รีวิวโทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy Note 10 - ซัมซุง

Samsung Galaxy Note 10 ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นน้องในตระกูล Samsung Galaxy Note 10 Series ที่มีความโดดเด่นในเลือกความเบาบางของตัวเครื่อง จับใช้งานได้ถนัดมากขึ้น เพื่อเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่มองว่า Samsung Galaxy Note 10+ มีความใหญ่เกินไป และแม้ว่าจะโดนตัดสเปคบางส่วนออกไป แต่จริงๆ แล้วฟีเจอร์หลัก และฟังก์ชั่นการใช้งานของปากกา S-Pen ยังอยู่ครบ แทบไม่ต่างจากตัวรุ่นพี่แม้แต่น้อย และมีราคาที่ถูกกว่าอยู่ที่ 32,900 บาท

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ตัวเครื่อง Samsung Galaxy Note 10 จะมีขนาดเล็กกว่า Samsung Galaxy Note 10+ ด้วยขนาดรอบตัวเครื่องเพียง 151x71.8x7.9 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวเครื่องก็เบากว่าเพียง 168 กรัม และมีการครอบทับกระจก Gorilla Glass 6 ทั้งหน้า และหลัง

หน้าจอแสดงผลก็มีขนาดเล็กกว่า โดยมีความกว้างเพียง 6.3 นิ้ว แต่ยังเป็นหน้าจอ Dynamic AMOLED ความละเอียด FHD+ (2280x1080 พิกเซล) มีดีไซน์รอยแหว่งแบบ Infinity-O และถูกครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 6

เหนือหน้าจอแสดงผล ในบริเวณรอยแหว่ง Infinity-O มีกล้องหน้า ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล

ส่วนล่างของหน้าจอแสดงผล จะมีที่สแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic โดยตัวแหน่งการสแกนจะขยับขึ้นมาสูงกว่า Samsung Galaxy S10 Series เล็กน้อย ส่วนปุ่มนำทางจะมาในรูปแบบซอฟแวร์ในหน้าจอแสดงผล

บนตัวเครื่อง ทางซ้ายมีช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบ Dual SIM รองรับซิมการ์ดแบบ Nano SIM 2 ช่อง ถัดมาทางขวาเป็นช่องลำโพงเสียง และขวาสุดเป็นรูไมโครโฟน

ใต้ตัวเครื่องมีปากกา S-Pen และช่องเก็บปากกาอยู่ขวาสุด ถ้ดมาทางซ้ายเป็นลำโพงเสียง ต่อมาเป็นพอร์ต USB Type-C และรูไมโครโฟน

ฝั่งซ้ายตัวเครื่อง มีปุ่มเพิ่มลดเสียงเป็นปุ่มยาว และปุ่มล่างคือปุ่มพักหน้าจอ เมื่อกดค้างจะเป็นการเรียกใช้งาน Bixby ซึ่งทั้ง 3 ปุ่มสามารถปรับแต่งให้ใช้งานในรูปแบบอื่นๆ ได้ โดยเข้าไปปรับแต่งที่การตั้งค่า

ต่อกันที่ฝาหลังตัวเครื่อง มุมบนซ้ายสุดจะมีกล้องหลัง 3 เลนส์ จัดเรียงกันเป็นแนวตั้ง ประกอบไปด้วยเลนส์ Wide Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, Ultra Wide Angle ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และข้างขวาคือไฟแฟลช จะสังเกตุได้ว่าไม่มีเลนส์ DepthVision เหมือนกับ Samsung Galaxy Note 10

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเครื่อง Samsung Galaxy Note 10
  • อะแดปเตอร์ จ่ายไฟ 25W
  • สาย USB Type-C to Type-C
  • หูฟัง AKG แบบ Type-C
  • จุกหูฟังซิลิโคน 2 คู่
  • อุปกรณ์เปลี่ยนหัวปากกา S-Pen
  • เข็มนำถาดซิมออก
  • เคสซิลิโคน
  • คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคทั้งหมดของ Samsung Galaxy Note 10

  • ขนาดตัวเครื่อง : 151x71.8x7.9 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 168 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล : Dynamic AMOLED กว้าง 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ความละเอียดพิกเซล 403PPi
  • ดีไซน์รอยแหว่งแบบ Infinity-O รองรับคอนเทนด์ HDR+ มีความสว่างสูงสุด 1,000nit และเคลือบด้วยกระจก Gorilla Glass 6
  • ชิปเซ็ต : Exynos 9825 สถาปัตยกรรมแบบ 7 นาโนเมตร
  • RAM : 8GB LPDDR4
  • ROM : 256GB แบบ UFS 3.0
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 9 Pie
  • กล้องหลัง 3 เลนส์
    - เลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.5-f/2.4 (Dual Aperture) กันสั่น OIS
    - เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.2 มุมกว้าง 123 องศา กันสั่น OIS
    - เลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.1 ซูมแบบ Optical ได้ 2 เท่า
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล f/2.2
  • ช่องใส่ซิมการ์ด : ถาดซิมแบบ Dual SIM รองรับ Nano SIM 2 ซิม
  • ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้า และสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ Ultrasonic
  • กันน้ำกันฝุ่น : IP68
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax 2.4G+5GHz, พอร์ต USB Type-C, Bluetooth 5.0, ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
  • แบตเตอรี่ : 3,500mAh รองรับชาร์จไร้สาย 12W และรองรับชาร์จเร็ว 25W

RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน

ตัวเลือก RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลภายในของ Samsung Galaxy Note 10 จะมีเพียงตัวเลือกเดียวคือ 8GB+256GB และไม่สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้ สนราคาอยู่ที่ 32,900 บาท

ระบบปฏิบัติการ

Samsung Galaxy Note 10 จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie และถูกปรับแต่งด้วย OneUI 1.5 ซึ่งหน้าตาของ UX กับ UI จะมีความเป็นเอกลักษณ์แบบฉบับ Samsung Galaxy รวมไปถึงแอพฯ และมีแอพฯ จากโรงงานบางส่วนเพิ่มมาให้ ใครที่เป็นสาวกของ Samsung Galaxy อยู่แล้วก็จะใช้งานได้สะดวกเหมือนเดิม

ตั้งค่าปุ่มด้านข้าง และปุ่ม Bixby

ที่จริงแล้วปุ่ม Bixby ไม่ได้หายไป แต่เป็นการรวมเข้ากับปุ่มใช้งานพื้นฐานอย่างปุ่มพักหน้าจอ โดย Bixby ยังเรียกใช้งานได้จากการกดปุ่มพักหน้าจอค้างเอาไว้ แต่หากไม่สะดวกกับการใช้งานแบบนี้ ก็สามารถเข้าไปปรับเปลี่ยนได้ที่ การตั้งค่า > คุณสมบัติขั้นสูง > ปุ่มด้านข้าง

ส่วนการปิดเปิดเครื่อง ปกติสมาร์ทโฟนทั่วไปจะต้องกดปุ่มพักหน้าจอค้างเอาไว้ แต่ Samsung Galaxy Note 10 จะต้องกดปุ่มลดเสียง กับปุ่มพักหน้าจอพร้อมกัน 1 ครั้ง หรือกดปิดในแผนด่วน ส่วนการแคปหน้าจอจะต้องกดปุ่มลดเสียง กับปุ่มเพาเวอร์พร้อมกัน 2 ครั้ง

หน้าจอหลัก

โหมดกลางคืน

โหมดกลางคืนหรือโหมดมืด จะเป็นการปรับเปลี่ยนธีมให้เป็นโทนสีดำ (เฉพาะหน้าตั้งค่า และแอพฯ บางแอพฯ) เพิ่มความสบายต่อสายตาในการใช้งานในที่แสงน้อย ผู้ใช้งานสามารถเปิดหรือปิดได้ด้วยตนเอง หรือกำหนดเวลาให้เปิดโหมดกลางคืนแบบอัตโนมัติ โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > จอภาพ > โหมดกลางคืน

แผง Apps Edge และมุมมองป็อปอัพ

แผง Apps Edge จะอยู่ทางขอบหน้าจอด้านข้าง สามารถเปิดถาดออกมาได้ด้วยการรูดนิ้วจากขอบหน้าจอมาข้างใน ซึ่งจะช่วยให้เปิดแอพฯ อื่นๆ ได้โดยไม่ต้องกลับไปที่หน้าโฮมอีกครั้ง และยังทำการเปิดแอพฯ ในแบบมุมมองป็อปอัพ เมื่อทำการ Drag & Drop แอพฯ ไปยังทางซ้าย ทั้งนี้แผง Apps Edge ยังสามารถปรับเปลี่ยนเป็นแบบอื่นได้อีกมากมาย โดยเข้าไปตั้งค่าได้ที่ การตั้งค่า > จอภาพ > หน้าจอขอบ > แผง Edge

แถบการนำทาง

สำหรับการนำทางจะมีให้เลือก 2 แบบคือ ปุ่มการนำทาง และท่าทางเต็มหน้าจอ โดยปุ่มการทำงานจะมีการใช้งาน 3 ปุ่มมาตรฐานคือ ย้อนกลับ, กลับสู่โฮม และแอพฯ ล่าสุด ส่วนทางการเต็มหน้าจอ จะเป็นการเลื่อนหน้าจอทางด้านล่างขึ้นบน ทางซ้ายคือแอพฯ ก่อนหน้า, ตรงกลางคือ กลับสู่หน้าโฮม, ทางขวาคือ ย้อนกลับ โดยเข้าไปเลือกทั้ง 2 รูปแบบได้ตามใจชอบที่ การตั้งค่า > จอภาพ > แถบนำทาง

Always On Display

เมื่อทำการพักหน้าจอแสดงผล หากเปิดโหมด Always On Display หน้าจอจะทำการแสดงข้อมูลที่จำเป็นอย่างเช่น เวลา, วันที่, แบตเตอรี่, การแจ้งเตือน สามารถเข้าไปเปิดได้ที่ การตั้งค่า > ล็อกหน้าจอ > Always On Diaplay และมีรูปแบบการแสดงผลในแบบต่างๆ อีกมากมาย โดยสามารถเข้าไปเปลี่ยนได้ที่ การตั้งค่า > หน้าจอล็อก > รูปแบบนาฬิกา

แบ่งแอพฯ Dual Messenger

Dual Messenger คือการแยกแอพฯ สังคมออนไลน์ที่รองรับออกมาอีก 1 แอพฯ ทำให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินแอพฯ สังคมออนไลน์ได้ 2 บัญชีพร้อมกัน โดยที่ไม่ต้องสลับบัญชีไปๆ มาๆ ในแอพฯ เดียว ซึ่งทำได้ด้วยการเข้าไปที่ การตั้งค่า > คุณสมบัติขั้นสูง > Dual Messenger

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v7.0.5 ได้ 349,142
    คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 4 ได้คะแนน Single-Core ที่ 3,721 และคะแนน Multi-Core ที่ 9,471 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย 3DMark Overall Sling Shot Extreme - OpenGL ES 3.1 ได้ 4,948 คะแนน และ Sling Shot Extreme - Vulkan 4,325 คะแนน
  • ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

  • Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
  • Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
  • Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
  • Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
  • Gyroscope Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
  • Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
  • Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก
  • Pressure Sensor เซ็นเซอร์วัดความดัน

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

จุดเด่น และข้อแตกต่างระหว่าง Samsung Galaxy Note 10+

จุดเด่นของ Samsung Galaxy Note 10 คือตัวเครื่องมีขนาดเล็กกว่า Samsung Galaxy Note 10+ ทำให้การใช้งานมีความกระทัดรัด ถือจับใช้งานได้สะดวก เหมาะกับผู้ใช้งานที่มือเล็ก หรือสุภาพสตรี แต่ก็ต้องแลกมาด้วยสเปคที่ถูกตัดออกไปบางส่วน

  • หน้าจอเล็กลง 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+
  • RAM มีเพียง 8GB
  • ไม่มีช่องใส่ MicroSD Card
  • ไม่มีเลนส์ 3 มิติ DepthVision Camera
  • แบตเตอรี่เหลือเพียง 3,500mAh รองรับชาร์จเร็ว 25W และชาร์จไร้สาย 12W

ปากกา S-Pen โฉมใหม่

แม้ว่าจะเป็นรุ่นเล็กที่โดนตัดสเปคบางส่วนออกไป แต่เรื่องของปากกา S-Pen ยังคงจัดเต็มใช้งานได้ไม่ต่างจากตัวรุ่นพี่ โดยปากกา S-Pen ถูกใส่เซนเซอร์ Gyroscope เหมือนกัน ทำให้สั่งการแบบ Air Action ได้ไม่มีปัญหา ส่วนความตะลึงของปากกา S-Pen โฉมใหม่จะมีอะไรบ้าง สามารถตามมาดูที่ลิ้งค์ตรงนี้ได้เลย https://news.siamphone.com/news-43148.html

Samsung DeX ใช้งานได้อิสระ และง่ายขึ้น

การใช้งานในส่วน Samsung DeX แบบใหม่ ทุกฟีเจอร์ในตอนนี้ Samsung Galaxy Note 10 ก็สามารถใช้งานได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ที่แสนง่ายด้วยสาย USB Type-C, ใช้งานได้ทั้ง Windows และ Mac, อิสระในการแยกการทำงานทั้งหมด และการ Drag & Drop ไฟล์ ซึ่งตอนนี้ใช้ได้เฉพาะ Samsung Galaxy Note 10 Series เท่านั้น สามารถดูฟังก์ชั่นการทำงาน Samsung DeX ทั้งหมดได้ที่ https://news.siamphone.com/news-43164.html

ลิงก์กับ Windows

ลิงค์กับ Windows เป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่น่าสนใจบน Samsung Galaxy Note 10 Series เพราะระบบนี้จะมาช่วยให้ Sync ข้อมูลรูปภาพไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows ได้แบบรวดเร็วแบบไม่ต้องต่อสาย เพราะเป็นการส่งข้อมูลผ่านระบบ Cloud เพียงแค่มีบัญชีอีเมล์ของ Microsoft และใช้โปรแกรม Your Phone บนคอมพิวเตอร์ ส่วนรายละเอียดทั้งหมดตามมาดูได้ทางลิ้งค์ตรงนี้ https://news.siamphone.com/news-43215.html

หน้าจอ Dynamic AMOLED กว้าง 6.3 นิ้ว

หน้าจอแสดงผลของ Samsung Galaxy Note 10 จะถูกลดขนาดลงมาเหลือ 6.3 นิ้ว พร้อมกับความละเอียด FHD+ ความละเอียดพิกเซล 403PPI แต่ความคมชัดของสียังไม่ต่างจากรุ่นพี่ เพราะหน้าจอยังเป็นพาแนล Dynamic AMOLED และรองรับคอนเท้นแบบ HDR10+ อยู่ตามเดิม

ขุมพลัง Exynos 9825 แบบ 7 นาโนเมตร

Samsung Galaxy Note 10 ยังใช้ขุมพลังตัวเดียวกับ Samsung Galaxy Note 10+ คือ Exynos 9825 แบบ 7 นาโนเมตร ทำให้มั่นใจในเรื่องของความเร็ว ความแรง และการประหยัดแบตเตอรี่ได้เลยว่า แทบต่างจากตัวรุ่นพี่แน่นอน

ทดสอบการเล่นเกม และการบริการ Discord

เมื่อถูกขับเคลื่อนด้วยขุมพลังตัวแรงอย่าง Exynos 9825 เรื่องการเล่นเกมก็ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน สามารถเล่นเกมยอดฮิตในขณะนี้ พร้อมปรับกราฟฟิกระดับสูงได้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีตัวดูแลการเล่นเกมอย่าง Game Launcher ที่มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และจัดการการแจ้งเตือนต่างๆ รวมไปถึงติดตั้งโปรแกรม Discord ให้ในตัว เพื่อการสือสารกับเพื่อนร่วมทีมที่ง่ายขึ้น

  • ROV

สำหรับเกม ROV สามารถเล่นได้แบบสบายๆ สามารถปรับกราฟฟิกระดับสูงได้ไม่มีปัญหา เวลาเข้าไปเล่นจริงๆ สามารถทำเฟรมเรต 59-60fps ตลอดเวลา และเวลาเข้าปะทะกันหนักๆ ก็ไม่มีอาการเฟรมเรตตกให้เห็น

  • PUBG Mobile

เกม PUBG Mobile ถือว่าเป็นอีกเกมที่ Samsung Galaxy Note 10 สามารถใช้เล่นได้แบบไม่มีปัญหา พร้อมปรับกราฟฟิกระดับสูงสุดได้อีกด้วย ทั้ง ความละเอียดระดับ HDR และดันเฟรมเรตระดับสูง

  • Asphalt 9

Asphalt 9 เกมรถแข่งกราฟิกสวยงามระดับสูง เครื่อง Samsung Galaxy Note 10 ก็สามารถแสดงผลออกมาได้อย่างเต็มที่ ในระหว่างเล่นภาพที่ออกมามีความสวยงานแบบจัดเต็ม

ระบบระบายความร้อน Vapor Chamber

Samsung Galaxy Note 10 จะมีที่ระบายความร้อน Vapor Chamber เหมือนกับ Samsung Galaxy Note 10+ ซึ่งจะช่วยควบคุมความร้อยภายในเครื่อง ทั้งนี้ระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ยังเป็นระบบใหม่ ที่การทำงานร่วมกับ AI และ NPU เพื่อจัดการความร้อนในขณะเล่นเกมได้ดีขึ้น

ระบบเสียง Dolby Atmos

นอกจาก Samsung Galaxy Note 10 จะมาพร้อมลำโพงเสียงคู่ ทำให้เสียงที่ออกมาจากลำโพงมีความดังชัดเจน ยังมีระบบปรับแต่งเสียงอย่าง Dolby Atmos ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเสียงเพลง ให้มีความสมจริงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

สแกนลายนิ้วมือ Ultrasonic

ระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอของ Samsung Galaxy Note 10 ยังคงใช้เทคโนโลยี Ultrasonic ในการสแกน แต่จะต่างจาก Samsung Galaxy S10 Series ตรงพื้นที่ในการสแกนจะกว้างขึ้น เพื่อให้ทำการสแกนง่ายกว่าเดิม และมีการขยับที่สแกนให้ขึ้นมาสูงกว่าพอสมควร โดยการสแกนก็ถือว่ามีความแม่นยำสูง สแกนได้ง่ายทุกสภาพนิ้วมือ และสามารถจดจำลายนิ้วมือได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ

สแกนใบหน้า

การสแกนใบหน้า เป็นอีกระบบรักษาความปลอดภัยของ Samsung Galaxy Note 10 ซึ่งการสแกนก็มีความรวดเร็วทั้งช่วงจดจำใบหน้า และตอนสแกนปลดล็อก

แบตเตอรี่ 3,500mAh รองรับชาร์จเร็ว 25W ชาร์จไร้สาย 12W

นี้คืออีกส่วนที่ Samsung Galaxy Note 10 โดนลดสเปคลงไป โดยจะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 3,500mAh แต่ขนาดแบตเตอรี่ขนาดนี้ถือว่าเป็นขนาดที่เพียงพอ สามารถใช้งานได้ทั้งวัน และยังมีใช้ชิปเซ็ตที่เป็นแบบ 7 นาโนเมตร ทำให้ประหยัดการใช้พลังงานได้เยอะพอสมควร ส่วนการชาร์จแบตเตอรี่ ยังรองรับการชาร์จเร็วถึง 25W และรองรับการชาร์จแบบไร้สาย 12W อีกด้วย

กล้องถ่ายรูป

ในส่วนกล้องหลังของ Samsung Galaxy Note 10 จะมาเพียง 3 เลนส์เท่านั้นคือ Wide Angle 12 ล้านพิกเซล, Ultra Wide Angle 16 พิกเซล, Telephoto 12 ล้านพิกเซล และไม่มีเลนส์ 3 มิติ อย่าง DepthVision Camera มาด้วย แต่เอาจริงๆ เลนส์ 3 มิติในตอนนี้ยังไม่ค่อยจำเป็นต่อการใช้งานเท่าไหร่ ซึ่งการใช้งานจริงยังมีความสวยงามไม่ต่างกับ Samsung Galaxy Note 10+

ส่วนกล้องหน้ายังมีความความละเอียด 10 ล้านพิกเซล เหมือนกับ Samsung Galaxy Note 10+ โดยการใช้งานจริงด้านเซลฟี่ถือว่าดูดีมากๆ และภาพใบหน้าที่ออกมายังมีความสวยงามในระดับน่าประทับใจเช่นกัน

เพิ่มมุมกว้าง 123 องศา จากเลนส์ Ultra Wide-Angle

ด้วยความสามารถของเลนส์ Ultra Wide-Angle จากกล้องหลัง ทำให้ Samsung Galaxy Note 10 สามารถถ่ายรูปในมุมมองกว้างถึง 123 องศา ซึ่งจะได้ภาพในมุมมองใหม่ๆ ที่สวยงามไปอีกแบบ ทั้งนี้กล้อง Ultra Wide-Angle ยังมีความละเอียดสูงถึง 16 ล้านพิกเซล ทำให้ภาพมุมกว้างมีความคมชัดเอามากๆ

Scene Optimizer ระบบ AI จดจำซีน

ระบบ Scene Optimizer จะเป็นระบบ AI จดจำซีน ที่ช่วยให้ถ่ายรูปในสถานการณ์ต่างๆ มีความสวยเพิ่มขึ้นแบบอัตโนมัติ ซึ่งทาง Samsung ได้ใช้การประมวลภาพ และ Local Mapping ในการปรับแต่งภาพ และตัวระบบมีการจดจำซีนต่างๆ ได้กว่า 30 โหมด เช่น ใบหน้า, ดอกไม้, ต้นไม้, ท้องฟ้า, ตัวอาคาร, สุนัข, แมว เป็นต้น

ไลฟ์โฟกัส และเอฟเฟค Bokeh

Samsung Galaxy Note 10 จะมีโหมดไลฟ์โฟกัสเพื่อถ่ายรูปหน้าชัดหลังเบลอ ซึ่งการเบลอพื้นหลังถือว่ามีความเนียนเป็นธรรมชาติมากทีเดียว และการเบลอยังมีลูกเล่นเพิ่มเติมด้วยเอฟเฟค Bokeh ซึ่งมีให้เลือกทั้ง เบลอ, วงกลม, Spin, Zoom, และคัลเลอร์พอยท์ โดยสามารถใช้ได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง

 

 

 

 

ปรับแต่งหน้าสวย

โหมดการปรับแต่งหน้าสวยของ Samsung Galaxy Note 10 ถือว่าทำออกมาได้สวยเนียนเป็นธรรมชาติ แต่จะไม่มีตัวเลือกให้ปรับแต่งส่วนต่างๆ บนใบหน้า โดยเป็นการปรับแต่งแบบภาพรวมทั้งใบหน้ามากกว่า ซึ่งสามารถเลือกระกับได้ตั้งแต่ 0 ถึง 8 ระดับ

 

 

โหมดกลางคืน

เมื่อเปิดใช้งานโหมดกลางคืน กล้องเลนส์ Wide-Angle จะมีการปรับรูรับแสงให้อัตโนมัติ เพื่อการถ่ายรูปตอนกลางคืนที่สวยงามมากขึ้น ซึ่งทาง Samsung เรียกระบบนี้ได้ว่า Dual Aperture ในการใช้งานจริงก็ถือว่าง่ายดายมาก เพียงเข้าโหมดกลางคืน และกดชัตเตอร์ จากนั้นถือค้างเอาไว้ 4-5 วินาที (ขึ้นอยู่กับสภาพแสงตอนนั้น) ก็จะได้ภาพตอนกลางคืนสวยๆ ออกมา

 

บันทึกวิดีโอ พร้อมใส่เอฟเฟค Bokeh แบบเรียวไทม์

Samsung Galaxy Note 10 ยังสามารถถ่ายวิดีโอไลฟ์โฟกัส หรือถ่ายวิดีโอหน้าชัดหลังเบลอแบบเรียวไทม์ได้ โดยระบบจะมีการเบลอภาพแบบเรียลไทม์ตลอดการถ่ายทำวิดีโอ พร้อมตัวเลือกการเบลอในรูปแบบต่างๆ เช่น เบลอปกติ, เบลอวงกลมขนาดใหญ่, ดัลเลอร์พอยท์ และกลิดช์ ซึ่งจะช่วยให้การบันทึกวิดีโอหน้าชัดหลังเบลอมีรูปแบบใหม่ๆ และเกิดเอฟเฟคเบลอที่สวยงามในอีกหลายๆ แบบ

Zoom-in Mic ซูมคนไหนเสียงคนนั้นดัง

นี้คืออีกลูกเล่นหลักของ Samsung Galaxy Note 10 Series โดยด้านหลังตัวเครื่องของ Samsung Galaxy Note 10 จะมีไมโครโฟนอีกตัวซ่อนอยู่ด้านหลัง โดยไมโครโฟนตรงนี้จะมาช่วยในฟีเจอร์ Zoom-in Mic ซึ่งหลักการทำงานจะทำงานตอนบันทึกวิดีโอ และหากผู้ใช้งานซูมไปยังคนที่กำลังพูดอยู่ จะได้ยินเสียงคนนั้นดังขึ้น แม้จะอยู่ในระยะที่ไกลก็ตาม

Super Steady ระบบป้องกันการสั่นไหว

นี้คือระบบป้องกันการสั่นไหวในขณะถ่ายวิดีโอ ซึ่งจะให้การถ่ายวิดีโอมีความนิ่งมากขึ้น แม้จะอยู่ในกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวแบบรวดเร็ว สามารถดูวิดีโอตัวอย่างได้ทางด้านล่าง

  • AR Doodle

สำหรับ AR Doodle เป็นลูกเล่นระหว่างการบันทึกวิดีโอ และปากกา S-Pen เพราะลูกเล่นนี้จะให้ผู้ใช้งานปากกา S-Pen วาดเขียนลงไปในวิดีโอได้ และสิ่งที่วาดเขียนลงไปจะมีการติดตามวัตถุที่แม่นยำ เมื่อการเลื่อนกล้องไปที่อื่น และเลื่อนกลับมาที่เดิมสิ่งที่วาดลงไปจะยังติดตามวัตถุอยู่ที่เดิม

คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง

  • ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหลัง : 4032 x 3024 (3:4), 4032 x 2268 (9:16), 3024 x 3024 (1:1), 4032 x 1908 (Full) พิกเซล
  • ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหน้า : 2944 x 2208 (3:4), 3216 x 1808 (9:16), 2208 x 2208 (1:1), 3216 x 1528 (Full) พิกเซล
  • ตัวเลือกซูม : x0.5 (มุมกว้าง), x1.0, x2.0
  • แฟลช : อัตโนมัติ, ปิด, เปิด
  • ตัวตั้งเวลา : ปิด, 2, 5, 10 วินาที
  • อัตราส่วน : 3:4, 9:16, 1:1, Full
  • เอฟเฟ็กต์ : ตั้งเดิม, อบอุ่น, เย็น, Lolli, ซีด, Blossom, Ivory, จาง, นุ่ม, Kiss Me, Greyscale, Classic, ขาวดำ
  • ตัวปรับสีภาพ : เปิด, ปิด
  • คำแนะนำการถ่ายช๊อต : เปิด, ปิด
  • สแกน QR Code : เปิด, ปิด
  • รูปภาพเคลื่อนไหว : เปิด, ปิด
  • กดค้างที่ปุ่มชัตเตอร์เพื่อ : ถ่ายภาพ, ถ่ายช็อตต่อเนื่อง, สร้าง GIF
  • ตัวเลือกการบันทึก : รูปภาพ HEIF, สำเนา RAW, รูปภาพตามที่แสดงในตัวอย่าง, การแก้ไข
  • HDR (ริชโทน) : อัตโนมัติ, เปิด, ปิด
  • การติดตามโฟกัสอัตโนมัติ : เปิด, ปิด
  • รูปภาพตามที่แสดงตัวอย่าง : เปิด, ปิด
  • จุดตัดเก้าช่อง : ปิด, 3x3, จตุรัส
  • แท็กสถานที่ : เปิด, ปิด

คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ

  • ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหลัง : 3840x2160 (UHD 60fps), 3840 x 2160 (UHD), 1920x1080 (FHD 60fps), 1920x1080 (FHD), 1280x720 (HD) (16:9), 2288x1080 (19:9), 1440x1440 (1:1) พิกเซล
  • ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหน้า : 3840 x 2160 (UHD), 1920x1080 (FHD), 1280x720 (HD), 2288x1080 (19:9), 1440x1440 (1:1) พิกเซล
  • แฟลช : อัตโนมัติ, ปิด, เปิด
  • Super Steady : เปิด, ปิด
  • AR Doodle : เปิด, ปิด
  • วิดีโอประสิทธิภาพสูง : เปิด, ปิด
  • วิดีโอ HDR10+ (ยกเว้น UHD 60fps) : เปิด, ปิด
  • ซูมเข้าไมโครโฟน : เปิด, ปิด
  • ความเสถียรของวิดีโอ : เปิด, ปิด
  • รูปภาพแสดงตัวอย่าง : เปิด, ปิด
  • HDR (ริชโทน) : เปิด, ปิด
  • จุดตัดเก้าช่อง : ปิด, 3x3, จตุรัส
  • แท็กสถานที่ : เปิด, ปิด
  • โหมดการถ่ายวิดีโอ : วิดีโอ, Super Slow-mo, Slow motion, Hyperlaspe

 

ตัวอย่างภาพจากกล้องSample & Photo

  

  

  

Samsung

ขอขอบคุณ : บริษัท ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ จำกัด โทร. 02-689-3232

ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ : Samsung Galaxy Note 10
https://www.siamphone.com/spec/samsung/galaxy_note_10.htm

แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=460580

อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข้อมูลมือถือ

รีวิวโดย: ปิตุภูมิ นันทวิทยา ภาพโดย: ณภัทร วัฒนธรรม
วันที่ 27 สิงหาคม 2562

VIEWS

แบ่งปันบทความ

สินค้าออนไลน์

ขึ้นด้านบน