OPPO R17 Pro สมาร์ทโฟนที่เรียกว่ารวมทุกเทคโนโลยี จัดเต็มด้วยกล้อง 3 เลนส์รุ่นแรกของค่าย มาพร้อมเทคโนโลยี TOF สร้างภาพ 3 มิติได้เสมือนจริง ทั้งยังถ่ายรูปกลางคืนสวยด้วย Ultra Night Mode ของกล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 12 (f/1.5, f/2.4) พิกเซล กล้องหน้าสวยไม่แพ้ใครกับเทคโนโลยี AI Beauty 25 ล้านพิกเซล อัดความปลอดภัยทั้งการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ปลดล็อคด้วยใบหน้า ขั้นสุดของการชาร์จเร็วที่สุดในโลกกับเทคโนโลยี Super VOOC เพียง 35 นาทีเต็ม
OPPO R17 Pro สมาร์ทโฟนกล้อง 3 เลนส์ ออกแบบตัวเครื่องด้านหลังมีการแบ่งสีตรงกลางเป็นโค้งตัว S ซึ่งจะเห็นเงาสีของฝาหลังแต่ละมุมมีความต่างกัน นอกจากนี้ ยังโอบรับกับฝามือด้วยความโค้งทั้งหลังเครื่องและด้านข้าง มีขนาดอยู่ที่ 157.6 × 74.6 × 7.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 183 กรัม โดยจะมีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Radiant Mist และ สีเขียว Emerald Green
หน้าจอแสดงผลใช้วัสดุกระจก Corning Gorilla Glass 6 ที่มีความแข็งแรง ทนทานกว่าเดิม 2 เท่า ด้วยดีไซน์แบบ Water Drop Screen หรือที่เรียกว่ารอยบากทรงหยดน้ำ ให้มีพื้นที่ใช้งานมากกว่า 91.5% บนหน้าจออัตราส่วน 19.5:9 กว้าง 6.4 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล
บริเวณรอยบากทรงหยดน้ำจะเป็นพื้นที่สำหรับกล้องหน้า และเซ็นเซอร์ นอกจากนี้ จะมีช่องลำโพงเสียงเล็กๆ อยู่ที่ด้านบน
ส่วนด้านล่างของหน้าจอจะมีแถบสีดำเล็กน้อย ปุ่มควบคุมการทำงานจะอยู่บนหน้าจอ โดยจะมีปุ่มเมนู ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ
ตัวเครื่องด้านบนขอบจะไม่โค้งเหมือนด้านข้าง โดยจะมีลักษณะเว้า และมีเพียงรูไมโครโฟนเท่านั้น
ด้านล่างของเครื่องก็เป็นเหมือนกับด้านบน ซึ่งจะมีช่องลำโพงเสียง รูไมโครโฟน พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type C และช่องใส่ซิมการ์ดแบบ nano 2 ช่อง
ปุ่มปรับระดับเสียงเพิ่ม-ลด จะอยู่ทางด้านซ้ายของตัวเครื่อง
ตัวเครื่องด้านขวามีเพียงปุ่มเปิด-ปิดเท่านั้น
ด้านหลังของ OPPO R17 Pro มีกล้องเรียงกัน 3 เลนส์ในแนวตั้ง และอยู่ตรงกลาง ถัดลงมาเป็นไฟแฟลช LED และมีโลโก้ OPPO อยู่ตรงกลางเครื่อง
อุปกรณ์ภายในกล่อง
สเปกเพิ่มเติม OPPO R17 Pro
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้
หน่วยความจำภายใน / ระบบปฎิบัติการ
OPPO R17 Pro รุ่นที่วางจำหน่ายในไทยมีความจุเดียวคือ 128GB ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ ทั้งยัง รันบนระบบปฎิบัติการใหม่ล่าสุด Color OS 5.2 based on Android 8.1 (Oreo)
ColorOS 5.2 ระบบปฎิบัติการใหม่ล่าสุดของทาง OPPO เพิ่มความสามารถให้สมาร์ทโฟนใช้งานได้มากขึ้น เช่น
Smart Bar : แถบด้านข้างสำหรับการใช้งานในหน้าจอปกติ โดยไม่ต้องปิดหน้าจอที่กำลังเปิดไว้ สามารถเรียกใช้ได้จากแถบสีเทาข้างหน้าจอทั้งแนวตั้งและแนวนอน โดยจะมีแอพฯ ทางลัดที่ใช้งานเป็นประจำ หรือจะเป็นฟังก์ชั่นแคปเจอร์หน้าจอ บันทึกหน้าจ ก็เปิดใช้งานได้จากตรงนี้
เครื่องมือตัดต่อวิดีโอ : เมื่อถ่ายวิดีโอแล้วสามารถแก้ไข ตัดต่อ เพิ่มความน่าสนใจด้วยลูกเล่นๆ ต่างได้โดยที่ไม่ต้องดาวน์โหลดแอพฯ เพิ่ม
AI Album : เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในการจัดการรูปถ่ายได้อย่างฉลาด แบ่งประเภทของรูปให้โดยอัตโนมัติ
หน้าจอหลัก
ดีไซน์
OPPO R17 Pro สำหรับสี Radiant Mist มาพร้อมกับตัวเครื่องไล่เฉดสี ด้านหลังแบ่งออกเป็น 2 สี ซึ่งด้านข้างของตัวเครื่องก็จะเป็นสีเดียวกัน ผสมผสานกับหลังเครื่องเป็นกระจกแบบด้าน ช่วยป้องกันรอยนิ้วมือได้ดี ส่วนสี Emerald Green จะมีฝาหลังเงางาม แต่ตรงกลางยังจะเห็นเป็นดีไซน์โค้งตัว S มองมุมไหนก็จะเห็นว่ามีมิติอย่างสวยงาม
จอใหญ่ แข็งแรง Corning Gorilla Glass 6
จอใหญ่ขนาด 6.4 นิ้ว ด้วยดีไซน์ Waterdrop Screen ทำให้มีพื้นที่หน้าจอที่ใหญ่เต็มตา ใช้งานได้ไม่บดบัง มีพื้นที่ใช้งานถึง 91.5 % นอกจากนี้ ยังเป็นรุ่นแรกที่ใช้กระจก Corning Gorilla Glass 6 ที่มีความแข็งแรงมากกว่ารุ่นเดิม 2 เท่า เข้ากับขอบข้างของเครื่องที่เป็นอะลูมิเนียม ยิ่งเพิ่มความแข็งแรงขึ้นไปอีกเท่า ไม่ต้องกังวลเครื่องตก หรือโดนกระแทกเลย
สแกนนิ้วใต้หน้าจอ
OPPO R17 Pro ก็เรียกว่าเป็นรุ่นแรกของค่ายที่รองรับการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ โดยที่เซ็นเซอร์จะอยู่เหนือปุ่มโฮมเล็กน้อย การสแกนจะต้องวางนิ้วให้ตรง โดยที่การใช้งานค่อนข้างเร็วและแม่นยำ นอกจากนี้ ที่เซ็นเซอน์สแกนลายนิ้วมือจะมีเอฟเฟกต์ภาพเคลื่อนไหวให้เลือกถึง 5 แบบ เมื่อวางนิ้วลงไปจะเห็นว่ามีเอฟเฟกต์ขึ้นข้างๆ
นอกจากการสแกนลายนิ้วมือแล้ว ยังมีระบบความปลอดภัยด้วยการใช้รหัส ตั้งได้ตั้งแต่ 4 ตัว หรือ 6 ตัว ทั้งยัง สามารถปลดล็อกได้ด้วยใบหน้า แถมรวดเร็วแบบที่ว่าแค่มองก็ปลดแล้ว
หน่วยประมวผลผล
