Motorola One Vision เป็นอีกสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android One ที่มีการใช้งานครบเครื่องรอบด้าน พร้อมกับจุดเด่นที่หน้าจอแสดงผลแบบ CinemaVision อัตราส่วนแปลกใหม่ 21:9 ทำให้หน้าจอมีความยาวเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมีกล้องถ่ายรูปที่จัดเต็ม ด้วยกล้องหลังคู่ ความละเอียด 48+5 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Night Vision ถ่ายรูปตอนกลางคืนได้อย่างสวยงาม และกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 25 ล้านพิกเซล ซึ่งดูแล้วเป็นอีกสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจมากทีเดียว
ตัวเครื่อง Motorola One Vision มาพร้อมขนาด 160.1 x 71.2 x 8.7 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 180 กรัม มีการครอบทับด้วยกระจก 2.5D ในด้านหน้า และกระจก Gorilla Glass 4D ทางฝาหลัง พร้อมส่วนโค้งจับฉนัดมือในมือเดียว
หน้าจอแสดงผลแบบ CinemaVision กว้าง 6.3 นิ้ว อัตราส่วน 21:9 ความละเอียด FHD+ (2520x1080 พิกเซล) และดีไซน์หน้าจอเป็นแบบจอเจาะรู
ส่วนเหนือหน้าจอตรงบริเวณจอเจาะรู มีกล้องหน้าความละเอียด 25 ล้านพิกเซล และส่วนบนตรงกลาง มีช่องลำโพงสำหรับการสนทนา
ส่วนล่างหน้าจอแสดงผล ไม่มีปุ่มการใช้งานใดๆ ทั้งสิ้น
ด้านซ้ายตัวเครื่องมีช่องใส่ถาดซิม โดยซิมเป็นแบบ Hybrid รองรับซิมการ์ดแบบ Nano SIM 2 ซิม หรือจะเสียสละ 1 ซิม เพื่อใส่ MicroSD Card ได้สูงสุด 512GB
ด้านขวาตัวเครื่องมีปุ่มใช้งานมาตรฐาน ปุ่มยาวข้างบนเป็นปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง และปุ่มล่างเป็นปุ่มเพาเวอร์สำหรับเปิดปิดเครื่อง หรือพักหน้าจอ
ข้างบนตัวเครื่อง มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร และทางขวาเป็นรูไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
ข้างล่างตัวเครื่อง ตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C ทางซ้ายเป็นรูไมโครโฟน และขวาสุดเป็นลำโพงเสียง
ผลิกมาที่ด้านหลังตัวเครื่อง มีกล้องหลังคู่จัดเรียงเป็นแนวตั้งอยู่มุมบนซ้าย โดยกล้องมีความละเอียด 48+5 ล้านพิกเซล ใต้กล้องมีไฟแฟลช LED คู่ ขยับมาตรงกลางมีโลโก้ Motorola ซึ่งเป็นที่สแกนลายนิ้วมือได้ด้วย และล่างสุดเป็นโลโก้ Android One
สเปคทั้งหมดของ Motorola One Vision
ระบบปฏิบัติการ และความจุภายใน
Motorola One Vision จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ตั้งแต่แกะออกจากกล่อง ส่วนพื้นที่เก็บข้อมูลภายจะมีตัวเลือกเดียวที่วางขายในประเทศไทยคือ 128GB เมื่อเปิดเครื่องครั้งแรก จะมีพื้นที่เหลือประมาณ 115GB นั้นแสดงว่าระบบมีการใช้พื้นที่ไปกว่า 12.66GB
Moto Action
ระบบ Moto Action จะเป็นการออกท่าทางกับเครื่อง Motorola One Vision เพื่อควบคุมสมาร์ทโฟนหรือเริ่มใช้งานคำสั่งต่างๆ แบบรวดเร็ว สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ การตั้งค่า > Moto > Moto Action การตั้งค่าทั้งหมดจะมี 4 อย่างด้วยกัน
จับภาพด้วยหน้าจอด้วย 3 นิ้ว
Moto Display
ในส่วน Moto Display จะเป็นลูกเล่นเกี่ยวกับหน้าจอแสดงผล โดยหลักๆ จะมี 2 การตั้งค่า คือ 1. การแสดงผลขณะปิดหน้าจอ หรือ Always on display ซึ่งจะมีการแสดงรายละเอียดต่างๆ เช่น การแจ้งเตือน, เวลา และวันที่ 2. จอแสดงผลตอบสนองทันที จะทำให้หน้าจอเปิดค้างไว้ตลอดเมื่อผู้ใช้งานจ้องที่หน้าจอ สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ การตั้งค่า > Moto > Moto Display
การกลับสี หรือโหมดกลางคืน
โหมดกลางคืนก็มีในเครื่อง Motorola One Vision มาด้วยเช่นกัน โดยมาในชื่อโหมด การกลับสี ซึ่งจะเปลี่ยนธีมต่างๆ ภายในเครื่องเป็นสีดำ สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ การตั้งค่า > การเข้าถึง > การกลับสี
ไลฟ์สไตล์ดิจิตอล Digital Wellbeing
ตรงนี้เป็นเหมือนตัวช่วย เพื่อบอกข้อมูลในการใช้งานเครื่อง Motorola One Vision ของผู้ใช้งาน จะมีทั้งการใช้งานแอพฯ อะไรบ้าง, มีการปลล็อกใช้งานเครื่องกี่ครั้ง และมีการแจ้งเตือนอะไรมาบ้างในแต่ละวัน ทั้งนี้ยังสามารถปรับเป็นโหมดพักผ่อน เพื่อปิดการแจ้งเตือนทุกอย่างไม่ให้รบกวนเวลานอน สำหรับฟีเจอร์นี้สามารถเข้าไปดูได้ที่ การตั้งค่า > ไลฟ์สไตล์ดิจิตอล
บริการ Google Service อื่นๆ
จากที่ Motorola One Vision เป็นอีกสมาร์ทโฟนที่อยู่ในโครงการ Android One ทำให้การใช้งาน Google Service ต่างๆ จะมีรองรับพร้อมเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการสำรองรูปภาพไม่จำกัด, Google Assistant รองรับคำสั่งภาษาไทย หรือจะเป็น Smart Lock ที่ช่วยจำรหัสผ่านจากที่ต่างๆ เพียงล็อกอิน Gmail เพียงอีเมล์เดียว
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้
หน้าจอ CinemaVision อัตราส่วน 21:9
สิ่งที่น่าสนใจ พร้อมความแปลกใหม่บน Motorola One Vision คือหน้าจอแสดงผล เนื่องจากมีหน้าจอแบบ CinemaVision อัตราส่วน 21:9 ซึ่งเหมาะกับการใช้ดูภาพยนต์เป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังมีความกว้าง 6.3 นิ้ว และความละเอียด FullHD+ เรียกว่าสายดูหนังไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
ระบบปฏิบัติการ Android One
นี้คืออีกจุดแข็งของ Motorola One Vision ด้วยการรันบนระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie แกะออกจากกล่อง และที่สำคัญเป็นสมาร์ทโฟนในโครงการ Android One ทำให้ไม่โดนลอยแพแน่นอน รับประกันอัปเดต Android ไปอีก 2 เวอร์ชั่น และมีการอัปเดตความปลอดภัยต่อเนื่องถึง 3 ปี เรียกว่าใช้งานเพียวๆ ปลอดภัย มีอัปเดตต่อเนื่อง
ทดสอบการเล่นเกม
การเล่นเกมบน Motorola One Vision ถือว่าเล่นได้อย่างสบายๆ โดยมีการทดสอบจาก 3 เกมดังทั้ง PUBG Mobile, ROV, และ Speed Drifter ซึ่งทั้งหมดสามารถเล่นด้วยกราฟฟิกระดับสูง และสามารถเปิดเฟรมเรตระดับสูงได้อีกด้วย ซึ่งถือว่าด้านการเล่นเกมสอบผ่าน
สแกนใบหน้า
การสแกนใบหน้าของ Motorola One Vision ถือว่ามีความรวดเร็วทีเดียว ทั้งในช่วงการสแกนจดจำใบหน้า และสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกเข้าใช้งานเครื่อง
สแกนลายนิ้วมือ
สำหรับการสแกนลายนิ้วมือ ที่สแกนจะอยู่ด้านหลังตัวเครื่องตรงโลโก้ Motorola โดยการสแกนสามารถจดจำได้ 5 ลายนิ้วมือ แต่เมื่อใช้งานจริงกลับไม่ค่อยเป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่ ทั้งการสแกนจดจำลายนิ้วมือ และการสแกนเพื่อปลดล็อกเข้าใช้งานเครื่อง เนื่องจากมีความช้า และไม่ค่อยแม่นยำ เมื่อนิ้วมือมีความชื้นจะไม่สามารถสแกนได้เลย
ระบบเสียง Dolby Audio
ด้านเสียงเพลงในเครื่อง Motorola One Vision มีการปรับแต่งด้วยระบบ Dolby Audio ทำให้เสียงออกมาดีมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีการรองรับเสียงจากทั้งลำโพง หรือช่องเสียบหูฟัง 3.5 อีกด้วย แต่น่าเสียดายที่ Motorola One Vision มาพร้อมลำโพงตัวเดียวเท่านั้น
แบตเตอรี่ และระบบชาร์จเร็ว TurboPower
ขนาดแบตเตอรี่ภายใน Motorola One Vision มีขนาด 3,500mAh ก็ถือว่าเป็นขนาดที่เพียงพอต่อการใช้งานทั้งวัน ทั้งนี้ยังมีระบบชาร์จเร็วด้วยระบบ TurboPower 18W ชาร์จเพียง 15 นาที ใช้งานได้สูงสุดถึง 7 ชั่วโมง
การใช้งานกล้องถ่ายรูป
กล้องถ่ายรูปของ Motorola One Vision ถือว่าเป็นอีกไฮไลท์เด่นของรุ่นนี้เลยทีเดียว โดยมาพร้อมกล้องหลังคู่ ความละเอียด 48+5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6 รองรับระบบกันสั่น OIS ใช้งานเทคโนโลยี Quad Pixel เพิ่มความไวต่อแสงถึง 4 เท่า และลด Noise ในภาพได้อย่างดี สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K ที่ 30fps และแบบ Slo-Mo FullHd ที่ 120fps
ในขณะที่กล้องหน้า มีความละเอียด 25 ล้านพิกเซล ถือว่าการถ่ายเซลฟี่ก็ยังมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ยังใช้เทคโนโลยี Quad Pixel เหมือนกับกล้องหลัง ทำให้มีความไวต่อแสงถึง 4 เท่า ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดี และลด Noise ในภาพได้ดีเช่นกัน
การถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ หรือโหมดภาพบุคคล จะสามารถใช้งานได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง สามารถปรับการเบลอของพื้นหลังได้ถึง 6 ระดับ ซึ่งการเบลอจากกล้องหลังถือว่ามีการเบลอพื้นหลังที่ค่อนข้างดี แต่การเบลอจากกล้องหน้ายังดูฟุ้งๆ เพราะใช้ซอฟแวร์ในการช่วยเบลอ
ในโหมดภาพบุคคล ยังสามารถใส่ลูกเล่นเอฟเฟคแสงได้อีก 6 แบบคือ Studio, Side, Sunshine, Stage, Noir, และ Color Pop ซึ่งตรงนี้จะมาช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับโหมดบุคคล
การปรับหน้าสวยจะสามารถใช้ได้เฉพาะกล้องหน้า โดยสามารถปรับความเนียนของหน้าได้ 2 แบบคือ ปรับแบบอัตโนมัติ หรือปรับด้วยตนเอง ซึ่งการปรับแต่งใบหน้าก็ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง
ื
โหมดคัตเอาท์ จะเป็นการตัดส่วนใบหน้าออกจากพื้นหลัง หรือในภาษากราฟฟิกก็คือไดคัทนั้นแหละ ซึ่งระบบจะทำการตัดให้แบบอัตโนมัติ โดยโหมดนี้จะสามารถใช้ได้เฉพาะกล้องหลังเท่านั้น
ลูกเล่นโหมดสีเฉพาะจุด เป็นลูกเล่นเอกลักษณ์บนกล้องสมาร์ทโฟนของ Motorola อยู่แล้ว ซึ่ง Motorola One Vision ก็ไม่พลาดนำฟีเจอร์นี้มาด้วย สำหรับโหมดสีเฉพาะจุด ผู้ใช้งานจะสามารถเลือกสีใดก็ได้ในซีน 1 สี ด้วยการแตะไปที่หน้าจอ จากนั้นภาพจะคงสีนั้นเอาไว้ และบริเวณอื่นในรูปจะเป็นสีขาวดำทั้งหมด
การถ่ายรูปตอนกลางคืนจะหมดปัญหาไปได้ เนื่องจาก Motorola One Vision มีโหมด Night Vision เพื่อรองรับการถ่ายรูปตอนกลางคืนมาให้ด้วย โดยการทำงานหลังจากกดชัตเตอร์จะต้องรอการประมวลภาพ 3-5 วินาที หลังจากนั้นจะได้รูปออกมา
คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง
คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ
ขอขอบคุณ : โมโตโรล่า โมบิลิตี้
ข้อมูลผู้ใช้ ร่วมแสดงความเห็นกับ : Motorola One Vision
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=460051
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/spec/motorola/one_vision.htm
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท