การมาของ Huawei P40 Pro รอบนี้ ยังคงรักษามาตรฐานความเป็น Huawei P Series ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยความสุดยอดของกล้องหลัง 4 แบบ Ultra Vision Leica ที่พร้อมใช้ถ่ายรูปได้ทันทีทั้งกลางวัน หรือกลางคืน ด้านสเปค และฟีเจอร์อื่นๆ ก็ถูกจับใส่มาแบบครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ตสุดทรงพลัง Kirin 990 รองรับสัญญาณ 5G หน้าจอสัมผัสสุดลื่นจากอัตรา Refresh Rate ที่ 90Hz รวมไปถึงกล้อง IR เพื่อให้สแกนใบหน้าในตอนกลางคืนได้อย่างแม่นยำ เอาหล่ะ ! มาดูการใช้งานจริงกันดีกว่าว่า Huawei P40 Pro จะมีอะไรถูกใจบ้าง และมีอะไรดีขึ้นจาก Huawei P30 Pro บ้าง
ตัวเครื่อง Huawei P40 Pro จะมีขนาด 158.2 x 72.6 x 9 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 209 กรัม ถือว่ามีขนาดพอๆ กับ Huawei P30 Pro ยังจับใช้งานได้อย่างถนัดเช่นเคย
หน้าจอแสดงผลโค้ง Overflow Display พาแนล OLED กว้าง 6.58 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2640x1200 พิกเซล) อัตรา Refresh Rate 90Hz มีรอยแหว่งแบบจอเจาะรูอยู่มุมบนซ้าย และรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
เหนือหน้าจอแสดงผล ในบริเวณจอเจาะรูมุมบนซ้ายจะพบกับ กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ถัดมาเป็นเซนเซอร์ IR Depth / Gesture Camera ช่วยในการสแกนใบหน้าในตอนกลางคืน และสั่งการไม่สัมผัสตัวเครื่อง และขวาสุดเป็นเซนเซอร์ Ambient กับ Proximity ส่วนลำโพงเสียงสำหรับการสนทนาจะมาในรูปแบบการสั่นของหน้าจอทำให้เกิดเสียง
ส่วนล่างหน้าจอแสดงผล ไม่มีปุ่มการใช้งานใดๆ โดยปุ่มนำทางจะมาในรูปแบบซอฟแวร์
ข้างซ้ายตัวเครื่องไม่มีปุ่มการใช้งานใดๆ
ข้างขวาจะพบกับปุ่มยาวไว้สำหรับเพิ่มลดเสียง และปุ่มข้างล่างเป็นปุ่มเพาเวอร์สำหรับพักหน้าจอ หรือเปิดปิดเครื่อง
ส่วนบนตัวเครื่อง จะมีช่องไฟอินฟราเรตเพื่อใช้เป็นรีโมตสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ และอีกรูคือช่องไมโครโฟน
ส่วนใต้ตัวเครื่อง ทางซ้ายสุดเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ด โดยถาดเป็นแบบ 2 ช่อง รองรับการใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM และ NanoSD Card ถัดทางขวาคือรูไมโครโฟน ตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C และขวาสุดเป็นช่องลำโพงเสียง
ฝาหลังตัวเครื่อง จะพบกับกล้องหลังอยู่มุมบนซ้าย ประกอบไปด้วยเลนส์หลัก 50MP, เลนส์ Ultra Wide Cine ความละเอียด 40MP, เลนส์ Telephoto แบบ Periscope ความละเอียด 12MP, เซนเซอร์ ToF Camera และไฟแฟลช ทั้งหมดจะถูกจัดเรียงบนแท่นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขอบมน ในขณะที่ดีไซน์ฝาหลังจะเป็นสีด้าน (Matte Design) และเกิดรอยนิ้วมือได้ยาก
สเปคทั้งหมดของ Huawei P40 Pro
พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน และ RAM
สำหรับตัวเลือกพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน และ RAM ของ Huawei P40 Pro จะมีให้เลือกเพียงตัวเลือกเดียวเท่านั้นคือ RAM 8GB + ROM 256GB โดย RAM ขนาด 8GB ถือว่าเยอะมากแล้วสำหรับสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ทำให้การใช้งานมีความราบรื่น และยังทำงานแบบ Multi Windows ได้ดีอีกด้วย ส่วนพื้นที่เก็บข้อมูลภายในเมื่อเปิดเครื่องมาครั้งแรก ระบบจะมีการใช้พื้นที่ไปประมาณ 17.32GB ทำให้เหลือใช้งานจริงราวๆ 238GB ก็เรียกว่าเป็นพื้นที่ที่เยอะมากทีเดียว แต่หากยังไม่พอก็สามารถเพิ่ม NanoSD Card จากทาง Huawei ได้อีกทาง
ระบบปฏิบัติการ
ในด้านซอฟแวร์ Huawei P40 Pro จะรันบนระบบปฏิบัติการ EMUI 10.1 บนพื้นฐาน Android 10 ซึ่งจะมีรูปแบบการใช้งานที่สวยงามเรียบง่าย และอนิเมชั่นดูลื่นตา แต่จะไม่มีการบริการจาก Google อย่าง GMS ทำให้ Play Store, Youtube, Google Maps หรือ Google Chrome เป็นต้น จะไม่สามารถใช้งานได้ทั้งหมด
หน้าจอหลัก
หน้าจอหลักของ Huawei P40 Pro จะรูปร่างหน้าตา UI และ UX ตามฉบับ EMUI 10.1 ซึ่งให้ประสบการณ์ที่ดูน่าใช้งาน เน้นความเรียบง่ายเข้าไว้ และยังมีอนิเมชั่นการกด การสัมผัส การสลับเปลี่ยนแอพฯ ที่ลื่นตาลื่นนิ้วเป็นพิเศษ
Huawei AppGallery
ในเมื่อไม่มี GMS (Google Mobile Service) ทาง Huawei ก็ต้องดัน HMD (Huawei Mobile Service) ออกมาใช้เอง โดยการดาวน์โหลดแอพฯ ต่างๆ มาใช้งาน จะต้องใช้ Huawei AppGallery ในการหาแอพฯ ต่างๆ มาใช้งาน ว่ากันตามตรงแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานแบบจำเป็นๆ Huawei AppGallery ยังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร แอพฯ ยังน้อย แต่อนาคตก็เชื่อว่า Huawei กำลังทะยอยพาแอพฯ เหล่านั้นมาลงให้มากกว่าเดิมแน่นอน
แล้วจะหาแอพฯ ยอดฮิตมาใช้งานได้อย่างไร ? เพียงเปิดเบราเซอร์ และค้นหาไฟล์ .apk มาติดตั้งเองได้เลย แต่เหล่าแอพฯ จาก Google จะโดนบล็อก เพราะ Huawei P40 Pro ไม่ได้ติดตั้ง GMS มาในเครื่อง แต่ก็ยังมีวิธีติดตั้ง GMS ได้ด้วยตนเองอยู่ เพียงใช้งวิธีเหมือนกับ Huawei Mate 30 Pro ตามลิ้งค์ด้านล่าง
โหมดมืด
หลังจาก EMUI 10 ได้เปิดตัวออกมา ในโหมดมืดก็มีการปรับแต่งให้ดูสบายตามากขึ้น แน่นอนว่าธีมต่างๆ จะถูกปรับเปลี่ยนเป็นสีดำ ในขณะที่ตัวหนังสือจะเป็นสีขาว แต่ไม่ได้ขาวแบบสว่างจ้า จะเป็นขาวแบบดูสบายตาเมื่อใช้งานในตอนกลางคืน ที่สำคัญ Huawei P40 Pro เป็นหน้าจอแบบ OLED ทำให้โหมดมืดจะมีประโยชน์มากขึ้นในการช่วยประหยัดพลังงาน สามารถเข้าไปเปิดใช้งานโหมดมืดได้ที่ การตั้งค่า > จอแสดงผลและความสว่าง > โหมดมืด
มัลติวินโดว์