OPPO R17 Pro ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 710 Octa Core ความเร็ว 2.2 GHz RAM 8GB, ROM 128GB หลายคนมองว่าทำไมถึงไม่ใช่ตัวท๊อป แต่สำหรับการเล่นเกมไม่ว่าจะหนักหรือเบาก็เล่นได้ลื่นไหลไม่สะดุด ไม่ว่าจะเป็นเกมแข่งรถอย่าง Asphalt 9 ก็เล่นได้ลื่น เอฟเฟกต์ภาพและความเร็วในการใช้งานไปในทางเดียวกัน ไม่กระตุก หรือจะเป็นเกม PUBG ก็เล่นได้สบาย ปรับเฟรมเรทได้ที่ระดับสูง กราฟิก HD ยิงคู่แข่งได้สบายหายห่วง
นอกจากนี้ ยังมี Game Space ที่จะมาช่วยในการจัดการเร่งความเร็วของกราฟิก ปรับแต่งการเล่นเกมให้ไหลลื่นไม่สะดุด และมีโหมดป้องกันการรบกวนในขณะที่เล่นเกม โดยเมื่อมีสายเรียกเข้าหน้าจอจะไม่ตัดออก จะเลือกรับสาย หรือปฎิเสธก็ได้
Super VOOC
เทคโนโลยีชาร์จเร็วที่สุดในโลกขณะนี้ ถูกนำมาใส่ OPPO R17 Pro จากที่เมื่อก่อนมีเฉพาะในรุ่นท๊อปอย่าง Find X Automobili Lamborghini Edition เรียกว่ามีความเร็วและปลอดภัยมาก ด้วยไฟฟ้าแรงดันต่ำขณะชาร์จสามารถใช้งานไปด้วยโดยที่เครื่องไม่ร้อน และบน OPPO R17 Pro จะเป็นการใช้แบตเตอรี่ 1 ก้อน แบ่งออกเป็น 2 เซลล์ที่มีความจุ 1850+1850 mAh กำลังไฟ 5V 5A รวมกันให้มีแรงดันไฟฟ้าแบบ 10V 5A ทำให้ไม่เสียเวลาไปกับการนั่งชาร์จแบตฯ นานๆ สามารถชาร์จ 10 นาที แบตฯ ขึ้นมา 40% แล้วค่อยไปชาร์จต่อที่อื่น หรือชาร์จเพียง 35 นาทีก็เต็ม
กล้องถ่ายรูป
กล้องถ่ายรูปบน OPPO R17 Pro ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่น คราวนี้มาพร้อมกันถึง 3 กล้องเรียงกันในแนวตั้ง โดยเริ่มจากเลนส์บนสุดเป็น TOF 3D Camera เลนส์ใหม่ ช่วยในเครื่องของการถ่ายรูป 3 มิติ ถัดลงตรงกลางเป็นเลนส์ 12 ล้านพิกเซล (f/1.5,f/2.4) และสุดท้ายเป็นเลนส์ 20 ล้านพิกเซล (f/2.6) ใช้ถ่ายรูประยะชัดลึก ให้ได้รูปบุคคลหน้าชัด-หลังเบลอ หรือเอฟเฟกต์โบเก้ และสุดท้ายเป็นไฟแฟลช LED มีโหมดถ่ายรูปให้ใช้งานหลากหลายทั้ง Ultra Night Mode, ถ่ายภาพ 3 มิติ, AR Sticker, Portrait เป็นต้น
โหมดถ่ายรูปที่น่าสนใจ
Ultra Night Mode : อีกหนึ่งจุดเด่นของเครื่องนี้เลยก็ว่าได้ เพราะกล้องของ OPPO R17 Pro ตัวที่เป็นเลนส์ 12 ล้านพิกเซล จะมีค่ารูรับแสงปรับอัตโนมัติ f/1.5,f/2.4 ทำให้สามารถถ่ายกลางคืนออกมาได้สวยงาม เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน นอกจากนี้ ยังมี AI Ultra-clear Engine เข้ามาช่วยให้ภาพมีความสวยงามและคมชัดมากขึ้น การถ่ายสามารถใช้มือเปล่า โดยที่ชัตเตอร์จะประมวลผลให้นานขึ้น 2-4 วินาทีอัตโนมัติ และมีกันสั่น OIS เข้ามาช่วยทำให้ภาพไม่สั่นไหว
AI Scenes Recognition : กล้องถ่ายรูปด้านหลังสามารถเรียนรู้และระบุภาพถ่ายได้ถึง 23 ชนิด ปรับภาพได้มากกว่า 800 ฉาก เวลาที่ยกกล้องขึ้นมาจะเห็นว่ามีรูปฉากขึ้นที่มุมจอ โดยจะช่วยในเรื่องของการปรับแต่งภาพให้มีสีสันสมจริง ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนั้นมากที่สุด
