หลังจากเปิดตัวมา ก็ดึงความสนใจจากสายทำงานได้ไม่น้อย สำหรับ Samsung Galaxy Tab S7+ แท็บเล็ตตัวชูโรง ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ค.ศ 2020 จาก Samsung โดยมารอบนี้จะเน้นอัปเกรตไปที่ความลื่น และความเร็วแรงเป็นหลัก โดยใช้ชิปเซ็ตตัวท็อปอย่าง Snapdragon 865+ 5G ปรับอัตรา Refresh Rate ได้สูงสุดที่ 120Hz ที่สำคัญปากกา S-Pen ยังลื่นติดหน้าจอมากขึ้น ให้ฟิลใช้ปากกาจริงสุดๆ ใครที่เป็นสายทำงาน หากได้มาลองสัมผัสซักครั้งอาจจะถอนตัวไม่ขึ้นก็เป็นได้
ด้วยความเป็นแท็บเล็ตจึงทำให้ Samsung Galaxy Tab S7+ มีขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของแท็บเล็ตอยู่แล้ว โดยมีขนาดรอบตัวเครื่องที่ 185.0x285x5.7 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 575 กรัม ซึ่งน้ำหนักที่มากขนาดนี้ อาจเป็นเพราะขนาดของแบตเตอรี่ กับวัสดุโลหะในส่วนของเฟรม
หน้าจอแสดงผลใหญ่ยักษ์พาแนล Super AMOLED กว้าง 12.4 นิ้ว ความละเอียด WQXGA+ (2800x1752 พิกเซล) ไม่มีรอยแหว่ง
ส่วนกล้องหน้าจะติดตั้งมาแปลกๆ โดยอยู่ที่บริเวณขอบขวาของหน้าจอแสดงผล พร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
ข้างซ้ายตัวเครื่อง มีแผงแม่เหล็ก และเขี้ยว 2 ช่อง สำหรับการเชื่อมต่อ และยึดกับอุปกรณ์เสริมอย่างเคสคีย์บอร์ด
ข้างขวาตัวเครื่อง มีปุ่มใช้งานมาตรฐาน ซึ่งปุ่มยาวเป็นปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง ส่วนปุ่มเล็กเป็นปุ่มเพาเวอร์ หรือกดค้างเพื่อเรียกใช้งาน Bixby ขยับมาของด้านล่าง เป็นรูไมโครโฟน และช่องใส่ถาดซิมการ์ดที่รองรับ MicroSD Card และซิมการ์ด 1 ช่อง นอกจากนี้ตรงบริเวณที่ใส่ถาด ยังมีแผงแม่เหล็กสำหรับพักปากกา S-Pen
ด้านบนตัวเครื่อง ทั้ง 2 ข้างเป็นช่องลำโพงเสียง และตรงกลางเป็นรูไมโครโฟน
ด้านใต้ตัวเครื่อง ทั้ง 2 ข้างก็เป็นลำโพงเสียงอีก 2 ตัว และตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C
ต่อกันที่ฝาหลังตัวเครื่อง มุมบนซ้ายเป็นกล้องหลังคู่ ความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช โดยทั้งหมดถูกจัดเรียงเป็นแนวตั้ง ส่วนแถบยาวๆ ล่างกล้องหลัง เป็นแผงแม่เหล็กสำหรับเชื่อมต่อ และชาร์จปากกา S-Pen ส่วนตรงมุมล่างซ้ายมีโลโก้ Samsung เป็นแบบสลักลึก และข้างขวามีโลโก้ AKG
ปากกา S-Pen จะมีลักษณะเป็นทรงกลมหัวแหลม แต่มีแถบนึงเป็นแบบเรียบเพื่อแปะชาร์จ หรือแปะพักที่แถบแม่เหล็ก ส่วนน้ำหนักมีน้ำหนักเบากำลังดี ให้ความรู้สึกเหมือนใช้ปากกาจริงๆ
สเปคของ Samsung Galaxy Tab S7+
RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน
ตัวเลือก RAM และ ROM ของ Samsung Galaxy Tab S7+ จะมีเพียงตัวเลือกเดียวคือ RAM 8GB และ ROM 256GB ซึ่ง RAM 8GB ถือว่าเพียงพอแล้วต่อการใช้งาน Multi-Windows ส่วน ROM เมื่อเปิดใช้งานครั้งแรกระบบจะมีการกินพื้นที่ไปกว่า 53.2GB (ไม่ติดตั้งแอพฯ ที่แนะนำ) ทำให้เหลือพื้นที่ใช้งานจริงๆ 458.8GB
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการของ Samsung Galaxy Tab S7+ จะใช้ OneUI 2.0 บนพื้นฐาน Android 10 ซึ่งมีหน้าตาเหมือนบนสมาร์ทโฟน ทั้งรูปแบบหน้าตา และอนิเมชั่นต่างๆ แต่ในส่วนหน้าต่าง แอพฯ ก่อนหน้า (Recent App) จะออกแบบให้ใช้งานได้ง่ายกับแท็บเล็ต
หน้าจอหลัก
การนำทาง และการนำทางด้วย S-Pen
ปุ่มนำทาง 3 ปุ่มคือการนำทางค่าเริ่มต้น แต่ผู้ใช้งานก็ยังสามารถเปลี่ยนเป็น ท่าทางการนำทาง ได้เช่นกัน โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > จอภาพ > แถบการนำทาง
นอกจากนี้ยังใช้ S-Pen นำทางได้อีกวิธี ด้วยการใช้ S-Pen วาดกลางอากาศเหมือน Air Action (ดูจากรูปด้านล่าง) แต่จะใช้ได้เฉพาะแอพฯ ที่รองรับเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแอพฯ ของ Samsung
หน้าจอขอบ
หน้าจอขอบยังมีให้ใช้งานอยู่ โดยสามารถเปิดถาดได้ด้วยการปัดขอบหน้าจอข้างขวาเข้ามาด้านใน ซึ่งหน้าจอขอบจะช่วยให้เปิดแอพฯ ได้ทันที หรือใช้แบ่งหน้าจอ และเปิดแอพฯ แบบป็อปอัพได้ง่ายขึ้น เรียกว่าเป็นฟังก์ชั่นที่สำคัญกับสายทำงานพอสมควร
โหมดมืด
โหมดมืดจะช่วยปรับเปลี่ยนธีมเป็นสีดำ เพื่อให้ใช้งานในตอนกลางคืนได้แบบสบายตา และยังช่วยประหยัดพลังงานได้อีกทาง เพราะ Samsung Galaxy Tab S7+ ใช้หน้าจอพาแนล Super AMOLED
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้
สเปคสำหรับการทำงานอย่างแท้จริง
แท็บเล็ตสายทำงานจะมาทำงานช้าๆ อืดๆ ก็คงดูไม่ดี ซึ่ง Samsung Galaxy Tab S7+ ก็ถูกขับเคลื่อนด้วยขุมพลังตัวแรงแห่งปี 2020 อย่าง Snapdragon 865+ และมี RAM 8GB ทำงานหลายๆ อย่างพร้อมกัน หรือใช้งานแบบ Multi-Windows ได้อย่างราบรื่น รวมไปถึงใช้งานแอพพลิเคชั่นที่เป็นด้านกราฟฟิกตัดต่อได้อย่างสะดวก
Samsung DeX เข้าโหมด PC ได้ทันที
Samsung Galaxy Tab S7+ สามารถเข้าโหมด PC ได้ง่ายๆ ด้วยโหมด Samsung DeX ซึ่งระบบจะปรับเปลี่ยนแท็บเล็ต เป็นใช้งานคล้ายๆ PC พร้อมรองรับการทำงานร่วมกับเมาส์ และเคสคีย์บอร์ด โดยจุดเด่นของโหมด Samsung DeX นอกจากจะใช้งานง่ายเหมือน PC ยังสามารถเปิดแอพฯ หลายๆ วินโด้พร้อมกัน และไม่พอแค่นั้นยังใช้งาน Wireless DeX หรือต่อสายกับหน้าจอ เพื่อนำหน้าจอไปแสดงบนหน้าจอมอนิเตอร์อื่นๆ ได้อีกด้วย
Samsung Notes ใช้งานครอบจักรวาล
แอพพลิเคชั่น Samsung Notes ถูกปรุงแต่งใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานให้หลากหลายมากขึ้น และยังมีการงานที่เข้ากับ S-Pen ได้อย่างลงตัว
เมื่อจดโน้ตด้วยปากกา S-Pen ตัวหนังสือที่ออกมาย่อมเป็นลายมือแบบผู้เขียนอีกแล้ว แต่แอพฯ Samsung Notes ก็มีฟังก์ชั่นแปลงลายมือ ให้เป็นแบบ Text และระบบยังปรับเปลี่ยนให้แบบอัตโนมัติ จากที่ลองใช้งานจะลายมือเละเทะขนาดไหน ระบบก็ยังแปลงได้อย่างแม่นยำ
การจดโน็ตบนกระดาษเปล่าไม่มีบรรทัด ตัวหนังก็ต้องเอียงเป็นธรรมดา แต่ Samsung Notes จะมีฟังก์ชั่นปรับตัวหนังสือให้ตรง ซึ่งทำให้อ่านได้ง่ายขึ้น เมื่อกลับมาดูในครั้งต่อไป
Samsung Notes มีฟีเจอร์ในการบันทึกเสียง ไปพร้อมๆ กับการจดโน็ตได้ด้วย ใครที่มีการประชุมบ่อยๆ หรือเข้าคลาสเรียน น่าจะชอบฟีเจอร์นี้ เพราะทำให้ผู้ใช้ได้กลับมาฟังเสียงในขณะนั้น และดูได้ว่ามีการจดบันทึกอะไรไปบ้าง
