เห็นได้ชัดทาง Huawei ได้เริ่มขยับขยายตลาดอุปกรณ์ด้าน IT มากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากสมาร์ทโฟนที่เป็นสินค้าสุดโดดเด่น พวกเขายังมีโน๊ตบุ๊คเป็นอีกอุปกรณ์ที่มองข้ามไม่ได้ทีเดียว โดยล่าสุดเป็น Huawei Matebook D15 โน๊ตบุ๊คสุดลงตัวสำหรับชาวออฟฟิต ที่มีสเปคเพรียบพร้อมสำหรับการทำงาน และดีไซน์มาเรียบๆ แต่ดูสวยงาม นอกจากนี้ยังมีระบบ Huawei Share ที่ให้สมาร์ทโฟนของ Huawei ทำงานได้ทันทีในหน้าจอโน๊ตบุ๊ค ด้วยการเชื่อมต่อแสนง่ายดายผ่าน NFC นั้นเอง สำหรับราคาของ Huawei Matebook D15 สนอยู่ที่ 17,990 เท่านั้น
ตัวเครื่อง Huawei Matebook D15 เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีการตัดของให้โค้งเพื่อการจับถือได้ถนัด รอบตัวเครื่องมีขนาด 22.9x357.8x16.9 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 162 กรัม ถือว่าเป็นขนาดใหญ่ระดับกลางๆ และยังถือใช้งานได้สบายๆ
ข้างซ้ายตัวเครื่อง จะพบกับพอร์ตใช้งาน 3 พอร์ต ประกอบไปด้วย พอร์ต USB Type-C, พอร์ต USB Type-A และพอร์ต HDMI
ข้างขวาตัวเครื่อง มีพอร์ต USB Type-A อยู่ 2 ช่อง และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
ใต้ตัวเครื่อง มีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง และข้างซ้าย กับข้างขวาคือลำโพงเสียง
เมื่อเปิดฝาพับขึ้นมา จะเจอกับหน้าจอขอบบางขนาดใหญ่ เป็นพาแนล IPS กว้าง 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล อัตราส่วน 16:9 ความสว่างสามารถปรับได้สูงสุด 250nits และการปรับมุมมองของหน้าจอ สามารถเปิดได้กว้างถึง 178 องศา
ถัดมาตรงส่วนล่าง เป็นแป้นพิมพ์แบบ Qwerty ไม่มีปุ่มตัวเลขทางด้านขวา ตรงกลางระหว่างปุ่ม F6 กับ F7 จะเป็นกล้องสำหรับใช้ Video Call และไม่มีไฟใต้แป้นพิมพ์ (Backlit) ต่อมาทางขวาจะมีปุ่มเพาเวอร์สำหรับเปิดเครื่อง และเป็นที่สแกนลายนิ้วมือในตัว ส่วนด้านล่างสุดเป็น TouchPad
อุปกรณ์ภายในกล่อง
สเปคทั้งหมดของ Huawei Matebook D15
ระบบปฏิบัติการ
Huawei Matebook D15 จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 ตั้งแต่เปิดเครื่องเลย แน่นอนว่าเป็นซอฟแวร์แท้ สามารถอัปเดตเป็นเวอร์ชั่นใหม่ได้แบบต่อเนื่อง ไม่ต้องไปเสียเงินเพิ่มเพื่อซื้อระบบปฏิบัติการใหม่มาติดตั้งเอง
RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน
Huawei Matebook D15 มาพร้อม RAM 8GB DDR5 แบบ Dual Channel ทำให้การใช้งานมีความไหลลื่น และใช้งานหลายๆ โปรแกรมได้ระดับที่ดี ส่วนการเก็บข้อมูลจะมีแบบคือ SSD 256GB และ HDD 1TB แน่นอนว่าระบบปฏิบัติการจะติดตั้งอยู่ใน SSD ทำให้ซอฟแวร์มีความลื่นเป็นอย่างมาก ส่วนการเก็บข้อมูลที่สำคัญก็สามารถไปเก็บใน HDD ได้แบบสบายๆ
ความเร็วในการอ่านเขียนข้อมูล
Huawei Matebook D15 จะมีฮาร์ดดีสแบบ SSD และ HDD มาให้ทันที โดยระบบปฏิบัติการ Windows 10 จะถูกติดตั้งไปยัง SSD ทำให้การทำงานมีความรวดเร็วมาก หากใครต้องการจะลงโปรแกรมเพิ่มเติมก็แนะนำให้ติดตั้งไปยัง Drive C ส่วน HDD ที่ถูกสร้างมาเป็น Drive D ก็แนะนำว่าให้เก็บไฟล์ข้อมูลบต่างๆ จะดีกว่า
ผลทดสอบประสิทธิภาพต่างๆ
การทดสอบประสิทธิภาพของ Huawei Matebook D15 อาจไม่ได้คะแนนสูงระดับท็อปๆ แต่ก็ถือว่าเป็นคะแนนที่ใช้งานพื้นฐานได้ดี สามารถใช้ทำงาน ดูหนังฟังเพลง หรือท่องเว็บไซต์ต่างๆ ได้อย่างราบรื่น
เหมาะสำหรับสายทำงาน
