รีวิว OPPO Find X สุดยอดสมาร์ทโฟนจอไร้ขอบกับนวัตกรรมกล้องซ่อนได้ จัดเต็มทั้งสเปกและดีไซน์ที่โดดเด่น

โดย Siamphone.com โดย ณภัทร วัฒนธรรม

ปรับขนาดตัวอักษร - ก +ก

รีวิวโทรศัพท์มือถือ OPPO Find X - ออปโป้

OPPO Find X สมาร์ทโฟนตัวท๊อปซีรี่ย์ Find ที่ห่างหายไปนานกว่า 4 ปี กลับมาครั้งนี้เรียกว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์แบบ Panoramic Arc Screen ไร้รอยต่อ หน้าจอไม่มีรอยบากเนื่องจากซ่อนกล้องและเซ็นเซอร์ไว้ด้านในด้วยนวัตกรรม Stealth 3D cameras ยังคงชูจุดเด่นด้วยกล้องถ่ายรูปมี AI และแรงต่อเนื่องกับหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 845 AIE Octa-core ความเร็ว 2.8GHz, RAM 8GB, ROM 256GB และแบตเตอรี่ความจุ 3,730mAh รองรับ VOOC Flash Charge

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

OPPO Find X มาพร้อมตัวเครื่องดีไซน์กระจกขอบโค้ง 2 ชิ้นไร้รอยต่อ ด้านหลังไล่เฉดสี Gradient Design อย่างสวยงามแบบมีมิติเมื่อส่องกระทบกับแสงในทุกๆ มุม จับถือสบายมือด้วยขอบที่รับกับฝ่ามือ แต่อาจจะต้องระวังเนื่องจากตัวเครื่องค่อนข้างลื่น โดยที่ตัวเครื่องมีขนาด 156.7 × 74.2 × 9.4 มิลลิเมตร น้ำหนัก 186 กรัม

หน้าจอแสดงผลไร้รอยบากที่แท้จริง เรียกว่าเป็นจอแสดงผล Panoramic ให้มุมมองที่กว้าง ชัด เต็มตา ผลิตจากกระจก Corning Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มันใจเรื่องความแข็งแรง ทนทาน ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด 2340x1080 พิกเซล บนอัตราส่วน 19.5:9 ซึ่งมีขอบด้านข้างหน้าจอเหลือเพียงเล็กน้อย ทำให้มีพื้นที่ใช้งานกว่า 93.8% ใช้จอแบบ OLED ทำให้ได้สีสันสดและสวยงาม

เหนือหน้าจอจะต่างกับสมาร์ทโฟนทั่วไป มีเพียงช่องลำโพงเสียงสนทนาเล็กๆ อยู่ขอบ

ส่วนกล้องถ่ายรูปด้านหน้าและเซ็นเซอร์ต่างๆ จะซ่อนอยู่ด้านใน พร้อมกับลำโพงอีกหนึ่งชั้น ซึ่งนี่เองที่เรียกว่าเทคโนโลยี Stealth 3D cameras โดยการใช้งานกล้องจะโผล่ขึ้นมาเฉพาะที่ใช้งาน หรือเมื่อต้องการปลดล็อคด้วยใบหน้า

เมื่อใช้งานกล้อง ตัวเครื่องด้านบนจะสไลด์ขึ้นมา ด้านหน้ามีระบบเซ็นเซอร์ ช่องลำโพงเสียง และเลนส์กล้องถ่ายรูปด้านหน้าความละเอียด 25 ล้านพิกเซล ส่วนด้านหลังมีเลนส์กล้องคู่ ความละเอียด 20+16 ล้านพิกเซล และตรงกลางระหว่างกล้องเป็นไฟแฟลช LED

นอกจากนี้ ปุ่มควบคุมการใช้งานทั้งปุ่มเมนู ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ ก็ไม่มีอยู่บนตัวเครื่อง ย้ายไปอยู่บนหน้าจอ จึงได้จอแสดงผลที่กว้าง

ตัวเครื่องด้านบนไม่ได้โค้งรับกับด้านข้างเหมือนเดิมทั่วไป แต่เป็นการโค้งเว้าแล้วนำไมโครโฟนไปติดตั้งไว้

และด้านล่างตัวเครื่องก็ออกแบบเช่นเดียวกัน โดยที่มุมซ้ายเป็นช่องลำโพงเสียง ถัดมาทางขวาเป็นรูไมโครโฟน สำหรับ OPPO Find X ตรงกลางจะเป็นพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C เรียบร้อย และสุดท้าย เป็นช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM 2 ช่องบน-ล่าง สามารถเชื่อมต่อ 4G สแตนบายได้ทั้งคู่ ไม่สามารถเพิ่ม Micro USB ได้ เพราะให้ความจุมาถึง 256GB และอีกเรื่องที่น่าเสียดายคือ ไม่มีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตรอีกต่อไป แต่ในกล่องจะมีสายแปลงจาก Type-C เป็นช่อง 3.5 มม. มาให้ด้วย

ปุ่มปรับระดับเสียงเพิ่ม-ลด จะอยู่ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่อง ในตำแหน่งที่ใช้งานสะดวก หากใช้นิ้วโป้งซ้ายปรับระดับเสียง

ส่วนตัวเครื่องด้านขวาจะมีเพียงปุ่มเปิด-ปิดเครื่องเท่านั้น

ด้านหลังตัวเครื่อง OPPO Find X ผลิตจากกระจก 3D แบบพิเศษ ด้วยการเจียระไนแบบ 2.5D จนสุดขอบ พร้อมกับดีไซน์ไล่เฉดสี Gradient Designจากที่ตรงกลางมองเห็นเป็นสีดำ ไล่สีออกไปที่ขอบด้านข้างทั้งสองเป็นสี Bordeaux Red (เครื่องรีวิว) และ Glacier Blue ให้ความมันวาว แต่เนื่องจากเป็นกระจกจะเกิดรอยนิ้วมือค่อนข้างง่าย

การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง OPPO Find X เมื่ออยู่ในมือผู้ชาย (ซ้าย) และมือผู้หญิง (ขวา)

การเปรียบเทียบขนาดตัวเครื่อง OPPO Find X กับไม้บรรทัด

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคทั้งหมดของ OPPO Find X

ขนาดตัวเครื่อง : 156.7x74.2x9.4 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 186 กรัม
หน้าจอแสดงผล : AMOLED โค้งแบบ Panoramic Arc Screen ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด 2340x1080 พิกเซล อัตราส่วน 19.5:9
หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 845 AIE Octa-core ความเร็ว 2.8GHz
RAM : 8GB
หน่วยประมวลผลกราฟฟิก : Adreno 630
หน่วยความจำภายใน : 256GB
ระบบปฏิบัติการ : Color OS 5.1 บนพื้นฐาน Android 8.1 Oreo
กล้องหน้า : ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
กล้องหลังคู่ : ความละเอียด 20+16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ทั้งคู่ พร้อมไฟ
แฟลช LED
รองรับซิมแบบ : Nano ซิม 2 ช่อง
การเชื่อมต่อ : USB Type-C, Bluetooth 5.0, OTG, WLAN 2.4G, WLAN 5.1G, WLAN 5.8G, WLAN Display
ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้าด้วยเทคโนโลยี 3D Face Recognition
แบตเตอรี่ : 3,730mAh

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v7.0.5 ได้ 285,548
คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 4 ได้คะแนน Single-Core ที่ 2,297 และคะแนน
Multi-Core ที่ 7,933
ผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย Nenamark 3 ได้ 59.6 เฟรม/วินาที
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ (คล้ายตัววัดระดับน้ำ)
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Gyroscope Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก

ระบบปฎิบัติการ/หน่วยความจำภายใน

OPPO Find X แกะกล่องมาพร้อมระบบปฎิบัติการ ColorOS 5.1 based on Android 8.1 รองรับการใช้งานเต็มหน้าจออย่างสมบูรณ์แบบ และถือว่าเป็นเครื่องที่วางขายความจุเดียวที่ 256GB ใช้งานเก็บข้อมูลต่างๆ ได้อย่างจุใจ โดยที่เปิดเครื่องมามีหน่วยความจำเหลืออยู่ประมาณ 224GB

ฟังก์ชั่นที่น่าสนใจบน ColorOS 5.1

Google Assistant

ColorOS 5.1 based on Android 8.1 บน OPPO Find X รองรับการใช้งาน Google Assistant ผู้ช่วยคำสั่งเสียงที่รองรับการใช้งานภาษาไทยได้แล้ว ช่วยให้การใช้งานค้นหา หรือสั่งการสะดวกมากขึ้น

O-Cloud

ระบบเก็บข้อมูลส่วนตัวของ OPPO ที่เพิ่มมาให้ถึง 5GB รองรับการเก็บข้อมูลของเว็บไซต์ รหัสผ่าน ข้อมูล รูปภาพที่มีความละเอียดสูง ได้อย่างปลอดภัย

Smart Assistant

ผู้ช่วยอัฉริยะส่วนตัวที่เข้าถึงได้โดยการปัดหน้าจอหลักไปทางซ้าย จะคอยช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้งาน รวบรวมแอพพลิเคชั่น เบอร์โทรคนโปรด ก้าวเดิน หรือฟังก์ชั่นที่ผู้ใช้งานใช้บ่อย ให้เข้าถึงง่ายและรวดเร็ว

Easy Screenshot

แคปเจอร์หน้าจอง่ายๆ ด้วย 3 นิ้ว ลากลงมาบนหน้าจอ ทั้งยังสามารถแคปเจอร์ครั้งเดียวให้ได้แบบยาวต่อเนื่องตามที่ต้องการ

App and Files Protection

ปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณอย่างเป็นความลับ ป้องกันการเข้าถึง และปกป้องแอพฯ ต่างๆ ที่ไม่ต้องการให้ผู้อื่นรู้ได้ด้วยฟังก์ชั่น การเข้ารหัสแอพฯ โดยเข้าไปที่ตั้งค่า > รหัสความปลอดภัย > การเข้ารหัสแอพฯ

Smart Drive Mode

ปลอดภัยหายห่วงขณะขับรถด้วยฟังก์ชั่น Smart Drive Mode เมื่อมีการเชื่อมต่อและกำลังใช้ยานพาหนะ เครื่อง OPPO Find X จะเปิดโหมดใช้งานขับรถอัตโนมัติ โดยที่จะเปิดฟังก์ชั่นห้ามรบกวน เพื่อไม่ให้การแจ้งเตือน หรือสายเรียกเข้ามารบกสนขณะที่ผู้ใช้งานกำลังขับรถ

Game Acceleration

ช่วยประมวลผลการใช้งานกราฟิก และจัดการทรัพยากรต่างๆ ในขณะที่กำลังเล่นเกม ให้เอาออกมาใช้อย่างเต็มที่ ทำให้เกมที่เล่นมีความลื่นไหลไม่สะดุด ใช้งานเต็มประสิทธิภาพ

แอพพลิเคชั่นที่ติดตั้งมากับตัวเครื่อง

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ดีไซน์

OPPO Find X มาพร้อมกับความโดดเด่นสมการรอคอย เรียกว่าเป็นการออกแบบ Panoramic Design ด้วยกระจกไร้รอยต่อ 2 ชิ้น เข้ากับหน้าจอไร้ขอบ มาพร้อมดีไซน์ไล่เฉดสีบนฝาหลัง 3D กับกระจก Corning Gorilla Glass 5 โดยจะเห็นเป็นสองสีบนเครื่องเดียวกัน ยิ่งเมื่อกระทบกับแสงแล้วจะมีความเงางาม

หน้าจอแสดงผล

หน้าจอแสดงผลขอบโค้ง OLED ขนาดใหญ่ 6.4 นิ้ว ความละเอียด 2340x1080 พิกเซล อัตราส่วน 19.5 : 9 ให้สีสันที่คมชัด สดใสและสวยงาม ทำให้การใช้งานบนหน้าจอทำได้เต็มที่ เพราะเป็นหน้าไร้รอยบากที่แท้จริง เนื่องจากเซ็นเซอร์และกล้องถูกซ่อนไว้ข้างใน บนหน้าจอมีขอบสีดำซ้าย-ขวาบางๆ เพียง 1.65 มม. ทำให้การใช้งานพื้นที่หน้าจอทำได้มากถึง 93.8%

การตั้งค่าการแสดงผลบนหน้าจอโค้ง

ปรับอุณหภูมิสีหน้าจอ : สามารถเลือกปรับตั้งค่าสีของหน้าจอได้ 3 โทน โดยมีค่าเริ่มต้นที่แสดงสีสันปกติ สดใส ถัดไปทางด้านซ้ายเป็นโทนเย็น เมื่อปรับหน้าจอจะออกโทนสีฟ้า และโทนอุ่น หน้าจอจะเป็นสีเหลืองอมส้ม ใช้งานสบายตา
ลูกเล่นไฟพาโนรามาแบบโค้ง : สามารถเลือกสีไฟการแจ้งเตือนสำหรับสายโทรศัพท์เมื่อมีการโทรเข้า โดยที่ตั้งได้ทุกสาย หรือเลือกปรับแต่งสีเฉพาะบุคคลของสายสนทนาได้

รองรับการใช้งาน 2 หน้าจอ

การใช้งาน 2 หน้าจอ OPPO Find X ทำได้แบบมุมมองที่กว้างขึ้น ใช้งานง่ายเพียงสไลด์ 3 นิ้ว ขึ้นด้านบน สามารถใช้งานกับแอพฯ ได้หลายประเภท รวมถึง Facebook, YouTube, LINE เป็นต้น ด้วยหน้าจอที่ไม่มีรอยบาก ทำให้การใช้งาน 2 หน้าจอกว้างขึ้น หรือจะเลือกปรับขนาดได้ตามที่ต้องการก็ทำได้เช่นกัน

Full Multitasking

การใช้งานในแนวนอนสะดวกยิ่งขึ้นด้วยฟังก์ชั่น Full Multitasking โดยที่เราสามารถเลื่อนแถบด้านซ้ายขึ้นมาได้ จะมีไอคอนทางลัดแคปเจแร์หน้าจอ อัดวิดีโอ ให้ใช้งานได้ทันที

ปุ่มนำทางปรับได้

สำหรับปุ่มนำทางบน OPPO Find X สามารถเลือกใช้งานปกติตามแบบฉบับแอนดรอยด์ หรือจะเป็นการนำทางด้านการลากนิ้วขึ้น จะทำให้แสดงผลหน้าจอได้กว้างแบบไม่มีอะไรมาขวาง สำหรับการใช้งานแบบที่ 2 จะเป็นดังนี้

สแกนใบหน้าปลอดภัยมากขึ้น

การใช้งานสแกนใบหน้าบน OPPO Find X ทำได้เพื่อปลดล็อค หรือเข้าสู่ความปลอดภัยในการชำระเงิน ซึ่งจะมีความปลอดภัยมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยี Flood Illuminator รวมถึงเซ็นเซอร์กล้องอินฟาเรด สามารถกำหนดจุดต่างๆ บนใบหน้าได้มากกว่า 15,000 จุด ทำให้การสร้างโมเดลบนหน้าของผู้ใช้งานทำได้อย่างแม่นยำ การันตีความผิดพลาดจะเกิดขึ้นเพียง 1 ใน 1,000,000 เท่านั้น เรียกว่ามีความแม่นยำและปลอยภัย ซึ่งเมื่อลองใช้งานปลดล็อคด้วยใบหน้า มีความเร็วสูง แถมในที่มืดก็ไม่เป็นอุปสรรค ปลดล็อคได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

สำหรับการปลดล็อคด้วยใบหน้าที่กล้องซ่อนอยู่ภายใน เลือกตั้งค่าได้ 2 แบบ แบบแรกคือการสไลด์เพื่อให้กล้องโผล่ขึ้นมาสแกนใบหน้า และแบบที่สองเพียงแค่กดปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง เซ็นเซอร์ก็จะขึ้นมาสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคทันที

Stealth 3D Cameras

เรียกว่าเป็นเทคโนโลยีที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร กับกล้องที่ซ่อนอยู่ในเครื่อง หรือที่เรียกว่า Stealth 3D Cameras การที่กล้องกล้องขึ้น-ลงเมื่อต้องการใช้งาน ทั้งการใช้สแกนใบหน้า กล้องถ่ายรูปด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งหากใครกังวลเรื่องกลไกการทำงาน การเลื่อนขึ้นลงของกล้องจะทำงานอย่างนิ่มนวลด้วยเวลาไม่เกิน 0.6 วินาที มั่นใจด้วยการทดสอบมาแล้วกว่า 300,000 ครั้ง แต่สำหรับการทดลองใช้งาน จะมีปัญหาเรื่องฝุ่นที่เข้าไปติด ตอนถ่ายรูปต้องคอยเช็ดออกก่อน แต่ไม่ต้องกังวล เพราะจากการทดสอบโดยวิศวกร ได้ทำการทดสอบฝุ่นติดอยู่กว่า 16 ชม. แล้วนำไปเช็ด กลับมาสามารถใช้งานได้ปกติ นอกจากนี้ OPPO ประเทศไทย ยังมีบริการเหนือระดับสำหรับลูกค้าคนพิเศษ ด้วยการทำความสะอาดฝุ่นให้ฟรี! ตลอดอายุการใช้งาน