การเซฟไฟล์จาก Samsung Notes ก็มีความหลากหลาย สามารถทำไปใช้ต่อกับแอพฯ อื่นๆ ได้สะดวก เพราะนามสกุลในการเซฟไฟล์มีให้เลือกทั้ง PDF, Microsoft Word, PowerPoint, ไฟล์รูปภาพ แลไฟล์ข้อความ
ไฟล์บน Samsung Notes สามารถเซฟ และซิงค์ไฟล์ไปทำงานต่อที่อุปกรณ์อื่นได้เช่น Windows, สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต โดยระบบจะมีการซิงค์ผ่านระบบ Samsung Cloud และแต่ละเครื่องต้องมีการล็อกอินเข้าใช้งาน Samsung Account
ปากกา S-Pen ค่า Latency ต่ำ ใช้งานได้ลื่นๆ
S-Pen มีการเปลี่ยนดีไซน์เป็นทรงกลม เพื่อการจับใช้งานได้สะดวกมากขึ้น ส่วนค่าความหน่วงก็ปรับให้ต่ำสุดๆ ด้วยค่า Latency เพียง 9Ms เท่านั้น (เหมือนกับ Samsung Galaxy Note 20 Ultra) ด้วยความลื่นที่ได้มาน่าจะตอบโจทย์คนทำงาน ให้ใช้งานได้อย่างทันใจ
Air Action ก็ยังใช้งานได้ตามปกติ แต่ Air Action จากเดิมจะใช้งานได้จากแอพฯ กล้องเท่านั้น ตอนนี้สามารถใช้งานกับแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ได้เช่นกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแอพฯ ของ Samsung เท่านั้น ทั้งนี้ฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจก็ยังใช้งานได้ทั้งหมด
Off Screen Memo การจดโน็ตเร่งด่วนในขณะพักหน้าจอ ก็ยังสามารถทำได้อยู่ โดยสามารถเริ่มต้นการใช้งานได้โดย กดปุ่มที่ปากกา S-Pen ค้าง และแตะที่หน้า 2 ที ในขณะที่หน้าจอถูกพัก โดยไฟล์จะถูกเซฟไปยังแอพฯ Samsung Notes
ฟังก์ชั่นการเลือกอัจฉริยะ คือการแคปหน้าจอในส่วนที่ต้องการโดยใช้ปากกา S-Pen สามารถเลือกส่วนต่างๆ ได้อิสระ หรือแคปเป็นตำแหน่งต่างๆ แบบสี่เหลี่ยมก็ได้เช่นกัน เมื่อมีการแคปแล้ว ก็สามารถส่ง หรือแชร์ไปยังแอพพลิเคชั่นอื่นได้ง่ายๆ
Live Message จะเป็นฟังก์ชั่นที่ใช้ปากกา S-Pen วาดเขียนลงไปในภาพนิ่ง หรือวิดีโอ ซึ่งเป็นการส่งข้อความแบบน่ารักๆ ดูดีมีมิติไปอีกแบบ
ปากกา S-Pen สามารถใช้ควบคุม และเลื่อนสไลน์ของ Power Point ได้ ฟีเจอร์นี้น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของขาพรีเซนงาน
หน้าจอ Refresh Rate ที่ 120Hz
ไม่ใช่แค่ความลื่นของชิปเซ็ตเท่านั้น หน้าจอแสดงผลก็ยังปรับให้มีความลื่นมากขึ้นเช่นกัน โดย Samsung Galaxy Tab S7+ จะมาพร้อมอัตรา Refresh Rate สูงสุดถึง 120Hz ทำให้การแสดงผล และการสัมผัสจะดูลื่นเป็นพิเศษ
ทดสอบการเล่นเกม
การเล่นเกมก็ทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เป็นเพราะพลังอันรุนแรงจากชิปเซ็ต Snapdragon 865+ นั้นเอง ไม่ว่าจะเกมไหน Samsung Galaxy Tab S7+ ก็ยังเอาอยู่ พร้อมเล่นได้แบบไหลลื่น ด้วยการปรับกราฟฟิกระดับสูง ซึ่งการทดสอบได้ใช้เกมอย่าง PUBG Mobile, ROV และ Asphalt 9 ผลก็ออกมาว่าลื่นทุกเกม ในกราฟฟิกระดับสูงสุดทั้งหมด
ความบันเทิงยังเต็มอิ่มเช่นเคย
ทำงานมาหนักๆ ก็ยังใช้ Samsung Galaxy Tab S7+ มาปรับมู๊ดให้สดใสได้อีกทาง เพราะด้านความบันเทิงถือว่าจัดเต็มสูบ ไล่มาตั้งแต่หน้าจอแสดงผลสุดกว้างถึง 12.4 นิ้ว ความละเอียด WQXGA+ (2800x1752 พิกเซล) เปิดรับสีสดจากหน้าจอ Super AMOLED ทั้งนี้คุณภาพเสียงก็ดังชัดดีเยี่ยม เพราะมีลำโพง AKG ถึง 4 ตัว พร้อมรองรับการปรับแต่งเสียงอย่าง Dolby Atmos
ระบบความปลอดภัย
ด้านความปลอดภัย Samsung Galaxy Tab S7+ จะรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และการสแกนใบหน้า โดยการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอมีการสแกนที่แม่นยำรวดเร็ว และจดจำได้สูงสุด 3 ลายนิ้วมือ ส่วนการสแกนใบหน้าจะจดจำได้ 2 ใบหน้า ทั้งนี้ด้านระบบภายในก็ฝากไว้ในการดูแลของ Samsung Knox ทำให้ข้อมูลความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานจะปลอดภัยแน่นอน
แบตเตอรี่ใช้งานยาวนานหายห่วง
Samsung Galaxy Tab S7+ มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 10,090mAh ทำให้การใช้งานมีความยาวนานพอสมควร จากการทดสอบได้ทำการเปิดวิดีโอบน Yuotube ความยาว 45 นาที ด้วยความละเอียด 1080p ที่ 60fps และเปิดความสว่างสูงสุด จากแบตเตอรี่ 40% ลดลงมาเหลือเหลือ 32%
การใช้งานกล้องถ่ายรูป
ด้วยความเป็นแท็บเล็ต ทำให้ Samsung Galaxy Tab S7+ จะไม่ลงรายละเอียดในส่วนนี้มาก มีไว้พอใช้งานแบบนิดๆ หน่อยๆ โดยกล้องหลังถูกติดตั้งมา 2 เลนส์ ประกอบไปด้วยเลนส์ Wide และ Ultra Wide ความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล มีการปรับแต่งภาพอัตโนมัติด้วย AI จากระบบตัวปรับฉาก ด้านกล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เซลฟี่ได้ดีพอประมาณ ในขณะที่การบันทึกวิดีโอ สามารถบันทึกด้วยความละเอียดสูงสุดที่ 4K 30fps
คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง
คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ
รีวิวโทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy Tab S7+ - ซัมซุง
ขอขอบคุณ : บริษัท ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ จำกัด โทร. 0 2689 3232
ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ : Samsung Galaxy Tab S7+
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=462824
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/spec/samsung/galaxy_tab_s7_plus.htm
Xiaomi ปล่อยของแรง! Smart Band 9 Pro และ Watch S4 มาพร้อมฟีเจอร์จัด...
Redmi K70 Extreme Edition สมาร์ทโฟนเกมมิ่งเรือธงในราคาจับต้องได้
iQOO 13 หน้าจอ 6.82 นิ้ว 144Hz ขุมพลัง Snapdragon 8 Elite แบตฯ 6150mAh
พรีวิว Apple Watch Ultra 2 สีใหม่ไทเทเนียมดำ เพิ่มความดุดันเต็มอัตรา!
ViewSonic เผยโฉมจอมอนิเตอร์เกมมิ่ง OLED รุ่น XG272-2K-OLED ดีไซน์สี...
พรีวิว Samsung Galaxy Z Flip 6 ครั้งแรกมือถือจอพับกันน้ำได้ Samsung เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy Z Flip 6 รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมเฉดสีสไตล์มินิมอล สดใส เก๋ไก่ น่ารักเอามากๆ มี 4 เฉดสีใ...