ด้วยสเปคของ Huawei Matebook D15 ก็คงแนะนำให้กับสายทำงานเลยดีกว่า เพราะชิปเซ็ต Ryzen 5 3500U เป็นชิปเซ็ตแบบ 4 Core และ 8 Threads แน่นอนว่าสามารถใช้ทำงานหลายๆ อย่างพร้อมกันได้ดี ทั้งนี้ยังมีการจอแยกอย่าง AMD Radeon Vega 8 ทำให้ทำงานด้านกราฟฟิกได้อีกพอสมควร แต่น่าเสียดายที่แป้นพิมพ์ไม่มีไฟใต้หน้าจอ (Backlit) ทั้งๆ ที่เป็นโน๊ตบุ๊คสำหรับการทำงาน
ฟีเจอร์ Huawei Share
สำหรับฟีเจอร์ Huawei Share คือระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับโน๊ตบุ๊ค ซึ่งหน้าจอสมาร์ทโฟนจะมาปรากฏบนหน้าจอของโน๊ตบุ๊คแบบ Multi Widows และสามารถทำงานต่างๆ ร่วมกันได้ทันทีจากโน๊ตบุ๊ค เช่นโอนย้ายไฟล์ข้อมูลจาก โน๊ตบุ๊คสู่สมาร์ทโฟน หรือ สมาร์ทโฟนสู่โน๊ตบุ๊ค ด้วยวิธีการอย่าง Drag and Drop หรือจะนำมาเล่นเกมมือถือบนโน๊ตบุ๊คก็ทำได้ทันที
ส่วนการเชื่อมต่อก็ง่ายๆ เพียงใช้สมาร์ทโฟน Huawei เปิดการใช้งาน NFC (รุ่นที่รองรับ NFC) จากนั้นก็แตะไปยังโลโก้ Huawei Share ที่อยู่ด้านล่างคีบอร์ด กดตกลงบนหน้าจอสมาร์ทโฟน และ Allow ในโน๊ตบุ๊ค เพียงเท่านี้หน้าจอสมาร์ทโฟนก็จะไปปรากฏในหน้าจอ Huawei Matebook D15
หน้าจอใหญ่ 15.6 นิ้ว กว้างขอบบาง และกล้องอยู่ที่คีย์บอร์ด
หน้าจอแสดงผลของ Huawei Matebook D15 ถือว่าดูกว้างขอบบางมากๆ พร้อมขนาด 15.6 นิ้ว ซึ่งดีทีเดียวกับสายรับชมวิดีโอ หรือดูหนัง นอกจากนี้ยังหน้าจอยังเป็นพาแนล IPS ทำให้แสดงผลของสีจะตรงตามจริง ส่วนเบื้องหลังที่ทำให้หน้าจอกว้างขอบบางคือกล้องที่ถูกย้ายมาอยู่ในบริเวณคีย์บอร์ด (ระหว่างปุ่ม F6 กับ F7)
ทดสอบการเล่นเกม
ว่ากันตามตรง Huawei Matebook D15 ไม่ใช่โน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมหนักๆ เพราะสเปคที่ได้มาเหมาะสำหรับการทำงานพิมพ์งานมากกว่า แต่เมื่อจับมาทดสอบการเล่นเกมกับเกมอย่าง Dota 2 ก็ปรากฏว่า ยังสามารถเล่นได้อยู่ แต่ต้องปรับกราฟฟิกแบบกลางๆ ไปถึงต่ำ ซึ่งภาพที่ออกมาอาจจะไม่สวย แต่ยังพอเล่นได้
รองรับการชาร์จเร็ว
พอร์ตการชาร์จแบตเตอรี่ของ Huawei Matebook D15 จะเป็น USB Type-C และยังรองรับการชาร์จเร็วสูงสุดถึง 65W สามารถชาร์จไว้เพียง 30 นาที ก็จะได้แบตเตอรี่มาถึง 53% ซึ่งอะแดปเตอร์ที่ติดมากับกล่องยังเป็นแบบจ่ายไฟ 65W เรียกว่าไม่ต้องไปหาซื้อใหม่เลย Huawei จัดให้มาแล้ว
ระบบสแกนลายนิ้วมือ
ระบบความปลอดภัยของ Huawei Matebook D15 จะมีที่สแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อกเข้าใช้งานเครื่อง โดยที่สแกนลายนิ้วมือจะอยู่ที่ปุ่มเพาเวอร์ ส่วนการสแกนก็มีความรวดเร็วมากทีเดียว เมื่อมีการพักหน้าจอก็สามารถกดปุ่มเพาเวอร์เพื่อเปิดเพียง 1 ครั้ง ระบบก็จะสแกน และให้เข้าใช้งานได้ทันที
ในตอนนี้ Huawei Matebook D15 ก็วางขายในประเทศไทยเรียบร้อยอย่างเป็นทางการ สนราคาอยู่ที่ 17,990 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่ามากๆ เพราะอย่าลืมว่ามาพร้อม Windows 10 ทันที ส่วนตัวเลือกสีจะมีให้เลือกเพียงสี Space Grey เท่านั้น
ทำความรู้จัก TECNO SPARK 30C หน้าจอ 120Hz ทนน้ำทนฝุ่น IP54 ลำโพงสเต...
Sony Thai เปิดจองกล้องระดับเรือธงในตระกูล Alpha 1 Series รุ่น Alpha...
OPPO Enco Air4 และ OPPO Pad 3 Pro คู่หูอุปกรณ์ IoT สุดล้ำที่พร้อมตอ...
ROG Phone 9 Series กับฟังก์ชัน AniMe Vision display และลูกเล่น AI เ...
Samsung Galaxy S25 Series สรุปข่าวลือล่าสุดก่อนเปิดตัวต้นปี 2025
พรีวิว Samsung Galaxy Z Flip 6 ครั้งแรกมือถือจอพับกันน้ำได้ Samsung เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy Z Flip 6 รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมเฉดสีสไตล์มินิมอล สดใส เก๋ไก่ น่ารักเอามากๆ มี 4 เฉดสีใ...