Nokia 8 วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปจากแบรนด์โนเกียกับราคา 19,500 บาท โดยมีจุดเด่น อาทิ ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.1.1 (Nougat) การันตีได้รับการอัพเดท Android Oreo แน่นอน นอกจากนี้ตัวเครื่องจะมีดีไซน์ขนาดกะทัดรัดและหน้าจอไม่ใหญ่มากจึงทำให้พกพาสะดวก ส่วนการถ่ายภาพก็ตอบโจทย์ได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ด้วยกล้องคู่แบ่งเป็นเลนส์สีกับขาวดำความละเอียด 13MP ใช้เลนส์มาตรฐาน ZEISS และจะมีโหมดถ่ายภาพกับวิดีโอที่เป็นจุดขายเรียกว่า "Bothie" ที่จะจับภาพกล้องหน้ากับกล้องหลังพร้อมกัน ส่วนการบันทึกวิดีโอทางแบรนด์ใช้ระบบบันทึกเสียงระดับคุณภาพ OZO Audio ที่จะจับเสียงแบบ 360 องศาหรือถ้าอยากเน้นจุดใดเป็นที่พิเศษก็สามารถเน้นได้ ขณะที่ขุมพลังการประมวลผลใช้ชิปเซ็ตรุ่นใหม่ล่าสุด Snapdragon 835 พื้นที่เก็บข้อมูลภายในแบบ UFS 2.1 พอร์ต USB Type C เทคโนโลยี 3.1 Gen 1 ให้ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุด 5 Gbps
Nokia 8 มีบอดี้โลหะแบบไร้รอยต่อ ผลิตจากอะลูมิเนียมเกรด 6000 ด้านหลังตัวเครื่องมีความเงาเพิ่มความสวยงาม ด้านขอบเครื่องมีความโค้งมนเพื่อการจับถือสะดวก มาพร้อมขนาดตัวเครื่อง 151.5 มม. x 73.7 มม. x 7.9 มม. นํ้าหนัก 160 กรัม
ด้านหน้ามีจอแสดงผลแบบ IPS - LCD ขนาด 5.3 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล ครอบทับด้วยกระจกขอบโค้ง Corning Gorilla Glass 5 แบบ 2.5D มาพร้อมฟีเจอร์ Glance จะแจ้งเตือนให้ผู้ใ้ชงานทราบบนหน้าจอแสดงผลขณะที่ตัวเครื่องล็อคอยู่ เช่น สายที่ไม่ได้รับ จดหมายที่ไม่ได้อ่าน ปฏิทิน เป็นต้น โดยให้ความสว่างสูงสุด 700nits
เหนือหน้าจอมีกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส ระบบจับโฟกัส PDAF จุดพิกเซลขนาด 1.12um รูรับแสง f/2.0 มุมมองการถ่ายภาพประมาณ 78.4 องศา และมีไฟแฟลชแบบ Screen Flash ถัดมามีลำโพงสำหรับสนทนา เซ็นเซอร์ และโลโก้โนเกีย
ด้านล่างหน้าจอมีปุ่มควบคุมแบ่งเป็น ย้อนกลับ ปุ่มโฮม และปุ่มแอพพลิเคชั่นล่าสุด โดยสองปุ่มย้อนกลับกับแอพฯ ล่าสุดจะมีไฟปุ่มด้วย
ด้านซ้ายตัวเครื่องมีช่องถาดใส่ซิมการ์ดประเภท Hybrid โดยใช้ซิมการ์ดประเภท Nano ทั้งคู่ ซึ่งต้องเลือกระหว่างใส่สองซิมการ์ดหรือหนึ่งซิมการ์ด + หน่วยความจำภายนอก
** กรุณาตรวจสอบรุ่นมือถือที่รองรับเครือข่าย 3G, 4G อีกครั้ง **
ฝั่งขวาตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียงและปุ่ม Power ที่ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ และยังเอาไว้ใช้สำหรับล็อค ปลดล็อค เปิดปิดเครื่อง โดยสามารถกดติดต่อกันสองครั้งเพื่อเข้าสู่เมนูกล้อง
ด้านบนตัวเครื่องมีเส้นสัญญาณอากาศ ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ด้านล่างตัวเครื่องมีพอร์ต USB Type-C 3.1 Gen 1 มีรูไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และลำโพง
สุดท้ายด้านหลังตัวเครื่องมีเลนส์กล้องคู่ความละเอียด 13MP เลนส์ ZEISS ไฟแฟลช LED คู่ เหนือเลนส์กล้องมีไมโครโฟนอีกหนึ่งตัว
อุปกรณ์ภายในกล่อง
การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง Nokia 8 เมื่ออยู่ในมือผู้ชาย (ซ้าย) และมือผู้หญิง (ขวา)
การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง Nokia 8 กับไม้บรรทัด
Nokia 8 ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.1.1 (Nougat) รองรับการอัพเดท Android Oreo แบบไม่มีการครอบทับส่วนติดต่อผู้ใช้งานใดๆ ขณะที่แพทช์ความปลอดภัยล่าสุดเดือนสิงหาคม
หน้าจอล็อก
สามารถตั้งรูปแบบการล็อค 6 รูปแบบ อาทิ ไม่มี, เลื่อน, รูปแบบ, PIN, ลายนิ้วมือ และรหัสผ่าน โดยแต่ละอย่างมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ฟีเจอร์ Glance
ช่วยให้ผู้ใช้งานตรวจเช็คการแจ้งเตือนเบื้องต้นได้ เช่น ข้อความ สายที่ไม่ได้รับ หรือเช็ควันเวลา เป็นต้น แบบที่ไม่ปลดล็อคตัวเครื่องเลย
หน้าจอหลัก
เป็นแบบดั้งเดิมเลยและมีหน้ารวมแอพฯ ให้ด้วย ส่วนการเพิ่มหน้าต่างจะทำได้ก็ต่อเมื่อพื้นที่หน้าจอของหน้านั้นเต็มแล้ว และสามารถกดค้างเพื่อเข้าสู่เมนูการตั้งค่า, วอลเปเปอร์, วิดเจ็ตและการจัดเรียงไอคอน
หน้า Notification และเมนูการตั้งค่าลัด
นอกจากมีเมนูด่วนให้เลือกใช้อย่างครบถ้วน ผู้ใช้ยังสามารถเลือกเมนูด่วนตามไลฟ์สไตล์การใช้งานของตนเองได้ ด้วยกดไอคอนหรือปากกา อีกทั้งสลับบัญชีผู้ใช้งานได้ ซึ่งเพิ่มความสะดวกเป็นอย่างมาก
วิธีการบันทึกภาพหน้าจอ
ทำได้โดยกดปุ่มลดเสียงและปุ่ม Power พร้อมกัน
หน้าการตั้งค่า
การโทร/ข้อความ/นาฬิกา/ปฏิทิน/เครื่องคิดเลข
สรุปสเปกของสมาร์ทโฟน Nokia 8
พื้นที่เก็บข้อมูลภายในและ RAM
สำหรับ Nokia 8 มีพื้นที่หน่วยความจำภายใน 64GB สามารถใช้ได้จริง 50GB ขณะที่แรมมีว่างให้ใช้อยู่ประมาณ 2.1GB จากสเปกเครื่อง 4GB
สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟน Nokia 8 ในการทำงานด้วยผลคะแนน Benchmark
อย่างที่เกริ่นข้างต้นว่าสมาร์ทโฟน Nokia 8 นั้นเป็นแบบ Pure Android ที่ไม่มีการเสริมลูกเล่นใดๆ ดังนั้นจึงทำให้ไม่มีฟีเจอร์เยอะเท่าที่ควร ซึ่งที่มีอยู่ภายในเครื่องจะเน้นอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานมากกว่า
ระบบการเชื่อมต่อ NFC และ Android Beam (การตั้งค่า < เพิ่มเติม < ระบบไร้สายและเครือข่าย)
สำหรับการถ่ายโอนข้อมูลหรือเชื่อมต่ออุปกรณ์ความบันเทิง
ปรับตัวอักษรได้ (การตั้งค่า < การแสดงผล)
ใครที่มองตัวอักษรไม่ชัดก็สามารถปรับค่าตัวอักษรเพื่อลดหรือขยายได้
โหมดประหยัดพลังงาน (การตั้งค่า < แบตเตอรี่)
หากอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินสามารถเลือกได้เลยว่าต้องการให้ระบบใดปิดการใช้งานบ้าง ช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานออกไปอีก
Android Pay
เพิ่มความสะดวกในการใช้จ่าย ไม่ต้องพกเงินสด แค่แตะก็จ่ายเงินแล้ว
การใช้งานและการเคลื่อนที่
สามารถกดปุ่ม Power ติดต่อกันสองครั้งเพื่อเข้าสู่เมนูกล้องหรือถ้ามีสายเรียกเข้าก็สามารถพลิกโทรศัพท์เพื่อตัดสายหรือให้ปิดเสียงเรียกเข้าเมื่อหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา
ทดสอบการเล่นเกม Nokia 8
ด้วยการเล่นเกม Seal new world นานติตด่อกัน 30 นาที ผลปรากฏว่าเครื่องอุ่นๆ เล็กน้อย และสามารถเล่นเกมได้ไหลลื่น ฉากต่อสู้ไม่มีหน่วงหรือกระตุก รวมถึงเมื่อตัวละครอยู่ในเมืองที่มีผู้เล่นอื่นอยู่หนาแน่น แน่นอนว่าแต่ล่ะคนต้องมีมาพร้อมเครื่องแต่งตัวกับสัตว์เลี้ยงที่เอฟเฟ็กต์เยอะ แต่สมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
กล้องถ่ายรูป
เลนส์กล้องคู่จับภาพสีกับโทนขาวดำความละเอียด 13MP + 13MP มีจุดพิกเซลขนาด 1.12um รูรับแสง f/2.0 มีระบบจับโฟกัส PDAF มุมมองการถ่ายภาพกว้างประมาณ 80 องศา มาตรฐานเลนส์ ZEISS และไฟแฟลชคู่ รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 พร้อมไฟแฟลช LED ช่วยในการถ่ายภาพเซลฟี่ในสภาวะแสงน้อย มีจุดพิกเซลขนาด 1.12um มุมมองการถ่ายภาพกว้างประมาณ 80 องศา จับโฟกัสด้วยระบบ PDAF
สำหรับเมนูกล้องแถบด้านบนมีรายละเอียดที่น่าสนใจสองประเด็นคือ การเลือกรูปแบบการถ่ายภาพ แบ่งเป็น จับภาพด้วยเลนส์สีหรือขาวดำอย่างเดียวและถ่ายแบบเลนส์คู่เลย ถัดไปเมนูสลับกล้องว่าจะใช้กล้องหน้าหรือหลังหรือพร้อมกัน (หน้า+หลัง) ถัดไปคือตัวจับเวลา HDR และไฟแฟลช
อธิบายจุดเด่นโหมดกล้องของ Nokia 8 นั่นก็คือ "Bothie" ว่ามีความน่าสนใจอย่างไร
ต้องบอกก่อนว่านี่ไม่ใช่ลูกเล่นใหม่ของการถ่ายภาพแต่อย่างใด เคยมีมาแล้วบนสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น แต่ก็ยังไม่มีความเสถียรและรายละเอียดของภาพได้ดีเท่า อย่างไรก็ตามโหมดภาพดังกล่าวจะใช้กล้องหน้ากับกล้องหลังถ่ายภาพพร้อมกันโดยจะแบ่งครึ่งหน้าจอ วิธีใช้งานคือสามารถเปลี่ยนโหมดได้ที่แถบเมนูด้านบนนับเมนูที่สองจากด้านซ้ายซึ่งอยู่ติดกับเมนูเลือกกล้องถ่ายว่าจะเป็นสี, ขาวดำ หรือทั้งสีกับขาวดำ
ทั้งนี้ไม่เพียงแต่จะถ่ายภาพได้แค่อย่างเดียว ด้านวิดีโอและการถ่ายทอดสด (Live) ผ่านแอพพลิเคชั่น Facebook กับ YouTube ด้วยโหมดดังกล่าวได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากเราไปเที่ยวตลาดนํ้าและเจอการแสดงจากชาวบ้านที่น่าสนใจ เราก็สามารถแชร์ให้เพื่อนๆ ได้รู้พร้อมกันไปกับคุณ โดยให้กล้องหลังถ่ายการละเล่นของชาวบ้าน ส่วนกล้องหน้าก็ถ่ายคุณเพื่อให้เราสามารถพูดคุยกับเพื่อนๆ ของเรา เป็นต้น ทว่าไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงว่าจะไม่ได้ยินเนื่องจาก Nokia 8 มีระบบจับเสียง OZO Audio ทำงานร่วมกับไมโครโฟนสามตัวเพื่อบันทึกเสียงให้มีคุณภาพ เช่น คัดกรองทิศทางของเสียง ตัดเสียงรบกวนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป และให้เสียงที่มีความชัดเจน
นอกจากโหมดโบตี้ที่น่าสนใจแล้วยังมีอีกหนึ่งโหมดคือไลฟ์โบเก้
สำหรับโหมดดังกล่าวเราจะสามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ และเลือกจุดโฟกัสได้ตามต้องการซึ่งภาพจะแสดงรายละเอียดแบบทั้งหมดผ่านหน้าจอเลย จากนั้นเมื่อเราโอเคกับภาพแล้วเราจึงค่อยกดชัตเตอร์ แต่ถ้ายังไม่รู้สึกพอใจก็เพียงแค่แก้ไขจุดโฟกัสภายหลังได้
คุณสมบัติการถ่ายภาพ
คุณสมบัติการถ่ายวิดีโอ
ขอขอบคุณ : HMD Global
ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ : Nokia 8
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=455223
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : http://www.siamphone.com/spec/nokia/8.htm
Xbox เปิดตัว Support Virtual Agent แชทบอท AI ช่วยเหลือผู้เล่นแล้ววั...
เคล็ดลับการเลือกอุปกรณ์เสริมฤดูหนาวสำหรับแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน จาก B...
ทำความรู้จัก vivo Y19s หน้าจอ 90Hz กันน้ำ IP64 ลำโพงสเตอริโอ ราคาเร...
Goodie สแกนนิ้ว Ultrasonic ที่สมาร์ทโฟนเรือธงทยอยเลือกใช้งาน
Funtouch OS 15 ระบบปฏิบัติการอัปเกรดใหม่จาก vivo บน Android 15
พรีวิว Samsung Galaxy Z Flip 6 ครั้งแรกมือถือจอพับกันน้ำได้ Samsung เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy Z Flip 6 รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมเฉดสีสไตล์มินิมอล สดใส เก๋ไก่ น่ารักเอามากๆ มี 4 เฉดสีใ...