หลังจากที่ Vivo ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนสายแฟชั่นอย่าง Vivo S1 ไป วันนี้ Vivo กลับมาอีกครั้งกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Vivo S1 Pro ที่มาพร้อมกับสเปกที่อัปเกรดขึ้นมาเป็น CPU Snapdragon 665 พร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์ที่ความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าความคมชัดสูงถึง 32 ล้านพิกเซล นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับดีไซน์แบบใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจากพระราชวังและ Diamond เพิ่มความหรูหรา มีสไตล์ มาร่วมค้นหาสไตล์ที่ใช่กับสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ Vivo S1 Pro
ตัวเครื่อง Vivo S1 Pro มีลักษณะเป็นทรงแท่ง ฝาหลังทรงโค้ง มีขนาดรอบตัวเครื่อง 159.25 × 75.19 × 8.68 มิลลิเมตร และน้ำหนักที่ 186.7 กรัม
ด้านหน้าเป็นหน้าจอแสดงผล Dot Drop พร้อมพาเนลจอแบบ Super AMOLED ความละเอียด FullHD+ (2340x1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9 พร้อมรองรับการสแกนนิ้วมือภายใต้หน้าจอ
ด้านบนหน้าจอ บริเวณ Dot Drop เป็นที่อยู่ของกล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ด้านบนสุดเป็นช่องเสียงลำโพงสนทนา
ด้านล่างของหน้าจอ มีแถบสีดำที่ขนาดใหญ่กว่าแถบดำด้านบน ปุ่มควบคุมแบบ Software ภายในหน้าจอ และที่สแกนนิ้วภายใต้หน้าจอ
ด้านล่างของตัวเครื่อง มีไมโครโฟนสำหรับบันทึกเสียงและสนทนา พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และช่องลำโพงตัวเครื่อง
ด้านบนของตัวเครื่อง มีช่องเสียงหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน
ด้านซ้ายของตัวเครื่อง มีเพียงช่องสำหรับถาดใส่ซิมการ์ด โดยเป็นแบบ Hybrid Slot รองรับ 2 Nano SIM หรือ 1 Nano SIM + 1 MicroSD Card
ด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power ที่โดดเด่นด้วยสีแดงในปุ่ม
ด้านหลังของตัวเครื่อง มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของเพชร ตัวเครื่องที่ได้มารีวิวนั้นเป็นสี Knight Black ด้านในสี่เหลี่ยม Diamond นั้นเป็นที่อยู่ของกล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 48+8+2+2 ล้านพิกเซล และไฟแฟลชแบบ LED ด้านล่างมีโลโก้ Vivo พร้อมคำว่า Camera & Music
ภายในกล่องจะมาพร้อมกับ
สเปกทั้งหมดของ Vivo S1 Pro
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้
หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง / ระบบปฏิบัติการ
Vivo S1 Pro มาพร้อมกับ RAM 8 GB และหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 128 GB เมื่อลงแอปพลิเคชั่นไปบางส่วนแล้วเหลือพื้นที่ให้ใช้งานอีกประมาณ 103 GB เก็บรูปได้อีกเป็นหมื่นรูปไม่ต้องกังวลว่าความจำจะเต็ม หรือถ้าเต็มก็สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้ และ Vivo S1 Pro มาพร้อมกับ Funtouch OS เวอร์ชั่น 9.2 บนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android 9 (Pie) ซึ่ง UI มีความสวยงามและใช้งานง่าย
หน้าจอหลัก
หน้าจอขนาดใหญ่ สีสันสดใส Super AMOLED
Vivo S1 Pro มาพร้อมกับหน้าจอไร้ขอบขนาดกว้างถึง 6.38 นิ้ว ใช้งานได้เต็มตาเต็มอารมณ์ แถมสีสันยังสดใสเพราะมาพร้อมกับพาเนลจอแบบ Super AMOLED ที่ช่วยให้การดู YouTube รูปภาพ หรือใช้งานอื่นๆ เช่น เล่นเกม ได้อรรถรสที่ดีมากขึ้น นอกจากนั้นยังรองรับ Always On Display ที่จะช่วยให้เราดูข้อมูลต่างๆ เช่น แจ้งเตือน เวลา สายที่ไม่ได้รับ ได้โดยไม่ต้องเปิดหน้าจอ
สแกนนิ้วใต้จอ พร้อมเอฟเฟกต์สารพัด
Vivo S1 Pro ยังคงใช้ที่สแกนนิ้วมือใต้หน้าจอเหมือนกับ Vivo S1 โดยใน Vivo S1 Pro นี้สามารถสแกนนิ้วได้รวดเร็วขึ้นเล็กน้อย แตะค้างไว้ใช้เวลาไม่ถึง 1 วินาทีก็ปลดล็อคให้แล้ว และยังสามารถเลือกเอฟเฟ็กต์ในการปลดล็อคได้ถึง 6 แบบ ทำให้การปลดล็อคนั้นไม่น่าเบื่อ
ดีไซน์แบบใหม่ พร้อมสีสันที่สวยงามถึง 2 สี
Vivo S1 Pro มาพร้อมกับดีไซน์ด้านหลังแบบใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของเพชร จนได้ออกมาเป็นเลนส์กล้องรูปทรงแบบใหม่ที่สวยงาม พร้อมการวางกล้อง 4 เลนส์ที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ ตัวเครื่อง Vivo S1 Pro มาพร้อมกับสีสันถึง 2 สี ได้แก่ Knight Black และ Fancy Sky ด้านหลังตัวเครื่องสะท้อนแสงได้ออกมาเป็นมุมเส้นๆที่สวยงาม ทำให้ตัวเครื่องของ Vivo S1 Pro มีความสวยงามมาก
ความจุเยอะ ใช้งานลื่นไหล ไม่ต้องกลัวเมมจะเต็ม
Vivo S1 Pro มาพร้อมกับ RAM 8 GB และ ROM 128 GB ที่ไม่ต้องกังวลเลยว่าพื้นที่จัดเก็บหรือหน่วยความจำจะเต็มไหม ใช้งานได้อย่างสบายใจทั้งเก็บรูป เก็บเพลง ลงแอปฯ ได้จุใจ นอกจากนั้น RAM ที่ให้มาถึง 8 GB ก็ทำให้ Vivo S1 Pro ลื่นไหลในทุกการใช้งาน นอกจากนั้นยังสามารถล้างพื้นที่เพื่อลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นออกไปและเพิ่มเนื้อที่การใช้งานได้
ชิปเซ็ต Snapdragon 665 จัดเต็มทุกการใช้งาน
Vivo S1 Pro ใช้ขุมพลังชิปเซ็ต Snapdragon 665 ที่มีความเร็ว 2.0 GHz ใช้งานทั่วไปได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเข้าแอปออกแอปก็ทำได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับ RAM ถึง 8 GB ที่ไม่ต้องกังวลเลยว่าแอปฯ จะปิดตัวเองลง เปิดเป็นสิบแอปฯ หน่วยความจำก็ไม่เต็ม
ทดสอบการเล่นเกม
Vivo S1 Pro สามารถเล่นเกมทุกเกมที่ทดสอบได้อย่างไม่มีปัญหา การควบคุมถือว่าโอเคในระดับหนึ่ง แต่อาจจะมีการกระตุกเล็กน้อยถ้าเจอเกมที่กราฟิกสูงๆ แต่ก็ชดเชยมาด้วยการที่จอมีขนาดใหญ่และสีสันสดใสแบบ Super AMOLED ภาพในเกมก็เลยสวยงามเมื่อเล่นบนเครื่องนี้
ทดสอบการเล่นเกม Speed Drifter
สำหรับเกม Speed Drifter สามารถเปิดกราฟิกระดับสูงและเปิดโหมดเฟรมเรทสูงได้ (ระบบแนะนำมาให้เป็นกราฟิกระดับต่ำและปิดโหมดเฟรมเรทสูง) เมื่อเล่นก็ถือว่าควบคุมได้ค่อนข้างโอเค อาจมีอาการกระตุกบ้างเมื่อมีเอฟเฟ็กต์เยอะๆ แต่โดยรวมถือว่าเล่นได้สบายๆ
ทดสอบการเล่นเกม PUBG
สำหรับเกม PUBG สามารถเปิดกราฟิกได้สูงสุดเพียงระดับสมดุลและเฟรมเรทระดับกลางเท่านั้น การควบคุมในเกมทำได้ดีปานกลาง มีอาการกระตุกเวลาเล่นเล็กน้อย แต่ไม่ได้กระตุกจนเล่นไม่ได้ โดยรวมถ้าไม่ซีเรียสว่าจะต้องใช้กราฟิกสูงๆ Vivo S1 Pro ถือว่าเล่น PUBG ได้สบายๆ
ทดสอบการเล่นเกม Asphalt 9
สำหรับเกม Asphalt 9 การเล่นบนเครื่อง Vivo S1 Pro นั้นทำได้อย่างไม่มีปัญหา แต่กราฟิกอาจมีอาการกระตุกบ้างเมื่อเจอเอฟเฟ็กต์เยอะๆ แต่การควบคุมถือว่าทำได้ดี (โหมด Touchdrive) โดยรวมก็เล่นได้สบายๆ เช่นเดียวกัน
ทดสอบการเล่นเกม Call Of Duty
สำหรับเกม Call Of Duty นั้น ถือว่าเล่นบน Vivo S1 Pro ได้ดีกว่าเกมอื่นๆ ที่ทดสอบ สามารถปรับกราฟิกและเฟรมเรทได้ในระดับสูง การควบคุมทำได้ดี กราฟิกลื่น เล่นได้ไม่สะดุด ภาพใหญ่และสวยเต็มจอ โดยรวมถือว่าเล่นเกมนี้ได้ดีมาก
แบตฯเยอะ ชาร์จไว ใช้ได้ทั้งวัน
Vivo S1 Pro มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ความจุสูงถึง 4,500 mAh ใช้งานได้ทั้งวันหรือข้ามวันได้อย่างแน่นอน จากการทดสอบสั้นๆ โดยการเล่นเกมเป็นเวลา 1 ชั่วโมงนิดๆ แบตเตอรี่ลดไปประมาณ 10% เท่านั้น มั่นใจได้ว่าใช้งานได้ยาวๆ แน่นอน หรือถ้าแบตเตอรี่หมดก็ไม่ต้องกังวล Vivo S1 Pro รองรับชาร์จเร็ว Dual Engine Fast Charging 18W ชาร์จแบตฯได้รวดเร็วทันใจ
กล้องจัดเต็ม ถ่ายชัดทุกมุมมอง
แน่นอนว่าเมื่อเป็นสมาร์ทโฟนจาก Vivo แล้ว ไม่จัดเต็มเรื่องกล้องไม่ได้ ยิ่งรุ่นนี้ที่เน้นเรื่องกล้องมาเป็นอย่างมาก Vivo S1 Pro ให้กล้องหลักความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซลที่ถ่ายได้สวยคมชัดในทุกสภาพแสง, เลนส์ Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมมองภาพกว้าง เก็บรายละเอียดได้เยอะขึ้น, เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เบลอรายละเอียดได้ดีมากขึ้น และเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่สามารถถ่ายมาโครได้ระยะใกล้เพียง 4 เซนติเมตรเท่านั้น โดยกล้องจะมาพร้อมกับ AI ที่สามารถระบุฉากและปรับภาพตามฉากที่เราถ่ายได้ จากการทดสอบกล้องหลังก็ถือว่าถ่ายรูปได้ชัดเจนดีทั้งกลางวันและกลางคืน ยิ่งถ้าเป็นในช่วงที่มีแสงสวยๆ ตัวกล้องสามารถเก็บภาพได้ดีมาก และจะมีการอัปเดท Super Night Mode เข้ามาให้ใช้งานได้เพิ่มเติมทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ในวันที่ 22 ธันวาคมนี้ อดใจรอกันอีกนิด
นอกจากกล้องหลังจะจัดเต็มแล้ว กล้องหน้าก็จัดเต็มไม่แพ้กัน โดยให้ความละเอียดกล้องหน้ามาสูงถึง 32 ล้านพิกเซล พร้อม AI ที่จะช่วยปรับให้ใบหน้าและผิวนั้นสวยงาม นอกจากนั้นยังมีการแนะนำท่าถ่ายภาพด้วย ซึ่งจะช่วยให้เราไม่ต้องคิดหาท่าถ่ายรูป ดูจากคำแนะนำได้เลย โดยจากการทดสอบถ่ายภาพจากกล้องหน้าก็ถือว่าน่าพึงพอใจมาก สีผิวเนียน ถือว่าเซลฟี่ออกมาได้สวยมากๆ
คุณสมบัติการถ่ายภาพ
คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ
ขอขอบคุณ : Vivo Service (Thailand) Co.Ltd
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท