รีวิว Samsung Galaxy A80 สมาร์ทโฟนกล้องหมุน ถ่ายรูปกว้างๆ เซลฟี่ชัดจากกล้อง 3 เลนส์ !

โดย ปิตุภูมิ นันทวิทยา โดย สิรภพ ผิวทอง

ปรับขนาดตัวอักษร - ก +ก

รีวิวโทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy A80 - ซัมซุง

Samsung Galaxy A80 อีกสมาร์ทโฟนในตระกูล Galaxy A ที่มาพร้อมจุดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยการเป็นสมาร์ทโฟนกล้องหมุน ความละเอียด 48+8+3D พิกเซล สามารถสลับกล้องหลังเป็นกล้องหน้า ทำให้การถ่ายรูป และการเซลฟี่ออกมาสวยงามมากทีเดียว นอกจากไฮไลท์ในเรื่องกล้องถ่ายรูป ยังมีหน้าจอแสดงผลแบบเต็มจอ ไร้รอยแหว่ง (New Infinity Display) พาแนล Super AMOLED กว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ ถือว่าทั้งกว้างทั้งยาว ใช้งานหน้าจอแบบเต็มๆ

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ตัวเครื่อง Samsung Galaxy A80 มีขนาด 165.2x76.5x93 มิลลิเมตร อาจจะดูใหญ่ไปหน่อย แต่ก็ยังสามารถจับใช้งานได้สะดวก ส่วนน้ำหนักอยู่ที่ 220 กรัม

หน้าจอแสดงผลพาแนล Super AMOLED กว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ (2400x1080 พิกเซล) และเป็นหน้าจอดีไซน์แบบไร้รอยแหว่งไร้การเจาะรู สามารถเรียกหน้าจอแบบนี้ว่า New Infinity Display

ส่วนล่างของหน้าจอแสดงผล ไม่มีปุ่มการใช้งานใดๆ ทั้งสิ้น และถือว่าหน้าจอมีการกินพื้นที่ตัวเครื่องไปพอสมควร ทำให้หน้าจอดูกว้างมากๆ

เหนือหน้าจอแสดงผล ก็ไม่มีการใช้งานใดๆ โดยช่องลำโพงสำหรับการสนทนาจะโดนตัดออกไป แต่ก็ถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี On Screen Sound Technology โดยหน้าจอจะทำการสั่นเพื่อให้เกิดเสียง ซึ่งสามารถฟังเสียงการสนทนาได้ตามปกติ และเมื่อมีการใช้กล้องหน้า กล้องจะสไลด์และหมุนกล้องหลังมาเป็นกล้องหน้า

ฝั่งซ้ายตัวเครื่อง มีปุ่มเพิ่มเสียงและลดเสียง

ฝั่งขวาตัวเครื่อง จะเป็นปุ่มเพาเวอร์ สำหรับเปิดปิดเครื่องหรือพักหน้าจอ

ใต้ตัวเครื่อง ตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C สนับสนุนการชาร์จเร็ว 25W ฝั่งขวาเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ด รองรับซิมแบบ Nano SIM 2 ช่อง ฝั่งซ้ายเป็นรูไมโครโฟน และตามมาด้วยลำโพงเสียง

ส่วนบนตัวเครื่อง จะเป็นที่อยู่ของกล้องสไลด์

ด้านหลังตัวเครื่อง (ขณะยังไม่สไลด์กล้อง) กล้อง 3 เลนส์จะอยู่ในตำแหน่งปกติ เรียงกันเป็นแนวนอน โดยกล้องหลักมีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ต่อมาเป็นเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และสุดท้ายเป็นกล้อง 3D Depth พร้อมไฟแฟลช

แต่ความแปลกใหม่อยู่ตรงนี้ เมื่อมีการใช้กล้องหน้า กล้องจะทำการสไลด์ขึ้น และกล้องหลังทั้ง 3 เลนส์ จะหมุนมาเป็นกล้องหน้าแทน ทำให้การเซลฟี่ดูคมชัด และสวยงามมากทีเดียว

อุปกรณ์ภายในกล่อง

ตัวเครื่อง Samsung Galaxy A80
อะแดปเตอร์ 25W
สาย USB Type-C
หูฟัง USB Type-C
เคสซิลิโคน
เข็มนำถาดซิมออก
คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคทั้งหมดของ Samsung Galaxy A80

ขนาดตัวเครื่อง : 165.2x76.5x93 มิลลิเมตร
หน้าจอแสดงผล : Super AMOLED กว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ (2400x1080 พิกเซล) ดีไซน์แบบ New Infinity Display ไร้รอยแหว่ง
ชิปเซ็ต : Snapdragon 730G (SM7150-AB) Octa-Core ความเร็ว 2.2GHz
RAM : 8GB
ROM : 128GB (ไม่สามารถเพิ่ม MicroSD Card)
ระบบปฏิบัติการ : Android 9 Pie
กล้องถ่ายรูป (กล้องสไลด์แบบหมุน เป็นได้ทั้งกล้องหน้าและหลัง)
- เลนส์หลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
- เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- เลนส์ 3D Depth (HQVGA) รูรับแสง f/1.2
- ไฟแฟลช
รองรับการใช้งาน 2 ซิม แบบ Nano SIM
การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4G+5GHz, GPS, NFC, Bluetooth 5.0, พอร์ต USB Type-C
ระบบความปลอดภัย : สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
แบตเตอรี่ : 3,700mAh รองรับชาร์จเร็ว 25W (Super Fast Charging)

พื้นที่เก็บข้อมูล และระบบปฏิบัติ

สเปคของ Samsung Galaxy A80 ระบุไว้ว่ามาพร้อม ROM 128GB แต่เมื่อเปิดเครื่องมาจะเหลือความจุภายในประมาณ 100GB เพราะมีการแบ่งไปให้กับระบบ ส่วนระบบปฏิบัติการใช้เป็น OneUI เวอร์ชั่น 1.1 บนพื้นฐาน Android 9 Pie ซึ่งใครที่เคยใช้สมาร์ทโฟนของ Samsung มาก่อนก็จะคุ้นมือดี

หน้าจอหลัก

โหมดกลางคืน (Dark Mode)

สำหรับโหมดกลางคืนจะปรับเปลี่ยน UI ให้เป็นโทนสีดำ ไม่ว่าจะเป็นในหน้าการตั้งค่า, ปฏิทิน, นาฬิกา และส่วนใหญ่จะเป็นแอพฯ ของ Samsung ที่มาจากโรงงาน สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ การตั้งค่า > จอภาพ > โหมดกลางคืน

ปรับเปลี่ยนแถบนำทาง

หากต้องการใช้งานแบบเต็มหน้าจอ ไม่มีปุ่มนำทาง 3 ปุ่มอยู่ด้านล่าง ก็สามารถเข้าไปปรับการใช้งานแบบ ท่าทางนำทาง ได้เช่นกัน

เลื่อนหน้าจอล่างซ้ายขึ้น = แอพฯ ก่อนหน้า
เลื่อนหน้าจอล่างตรงกลางขึ้น = กลับมาหน้า Home
เลื่อนหน้าจอข้างขวาขึ้น = ย้อนกลับ

Dual Messenger

หากมีบัญชีใช้งานแอพฯ สังคมออนไลน์ 2 บัญชี แต่ไม่อยากสลับบัญชีไปๆ มาภายในแอพฯ เดียว ก็สามารถมาใช้งาน Dual Messenger ได้ โดยระบบจะเพิ่มแอพฯ สังคมออนไลน์ หรือแอพฯแชทขึ้นมาอีก 1 แอพฯ ทำให้ล็อกอินพร้อมกันได้ 2 บัญชี

Digital Wellbeing

ระบบ Digital Wellbeing คือระบบที่ค่อยบอกระยะเวลาการใช้งานหน้าจอของผู้ใช้งาน ซึ่งจะบอกว่าแอพฯ แต่ละแอพฯ ผู้ใช้งานได้ใช้ไปแล้วนานเท่าไหร่ โดยจะบอกเป็นรายวัน และยังสามารถดูสถิติที่ผ่านมาได้ด้วย ตรงนี้จะทำให้ผู้ใช้งานรู้ว่า มีการใช้งานไปนานเท่าไหร่ มากเกินไปต่อวันหรือไม่

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v7.0.5 ได้ 203,485
คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 4 ได้คะแนน Single-Core ที่ 2,501 คะแนน
Multi-Core ที่ 6,934
ผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย 3DMark Overall Sling Shot Extreme - OpenGL ES 3.1 ได้ 2,404 คะแนน และ Sling Shot Extreme - Vulkan 2,266 คะแนน
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Gyroscope Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

หน้าจอแสดงผล New Infinity Display

Samsung Galaxy A80 มาพร้อมหน้าจอแบบเต็มๆ ไร้รอยแหว่ง ไร้จอเจาะรู ทำให้เปิดวิสัยทัศน์ในการใช้หน้าจอแบบกว้างสุดๆ ไม่ว่าจะดูหนัง หรือเล่นเกม ทั้งนี้หน้าจอยังคมชัดแบบ Super AMOLED กว้างถึง 6.7 นิ้ว ความละเอียดก็ไม่ธรรมดาอยู่ที่ FHD+ เลยทีเดียว

ทดสอบการเล่นเกม

ในหน้าสเปคชีตต่างๆ ไม่มีระบุไว้ว่า Samsung Galaxy A80 มาพร้อมขุมพลังอะไร แต่จากที่สอบถามทีมงานของ Samsung พวกเขาก็บอกว่าเป็น Qualcomm Snapdragon 730 ซึ่งในการทดสอบการเล่นเกมก็ถือว่าน่าพอใจทีเดียว

ROV : สำหรับเกมอย่าง ROV สามารถเล่นได้อย่างราบรื่น ปรับกราฟฟิกได้สุด พร้อมดันเฟรมเรตได้ระดับสูง ซึ่งการเล่นจริงๆ ก็ทำเฟรมเรตได้ 60fps ถือว่าผ่านแบบไม่มีปัญหา

PUBG Mobile : เป็นอีกเกมยอดฮิตที่สามารถเล่นได้อย่างราบรื่น โดยกราฟฟิกสามารถปรับได้สูงสุดที่ระดับ HD ในขณะที่เฟรมเรตก็ปรับในระดับสูงได้ เมื่อเข้าไปโดดร่มในเกม ก็สามารถเล่นได้อย่างสบาย ถือว่าเล่นได้ไร้ปัญหา

สแกนลายนิ้วมือ

ระบบความปลอดภัยของ Samsung Galaxy A80 จะมีเพียงสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ เท่านั้น แต่เอาจริงๆ การทำงานก็ถือว่ามีความรวดเร็วสูง และยังสามารถจดจำลายนิ้วมือได้สูงสุดถึง 3 ลายนิ้วมือ

แบตเตอรี่ 3,700mAh รองรับชาร์จไว 25W

Samsung Galaxy A80 พกแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 3,700mAh มาด้วย ทำให้การใช้งานตลอดทั้งวันถือว่าเพียงพอ และยังมีระบบในการจัดการแบตเตอรี่ เพื่อให้มีการใช้พลังงานอย่างเหมาะสม ด้านระบบการชาร์จยังรองรับการชาร์จไว Super Fast Charging แบบ 25W

กล้องถ่ายรูป

จุดเด่นสำคัญของ Samsung Galaxy A80 คือกล้องถ่ายรูป เนื่องจากมีกล้องดีไซน์แปลกใหม่คือ กล้องหมุน สามารถสลับกล้องหลังเป็นกล้องหน้า กล้องเป็นกล้องหลังได้ทันที ที่สำคัญเป็นกล้องแบบ 3 เลนส์ ความละเอียด 48+8+3D พิกเซล ไม่ว่าจะถ่ายภาพปกติ หรือเซลฟี่ ภาพก็ออกมาสวยงามทีเดียว

ถ่ายมุมกว้าง 123 องศา

Samsung Galaxy A80 พกกล้องมาถึง 3 เลนส์ และหนึ่งในนั้นคึอเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งช่วยให้มุมในการถ่ายภาพกว้างขึ้นถึง 123 องศา เปิดมิติใหม่ในการถ่ายภาพ

Live Focus หน้าชัดหลังเบลอ

นอกเหนือจากเลนส์ Ultra Wide กล้องของ Samsung Galaxy A80 ยังมีเลนส์ 3 มิติ ซึ่งจะช่วยในเรื่องการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยการเบลอจะแบ่งฉากหน้า และพื้นหลังได้สวยงาม และดูภาพออกมาเนียนอย่างมาก

เปลี่ยนเอฟเฟ็กต์พื้นหลัง Live Focus

การถ่ายหน้าชัดหลังเบลอหรือ Live Focus แบบธรรมดาอาจจะดูจำเจเกินไป ซึ่ง Samsung Galaxy A80 มีลูกเล่นในการเพิ่มเอฟเฟคให้กับฉากหลังมากด้วย เมื่อผู้ใช้งานได้รูปหน้าชัดหลังเบลอมาแล้ว ให้เข้าไปที่คลังรูปภาพ จากนั้นเลือกฟังก์ชั่น เปลี่ยนเอฟเฟ็กต์พื้นหลัง หรือ Art Bokeh ที่ทาง Samsung ใช้เรียก ซึ่งสามารถปรับความเบลอของพื้นหลัง, ใส่เอฟเอฟช่องไฟ, ปรับภาพเบลอเป็นแบบปั่น, ปรับภาพเบลอเป็นแบซูม, และปรับภาพพื้นหลังเป็นสีดำ

Scene Optimizer (AI จดจำซีน)

การถ่ายรูปของ Samsung Galaxy A80 ยังมีระบบ Scene Optimizer เพื่อปรับแต่งภาพแบบอัตโนมัติให้ดูสวยงามมากยิ่งขึ้น โดยระบบสามารถปรับแต่งภาพจากวัตถุต่างๆ ได้กว่า 30 รูปแบบ

โหมดกลางคืน

ถ่ายรูปตอนกลางคืนก็ไม่เป็นปัญหา เพราะมีโหมดถ่ายรูปกลางคืนมารองรับในจุดนี้ ทำให้การถ่ายรูปในตอนกลางคืน หรือที่แสงน้อย จะมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น โดยการใช้งานจะต้องถือกล้องค้างไว้ประมาณ 3-4 วินาที จากนั้นระบบจะทำการประมวลภาพให้ภาพออกมาดูมีรายละเอียดมากขึ้น

Super Steady (วิดีโอ)

การบันทึกวิดีโอจาก Samsung Galaxy A80 ก็ถือว่าทำมาได้ดี แม้ว่าจะไม่มีระบบกันสั่น OIS แต่ระบบกันสั่นจากซอฟแวร์อย่าง Super Steady ก็ถือว่าทำงานได้ค่อนข้างดี สามารถดูวิดีโอความแตกต่างระหว่างเปิดใช้งาน Super Steady กับปิด Super Steady ได้ทางด้านล่าง

วิดีโอทางซ้ายคือเปิดโหมด Super Steady

Super Slow-Mo

ใครที่ชอบลูกเล่นสโลว์โมชั่น เพื่อถ่ายวิดิโอสั่นๆ ลงในสังคมออนไลน์ บอกเลยว่า Samsung Galaxy A80 มีฟีเจอร์ Super Slow-Mo รองรับการใช้งานตรงนี้มาด้วย สามารถดูวิดีโอตัวอย่างทางด้านล่างได้เลย

คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง

ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหลัง : 6528x4896 (4:3H), 4032x3024 (4:3), 4032x2268 (16:9), 3024x3024 (1:1), 3184x1432 (Full) พิกเซล
ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหน้า : 6352x4764 (4:3H), 3184x2388 (4:3), 3184x1792 (16:9), 2384x2384 (1:1), 3264x1472(Full) พิกเซล
ไฟแฟลช : เปิด, ปิด, อัตโนมัติ
ตัวจับเวลา : ปิด, 2, 5, 10 วินาที
ปรับหน้าสวย : เปิด, ปิด
โหมดกล้องถ่ายรูป : พาโนรามา, โปร, ไลฟ์โฟกัส, รูปถ่าย, มุมกว้าง
เอฟเฟ็กต์ : Original, Warm, Cool, Lolli, Pale, Blossom, Ivory, Faded, Soft, KissMe, Greyscale, Classic, B&W
ตัวปรับสี : ปิด, เปิด
กดค้างที่ปุ่มกล้องสำหรับ : ถ่ายภาพ, ถ่ายช็อตต่อเนื่อง, สร้าง GIF
ตัวเลือกการบันทึก : รูปภาพ HEIF (รูปถ่าย), รูปภาพตามที่แสดงตัวอย่าง, แก้ไขใบหน้าในเซลฟี่กว้างพิเศษ
จุดตัดเก้าช่อง : ปิด, 3x3, จตุรัส
แท็กสถานที่ : ปิด, เปิด
วิธีการถ่ายรูป : กดปุ่มปรับระดับเสียง, ควบคุมด้วยเสียง, ปุ่มชัตเตอร์ลอย, ฝ่ามือ
เริ่มด่วน : ปิด, เปิด
ลายน้ำ : ปิด, เปิด

คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ

ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหลัง และกล้องหน้า : UHD 3864X2160, FHD 1920x1080 (60 fps), FHD 1920x1080 , HD 1280X720, 2400X1080 (แบบเต็ม), 1440X1440 (1:1) พิกเซล
โหมดวิดีโอ : วิดีโอ, วิดีโอไลฟ์โฟกัส, Super Slow-Mo, Slowmotion, Hyperlapse
ไฟแฟลช : ปิด, เปิด, อัตโนมัติ
Super Steady : เปิด, ปิด
วิดีโอประสิทธิภาพสูง : ปิด, เปิด
HDR (ริชโทน) : ปิด, เปิด
จุดตัดเก้าช่อง : ปิด, 3x3, จตุรัส
แท็กสถานที่ : ปิด, เปิด
เริ่มด่วน : เปิด, ปิด