Qualcomm Snapdragon 845 AIE, RAM 8GB

หน่วยประมวลผลสุดแรง Qualcomm Snapdragon 845 AIE มาพร้อม RAM 8GB ตั้งแต่ต้น จึงทำให้การเล่นเกมไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ไม่มีสะดุดอย่างแน่นอน ทั้งยัง มีชิพประมวลผลกราฟิก Adreno 630 ทำให้ภาพของเกมสวยงาม และลื่นไหลเป็นอย่างดี

เมื่อทดลองเล่นเกมที่กราฟิคหนักๆ อย่าง PUBG ก็สามารถปรับเฟรมเลทได้ระบบสูงสุด ยังคงเล่นได้ลื่น เฟรมเลทไม่มีตก รวมถึงเกม Identity V ที่ไม่ว่าจะวิ่งไปทางไหนก็ไม่สะดุดแน่นอน ทำให้การเล่นเกมเบาๆ นี่ยิ่งง่ายขึ้น นอกจากนี้บน OPPO Find X ยังมีฟังก์ชั่น Game Acceleration ที่เข้ามาช่วยจัดการเคลียร์ RAM หรือปิดการแจ้งเตือนที่ทำให้รบกวนใจขณะเล่นเกมให้หมดไป

VOOC Flash Charge

OPPO Find X มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุขนาด 3,730 mAh รองรับเทคโนโลยี VOOC Flash Charge กับอุปกรณ์ของตัวเองที่มาในกล่อง โดยชาร์จเร็วขึ้นไม่ต้องเสียเวลารอนานๆ หากแบตฯ เหลือน้อยใช้เวลาชาร์จเพียง 5 นาที สามารถใช้งานต่อเนื่องถึง 2 ชั่วโมง ด้วยระบบความปลอดภัยถึง 5 ขั้นตอน นอกจากนี้ ขณะที่ทดลองชาร์จไปพร้อมกับการเล่นเกม เครื่องก็ไม่ร้อนแต่อย่างใด

กล้องถ่ายรูป

กล้องถ่ายรูปที่เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นบน OPPO Find X ที่ไม่ใช่แต่ซ่อนไว้ด้านใน แต่ประสิทธิภาพก็จัดมาเต็ม ทั้งกล้องหลังคู่ 16+20 ล้านพิกเซล โดยเป็นกล้องสี RGB 16 ล้านพิกเซล และกล้องเซ็นเซอร์ IMX376k ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล มีระบบกันสั่น OIS (Optical Image Stabilization และมีกล้องหน้า 3D AI ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล f/2.0 (เซ็นเซอร์ Sony IMX576) รองรับการปรับหน้าสวยด้วย AI หรือปรับแต่งเอง นอกจากนี้ ยังโหมดต่างๆ ให้เลือกใช้งานมากมาย ดังนี้

เทคโนโลยี 3D AI Beauty

เป็นนวัตกรรมที่ปรับปรุงขึ้นจาก AI Beauty ธรรมดา ด้วยการวิเคราะห์โครงหน้าของผู้ใช้งานเป็นโมเดล 3D แล้วนำมาปรับแต่งได้ทั้งรูปหน้า ทรงจมูก ดวงตา คาง และอื่นๆ ซึ่ง 3D AI Beauty จะปรับแต่งได้ 4 สไตล์ เมื่อมีการตั้งค่าแล้ว ครั้งต่อไประบบจะทำการวิเคราะห์ให้โดยอัตโนมัติ ปรับแต่งให้เหมาะสมกับโครงหน้าของผู้ใช้เอง โดยการใช้งานสามารถเข้าไปที่กล้องหน้า > เลือกโหมดหน้าสวย > กดเพิ่มที่เครื่องหมาย + และเพิ่มใบหน้าของเราได้ทันที

นอกจากนี้ หากต้องการปรับใช้งานเอง ก็มีให้เลือก AI แบบอัตโนมัติ หรือปรับระดับหน้าสวยเท่าที่ต้องการได้ตั้งแต่ 1-6

รูปตัวอย่างปิดโหมดบิ้วตี้ รูปตัวอย่างเปิด AI Beauty

รูปตัวอย่างเปิดบิ้วตี้ระดับ 1 รูปตัวอย่างเปิดบิ้วตี้ระดับ 6

3D Omoji

เพิ่มลูกเล่นให้แตกต่างผ่านตัวการ์ตูนที่เรียกว่า Omoji สามารถทำได้จากการถ่ายรูปด้วยสติ๊กเกอร์ จากนั้นระบบจะทำการวิเคราะห์ใบหน้า เพื่อนำมาประมวลเป็นคาเรคเตอร์ของเรา หรือเป็นตัวการ์ตูนรูปต่างๆ ใช้งานได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ รวมถึงการถ่ายรูปกล้องหน้าด้วยสติ๊กเกอร์สุดหน้ารักที่มีให้เลือกหลายแบบ เอามาไว้ใช้แชท หรือโพสต์กับเพื่อนๆ ได้

Sensor HDR 2.0

เซลฟี่ในที่แสงน้อย หรือแสงจ้าได้ชัดเจนมากขึ้นด้วยเซ็นเซอร์ HDR 2.0 ที่ช่วยไล่เฉดสี 3 ระดับ ภายใน 1 พิกเซล จะทำให้ได้ภาพถ่ายที่มีความโดดเด่นขึ้นมา ฉากหลังคมชัดแม้แสงจะสว่างแค่ไหนก็ตาม

AI Portrait Mode

โหมด Portrait ครั้งนี้แยกออกมาให้เลือกใช้งานต่างหาก สามารถถ่ายรูปหน้าชัด-หลังเบลอได้แล้ว ซึ่งความเบลอก็มีความสมจริง ตัดขอบได้เนียนไม่ธรรมดา แถมสวยงามด้วยเทคนิคภาพแสง 3D Lighting บนกล้องคู่ด้านหลังที่มีให้เลือกปรับเอฟเฟกต์ให้รูปถ่ายมีมิติมากขึ้นกว่า 6 แบบ ในสภาพแแสงที่ต่างกัน

Natural Light แสงธรรมชาติ
Rim Light แสงเค้าโครง
Face Light แสงใบหน้า
Bi-Color Light แสงแบบสองสี
Canvas Light แสงผ้าใบ
Local Light แสงเฉพาะที่

AI Scene Recognition 2.0

กล้องหลังคู่ AI สามารถบอกถึงสิ่งที่กำลังจะถ่ายได้ 21 ประเภท รวมกันมากกว่า 800 ซีน เช่นเมื่อถ่ายรูปต้นไม้ หน้าจอก็จะขึ้นว่าธรรมชาติ หรือถ่ายท้องฟ้าก็ขึ้นวิวทิวทัศน์ และระบบจะนำมาประมวลปรับแต่งภาพให้สวยงาน สมจริงกลับสถานการณ์ดังกล่าว

คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง

ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหลัง : 4608x3456 (มาตรฐาน), 3456x3456 (จตุรัส) , 4608x2176 (เต็มจอ) พิกเซล
ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหน้า : 5760x4312 (มาตรฐาน), 4312x4312 (จตุรัส), 5760x2658 (เต็มจอ) พิกเซล
ไฟแฟลช : ปิด, เปิด, อัตโนมัติ, เพิ่มแสง
HDR : ปิด, เปิด, อัตโนมัติ
ตั้งเวลาถ่าย : ปิด, 3, 10 วินาที, แตะ
หน้าสวย : ปิด, AI, ระดับ 1-6
ตัวกรอง : ต้นฉบับ, ชาเขียว, ฤดูใบไม้ร่วง, มะนาว, ฟูฟ่อง, ปราสาทในจินตนาการ, กาแฟดำ, จดหมายรัก, 2046, จุงกิง, แครนด์เบอรี่
โหมดกล้องถ่ายรูปกล้องหลัง : รูปถ่าย, รูปคน, สติ๊กเกอร์, พาโน, ผู้เชี่ยวชาญ
โหมดกล้องถ่ายรูปกล้องหน้า : รูปถ่าย, สติ๊กเกอร์, พาโน

คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ

ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหลัง : 3840x2160 (4K), 1920x1080 (1080p), 1280x720 (720p) พิกเซล
ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหน้า : 1920x1080 (1080p), 1280x720 (720p) พิกเซล
ไฟแฟลช : ปิด, เปิด
หน้าสวย : ปิด, AI, ระดับ 1-6
ตัวกรอง : ต้นฉบับ, ชาเขียว, ฤดูใบไม้ร่วง, มะนาว, ฟูฟ่อง, ปราสาทในจินตนาการ, กาแฟดำ, จดหมายรัก, 2046, จุงกิง, แครนด์เบอรี่
โหมดกล้องถ่ายรูปกล้องหลัง : วิดีโอ, โหมดย่นเวลา, สโลว์โมชั่น