รีวิว Moto G6 Plus ตอบโจทย์การใช้สมาร์ทโฟนด้วยจอไร้ขอบ Max Vision กล้องหลังคู่อัจฉริยะ และฟีเจอร์สไตล์ Moto

โดย กฤษฎา ตรงจิตธรรม โดย ณภัทร วัฒนธรรม

ปรับขนาดตัวอักษร - ก +ก

รีวิวโทรศัพท์มือถือ Moto G6 Plus - โมโต

Moto G6 Plus สมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์การใช้งานไลฟ์สไตล์เรามากที่สุดรุ่นหนึ่ง โดดเด่นด้วยดีไซน์จอไร้ขอบแบบ Max Vision Display กว้าง 5.9 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ อัตราส่วน 18:9 ทั้งยังขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Snapdragon 630, RAM 4GB และระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo แบบเพียวแอนดรอยด์ ขณะที่กล้องหลังก็มีเลนส์คู่ความละเอียด 12+5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 และเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะ Dual Autofocus Pixel ที่ช่วยล็อคการโฟกัสได้อย่างแม่นยำ

สำหรับ Moto G6 Plus มาพร้อมกับสีน้ำเงินเข้ม (Deep indigo) และได้เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในราคา 9,990 บาท

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

Moto G6 Plus ผลิตจากวัสดุโลหะที่ครอบทับด้วยกระจกความโค้งแบบ 3D Glass ที่มีความทนทานและป้องกันรอยขีดข่วนได้ในระดับหนึ่ง ทั้งยังไม่มีความลื่นที่ตัวกระจกทำให้จับได้ถนัดแม้ถือมือเดียว โดยมีขนาดรอบตัวเครื่องอยู่ที่ 159.9 x 75.5 x 7.99 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 165 กรัม

Moto G6 Plus มาพร้อมหน้าจอไร้ขอบในชื่อ "Max Vision Display" กว้าง 5.9 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ (2160 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 18:9 รองรับฟีเจอร์ Glance ที่สามารถชมการแจ้งเตือนหรือเปอเซ็นต์แบตเตอรี่ได้ที่น้าจอล็อคทันที

เหนือหน้าจอแสดงผลมีกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ลำโพงสำหรับสนทนา เซ็นเซอร์ต่างๆ และไฟแฟลช LED

ด้านล่างมีไมโครโฟนตัวที่ 1 ระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ โดยมีปุ่มนำทางไว้ในหน้าจอ

ทางด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มสำหรับเพิ่ม/ลดเสียง และปุ่มล็อคหน้าจอ

ที่ด้านบนมีไมโครโดยตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวนที่มุมซ้าย และช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่อง และสำหรับใส่ MicroSD อีก 1 ช่อง

ส่วนด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องชาร์จแบตเตอรี่หรือเชื่อมต่อข้อมูลแบบ USB Type-C และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

และสุดท้ายที่ด้านหลังมีกล้องหลังคู่ความละเอียด 12+5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช Dual LED ซึ่งจะมีความนูนเหนือตัวเครื่องออกมาพอสมควร และมีไมโครโฟนตัวที่ 3 อยู่ที่มุมขวาล่างอีกตัวหนึ่ง

อุปกรณ์ภายในกล่อง

ตัวเครื่อง Moto G6 Plus
หูฟังแบบ In-Ear
สาย USB Type-C
อะแดปเตอร์
เคสใสแบบยาง
ฟิล์มใสติดหน้าจอ
อุปกรณ์เปิดถาดซิม
วิธีการใช้งานเบื้องต้น

การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง Moto G6 Plus เมื่ออยู่ในมือผู้ชาย (ซ้าย) และมือผู้หญิง (ขวา)

การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง Moto G6 Plus กับไม้บรรทัด

สรุปสเปคของ Moto G6 Plus

ขนาดตัวเครื่อง : 159.9 x 75.5 x 7.99 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 165 กรัม
หน้าจอแสดงผลแบบ IPS-LCD กว้าง 5.9 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2160 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 18:9
หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 630 ความเร็ว 2.2 GHz
GPU : Adreno 508
RAM 4 GB
ROM 64 GB สามารถเพิ่ม MicroSD ได้สูงสุด 256 GB
ระบบปฎิบัติการ Android 8.0 Oreo
กล้องถ่ายรูปด้านหลังคู่ความละเอียด 12+5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 พร้อมไฟแฟลช Dual LED
กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
รองรับซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่อง
รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.2, USB Type-C
เครือข่าย
- GSM 850/900/1800/1900 MHz
- WCDMA 850/900/1900/2100 MHz
- LTE Bands 1/3/5/7/28
เทคโนโลยีการรับ/ส่งข้อมูล
- 2G: EDGE/GPRS
- 3G: HSPA+
- 4G:
แบตเตอรี่ความจุ 3,200 mAh พร้อมเทคโนโลยีเพิ่มความเร็วในการชาร์จ

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

ระบบปฏิบัติการ/UI

Moto G6 Plus มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo และเป็น Pure Android ที่ไม่มีการปรับแต่งใดๆ ทั้งสิ้นเพื่อให้ใช้งานได้ไหลลื่นมากที่สุด ขณะที่หน้าตา UI รุ่นนี้ก็มีไอคอนต่างๆ เหมือนกับที่ Google ปล่อยออกมา

หน้าตา UI ทั่วไป

RAM/ROM

ส่วนเรื่องของ RAM ที่ให้มาทั้งหมด 4GB ก็มีให้เหลือใช้งานประมาณ 2GB และเหลือหน่วยประมวลผล (ROM) ให้ใช้งานจริงประมาณ 49GB จากทั้งหมด 64GB

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v7.0.8 ได้ 87,734 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 4.2 ได้คะแนน Single-Core ที่ 860 และคะแนน Multi-Core ที่ 3,968
ผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย Nenamark 3 ได้ 59.4 เฟรม/วินาที
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Gyroscope Sensor เซนเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ดีไซน์

Moto G6 Plus นั้นโดดเด่นด้วยดีไซน์กระจกแบบ 3D Glass ที่ด้านหลังตัวตัวเครื่อง ซึ่งมีความโค้งกว่ารุ่นอื่นที่ใช้แบบ 2.5D และมีความทนทานสูงกว่า ส่วนหน้าจอก็มาแบบไร้ขอบ Max Vision Display ที่ให้ความชัดและสีที่ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด

ทดสอบการเล่นเกม

จากการใช้เล่นเกม ROV เครื่องนี้ก็สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่นไม่มีปัญหาใดๆ แถมยังปรับภาพในระดับสูงสุดแบบ HD ได้อีกด้วย

ส่วนการเล่นเกม PUBG Mobile ก็สามารถเล่นได้แบบไม่กระตุกด้วยการปรับภาพกราฟิกระดับต่ำสุด และเฟรมเรทระดับกลาง

เพิ่มความจุ พร้อมใส่ได้ 2 ซิม

Moto G6 Plus ก็พร้อมให้ใช้งานพร้อมกัน 2 ซิม แบบ Dual Stand-by หรือเลือกใช้ 4G ได้แค่ซิมเดียว โดยสามารถเพิ่ม MicroSD Card ความจุสุงสุด 256GB ได้อีก 1 ช่อง รวมกันเป็น 3 ช่อง

ระบบความปลอดภัย

สมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ทั้งการสแกนลายนิ้วมือที่เพิ่มได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ ซึ่งจะใช้เป็นตัวอนุญาตในการซื้อและการเข้าถึงแอพฯ ได้ รวมถึงการสแกนใบหน้าแบบ 2 มิติด้วยเช่นกัน (ใช้ได้ 1 ใบหน้า) นอกจากนี้ ก็ยังมีการล็อคหน้าจอแบบอื่นๆ อีกอย่างการใช้รูปแบบ, PIN และรหัสผ่าน

กันน้ำและฝุ่น

แม้ว่าจะไม่ได้ระบุมาตรฐาน IP มาในสเปคฉบับเต็ม แต่ Moto G6 Plus ก็มาพร้อมกับการป้องกันการถูกน้ำสาดหรือฝนตกแบบเบาๆ ได้แบบสบายหายห่วง

Turbopower
ด้วยที่พอร์ตชาร์จแบตเตอรี่เป็นแบบ USB Type-C ทำให้สมาร์ทโฟนราคาเบาเครื่องนี้มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 15 วัตต์ ในนาม Turbopower ที่ชาร์จเพียงไม่กี่นาที ก็สามารถใช้งานทั่วไปได้อีกครึ่งวันเลยทีเดียว

ฟีเจอร์ฉบับ Moto

ใครที่ใช้สมาร์ทโฟนของ Motorola มาหลายรุ่นก็คงจะคุ้นเคยกันดีกับ Moto Experiences ที่ช่วยให้การใช้งานของเราสะดวกยิ่งขึ้น ดังนี้

Moto Actions : เป็นการใช้ท่าทางง่ายๆ เพื่อควบคุมสมาร์ทโฟนของเรา ดังนี้

ใช้ 3 นิ้วแตะค้างไว้ที่หน้าจอเพื่อบันทึกภาพหน้าจอ
นำทางด้วยการใช้ปุ่มสแกนลายนิ้วมือแทนปุ่มนำทางในหน้าจอ โดยการปัดไปทางซ้ายเพื่อย้อนกลับ, กดหนึ่งครั้งเพื่อกลับหน้าหลัก และปัดขวาเพื่อดูแอพฯ ล่าสุด
เขย่า 2 ครั้งเพื่อเปิดไฟฉาย โดยท่าทางจะคล้ายกับการ 'สับ 2 ครั้ง'
สะบัดมือ 2 ครั้งเพื่อเปิดกล้องหลังทันที และหากสะบัดอีก 2 ครั้งจะเป็นการหมุนกล้องมายังกล้องหน้า
ใช้นิ้วปัดหน้าจอลงมาทางซ้ายหรือขวาเพื่อเข้าสู่โหมดมือเดียว
ปิดเสียงเรียกเข้าได้ทันทีเมื่อมียกโทรศัพท์ขึ้นซึ่งจะกลายเป็นการสั่นแทน หรือจะคว่ำลงเพื่อปิดเสียงทันที

Moto Display : จะเป็นการเพิ่มความสามารถบนหน้าจอ โดยฟีเจอร์ในส่วนนี้จะมี

หน้าจอกลางคืน จะเป็นการลดแสงสีฟ้าลงจามเวลาที่เราได้ตั้งค่าไว้ เช่น เมื่อถึงเวลา 4 ทุ่ม หน้าจอก็จะกรองแสงสีฟ้าออกไปทันที และเมื่อถึงสิ้นสุดเวลาตามที่เราตั้งไว้ หน้าจอก็จะกลับมาเป็นสีปกติ
จอแสดงผลจะตอบสนองทันทีเมื่อเราเปิดหน้าจอค้างไว้ขณะที่กำลังอ่านหรือมองจออยู่ ซึ่งจะไม่ดับตามเวลาที่เราตั้งค่าไว้
Moto Display สามารถแจ้งเตือนสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ เช่น เปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่หรือเวลา โดยจะปรากฏเมื่อเราล็อคหน้าจอและยกขึ้นเมื่อต้องการดู

กล้อง

มาถึงจุดเด่นที่สุดของ Moto G6 Plus นั่นก็คือกล้องหลังคู่อัจฉริยะความละเอียด 12+5 ล้านพิกเซล ที่ได้นำเทคโนโลยี AI เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยจะมีฟีเจอร์มากมาย ดังนี้

ตรวจจับสิ่งของ : จาก AI ที่ได้เข้ามามีส่วนในกล้องคู่ของรุ่นนี้ ทำให้ซอร์ฟแวร์สามารถตรวจจับสิ่งของที่อยู่ภายในกล้อง ณ ตอนนั้นได้ และจะขึ้นสัญลักษณ์รูปกล่องเพื่อให้เรากดเพื่อค้นหาได้ทันที เช่น เราลองนำกล้องไปส่องที่ตัวกล่องของ Moto G6 Plus และกดที่สัญลักษณ์ที่ปรากฏ จากนั้นเราก็รอระบบคำนวณประมาณ 10 วินาที จนกระทั่งมีการแสดงผลลัพธ์ออกมาได้ตรงตามที่ค้นหา

คัตเอ้าท์ : ฟีเจอร์เด่นอีกตัวที่ห้ามพลาดในการลองเล่น คือ คัตเอ้าท์ ที่จะจับวัตถุที่เด่นภายในกล้อง แล้วตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออก เพื่อให้เราแก้ไขและใส่ภาพพื้นหลังอื่นๆ ตามที่เราชอบได้อย่างอิสระ แต่ใครที่กำลังจะลองเล่นฟีเจอร์นี้ ก็ควรจะให้วัตถุไม่ได้วางอยู่บนโต๊ะหรือใกล้กับสิ่งอื่น เพราะอาจจะตัดขอบได้ไม่เนียนเท่าที่ควร

สีจุด : จะเป็นการเลือกสีใดสีหนึ่งให้เหลืออยู่ภายในภาพเท่านั้น อย่างที่เราลองถ่ายท้องฟ้า ก็เพียงแค่ให้เราใช้นิ้วจิ้มไปที่สีฟ้า จากนั้นสีอื่นๆ นอกเหนือจากที่ฟ้าก็จะกลายเป็นสีขาว-ดำทันที

นอกจากนี้ ก็ยังมีโหมดบุคคลที่ให้ถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างสวยงาม และโหมดสแกนเอกสารที่แปลงหน้ากระดาษให้เป็นข้อความปรากฏบนสมาร์ทโฟนเพื่อคัดลอกหรือแก้ไขและส่งให้เพื่อนๆ ของเราได้ทุกแอพพลิเคชั่น แต่ต้องเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น

ส่วนกล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 พร้อมโหมด Low Light สำหรับถ่ายในที่แสงน้อยโดยเฉพาะ และการปรับหน้าสวยที่จะให้ระบบแต่งเองหรือจะเราจะปรับเองตั้งแต่ 1-6 ระดับก็สามารถทำได้ แถมยังมีฟิลเตอร์ใบหน้าหรือสติ๊กเกอร์ให้ได้ลองเล่นกันอีกด้วย

คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง

ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหลัง : 4032 x 3024 (4:3-12MP), 4032 x 2268 (16:9-9.1MP), 4032 x 2016 (18:9-8.1MP), 3264 x 2448 (4:3-8MP), 3264 x 1836 (16:9-6MP) พิกเซล
ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหน้า : 4608 x 3456 (4:3-16MP), 2304 x 1728 (4:3-4MP ปรับเมื่อแสงน้อย) พิกเซล
HDR : อัตโนมัติ, เปิด, ปิด
ไฟแฟลช : อัตโนมัติ, เปิด, ปิด
ตัวจับเวลา : ปิด, 3, 10 วินาที
ถ่ายภาพแบบแอคทีฟ : เปิด, ปิด
เสียงชัตเตอร์ : เปิด, ปิด
การถ่ายภาพด่วน : เปิด, ปิด
แตะที่ใดก็ได้เพื่อถ่ายภาพ : เปิด, ปิด
บันทึกตำแหน่ง : เปิด, ปิด
ตารางช่วยเหลือ : เปิด, ปิด
การจดจำวัตถุ : เปิด, ปิด
การจดจำจุดสังเกต : เปิด, ปิด
โหมดภาพถ่าย : ภาพบุคคล, คัตเอ้าท์, สีจุด, พาโนรามา, สแกนเนอร์ข้อความ, ฟิลเตอร์ใบหน้า

คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ

ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหลัง : 2160 x 3840 (4K Ultra HD), 1920 x 1080 (Full HD 1080p-60fps), 1920 x 1080 (Full HD 1080p-30fps), 1280 x 720 (HD 720p-30fps), 640 x 480 (VGA 480p-30fps) พิกเซล
ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหน้า : 1920 x 1080 (Full HD 1080p-30fps), 1280 x 720 (HD 720p-30fps), 640 x 480 (VGA 480p-30fps) พิกเซล
ไฟฉาย : เปิด, ปิด
ระบบป้องกันสั่น : เปิด, ปิด
โหมดวิดีโอ : สโลว์โมชั่น, ไทม์แลปส์, ฟิลเตอร์ใบหน้า