การแบ่งหน้าจอ หรือมัลติวินโดว์ ใน EMUI 10.1 จะมีการแบ่งหน้าจอแบบใหม่ ซึ่งมีวิธีใช้งานด้วยการเปิดถาดข้างหน้าจอ ด้วยการเลื่อนขอบหน้าจอทางซ้ายหรือขวา มาด้านในแล้วค้างเอาไว้ เพื่อเปิดถาดแอพฯ จากนั้นโหมดการแบ่งหน้าจอ หรือมัลติวินโดว์ จะมีให้ใช้งาน 2 แบบคือ แบบแบ่งหน้าจอ และเปิดหน้าต่างลอย
- แบบแบ่งหน้าจอ = เลื่อนแอพฯ ในถาดออกมาข้างนอก
- เปิดหน้าต่างลอย = กดแอพฯ ในถาด
ท่าทางในอากาศ
ท่าทางในอากาศ หรือ Air Gesture มีให้ใช้งานตั้งแต่ Huawei Mate 30 Pro ซึ่ง Huawei P40 Pro ก็ได้หยิบมาให้ใช้ด้วยเช่นกัน โดยมีให้ใช้งาน 2 แบบคือ เลื่อนหน้าจอขึ้นลง และแคปหน้าจอ แต่การเลื่อนหน้าจอขึ้นลงยังใช้งานติดๆ ขัดๆ พอสมควร จึงแนะนำให้ใช้แต่แคปหน้าจอจะดีกว่า
วิธีใช้งานแคปหน้าจอ = แบมือไปที่หน้าจอ (ห่างประมาณ 20-40 เซนติเมตร) จนมีสัญลักษณ์รูปมือขึ้นตรงส่วนบนหน้าจอ จากนั้นให้กำมือเพื่อแคปหน้าจอ
* การใช้งานบน Huawei P40 Pro จะเหมือน Huawei Mate 30 Pro
AI Auto Rotate
นี้ก็เป็นอีกฟีเจอร์ที่ Huawei P40 Pro ได้นำมาใช้จาก Huawei Mate 30 Pro โดยระบบ AI Auto Rotate จะเป็นการหมุนหน้าจอตามใบหน้าของผู้ใช้ เช่นเวลานอนตะแคงเล่นสมาร์ทโฟน ปกติหน้าจอจะหมุนเป็นแนวนอนให้อัตโนมัติ แต่ Huawei P40 Pro จะไม่หมุนตาม สามารถนอนเล่นในหน้าจอแนวเดิมได้
* การใช้งานบน Huawei P40 Pro จะเหมือน Huawei Mate 30 Pro
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้
หน้าจอแสดงผล Refresh Rate ที่ 90Hz
หน้าจอแสดงผลมาแบบดีไซน์ขอบโค้ง 4 ด้าน ซึ่งทาง Huawei เรียกว่า Overflow Display มาพร้อมพาแนล OLED ความกว้าง 6.58 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2640x1200 พิกเซล) ที่สำคัญนอกจากหน้าจอจะสวยขึ้น และกว้างขึ้น ยังถูกเพิ่มประสิทธิภาพด้วยอัตรา Refresh Rate 90Hz ซึ่งการสัมผัสถือว่ามีความลื่นมากขึ้น และภาพแสดงผลได้แบบติดนิ้ว เป็นอีกสิ่งที่คนใช้ Huawei P30 Pro อยากจะเปลี่ยนมาใช้ Huawei P40 Pro เลยทีเดียว
ชิปเซ็ต Kirin 990 5G
การขับเคลื่อนของ Huawei P40 Pro จะใช้ Kirin 990 5G ซึ่งเป็นชิปเซ็ตแบบ 7 นาโนเมตร + EUV ทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงานระดับสูง ส่วนด้าน AI จะได้ชิป NPU แบบ Dual Core ทำให้มีความฉลากระดับสูง และยังมีการประมวลผลกราฟฟิกจาก Mali-G76 MC16 เพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมได้อย่างดี นอกจากนี้ยังมีโมเดมรองรับการใช้งาน 5G ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนแห่งอนาคตก็ว่าได้
ทดสอบการเล่นเกม
Huawei P40 Pro สเปคมาแรงขนาดนี้ด้วย Kirin 990 5G และยังมีระบบ GPU Turbo ทำให้การเล่นเกมเป็นไปอย่างราบรื่นมากๆ สามารถใช้เล่นเกมยอดฮิตในปัจจุบันได้ทั้งหมด ซึ่งในการทดสอบโดบใช้เกม PUBG Mobile และ Asphalt 9 ก็สามารถปรับการตั้งค่ากราฟฟิกในระดับสูงได้ทั้ง 2 เกม พร้อมได้เฟรมเรตในระดับทีดีเยี่ยม ไม่มีอาการเฟรมเรตตกให้เห็น
ระบบความปลอดภัย
ความปลอดภัยของ Huawei P40 Pro จะมาให้ใช้งานถึง 2 แบบด้วยกัน อย่างแรกคือการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ที่มีการขยับตำแหน่งให้สูงขึ้น และพื้นที่การสแกนมีความกว้างขึ้นจาก Huawei P30 Pro ทำให้สแกนได้อย่างสะดวก
อย่างที่ 2 คือการสแกนใบหน้า โดย Huawei P40 Pro จะมีเซนเซอร์ IR ทำให้การสแกนใบหน้าเพื่อปล็ดล็อกเข้าใช้งานเครื่องได้ทุกสภาพแสง และแม่นยำมากทีเดียว ตรงนี้เป็นอีกข้อดีที่หาไม่ได้จาก Huawei P30 Pro
แบตเตอรี่ 4,200mAh ชาร์จไว 40W
ทั้งขนาดแบตเตอรี่ และการชาร์จเร็วแบบมีสายของ Huawei P40 Pro ยังเหมือนกับ Huawei P30 Pro ด้วยขนาด 4,200mAh และรองรับการชาร์จเร็วที่ 40W (Huawei Super Charge) ส่วนการชาร์จไร้สายจะสามารถชาร์จเร็วได้ถึง 27W ซึ่งการใช้งานของแบตเตอรี่ 4,200mAh ก็พอใช้งานพื้นฐานได้ตลอดทั้งวัน
การใช้งานกล้องถ่ายรูป
จุดเด่นของ Huawei P Series จะอยู่ที่กล้องถ่ายรูปนี้เลย โดย Huawei P40 Pro จะมาพร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียด 40+50+12+ToF พิกเซล รองรับการถ่ายภาพในทุกสถานการณ์ และทุกสภาพแสงเช่นเคย และยังใช้เซนเซอร์ขนาด 1/1.28 นิ้ว ฟิลเตอร์กรองแสง RYYB และยังมีการทำงานร่วมกับ AI ที่ดีขึ้นทั้งการปรับแต่งใบหน้า และระบบ AI จดจำซีน เพื่อการถ่ายภาพได้ออกมาสวยงาม แบบไม่ต้องเป็นมืออาชีพก็สวยได้ ในขณะที่กล้องหน้าก็มีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์ IR Depth
- เลนส์ Ultra Wide Cine ความละเอียด 40MP รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ Ultra Vision Camera ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.9 OIS
- เลนส์ Telephoto ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/1.4 OIS
- เลนส์ 3 มิติ ToF
โหมดความละเอียดสูง
ในโหมดความละเอียดสูง จะเป็นการรีดประสิทธิภาพความละเอียดของกล้องหลัง Huawei P40 Pro อย่างเต็มที่ ซึ่งภาพจะออกมาคมชัดเป็นอย่างมาก และให้ความละเอียดของภาพที่ออกมาสูงถึง 8192 x 6144 พิกเซล
โหมดกลางคืน
การถ่ายภาพตอนกลางคืน Huawei P40 Pro จะมีโหมดกลางคืนมาให้ใช้ ซึ่งจะช่วยให้ถ่ายภาพตอนกลางคืนได้อย่างสวยงาม และเปิดเผยรายละเอียดได้มากขึ้น แต่จากการทดสอบใช้งานจริง ยังไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ รายละเอียกที่ออกมายังดูไม่สวยเท่าที่ควร และสียังซีดๆ อยู่ในบางซีน ก็คาดว่า Huawei น่าจะมีการปล่อยการอัปเดตออกมาในภายหลัง
โหมดมุมกว้าง
การใช้งานมุมกว้าง Huawei P40 Pro ก็ยังทำออกมาได้ดีเช่นเคย โดยการใช้งานจริงก็ยังให้มุมกว้างที่สมบูรณ์ เก็บรายละเอียดรอบข้างได้ครบถ้วน และยังให้รายละเอียดในรูปภาพได้สมบูรณ์ ที่สำคัญสามารถใช้งานร่วมกับโหมดมืดได้อีกด้วย
ภาพถ่ายบุคคล
โหมดภาพถ่ายบุคคล จะสามารถใช้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง แต่ส่วนกล้องหน้าถือว่ามีการพัฒนามากขึ้นจาก Huawei P30 Pro พอสมควร โดยการใช้งานจากกล้องหน้ามีการเบลอพื้นหลังที่ดีทีเดียว ที่สำคัญกล้องหน้าที่เป็นจุดอ่อนของ P Series ยังถูกแก้ไขให้ใบหน้ามีความเป็นธรรมาชาติมากขึ้น แน่นอนว่ายังมาพร้อมการปรับแต่งหน้าสวย และเอฟเฟคเบลอพื้นหลังเช่นเคย
พลังในการซูม
พลังในการซูมยังคงทำได้สูงสุดที่ 50 เท่า และเป็นแบบดิจิตัล โดยการใช้งานจริงก็ยังไม่แตกต่างจาก Huawei P30 Pro เท่าไหร่ ในขณะที่การซูมแบบ Optical 5 เท่าค่อนข้างสวยงามทีเดียว ยังคงให้ภาพที่คมชัด
---------------------------------------------------------------
---------------------------------------------------------------
บันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K ที่ 60fps
ในที่ Huawei P Series ก็สามารถบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60fps ได้แล้ว ซึ่งประเดิมด้วย Huawei P40 Series และ Huawei P40 Pro ก็สามารถใช้งานได้เช่นกัน ทำให้การบันทึกวิดีโอมีความคมชัด และยังดูลื่นตาเป็นอย่างมาก
สโลว์-โม สูงสุดที่ 7680fps
จุดเด่นของการถ่ายวิดีโอแบบ Slo-Mo ของ Huawei P40 Pro ยังคงเป็นความสโลว์สูงสุดที่ 7680fps ทำให้วิดีโอที่ออกมามีความเนียนในการสโลว์เป็นอย่างมาก แต่ยังเป็นความละเอียดระดับ HD เท่านั้น ถ้าอยากได้ความละเอียดระดับ FHD จะต้องใช้ความสโลว์ระดับ 960fps
สรุประหว่าง Huawei P40 Pro และ Huawei P30 Pro
จุดน่าสนใจ
- สีของภาพที่ถ่ายออกมาจากกล้องหลัง อาจจะดูซีดๆ แต่ก็ดูดีกว่า Huawei P30 Pro ที่ออกมาแรกๆ
- ระบบ AI จดจำซีนดีขึ้นเช่น ตรวจพบใบหน้าจะเป็นการปรับแต่งใบหน้าอัตโนมัติ จากเดิม Huawei P30 Pro จะเป็นโหมดภาพบุลคล
- เซลฟี่ได้ดีขึ้นมากๆ ซึ่งจากเดิมเป็นจุดอ่อนของ Huawei P30 Pro
- ชิปเซ็ตที่เร็วขึ้น และรองรับสัญญาณ 5G
- มีเซนเซอร์ IR เพื่อสแกนใบหน้าได้แม่นยำมากขึ้น
- หน้าจอแสดงผลสัมผัสลื่นจาก Refresh Rate 90Hz
จุดสังเกตุ
- โหมดกลางคืนยังไม่สวยงามแบบที่คาดหวังเอาไว้ สีออกมาจืด รายละเอียดก็ไม่ชัด
- ไม่มี Google Mobile Service
- AppGallery ยังต้องใช้เวลาอีกซักระยะในการเพิ่มแอพฯ มาให้ดาวน์โหลด
- แบตเตอรี่ และการชาร์จเร็ว ควรจะมากกว่าเดิม
คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง
คุณสมบัติการถ่ายภาพวีดีโอ
ขอขอบคุณ : Huawei Technologies (Thailand) Co., Ltd. โทร 0-2654-3622
ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ Huawei P40 Pro
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=461463
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/spec/huawei/p40_pro.htm
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท