รีวิว Wiko View 4 Lite จอใหญ่ขึ้น 6.52 นิ้ว ได้สัมผัส Android 10 ตั้งแต่แกะกล่อง

โดย ปิตุภูมิ นันทวิทยา โดย สิรภพ ผิวทอง

ปรับขนาดตัวอักษร - ก +ก

รีวิวโทรศัพท์มือถือ Wiko View 4 Lite - วีโก

Wiko View 4 Lite สมาร์ทโฟนช่วงเริ่มต้นรุ่นใหม่จาก Wiko โดยมาพร้อมหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นเป็น 6.52 นิ้ว จากเดิม Wiko View 3 Lite มีหน้าจอเพียง 6.09 นิ้วเท่านั้น ส่วนความอึดของแบตเตอรี่ที่เป็นจุดเด่นแต่ดั่งเดิมยังคงให้มาเน้นๆ ที่ 4,000mAh เช่นเคย และมาพร้อมกล้องหลังคู่ 13+2 ล้านพิกเซล ถ่ายรูปหน้าชัดหลังเบลอได้เนียนๆ แต่สิ่งที่เหนือชั้นกว่ารุ่นอื่นในราคาพอๆ กันก็คือ การได้สัมผัสระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดอย่าง Android 10 ซึ่ง Wiko View 4 Lite พร้อมเสิร์ฟให้ทันทีตั้งแต่แกะกล่อง

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ตัวเครื่อง Wiko View 4 Lite เป็นแบบ Unibody ไม่สามารถเปิดฝาหลังได้ ซึ่งมีขนาด 167x76.8x8.45 มิลลิเมตร และน้ำหนักตัวอยู่ที่ 174 กรัม การจับใช้งานก็เรียกว่าสอบผ่านเรื่องของน้ำหนัก แต่การจับใช้งานอาจจะดูใหญ่อยู่นิดหน่อยสำหรับสุภาพสตรี

หน้าจอแสดงผลมีความกว้าง 6.52 นิ้ว ความละเอียด 1600x720 พิกเซล และมีดีไซน์รอยแหว่งแบบทรงหยดน้ำ

เหนือหน้าจอแสดงผลมีรอยแหว่งทรงหยดน้ำ โดยในนั้นมีกล้องหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ทางขวาเป็นช่องไฟแจ้งเตือนสถานะ และเหนือกล้องขึ้นไปอีกคือลำโพงเสียงสำหรับการสนทนา

ล่างหน้าจอแสดงผล ไม่มีปุ่มการใช้งานใดๆ ส่วนปุ่มนำทางจะมาในรูปแบบซอฟแวร์

ข้างขวาตัวเครื่องมีปุ่มมาตรฐานคือ ปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียงมาในลักษณะปุ่มยาว และปุ่มล่างเป็นปุ่มเพาเวอร์สำหรับการเปิดปิดเครื่อง หรือพักหน้าจอ

ข้างซ้ายตัวเครื่อง ช่องบนเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ด ซึ่งเป็นถาดแบบ 3 ช่องรองรับการใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM 2 ช่อง และอีกช่องเป็นช่องใส่ MicroSD Card ส่วนปุ่มถัดลงมาด้านล่างคือปุ่มเรียกใช้งาน Google Assistant

ส่วนบนตัวเครื่อง จะพบกับช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

ส่วนใต้ตัวเครื่อง ตรงกลางเป็นพอร์ต Micro USB 2.0 ทางซ้ายเป็นรูไมโครโฟน และทางขวาเป็นช่องลำโพงเสียง

ฝาหลังตัวเครื่องในส่วนมุมบนซ้ายคือ กล้องหลังคู่ ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล ใต้กล้องมีไฟแฟลช และตรงกลางฝาหลังจะพบกับโลโก้ Wiko

อุปกรณ์ภายในกล่อง

ตัวเครื่อง Wiko View 4 Lite
อะแดปเตอร์
สาย Micro USB
เคสซิลิโคน และฟิมล์กันรอย
เข็มนำถาดซิมออก
คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคทั้งหมดของ Wiko View 4 Lite

ขนาดตัวเครื่อง : 167x 76.8x 8.45 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 174 กรัม
หน้าจอแสดงผล : IPS-LCD กว้าง 6.52 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600x720 พิกเซล) ดีไซน์รอยแหว่งทรงหยดน้ำ
ชิปเซ็ต : MediaTek A25 Octa-Core ความเร็ว 1.8GHz
RAM : 2GB
ROM : 64GB สามารถเพิ่้ม MicroSD Card ได้ 256GB
ระบบปฏิบัติการ : Android 10
กล้องหลังคู่ : ความละเอียด 13 (เลนส์หลัก) + 2 (Depth) ล้านพิกเซล
กล้องหน้า : ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
รองรับ Nano SIM 2 ช่อง สัญญาณ 4G
การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 b/g/n, GPS, A-GPS, Bluetooth 4.2, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต Micro USB 2.0
ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้า
แบตเตอรี่ : 4,000mAh

RAM และพื้นที่เก็บข้อมูล
RAM 2GB อาจจะดูน้อยไปหน่อย แต่เอาจริงๆ หากนำมาใช้งานพื้นฐาน และไม่เปิดหลายแอพฯ มากจนเกินไป ก็ถือว่ายังใช้งานได้อย่างสะดวก ส่วนพื้นที่เก็บข้อมูลภายในมีการเปิดขึ้นเป็น 64GB เรียกว่าค่อนข้างจุใจ เก็บข้อมูล และดาวน์โหลดแอพฯ มาใช้งานได้แบบสบายๆ แถมยังสามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้อีกด้วยความจุสูงสุดถึง 256GB

ระบบปฏิบัติการ
เมื่อเปิดเครื่องใช้งาน Wiko View 4 Lite เป็นครั้งแรก ก็ได้ผมกับประสบการณ์ Android 10 ทันที เรียกว่าเป็นซอฟแวร์เวอร์ชั่นล่าสุด ทำให้พบกับฟีเจอร์การใช้งานที่ทันสมัย และยังมีการประหยัดพลังงานมากขึ้นกว่า Android 9 Pie อีกด้วย ในขณะฟังก์ชั่นการใช้งานที่ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น ก็จะอยู่ในการตั้งค่าวีโกฟีเจอร์ทั้งหมด

หน้าจอหลัก

แถบนำทาง
ตามปกติแทบนำทางจะมาในรูปแบบ 3 ปุ่มทางด้านล่างหน้าจอ แต่หากต้องการปรับเป็นท่าทางการนำทางก็สามารถปรับมาใช้ได้เช่นกัน โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > วีโกฟีเจอร์ > แถบนำทาง

ปิดติ่งหน้าจอ
สำหรับผู้ใช้งานที่ไม่ชอบรอยแหว่งบนหน้าจอ ในวีโกฟีเจอร์ก็มีให้ปิดรอยแหว่งตรงนี้เช่นกัน ซึ่งเข้าไปปิดได้ที่ การตั้งค่า > วีโกฟีเจอร์ > ติ่งหน้าจอ

โหมดสีเข้ม
แม้จะเป็นสมาร์ทโฟนช่วงเริ่มต้น แต่ก็มีฟีเจอร์ Dark Mode มาให้ด้วย ซึ่งทำให้ธีมการใช้งานเป็นสีดำ และมีตัวหนังสือสีขาว ใช้งานตอนกลางคืนได้สบายตามากขึ้น (จะมีลกับบางแอพฯ เท่านั้น) โดยเข่าไปเปิดใช้งานได้ที่ การตั้งค่า > การแสดงผล > ขั้นสูง > ธีมสีเข้ม

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานด้วย PCMark (Work 2.0) ได้คะแนน 5,392 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย 3DMark Overall Sling Shot Extreme - OpenGL ES 3.1 ได้ 428 คะแนน
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 5 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

หน้าจอใหญ่เต็มๆ 6.52 นิ้ว
มารอบนี้จัดเต็มในส่วนหาจอแสดงผล โดย Wiko View 4 Lite มาพร้อมหน้าจอกว้างถึง 6.52 นิ้ว ความละเอียด HD+ ทำให้ใช้งานดูวิดีโอ หรือ Youtube ได้แบบสบายๆ ได้ทั้งจอใหญ่ และรับชมไฟล์วิดีโอที่มีความชัดพอสมควร

ทดสอบการใช้งานพื้นฐาน
ในส่วนของชิปเซ็ตอาจจจะเป็นชิปที่ไม่ใช้รุ่นที่แรงมากมาย แต่ก็ยังเป็นชิปเซ็ตแบบ Octa-Core ทำให้การใช้งานพื้นฐานก็ยังทำได้ดี สามารถเล่นเหล่าแอพฯ สังคมออนไลน์ได้ทั้งหมด

ทดสอบการเล่นเกม
ด้วยขุมพลัง MediaTek A25 Octa-Core ทำให้การเล่นเกมอาจจะไม่สามารถเล่นเกมที่ต้องการสเปคแรงๆ ได้ แต่ก็ยังมีเกมยอดนิยมบางเกมสามารถเล่นได้อยู่อย่างเช่น Free Fire เกมยิงเอาชีวิตรอดขวัญใจวัยรุ่น โดย Wiko View 4 Lite สามารถปรับกราฟฟิกระดับสูงได้ และดันเฟรมเรตระดับสูงได้เช่นกัน

เรียกใช้งาน Google Assistant ได้ง่าย
ปุ่มพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาทางข้างซ้ายตัวเครื่อง คือปุ่มเรียกใช้งาน Google Assistant นั้นเอง ใครที่ชอบใช้งานในส่วนก็น่าจะชื่นชอบเป็นพิเศษ อีกอย่าง Google Assistant รองรับภาษาไทยแล้ว แถมยังมีความฉลาดในการสั่งการมากขึ้่นอีกด้วย

สแกนใบหน้า
แม้ว่าที่สแกนลายนิ้วมือทางด้านหลังจะโดนนำออกไป แต่ก็มาแทนที่ด้วยระบบสแกนใบหน้า ซึ่งการสแกนใบหน้าก็ทำได้ดี และรวดเร็ว แต่การใช้งานในที่แสงน้อยอาจยังไม่เสถียนเท่าไหร่ เนื่องจากไม่มีเซนเซอร์ 3 มิติเหมือนกับสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปๆ

แบตเตอรี่อึด 4,000mAh
ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของ Wiko View Series ด้วยการใช้งานสุดอึดทนนาน ด้วยขนาดแบตเตอรี่ 4,000mAh โดยทาง Wiko ออกตัวแรงเลยว่า ใช้ได้ยาวนานถึง 2 วัน และในการทดสอบจริง ได้ใช้งานทดสอบประสิทธิภาพเครื่องไปทั้งหมด 2 แอพฯ จาก 99% เหลือ 92% ก็เรียกว่าอึดพอสมควร เพราะการทดสอบจะมีการกินทรัพยากรณ์เครื่องพอสมควร

การใช้งานกล้องถ่ายรูป
การใช้งานกล้องถ่ายรูปก็ถือว่าใช้งานค่อนข้างดี และมีระบบ AI มาช่วยอีกด้วย โดยกล้องหลังเป็นเลนส์คู่ ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช ส่วนกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ก็มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และมีการปรับแต่งหน้าสวยด้วย Face Beauty

ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ
การถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ หรือโหมด Bokeh จะใช้งานได้เพียงกล้องหลังเท่านั้น โดยโหมด Bokeh จะสามารถปรับความเบลอของพื้นหลังได้ตามต้องการ แต่ภาพที่ออกมากอาจจะดูสีไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่ และการเบลอยังดูไม่เนียนเท่าที่ควร

คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง

ความละเอียดภาพถ่ายกล้องหลัง : 4160x3120 (4:3), 2976x2976 (1:1), 4160x1872 (เต็มจอ) พิกเซล
ความละเอียดภาพถ่ายกล้องหน้า : 1920x2560 (4:3), 1600x1600 (1:1), 2560x1152 (เต็มจอ) พิกเซล
ไฟแฟลช : อัตโนมัติ, เปิด, ปิด, เปิดค้าง
HDR : อัตโนมัติ, เปิด, ปิด
AI : เปิด, ปิด
ถ่ายเมื่อแตะจอ : เปิด, ปิด
ตั้งเวลาถ่าย : 2, 52 10 วินาที
เสียงชัตเตอร์ : เปิด, ปิด
ภาพโครงสร้าง : ปิด, แสดงระดับการถ่ายภาพ, เส้นแบ่งระนาบ
ข้อมูลตำแหน่ง GPS : เปิด, ปิด
ลายน้ำ : เปิด, ปิด
ป้องกันการกะพริบ : อัตโนมัติ, 50Hz, 60Hz

คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ

ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหลัง : 1920 x 1080 (1080p), 1280 x 720 (720p), 1600x720 (เต็มจอ) พิกเซล
ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหน้า : 1920 x 1080 (1080p), 1280 x 720 (720p), 1600x720 (เต็มจอ) พิกเซล
แฟลช : ปิด, เปิดค้าง
เคลื่อนไหวช้า : เปิด, ปิด