผิวและสติ๊กเกอร์ทั้งกล้องด้านหน้ากับด้านหลัง
คุณสมบัติการถ่ายภาพ
คุณสมบัติการถ่ายวิดีโอ
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้ามุมกว้าง
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดภาพหลังเบลอ
ขอขอบคุณ : บริษัท ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ จำกัด โทร. 0 2689 3232
ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ : Samsung Galaxy S8+
http://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=454514
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : http://www.siamphone.com/spec/samsung/galaxy_s8+.htm
Lenovo Tab M11 แท็บเล็ตหน้าจอ 11 นิ้ว ใช้กับสไตลัส Lenovo Tab Pen เ...
Dyson Gen5detec กับเทคโนโลยี Dyson CleanTrace ทำความสะอาดแบบล้ำลึกแ...
กล้อง SECOM ตัวช่วยครอบครัวยุคใหม่ หมดห่วงผู้สูงวัย แม้อยู่บ้านเพีย...
เตรียมเปิดตัว Samsung Galaxy Watch FE สมาร์ทวอทช์ราคาย่อมเยาในปีนี้
Exynos 1480 ชิปเซ็ตระดับกลางตัวใหม่จาก Samsung ประสิทธิภาพแรงขึ้น ...
รีวิวโทรศัพท์มือถือ Redmi Note 13 5G - เรดหมี่ สมาร์ทโฟน Redmi Note 13 5G หน้าจอแสดงผลยกระดับไปอีกขั้น กลายเป็นรุ่นที่โดดเด่นกว่ารุ่นอื่นในช่วงราคาเดียวกัน กับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2400x1080 พ...