รีวิว OPPO R15 Pro สมาร์ทโฟนกล้องอัจฉริยะด้วย AI Beauty 2.0 ดีไซน์สะดุดตา สเปคจัดเต็ม พร้อมจอใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ OPPO

โดย กฤษฎา ตรงจิตธรรม โดย ณภัทร วัฒนธรรม

ปรับขนาดตัวอักษร - ก +ก

รีวิวโทรศัพท์มือถือ OPPO R15 Pro - ออปโป้

OPPO R15 Pro สมาร์ทโฟนกล้องถ่ายภาพอัจฉริยะด้วย AI Beauty 2.0 และเซ็นเซอร์ Sony IMX519 จากกล้องหลังความละเอียด 20+16 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ทำให้สามารถถ่ายภาพได้คมชัดจากทุกสภาวะแสง ประกอบกับดีไซน์สวยไล่เฉดสีสะดุดตาที่ไม่เหมือนใคร โดยมาพร้อมจอ OLED แบบ Super Full Screen กว้าง 6.28 นิ้ว อัตราส่วน 19:9 ทำงานอย่างรวดเร็วด้วย RAM 6GB, ROM 128GB และแบตเตอรี่สุดอึดที่ความจุ 3,430 mAh (รองรับ VOOC Flash Charge) ขับเคลื่อนบนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ที่ครอบทับด้วย Color OS 5.0

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

OPPO R15 Pro โดดเด่นด้วยการไล่เฉดสีอย่างปราณีตมีศิลปะ พร้อมกับพื้นผิวกระจกขอบโค้งมนเงางามที่ได้รับการออกแบบร่วมกับดีไซน์เนอร์ชื่อดังระดับโลก ซึ่งที่ด้านหลังแม้ว่าจะเป็นกระจกแต่ก็ไม่ไหลลื่นหลุดออกมาจากมือง่ายๆ โดยมีขนาดรอบตัวเครื่องอยู่ที่ 156.5 x 75.2 x 8 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 180 กรัม

OPPO R15 Pro มาพร้อมหน้าจอ OLED แบบ Super Full Screen กว้าง 6.28 นิ้ว อัตราส่วน 19:9 ที่ช่วยให้เราเล่นเกมหรือชมวิดีโอได้เต็มตามากกว่าเดิม

เหนือหน้าจอแสดงผลมีกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล, ลำโพงตัวที่ 2 และระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ

ด้านล่างมีปุ่มแอพฯ ล่าสุด, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับอยู่ภายในหน้าจอ

ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีเพียงปุ่มลด-เพิ่มเสียง

ทางด้านขวามีช่องสำหรับใส่ซิมแบบ NanoSIM 2 ช่อง โดยช่องที่ 2 จะให้เลือกระหว่างซิมตัวที่ 2 หรือ MicroSD ถัดลงมามีปุ่มล็อค/ปิดเครื่อง

** กรุณาตรวจสอบรุ่นมือถือที่รองรับเครือข่าย 3G, 4G อีกครั้ง **

ข้างล่างของตัวเครื่องมีลำโพงตัวหลัก, ช่องชาร์จแบตเตอรี่แบบ Micro USB 2.0, ไมโครโฟนตัวหลัก และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ส่วนด้านบนมีไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวน

และที่ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องคู่แนวนอนความละเอียด 20+16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

อุปกรณ์ภายในกล่อง

ตัวเครื่อง OPPO R15 Pro
อะแดปเตอร์
สายเชื่อมต่อ Micro USB 2.0
หูฟัง
เคสใส
อุปกรณ์เปิดถาดซิม
วิธีการใช้เบื้องต้น

การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง OPPO R15 Pro กับไม้บรรทัด

สรุปสเปคของ OPPO R15 Pro

ขนาดตัวเครื่อง : 156.5 x 75.2 x 8 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 180 กรัม
หน้าจอแสดงผลแบบ OLED กว้าง 6.28 นิ้ว ความละเอียด 2280 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19:9
หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 660 AIE Octa-core ความเร็ว 2.2 GHz
RAM 6 GB
ROM 128 GB สามารถเพิ่ม MicroSD ได้สูงสุด 256GB
ระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย Color OS 5.0
กล้องถ่ายรูปด้านหลังคู่ความละเอียด 20+16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 พร้อมไฟแฟลช LED
กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
รองรับซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่อง
รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, ช่องเชื่อมต่อ Micro USB 2.0
เครือข่าย
- GSM 850/900/1800/1900 MHz
- WCDMA B1/2/4/5/6/8/19
- LTE Bands B1/2/3/4/5/7/8/18/19/20/26/18/38/39/40/41
เทคโนโลยีการรับ/ส่งข้อมูล
- 2G: EDGE/GPRS
- 3G: HSDPA , HSUPA
- 4G: LTE DL , LTE UL
แบตเตอรี่ความจุ 3,430 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว (VOOC Flash Charge)

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

ระบบปฏิบัติการ/UI

OPPO R15 Pro มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย Color OS 5.0 ที่ต้องบอกเลยว่าทาง OPPO นั้นคลุมโทนสีแดง (Ruby Red) ที่เรานำมาใช้รีวิวได้เป็นอย่างดีด้วยธีมที่แทบจะกลมกลืนไปกลับตัวเครื่อง

ความพิเศษของ Color OS 5.0

สำหรับ UI อย่าง Color OS 5.0 ได้รับการออกแบบเพื่อให้รองรับกับหน้าจอ Super Full Screen อย่างแท้จริง ทั้งยังช่วยให้ประสบการณ์การใช้งานจริงเสถียรมากขึ้นกว่าเดิม เช่น

รับชมได้เต็มจอมากขึ้น : ใครที่ไม่ชอบปุ่มนำทางแบบเดิมหรืออยากลองอะไรใหม่ๆ จากการใช้งานก็สามารถลองปรับใหม่ได้ โดยให้ไปที่ "การตั้งค่า" > "ความสะดวกสบายแบบชาญฉลาด" > "ปุ่มการนำทาง" > แล้วเลือก "การนำทางด้วยท่าทางลากนิ้วขึ้น" เพียงแค่นี้ เราจะลากนิ้วขึ้นจากด้านล่างของหน้าจอเพื่อใช้การดำเนินการด่วนได้แบบสบายๆ ไม่ว่าจะปัดขึ้นที่มุมซ้าย/ขวาเพื่อย้อนกลับ ปัดขึ้นจากตรงกลางเพื่อกลับหน้าโฮม หรือปัดขึ้นจากตรงกลางแล้วค้างเอาไว้เพื่อดูแอพล่าสุด

ลูกบอลช่วยเหลือ : อีกหนึ่งลูกเล่นที่ใช้งานได้อย่างสะดวก โดยจะแสดงเป็นปุ่มลอยเพื่อการสั่งการต่างๆ เช่น แตะ 1 ครั้งเพื่อย้อนกลับ, แตะ 2 ครั้งเพื่อดูแอพล่าสุด หรือจะแตะค้างเพื่อกลับหน้าโฮม เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะสะดวกแล้ว ยังช่วยเพิ่มพื้นที่หน้าจอแสดงผลได้อีกด้วย เพราะเราจะเลือกปิดปุ่มนำทางด้านล่างหน้าจอ และหันมาใช้ลูกบอลนำทางแทนก็ได้

ใช้งานมัลติทาสก์แบบเต็มหน้าจอ : เมื่อเราเล่นเกมหรือดูวิดีโอในแนวนอน เราสามารถตอบข้อความได้ทันทีโดยไม่ต้องออกจากแอพฯ ก่อน เพียงแค่ปัดขึ้นจากส่วนเว้าบริเวณรอยบาก ก็สามารถเลือกฟังก์ชั่นตอบกลับข้อความได้ทันที ซึ่งไม่ว่าจะเป็นข้อความ SMS, Line หรือ Facebook Messenger ก็ทำได้อย่างง่ายดาย แถมยังไม่เสียอารมณ์ในการรับชมหรือเล่นเกมเลย

Smart Album : เมื่อเราถ่ายภาพมากมายจากกล้อง AI ของ OPPO แล้ว ด้วยฟีเจอร์อัลบั้มอัจฉริยะก็จะช่วยจัดเรียงหมวดหมู่ต่างๆ ให้แบบอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นบุคคล, สถานที่ หรือวิดีโอ โดยที่เราไม่ต้องเสียเวลา เสียแรงไปกับการจัดหมวดเอง

RAM/ROM

OPPO R15 Pro เหลือให้ใช้ RAM ประมาณ 3.4GB จากทั้งหมด RAM 6GB และมีหน่วยความจำภายใน (ROM) เหลือให้ใช้งานจริงประมาณ 105GB จากทั้งหมด 128GB

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v7.0.7 ได้ 145,884 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 4.2 ได้คะแนน Single-Core ที่ 1,616 และคะแนน Multi-Core ที่ 5,830
ผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย Nenamark 3 ได้ 59.5 เฟรม/วินาที
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ (คล้ายตัววัดระดับน้ำ)
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Gyroscope Sensor เซนเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ดีไซน์และหน้าจอ

สำหรับ OPPO R15 Pro นั้นดูโดดเด่นตั้งแต่ตาเห็นด้วยการไล่เฉดสีแบบ 3D Glass บนกระจกเงาที่ดูมีมิติอย่างปราณีตมีศิลปะ พร้อมกับพื้นผิวกระจกขอบโค้งมนเงางามที่ได้รับการออกแบบร่วมกับดีไซน์เนอร์ชื่อดังระดับโลกอย่าง Karim Rashid ประกอบกับหน้าจอ Super Full Screen กว้าง 6.28 นิ้ว อัตราส่วน 19:9 ทำให้มีการแสดงผลสูงถึง 89% ทำให้ OPPO R15 Pro เครื่องนี้กลายเป็น "รุ่นที่มีอัตราส่วนหน้าจอใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ OPPO"

ชิปเซ็ตอัจฉริยะ

ด้วยขุมพลังจากหน่วยประมวลผล Snapdragon 660 AIE (Atificial Intelligence Engine) ที่ฝังอยู่ภายในของ OPPO R15 Pro นั้นจะช่วยในเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพด้าน AI ทั้งความลื่นไหล เพิ่มความเร็วในการทำงาน และรองรับการใช้งานในหลายฟังก์ชันมากยิ่งขึ้น เช่น AI เรื่องการประหยัดแบตเตอรี่ขณะเล่นเกมหรือใช้งานทั่วไป หรือกล้องคู่ด้านหลังและกล้องหน้า AI และ AI Beauty 2.0 ที่เราจะพูดถึงในช่วงท้ายนั่นเอง ทั้งยังมี RAM ที่ให้มาถึง 6GB ที่ช่วยการันตีเรื่องการใช้งานได้แบบสบายหายห่วง

ทดสอบการเล่นเกม

เมื่อทดสอบเล่นเกม ROV สมาร์ทโฟนเครื่องนี้ก็เล่นได้อย่างไหลลื่น เฟรมเรทสูงแตะหลัก 60fps ได้สบาย และปรับภาพได้ในระดับสูงสุด

ส่วนเกม PUBG Mobile ก็สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่นในภาพระดับกลางแถมยังเปิดเฟรมเรมสูงได้อีกด้วย และหากยิ่งเล่นในแผนที่ใหม่อย่างทะเลทรายที่มีกราฟิกและสิ่งของภายในเกมมาก แต่ก็ยังคงเล่นได้สบายๆ

นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ "ตัวเร่งความเร็วเกม" เพื่อให้ภาพที่แสดงภายในเกมเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมการปิดกั้นการแจ้งเตือนที่ทำงาน และจำกัดแอพพลิเคชั่นพื้นหลังได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

VOOC Charge

เทคโนโลนีชาร์จไวของ OPPO R15 Pro ก็ถือเป็นจุดเด่นเช่นกันด้วยการชาร์จไฟเพียงไม่กี่นาที ก็สามารถใช้ได้ต่อเนื่องหลายชั่วโมง ประกอบกับการใช้งานบนหน่วยประมวลผลที่มี AI ยิ่งทำให้หายห่วงเรื่องแบตหมดไปเลย

โคลนแอพ

โคลนแอพ หรือการใช้งาน 2 บัญชีผ่านแอพพลิเคชั่นสำหรับแชทใน 1 เครื่อง เช่น Line หรือ Facebook เราก็สามารถใช้งานได้ 2 บัญชีได้อย่างง่ายดาย เพียงไปที่ การตั้งค่า > โคลนแอพ และเลือกได้ตามใจชอบว่าจะโคลนแอพไหน

แบ่งหน้าจอ

ด้วยหน้าจอ Super Full Screen กว้าง 6.28 นิ้ว และสัดส่วนพื้นที่หน้าจอแสดงผลถึง 89% ทำให้ OPPO R15 Pro ใช้งาน 2 แอพพลิเคชั่นในหน้าจอเดียวกันได้ เพียงแค่เราเปิดแอพฯ ที่รองรับแบ่งหน้าจอ แล้วกดปุ่มแอพฯ ล่าสุดค้างไว้ จากนั้นก็ให้เลือกอีก 1 แอพฯ เพื่อใช้งานได้ทันที หรือจะลากนิ้ว 3 นิ้วขึ้นด้านบนเพื่อเปิดใช้งานก็ได้เช่นเดียวกัน

ระบบความปลอดภัย

OPPO R15 Pro ก็มาพร้อมระบบความปลอดภัยในการปลดล็อคเครื่องทั้งการสแกนใบหน้าหรือระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ) ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็วมาก โดยการปลดล็อคด้วยใบหน้าจะเริ่มทำงานเมื่อเรากดปุ่มล็อคก่อน ขณะที่การสแกนลายนิ้วมือก็สามารถแตะไปที่เซ็นเซอร์ด้านหลังได้ทันทีโดยไม่ต้องกดปุ่มล็อค

กล้อง

จากที่เราพูดไปในส่วนของหน่วยประมวลผล Snapdragon 660 AIE ที่บอกว่าความอัจฉริยะนั้นรวมเข้ามาที่ฟังก์ชั่นแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้ว เราจะมาไล่เรียงกันดูว่าฟีเจอร์และความสามารถจากกล้องของ OPPO R15 Pro มีอะไรบ้าง

กล้องหลังคู่อัจฉริยะความละเอียด 20+16 ล้านพิกเซล

AI Scene Recognition เป็นฟีเจอร์ที่รับรู้ถึงความแตกต่างของแต่ละวัตถุเพื่อปรับแสงและสีให้เหมาะสมได้ถึง 16 ความแตกต่าง เช่น สุนัข, อาหาร, ท้องฟ้า หรือข้อความก็ยังได้ และเมื่อเราลองใช้กล้องถ่าย ระบบ AI ก็จะวิเคราะห์ได้ทันทีแบบรวดเร็วทันใจ (จะขึ้นสัญลักษณ์ที่มุมซ้ายบน) เรียกได้ว่าจะถ่ายด้วยกล้องของ OPPO R15 Pro ก็ใช้แค่โหมดอัตโนมัติก็เพียงพอแล้ว เดี๋ยว AI จะปรับให้เอง

นอกจากจะมี AI ที่ช่วยเรื่องการปรับแต่งแสงและสีแล้ว ก็ยังมี Sensor HDR ที่ช่วยเก็บรายละเอียดของภาพไม่ว่าจะในที่แสงมากหรือแสงน้อย ซึ่งยังเข้ามาเพื่อช่วยในการแสดงผลแบบเรียลไทม์ ปรับสมดุลในสภาพที่ต่างกันอีกด้วย

Artistic Portrait Mode : ลูกเล่นนี้ถือว่าเป็นการปรับโฉมใหม่ให้ OPPO เลยทีเดียว เพราะนอกจากจะปรับแต่งเอฟเฟกต์แสงแบบ 3D เพื่อให้ได้ภาพบุคคลที่โดดเด่นขึ้นแล้ว หน้าชัดหลังยังเบลอก็ยังเนียนตา ซึ่งมีการเก็บรายละเอียดรอบๆ ตัวบุคคลได้ชัดเจนเลยทีเดียว ไม่มีเบลอเกินเข้ามาในตัวของคน

และอีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นคือ โฟกัสไวด้วยระบบ PDAF (Phase Detection Auto Focus) ที่ OPPO R15 Pro นั้นทำได้เร็วอย่างน่าประทับใจ แค่เปิดกล้อง หันไปทางที่ต้องการถ่าย โฟกัสไว กดชัตเตอร์ ก็เป็นอันเสร็จในเวลาที่รวดเร็ว

มากันที่การถ่ายวิดีโอกันบ้าง Slow Motion กันบ้าง โดย OPPO R15 Pro นั้นจะมีให้เราลองเล่น 2 ระดับ 2 ความคมชัด แบบแรกคือ ความละเอียด 1080p ที่ 120fps และแบบที่ 2 คือ ความละเอียด 720p ที่ 240fps ซึ่งเมื่อลองถ่ายจริงๆ วิดีโอแบบ Slow Motion ของ OPPO R15 Pro ก็ทำได้ออกมาได้ดี ไม่ยืดยาวจนเกินไป แถมยังคมชัดอีกด้วย

กล้องหน้าเซลฟี่สวยความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อม AI Beauty 2.0

ด้วยความที่ OPPO R15 Pro มาพร้อมกับเทคโนโลยีการถ่ายเซลฟี่แบบใหม่อย่าง AI Beauty 2.0 ที่สามารถวิเคราะห์จุดบนใบหน้า จำแนกเพศ อายุ และสีผิวได้ชาญฉลาดมากขึ้น ทำให้การถ่ายภาพนั้นดูเรียบง่ายและสวยงามในพริบตา แต่แค่ AI อย่างเดียวคงไม่พอ เพราะทาง OPPO ยังใส่ลูกเล่นเข้ามาอีกเพียบ

AR Sticker เพิ่มความสนุกสนานพร้อมการปรับแต่งใบหน้าด้วยสติ๊กเกอร์สุดน่ารัก ไม่ว่าจะหน้าแมว, หูกระต่าย หนือจะใส่แว่นเป็นเด็กเนิร์ด ก็ดูสวยงามไปทุกแบบ

และด้วยแบรนด์ OPPO ที่ขึ้นชื่อเรื่องเซลฟี่ ก็ไม่พลาดที่จะนำ AI Beauty 2.0 มาใช้ในกล้องหน้าด้วย โดยเมื่อเราลองใช้งานจริง นอกจากจะปรับหน้าเนียนได้ด้วยตัวเองตั้งแต่ 1-6 ระดับแล้ว ใครจะลองเลือกให้ AI มาเป็นตัวช่วยก็ไม่เสียหาย แถมยังทำได้ดีอีกด้วย

HDR พร้อมโหมดเบลอฉากหลัง ที่ OPPO R15 Pro ทำได้ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะจำแนกเพศบนใบหน้าก็ยังทำออกมาแบบต้องยกนิ้วโป้งให้ โดยที่ผู้ชายยังดูแมน ไม่ขาวใสจนเกินไป ขณะที่ผู้หญิงก็ได้ความเนียนและความสดใสเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ประกอบกับการเปิดโหมดฉากหลังที่ตัวกล้องทำออกมาได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้ OPPO ก็มีบริการแสนพิเศษอย่าง OPPO Premium Service สำหรับผู้ใช้งาน OPPO R15 Pro เท่านั้น! โดยหากใครพบปัญหาจากการผลิต (ไม่ได้เกิดขึ้นจากตัวผู้ใช้) ไม่ต้องรอซ่อม แต่สามารถเปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่ที่ศูนย์ออปโป้ได้ทันที

คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง

ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหลัง : 4608x3456 (มาตรฐาน), 3456x3456 (จตุรัส) , 4608x2176 (เต็มจอ) พิกเซล
ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหน้า : 5184x3880 (มาตรฐาน), 3880x3880 (จตุรัส), 5184x2464 (เต็มจอ) พิกเซล
ไฟแฟลช : ปิด, เปิด, อัตโนมัติ, เพิ่มแสง
HDR : ปิด, เปิด, อัตโนมัติ
ตั้งเวลาถ่าย : ปิด, 3, 10 วินาที, แตะ
ระยะชัดลึก : ปิด, เปิด
สีจัด : ปิด, เปิด
ปรับระดับสวยงาม : 1 - 6 ระดับ
ตัวกรอง : ต้นฉบับ, ชาเขียว, ฤดูใบไม้ร่วง, มะนาว, ฟูฟ่อง, ปราสาทในจินตนาการ, กาแฟดำ, จดหมายรัก, 2046, จุงกิง, แครนด์เบอรี่
โหมดกล้องถ่ายรูปกล้องหลัง : รูปถ่าย, รูปคน, สติ๊กเกอร์, พาโน, ผู้เชี่ยวชาญ
โหมดกล้องถ่ายรูปกล้องหน้า : รูปถ่าย, สติ๊กเกอร์, พาโน

คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ

ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหลัง : 3840x2160 (4K), 1920x1080 (1080p), 1280x720 (720p) พิกเซล
ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหน้า : 1920x1080 (1080p), 1280x720 (720p) พิกเซล
ไฟแฟลช : ปิด, เปิด
ปรับระดับสวยงาม : 1 - 6 ระดับ
ตัวกรอง : ต้นฉบับ, ชาเขียว, ฤดูใบไม้ร่วง, มะนาว, ฟูฟ่อง, ปราสาทในจินตนาการ, กาแฟดำ, จดหมายรัก, 2046, จุงกิง, แครนด์เบอรี่
โหมดกล้องถ่ายรูปกล้องหลัง : โหมดย่นเวลา, สโลว์โมชั่น