TOF (Time of Flight) : กล้องตัวใหม่ที่ถูกนำมาเพิ่มเป็นเลนส์ที่ 3 จะช่วยในเรื่องของการถ่ายรูป 3 มิติ เป็นเทคโนโลยีที่ใช้วัดระยะห่างของเซ็นเซอร์และวัตถุ โดยการกระจายแสงจากเซ็นเซอร์ไปยังวัตถุในลักษณะเรียบแล้วสะท้อนกลับมา ช่วยในการตรวจจับวัตถุระยะไกล ระยะกว้างและมีความแม่นยำสูง ซึ่งสามารถคำนวนสิ่งที่กำลังจะถ่ายได้แม่นยำในทุกสภาพแสง โดยจะมีประโยชน์ในเรื่องของการสร้างข้อมูลแบบ 3 มิติ นำมาใช้ในรูปแบบของ AR, การถ่ายภาพ 3 มิติ, โฮโลกราฟิค เป็นต้น
** ทั้งนี้ จะต้องรออัปเดทระบบก่อนถึงจะสามารถใช้งานได้ โโยที่เป็นเทคโนโลยีที่ทาง OPPO มองว่าจะมีประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ รองรับการใช้งานกับ 5G ได้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
AI Portrait Mode : โหมดรูปถ่ายบุคคล สามารถใช้งานได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง แต่กล้องหลังจะปรับแต่งสีสันได้ถึง 6 แบบ ทำหน้าชัด-หลังเบลอได้ตามต้องการ ซึ่งการตัดขอบก็ทำได้ดีเนียนเลยทีเดียว นอกจากนี้ ใครที่อยากได้รูปบุคคลแบบที่เท่ห์ๆ ก็สามารถปรับแสงได้ ดังนี้
HDR : หมดปัญหากับการถ่ายรูปในที่แสงน้อย หรือในที่ที่มีแสงจ้ามากเกินไป จนทำให้ไม่เห็นรายละเอียดของพื้นหลังด้วยโหมด HDR ที่เลือกเปิด หรือปิดได้ ทำให้พื้นหลังมีความชัดขึ้นมาไม่สว่างจ้าจนเกินไป
ปิด HDR เปิด HDR
ปิด HDR เปิด HDR
ปิด HDR เปิด HDR
กล้องหน้า 25MP
กล้องหน้ายังคงเป็นจุดเด่นของ OPPO ที่มาพร้อมกับความละเอียด 25 ล้านพิกเซล รองรับการปรับแต่งด้วย AI Beauty ที่สามารถสแกนบนใบหน้าได้ 296 จุด นำมาปรับแต่งให้เหมาะสมกับหน้าเรามากที่สุด เพื่อปรับหน้าสวยออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังมีโหมดปรับแต่งเองโดยที่กำหนดผิวเนียน ใบหน้าเรียวขึ้น กรามลดลง หรือตาโตก็ทำได้ก่อนกดชัตเตอร์ และมีเอฟเฟกต์สีให้เลือกใช้งานอีกด้วย
คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง
คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ
ขอขอบคุณ : บริษัท ไทย ออปโป้ จำกัด 02-613-7458
ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ : OPPO R17 Pro
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=457988
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/spec/oppo/r17_pro.htm
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท