รีวิว OPPO Reno2 F ชูจุดเด่นยืนหนึ่งในเรื่องกล้อง อัพเกรดเทคโนโลยีชาร์จไว VOOC 3.0 สเปคครบ ในราคาสุดคุ้ม

โดย ปภัสสร อมรประสิทธิ์ โดย สิรภพ ผิวทอง

ปรับขนาดตัวอักษร - ก +ก

OPPO ได้ฤกษ์เปิดตัว OPPO Reno2 F ที่มาพร้อมสโลแกน "สวยทุกมุมมอง" ชูจุดแข็งความเป็นผู้นำเรื่องกล้องสมาร์ทโฟนที่โดดเด่น ผสานกับดีไซน์ตัวเครื่องอันมีเอกลักษณ์สวยงาม ในราคาที่ใครๆ ก็เอื้อมถึง กับสเปคที่ให้มาครอบคลุมครบครั้น ทั้งเร็วและแรงด้วย RAM 8GB, ROM 128GB ใช้งานได้ยาวนานกับแบตคเตอรี่ความจุ 4,000mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จไว VOOC 3.0 ที่ได้รับการอัพเดทมาแล้ว ไม่เพียงแค่นั้น ยังได้เพิ่มความสามารถของกล้องหลัง 4 เลนส์ ทั้งความละเอียดสูงสุด 48MP มีเลนส์ Ultra Wide Angle ถ่ายภาพมุมมองใหม่ได้กว้างขึ้น ตอกย้ำความเป็นผู้นำการถ่ายภาพ Protrait และ Selfies ด้วยฟังก์ชันที่จะทำให้ภาพออกมาสวยคมชัดอย่างเป็นธรรมชาติ

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

สำหรับบอดี้ของ OPPO Reno2 F เรียกว่าจับได้ถนัดมือ ไม่ใหญ่เกินไป ขนาด 161.8mm x 75.8mm x 8.67mm. ตัวเครื่องีมุมแบบโค้งมนไร้รอยต่อ

มีหน้าจอแบบ AMOLED กว้าง 6.5 นิ้ว ไร้รอยแหว่ง ความละเอียด 2340x1080 อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 91.1% มองได้ชัดเต็มตาในรูปแบบ Full Screen ไร้ติ่งกวนใจ มีเพียงลำโพงที่มาพร้อมระบบเสียงแบบ Dolby Atmos ให้ประสบการณ์เสียงแบบรอบทิศทาง

หน้าจอแสดงผลด้านล่างไม่มีปุ่มใดๆ มีเพียงขอบดำบางๆ และปุ่มนำทางที่เป็นซอร์ฟแวร์อยู่ในหน้าจอแสดงผล

ด้านซ้ายของตัวเครื่องเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง

ด้านขวาเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ด รองรับ NanoSIM 2 ช่อง และ MicroSD 1 ช่อง ถัดลงมาเป็นปุ่ม Power ใช้สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง หรือล็อคหน้าจอ โดยปุ่มมีดีไซน์ขีดสีเขียวตัดกับสีของปุ่ม

ด้านบนของตัวเครื่อง OPPO Reno2 F มีโมดูลกล้องหน้า Pop-Up แบบ Rising Camera อยู่ตรงกลาง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และไฟ LED ที่แสดงสีสันต่างๆ ตามที่ได้ตั้งค่าไว้ จะปรากฏเมื่อกล้องเลื่อนขึ้นหรือลง ด้านข้างมีไมโครโฟน

ตัวเครื่องด้านล่างเป็นช่องเสียบพอร์ต Type C ตรงกลาง ทางด้านซ้ายเป็นลำโพง ด้านขวาเป็นไมโครโฟนอีกตัว และถัดไปเป็นช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม.

ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 48MP+8MP+2MP+2MP วางเรียงในแนวตั้ง ด้านบนมี O-Dot ช่วยป้องกันการกระแทกของเลนส์กล้อง ด้านข้างเป็นไฟแฟลช และตัวอักษร "DESIGN BY OPPO" พร้อมโลโก้ OPPO

อุปกรณ์ภายในกล่อง

ตัวเครื่อง OPPO Reno2 F
อะแดปเตอร์
สาย USB Type-C
หูฟังแบบ Type-C
เหล็กถอดซิม
เคสใสกันรอย
คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

สรุปสเปค OPPO Reno2 F

ขนาดตัวเครื่อง : 161.8mm x 75.8mm x 8.67 มิลลิเมตร
หน้าจอแสดงผล Panoramic screen ชนิด Full AMOLED กว้าง 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9 สัดส่วนหน้าจอ 91.1% และครอบทับด้วย Corning Gorilla Glass 5
หน่วยประมวลผล : MediaTek Heilo P70
- RAM 8 GB
- ROM 128 GB
ระบบปฎิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.1
กล้องหลัง 4 เลนส์ และไฟแฟลช
- เลนส์หลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล
- เลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- เลนส์ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- เลนส์ Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
กล้องหน้า : ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
ระบบเสียง : รองรับระบบเสียง Dolby Atmos
การเชื่อมต่อ : Wi-Fi, Bluetooth 4.2, พอร์ต USB Type-C, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
รองรับซิมการ์ด 4G แบบ Nano SIM 2 ซิม
แบตเตอรี่ : 4,000mAh รองรับชาร์จไว VOOC 3.0

ระบบปฎิบัติการ

OPPO Reno2 F มาพร้อม ColorOS 6.1 บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 มีหน้าตา UI ของแอพพลิเคชั่นและตัวอักษรที่ออกแบบมาใหม่ เพื่อให้เข้ากับดีไซน์และเฉดสีของตัวเครื่อง อีกทั้งปรับระบบเพื่อประสิทธิภาพการใช้งานที่ลื่นไหลมากกว่าเดิมอีกด้วย

หน้าตา UI ของ ColorOS 6.1

หน้าจอหลัก

หน้าจอล็อค

แถบการใช้งานด้านข้าง

แถบการแจ้งเตือน

การขับขี่แบบชาญฉลาด

เป็นโหมดที่มีมาให้เสทอสำหรับสมาร์ทโฟนของ OPPO เพื่อช่วยเรื่องการขับขี่อย่างปลอดภัย มีให้เลือกทั้งการขับขี่รถยนต์ และการขี่มอเตอร์ไซต์ เพื่อให้เมาะสมกับความต้องการของแต่ละสถานการณ์ สามารถเลือกการเชื่อมต่อบลูทูธ ปิดกั้นหรือเลือกรับสายสนทนา รวมไปถึงปิดการแจ้งเตือนต่างๆ ที่รบกวนสมาธิขณะขับขี่ยานพาหนะได้อีกด้วย

สำหรับการใช้รถยนต์

สำหรับการใช้มอเตอร์ไซต์

ปุ่มการนำทาง

มีให้เลือก ได้ตามความถนัดของแต่ละบุคคลอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ลักษณะท่าทางการลากนิ้วจากทั้งสองด้าน ลักษณะท่าทางการลากนิ้วขึ้น หรือปรับเปลี่ยน "ปุ่มเสมือน" ที่อยู่ด้านล่างได้ตามต้องการ โดยเข้าไปที่ ตั้งค่า > ตัวช่วยเพิ่มความสะดวก > ปุ่มการนำทาง นั่นเอง

โคลนแอพ

ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายสำหรับใครที่มี 2 บัญชีในการเข้าใช้โซเชี่ยลมีเดียอย่าง Facebook, Line, Messenger, Wechat ฯลฯ ที่มีรองรับ โดยที่เราไม่ต้องทำการสลับแอคเคาท์กลับไปกลับมาทุกครั้งที่จะใช้บัญชีใดๆ เพราะสามารถ Log in ได้พร้อมกัน

โหมดแยกหน้าจอแอพ

OPPO Reno2 F รองรับการใช้งานแบบแบ่งหน้าจอ โดยสามารถเลือกใช้งานได้หลายวิธีเพื่อเข้าโหมดแยกหน้าจอแอพ แต่จะใช้ได้เฉพาะกับแอพพลิเคชั่นที่มีการรองรับเท่านั้น

หน่วยความจำภายใน

OPPO Reno2 F มาพร้อม RAM 8GB, ROM 128GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุด 256GB ก็ค่อนข้างเพียงพอต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น หรือพื้นที่เก็บไฟล์ต่างๆ ก็เยอะพอสมควร

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v7.2.2 ได้ 147,684 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 4 ได้คะแนน Single-Core ที่ 303 และคะแนน Multi-Core ที่ 1435
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย 3DMark ได้ 1,270 คะแนน
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Gyroscope Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

การออกแบบที่โดดเด่น

ด้วยกระบวนการ ribbon transfer 2.0 และการเคลือบสี 7 ชั้น ทำให้การไล่ระดับสีมีความแม่นยำ และฝาหลังผลิตจาก Corning Gorilla Glass รุ่น 5 ทำให้ตัวเครื่องมีแข็งแรงความทนทาน ดีไซน์กล้องหลังที่ผนวกเข้ากับฝาหลังได้อย่างสวยงามและกลมกลืน เผยให้เห็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของ OPPO Reno2 F มากยิ่งขึ้น มีมาทั้งหมด 2 สี คือ Sky White และ Lake Green

หน้าจอใหญ่ ไร้รอยติ่ง

OPPO Reno2 F มาพร้อมหน้าจอ AMOLED Full Screen ผลิตจากวัสดุ E1 ที่ให้การตอบสนองรวดเร็วและใช้พลังงานน้อย มองได้กว้างเต็มตาโดยไร้รอยแหว่งหรือติ่งใดๆ มากวนใจ และด้วย Panoramic Screen ยังช่วยให้เห็นถึงรายละเอียดอันคมชัด เมื่อดูภาพยนตร์หรือเล่นเกม ทำให้คุณเต็มอิ่มกับทุกอรรถรสของความบันเทิง

ดีไซน์กล้องหน้า

อันนี้ถือว่าสวยและรวยลูกเล่นมาก ด้วยกล้องหน้า Rising Camera ที่ซ่อนตัวอยู่กึ่งกลางด้านบนของตัวเครื่อง สามารถเลื่อนขึ้นใน 0.74 วินาที มีความทนทานต่อการใช้งาน สามารถเลื่อนขึ้นได้ถึง 200,000 ครั้ง มีลูกเล่นไฟที่กล้องเมื่อมีการเลื่อนขึ้นและลง ปรับสีของแสงและแฟลชได้ตามที่ต้องการ

สเปคครบ เก็บได้หมดทุกการใช้งาน

นอกจากความโดดเด่นในเรื่องกล้องแล้ว OPPO Reno2 F ยังมาพร้อมประสิทธิภาพการใช้งานที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานที่ไหลลื่นด้วย ColorOS 6.1 บนพื้นฐาน Android 9 Pie ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Heilo P70 หน่วยความจำ RAM 8GB, ROM 128GB มีเทคโนโลยี HyperBoost 2.0 ที่มาพร้อม FrameBoost และ TouchBoost แบบใหม่ รวมทั้งวิเคราะห์และเพิ่มประสิทธิภาพแบบพิเศษ เพื่อแก้ปัญหาเกมค้างและประสิทธิภาพการสัมผัสให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยได้ทดสอบจากการเล่น Call of Duty ถือว่าการตอบสนอง รวมไปถึงภาพกราฟฟิคต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดี ไม่มีกระตุก

พลังเสียงระบบ Dolby Atmos

ใน OPPO Reno2 Fนั้น เมื่อผู้ใช้เล่นเกมพร้อมใส่หูฟังแบบครอบหู ผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์เอฟเฟกต์เสียงในเกมแบบไร้ทิศทาง ซึ่งมีความสมจริงมากขึ้น เสมือนกับว่าเข้าไปอยู่ในเกมนั้นจริงๆ นอกจากนี้ในเรื่องของการฟังคลิปต่างๆ ก็ดังกระหึ่มชัดเจนดี

ระบบความปลอดภัย

สแกนลายนิ้วมือ

OPPO Reno2 F รองรับระบบการสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคได้ด้วย โดยเซ็นเซอร์จะอยู่ที่ใต้หน้าจอด้านล่าง สามารถตั้งค่าได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ ทำงานได้รวดเร็ว และเลือกยังเลือกรูปแบบการแสดงได้อีกด้วย

สแกนใบหน้า

OPPO Reno2 F รองรับการสแกนใบหน้า เมื่อทำการตั้งค่าแล้ว สามารถใช้งานด้วยการปัดหน้าจอขึ้น เพื่อเรียกการทำงานของกล้องหน้า ให้ขึ้นมาปลดล็อค ค่อนข้างช้ากว่าการสแกนด้วยนิ้วมือเล็กน้อย แต่ก็เป็นระบบความปลอดภัยที่ดีเช่นกัน

แบตเตอรี่ใหญ่ ชาร์จไวกว่าเดิม

ความจุแบตเตอรี่ 4,000mAh ที่คู่มากับเทคโนโลยีชาร์จไว VOOC Flash Charge 3.0 ชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 – 51% โดยใช้เวลาเพียง 30 นาที ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ลองทดสอบการใช้งานทั่วไป เช่น เล่น Facebook ดูคลิป เปิดอินเทอร์เน็ต เล่นมาเกือบทั้งวัน แบตฯก็ลดลงไปไม่เยอะมาก ในเวลารีบๆ ใช้ VOOC Flash Charge 3.0 ก็สามารถนำเครื่องไปใช้ต่อได้เลย

กล้องหลัง 4 เลนส์ ถ่ายสวย ฟังก์ชั่นครบ พร้อมรบทุกสถานการณ์

โหมด AI beauty

ในโหมดนี้ของ OPPO Reno2 F จะสามารถจำแนกและปรับภาพได้อย่างอัจฉริยะ โดยไม่ดูโอเวอร์จนเกินไป ทำให้การถ่ายภาพเซลฟี่ของคุณออกมาได้สวยเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถวิเคราะห์ปรับโทนสีผิวของแต่ละบุคคลได้มากถึง 4 คนเลยทีเดียว จะเซลฟี่หรือกรุ๊ปฟี่ งานนี้ก็เอาอยู่

โหมด Protrait Bokeh

เพิ่มลูกเล่นเก๋ๆ ให้กับภาพบุคคล โดยการปรับหน้าชัดหลังเบลได้อย่างสวยงาม โฟกัสได้อย่างรวดเร็ว ใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง เพิ่มจุดโฟกัสที่คุณต้องการให้โดดเด่นกว่าใครในโหมดนี้

Ultra Night Mode 2.0

ในสถานการณ์ที่แสงน้อย โหมดนี้จะเป็นตัวช่วยอย่างดีที่ให้คุณได้ภาพสวยดั่งใจหวัง โดยช่วยปรับแสงและอัตราส่วนของแสงที่กว้างขึ้น ทำให้ไม่พลาดที่จะกดชัตเตอร์แม้ในเวลาที่แสงไม่อำนวย

โหมด Ultra Wide Angle

เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้กับภาพ ด้วยการเปิดมุมมองที่กว้างขึ้นกับโหมด Ultra Wide Angle ถ่ายภาพมุมกว้าง 119 องศา เก็บทุกความประทับใจไว้ในแช๊ะเดียว

คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง

ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหลัง : 8000x6000 (4:3-48MP), 4000x3000 (4:3), 3000 x 3000 (1:1), 4000x1840 (เต็มจอ) พิกเซล
ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหน้า : 4608x3456 (4:3), 3456x3456 (1:1), 4608x 2128 (เต็มจอ) พิกเซล
ไฟแฟลช : อัตโนมัติ, เปิด, ปิด, เพิ่มแสง
HDR : ปิด, เปิด, อัตโนมัติ
มุมกว้าง : เปิด, ปิด
การเพิ่มสี : ปิด, เปิด
ฟิลเตอร์ : ต้นฉบับ และ R1-R10
โหมดถ่ายรูป : รูปถ่าย, กลางคืน, พาโน, ผู้เชี่ยวชาญ, โหมดไทม์แลปส์, สโลว์โมชั่น, สติ๊กเกอร์, Google Lens
ปรับหน้าสวย : AI (0-100)
ปุ่มความดัง : ระดับเสียง, ชัตเตอร์, ย่อ/ขยาย
เสียงชัตเตอร์ : ปิด, เปิด
ตำแหน่ง : ปิด, เปิด
รูปเซลฟี่กลับด้าน : เปิด, ปิด
ตัวจับเวลา : ปิด, 3, 10 วินาที
สัมผัสเพื่อถ่ายรูป : ปิด, เปิด
ลักษณะท่าทางในการถ่ายรูป : เปิด, ปิด
เส้นตาราง : ปิด, เปิด
เสียงชัตเตอร์ : ปิด, เปิด
ตำแหน่ง : ปิด, เปิด
การรับรู้สถานการณ์ AI : ปิด, เปิด
ภาพลายน้ำ : ปิด, เปิด
ผู้เขียน : ใส่ชื่อ

คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ

ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหลัง : 3840 x 2160 (4K), 1920 x 1080 (1080P), 1280 x 720 (720P) พิกเซล
ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหน้า : 1920 x 1080 (1080P), 1280 x 720 (720P) พิกเซล
โหมดการถ่ายวิดีโอ : วิดีโอ, Time-Laspe, สโลว์โมชั่น
แฟลช : ปิด, เพิ่มแสง
ฟิลเตอร์ : ต้นฉบับ, F1-F10
ปุ่มความดัง : ระดับเสียง, ชัตเตอร์, ย่อ/ขยาย
เสียงชัตเตอร์ : ปิด, เปิด
ตำแหน่ง : เปิด, ปิด
รูปเซลฟี่กลับด้าน : ปิด, เปิด
การเข้ารหัสวิดีโอ : ประสิทธิภาพสูง, เล่นได้หลายระบบ

เรียกได้ว่า OPPO Reno2 เป็นสมาร์ทโฟนอีกเครื่องที่น่าจับตามอง ทั้งในเรื่องของดีไซน์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ มีความสวยงามที่ผสานงานอย่างลงตัวกับกล้องหลังแบบฝังไปกับตัวเครื่อง ฟังก์ชั่นกล้องหลัง 4 เลนส์ที่ถ่ายสวยทุกสถานการณ์ การใช้งานที่ครบครัน กับแบตฯใหญ่สุดอึด ในราคา 11,990 บาท โดย OPPO Reno2 F จะมีมาให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือ Sky White และ Lake Green

นอกจากนี้ยังมี OPPO Reno2 สมาร์ทโฟนถ่ายภาพคมชัดทุกระยะ มาในราคา 17,990 บาท บาท อีกด้วย พร้อมเปิดจองแล้ววันนี้ – 25 ตุลาคมนี้ เมื่อพรีออเดอร์ OPPO Reno2 F รับเลย OPPO Sport Bag และ VIP Card รับประกันหน้าจอแตก 1 ปี รวมมูลค่าถึง 4,799 บาท เมื่อพรีออเดอร์ OPPO Reno2 รับเลย Car Charge และ Premier Card การันตีเปลี่ยนเครื่องใหม่ทันทีเมื่อเครื่องมีปัญหา รวมมูลค่าถึง 9,500 บาท