รีวิวโทรศัพท์มือถือ OPPO A73 - ออปโป้

OPPO A73 สมาร์ทโฟนสวยหรูดูพรีเมี่ยม แต่กลับมีราคาที่จับต้องได้เพียง 6,999 บาท โดย OPPO A73 มาพร้อมดีไซน์ผอมบางราวกับนางแบบ จากสัดส่วนบางเฉียบเพียง 7.45 มิลลิเมตร ตามมาด้วยความหรูหราจากฝาหลังที่ใช้วัสดุคล้ายหนัง ให้สัมผัสนุ่มนวลสุดเด่นเป็นเอกลักษณ์ แถมหน้าจอแสดงผลก็ยังใช้พาแนล OLED ทำให้การแสดงผลของสีมีความสดใส ส่วนความกว้างมาถึง 6.44 นิ้ว พร้อมรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ทั้งนี้ยังมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 4,015mAh รองรับชาร์จเร็ว 30W VOOC 4.0

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ขนาดรอบตัวเครื่องของ OPPO A73 มีขนาดอยู่ที่ 159.8x72.9x7.45 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวเพียง 163 กรัม และตัวเครื่องมีความโค้งแบบ 2.5D ถือว่าจับใช้งานได้ถนัดเป็นอย่างมาก

หน้าจอแสดงผลพาแนล AMOLED กว้าง 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400x1080 พิกเซล) ความสว่างสูงสุด 430nits และดีไซน์ Water Drop Full Screen นอกจากนี้ยังมีการครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 3

ส่วนเหนือหน้าจอแสดงผล ในบริเวณ Water Drop Full Screen มีกล้องหน้า ความละเอียด 16MP และขอบหน้าจอด้านบนเป็นลำโพงเสียงสำหรับการสนทนา

ส่วนล่างหน้าจอแสดงผล ไม่มีปุ่มใช้งานใดๆ ซึ่งปุ่มนำทางจะมาในรูปแบบซอฟแวร์ในหน้าจอแสดงผล นอกจากนี้ส่วนล่างของหน้าจอยังเป็นที่สแกนลายนิ้วมืออีกด้วย

ข้างซ้ายตัวเครื่อง พบกับช่องใส่ถาดซิมการ์ด โดยถาดเป็นแบบ 3 ช่องรองรับการใช้งาน Nano SIM 2 ช่อง และ MicroSD Card 1 ช่อง ถัดลงมาด้านล่าง เป็นปุ่มเพิ่มเสียง และลดเสียง

ข้างขวาตัวเครื่อง มีเพียงปุ่มเพาเวอร์สำหรับเปิดปิดเครื่อง และพักหน้าจอ

บนตัวเครื่อง จะพบกับรูไมโครโฟน

ใต้ตัวเครื่อง ซ้ายสุดเป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C และขวาสุดเป็นลำโพงเสียง

ฝาหลังตัวเครื่อง จะพบกับดีไซน์อันโดดเด่นที่คล้ายหนัง ส่วนกล้องหลังจะถูกติดตั้งบนโมดุลสี่เหลี่ยมขอบโลหะ ในนั้นมีกล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียด 16+8+2+2 ล้านพิกเซล ข้างขวาของกล้องมีไฟแฟลช และมุมล่างขวาของฝาหลังเป็นโลโก้ OPPO

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเครื่อง OPPO A73
  • อะแดปเตอร์ Type-A จ่ายไฟ 30W VOOC 4.0
  • สาย USB Type-A To Type-C
  • เคสซิลิโคน
  • หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
  • เข็มนำถาดซิมออก
  • คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคของ OPPO A73

  • ขนาดตัวเครื่อง : 159.8x72.9x7.45 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 163 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล : AMOLED กว้าง 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400x1080 พิกเซล) พิกเซล 408ppi ความสว่างสูงสุด 600nits ดีไซน์ Water Drop Full Screen และครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 3
  • ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 662
  • RAM : 6GB
  • ROM : 128GB สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้
  • ระบบปฏิบัติการ : ColorOS 7.2 บนพื้นฐาน Android 10
  • กล้องหลัง 4 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช
    - เลนส์หลัก ความละเอียด 16MP รูรับแสง f/2.2
    - เลนส์ Wide Angle ความละเอียด 8MP รูรับแสง f/2.2
    - เลนส์ Mono ความละเอียด 2MP รูรับแสง f/2.4
    - เลนส์ Mono ความละเอียด 2MP รูณับแสง f/2.4
  • กล้องหน้า ความละเอียด 16MP รูรับแสง f/2.0
  • เครือข่าย : รองรับ Nano SIM 2 ซิม สัญญาณ 4G LTE
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 2.4/5G, Bluetooth 5.0, GPS, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต USB Type-C
  • ระบบความปลอดภัย : สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ, สแกนใบหน้า
  • แบตเตอรี่ : 4,015mAh รองรับชาร์จเร็ว 30W VOOC 4.0

RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน
ตัวเลือก RAM และ ROM ของ OPPO A73 จะมีตัวเลือกเดียวคือ RAM 6GB + ROM 128GB ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่ใช้งานพื้นฐานได้สบายๆ ในขณะที่ ROM เมื่อเปิดเครื่องมาครั้งแรก ระบบจะกินพื้นที่ไป 18.6GB ทำให้เหลือพื้นที่ใช้งานจริงๆ ประมาณ 110GB หากไม่ยังไม่พอใช้งานก็สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้อีก

ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการที่ได้มาตั้งแต่แกะกล่องจะเป็น ColorOS 7.2 บนพื้นฐาน Android 10 ซึ่งจะเน้นไปที่ความเรียบง่าย ดูน่าใช้งาน และมีฟีเจอร์ที่จำเป็นต่อการมาให้หมด แต่ยังมีข้อเสียคือ แอพพลิเคชั่นจากโรงงานมีค่อนข้างเยอะ แม้ว่าไม่ได้เลือกติดตั้งแอพฯ แนะนำตอนแรกก็ตาม โดยแอพฯ ที่แนะนำให้ติดตั้งในตอนแรกจะมีทั้ง Instagram, Facebook Lite, 4Shared, Messenger Lite, TrueID, Roblox, Azar, Ink Inc., แปลภาษา, Twitter, Candy Crush, Light Room เป็นต้น

หน้าจอหลัก
ในส่วนหน้าจอหลัก ดีไซน์ของโลโก้แอพฯ จะเน้นไม่ที่รูปทรงสี่เหลี่ยมขอบบน และใช้สีแบบสบายตา ด้านการจัดวางก็สามารถปรับแต่งได้ตามใจ จะให้เก็บแอพฯ ไว้แบบลิ้นชัก หรือจัดรูปแบบการวางแต่ละแอพฯ ก็ได้หมด ซึ่งสามารถเข้าไปปรับแต่งได้ที่ การตั้งค่า > หน้าจอหลักและนิตยสารหน้าจอล็อก

ปุ่มการนำทาง
ปุ่มนำทางจะมาในรูปแบบซอฟแวร์ โดยการเปิดเครื่องครั้งแรกจะเป็นแบบ 3 ปุ่มคือ แอพฯ ก่อนหน้า, โฮม, และย้อนกลับ แต่หากชอบการใช้งานแบบท่าทางก็สามารถใช้ได้ ด้วยการปัดขอบหน้าจอ ซึ่ง OPPO A73 ก็มีมาให้ โดยเข้าไปเปลี่ยนแปลงได้ที่ การตั้งค่า > เครื่องมืออำนวยความสะดวก > ปุ่มการนำทาง

แถบด้านข้างอัจฉริยะ
บริเวณขอบหน้าจอของ OPPO A73 จะมีถาดด้านข้างที่สามารถเปิดออกมาได้ ซึ่งเรียกว่า แถบด้านข้างอัจฉริยะ โดยสามารถเปิดได้ด้วยการปัดเข้ามาด้านใน ในนั้นจะมีแอพฯ ที่เปิดใช้งานได้ตลอดเวลา และไม่ต้องกลับมาหน้าโฮมอีกครั้ง และผู้ใช้จะสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะใส่แอพฯ อะไรไปในนั้น นอกจากนี้แถบด้านข้างอัจฉริยะยังเอาไว้ใช้การแบ่งหน้าจอได้อีกด้วย

โหมดกลางคืน
โหมดกลางคืนจะเป็นการปรับเปลี่ยนธีมต่างๆ ให้เป็นสีดำ เพื่อการใช้งานได้อย่างสบายตาในตอนกลางคืน หรือที่แสงน้อย นอกจากนี้ยังช่วยในการประหยัดแบตเตอรี่ เพราะหน้าจอแสดงผลของ OPPO A73 เป็นพาแนล OLED โดยสามารถไปเปิดโหมดกลางคืนได้ที่ การตั้งค่า > จอแสดงผลและความสว่าง > โหมดกลางคืน

ตัวโคลนแอพ
ตัวโคลนแอพ จะเป็นการเพิ่มแอพพลิเคชั่นที่มีอยู่แล้วในเครื่อง เพิ่มมาอีก 1 แอพฯ ซึ่งเหมาะกับการใช้งานแอพสังคมออนไลน์ ทำให้เข้าใช้งานได้ 2 บัญชีพร้อมกัน แต่ต้องเป็นแอพฯ ที่รองรับเท่านั้น โดยเข้าไปตัวโคลนแอพได้ที่ การตั้งค่า > ตัวโคลนแอพ

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v8.4.3 ได้ 183,092 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 5 ได้คะแนน Single-Core ที่ 312 และคะแนน Multi-Core ที่ 1381 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย 3DMark (Sling Shot Extrene - OpenGL) ได้ 1150 คะแนน
  • ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ ดังนี้

  • Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
  • Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
  • Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
  • Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
  • Gyroscope Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
  • Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
  • Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ตัวเครื่องบางเฉียบ โดดเด่นด้วยดีไซน์ฝาหลังคล้ายหนัง
ความโดดเด่นของ OPPO A73 จะอยู่ที่ดีไซน์รอบตัวเครื่อง โดยมาพร้อมความบางเฉียบเพียง 7.45 มิลลิเมตร ไม่พอแค่นั้นยังมีฝาหลังใช้วัสดุคล้ายหนัง เพิ่มความพรีเมี่ยมอย่างเห็นได้ชัด เมื่อทั้ง 2 อย่างรวมกัน ก็ทำให้ OPPO A73 เป็นอีกสมาร์ทโฟนที่สวยงามเป็นอย่างมาก จับใช้งานทีไรก็ดูโดดเด่นมากขึ้นเป็นกอง

หน้าจอแสดงผล OLED
OPPO A73 มาพร้อมหน้าจอแสดงผล OLED ทำให้การแสดงผลมีสีที่สดเป็นพิเศษ และยังมีความกว้างถึง 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400x1080 พิกเซล) แน่นอนว่าการใช้งานดูหนัง หรือวิดีโอ จะได้ความคมชัด และคุณภาพสีที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังเกิดรอยขีดขวนได้ยาก เพราะมีการครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 3 มั่นใจได้อีกชั้น

ทดสอบการเล่นเกม
ในการเล่นเกม OPPO A73 ก็ถือว่าใช้เล่นเกมได้ดีในระดับปานกลาง เพราะใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 662 แต่ก็ยังมีแอพฯ Game Space ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้การเล่นเกมได้ดีขึ้นอีกนิด และสามารถควบคุมการแจ้งเตือนต่างๆ ในระหว่างเล่นเกมได้ หากต้องการปรับกราฟฟิกให้สูงกว่านี้อาจจะต้องขยับไปซื้อรุ่นที่สูงกว่า

ซึ่งการทดสอบสามารถใช้เล่นเกม PUBG Mobile ด้วยกราฟฟิกระดับดี และดันเฟรมเรตที่ระดับสูง ก็ถือว่ามีความลื่นในระดับที่ดีอยู่ แต่ภาพก็จะไม่สวยมาก

ส่วนอีกเกมได้ทดสอบกับ LOL Wild Rift เกม MOBA บนมือถือล่าสุด ซึ่งสามารถเล่นได้ในระดับ HD พร้อมใช้เฟรมเรตระดับสูงได้ ซึ่งการเล่นจริงยังทำเฟรมเรตได้ไม่นิ่งเท่าไหร่ บางครั้งตกมา 40fps ถ้าจะให้แนะนำจริงๆ ควรปรับเป็นเฟรมเรตเป็น 30fps จะเล่นได้นิ่งกว่า

สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
ระบบความปลอดภัยของ OPPO A73 จะมาพร้อมการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ถือว่าเป็นอีกฟีเจอร์ระดับพรีเมี่ยม ซึ่งการใช้งานจริงก็มีการทำงานที่รวดเร็ว และแม่นยำ ซึ่งระบบจดจำลายนิ้วมือ สามารถจดจำได้สูงสุดถึง 5 ลายนิ้วมือ

แบตเตอรี่
OPPO A73 มีแบตเตอรี่ขนาด 4,020mAh พร้อมสนับสนุนการชาร์จเร็ว 30W แบบ VOOC 4.0 ในการทดสอบก็ปรากฏว่า จากแบตเตอรี่ 35% ใช้เวลาชาร์จ 35 นาที จะได้แบตมาที่ 95% ส่วนการทดสอบความอึก ใช้การดูไลฟ์สตรีมผ่านแอพฯ Twitch ด้วยความละเอียด 1080p ปรับความสว่างสูงสุด 95% ผ่านไป 40 นาที ก็พบว่าแบตเตอรี่ลดลงมาเหลือ 85% เรียกว่าประสิทธิภาพการใช้งานของแบตเตอรี่ค่อนข้างดีเยี่ยมทีเดียว

การใช้งานกล้องถ่ายรูป
กล้องถ่ายรูปของ OPPO A73 อาจจะมีความละเอียดที่น้อยไปหน่อย โดยกล้องหลังถูกติดตั้งมา 4 เลนส์ ประกอบไปด้วยเลนส์หลัก 16MP, เลนส์ Ultra-Wide 8MP และอีก 2 เลนส์เป็น Mono ความละเอียด 2MP ส่วนกล้องหน้ามี ความละเอียดที่ 16MP จากสเปคกล้องที่ว่ามาอาจจะดูความละเอียดไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็ให้ภาพตัวอย่างทางด้านล่างเป็นตัวตัดสินอีกทีจะดีกว่า

AI Dazzle Color
โหมด AI Dazzle Color จะเป็นการปรับภาพที่ถ่ายให้มีสีที่สดขึ้น ด้วยการทำงานของระบบ AI ซึ่งสีที่สดขึ้นก็ไม่ได้สดจนเกินไป ยังให้ภาพที่เป็นธรรมชาติอยู่ สีไม่ฉูดฉาดจนเกินไป ใครที่ชอบภาพแนวสีสดสวยๆ ก็สามารถเปิดใช้งานโหมดนี้ได้เลย

 

 

Extra HD
ใครที่ชอบภาพที่ใหญ่ๆ ความละเอียดสูงๆ ก็สามารถเปิดใช้งานโหมด Extra HD ได้ทันที เพราะไฟล์ภาพที่ออกมาจะมีขนาดใหญ่ถึง 12032x9024 พิกเซล ซึ่งภาพที่ออกมาจะมีความละเอียดในทุกๆ จุด และเปิดการหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ได้สบายๆ

การใช้งานโหมดมุมกว้าง
ในการใช้งานโหมดมุมกว้างจาก OPPO A73 ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะสามารถถ่ายภาพมุมกว้างได้ถึง 119.9 องศา ทำให้เก็บรายละเอียดได้มากขึ้น แถมภาพที่ออกมายังมีความสวยงาม และให้แสงสีที่สวยงามมากทีเดียว

โหมดกลางคืน
การใช้งานโหมดกลางคืนถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง สามารถเปิดเผยรายละเอียดในที่แสงน้อยได้ครบ ส่วนสภาพแสงยังดูขุ่นๆ ไม่ค่อยสดใสเท่าที่ควร แต่ก็เชื่อว่าน่าจะมีการอัปเดตซอฟแวร์ในภาพหลัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในโหมดกลางคืนให้ดีขึ้น

ภาพถ่ายบุคคล
โหมดภาพถ่ายบุคคล มีการเบลอพื้นหลังที่ดีเยี่ยมดูเป็นธรรมชาติ โดยมีการไล่ความเบลอจากส่วนหน้า และค่อยๆ เบลอไปยังพื้นหลัง นอกจากนี้การใช้โหมดบุคคลจากกล้องหน้า ก็ยังมีโหมด ปรับแต่งหน้าสวยจาก AI ทำให้ใบหน้ามีความโดดเด่น และสวยงามมากยิ่งขึ้น

 

 

 

คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง

  • ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหลัง : 12032x9024 (Extra HD), 4624x3468 (4:3), 3472x3472 (1:1), 4624x2080 (เต็มจอ), 4624x2600 (16:9), พิกเซล
  • ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหน้า : 3468x4624 (4:3), 3472x3472 (1:1), 2080x4624 (เต็มจอ), 2600x4624 (16:9), พิกเซล
  • การซูม : มุมกว้าง ถึง 10 เท่า
  • ปรับหน้าสวย : AI (0-100)
  • ไฟแฟลช : อัตโนมัติ, เปิด, ปิด, เพิ่มแสง
  • HDR : ปิด, เปิด, อัตโนมัติ
  • AI Dazzle Color : ปิด, เปิด
  • ฟิลเตอร์ : ต้นฉบับ และ R1-R10
  • โหมดถ่ายรูป : รูปถ่าย, รูปคน, กลางคืน, พาโน, ผู้เชี่ยวชาญ, โหมดไทม์แลปส์, สติ๊กเกอร์, สโลว์โมชั่น, Google Lens, Extra HD
  • ตัวจับเวลา : ปิด, 3 วินาที, 10 วินาที
  • ปุ่มความดัง : ระดับเสียง, ชัตเตอร์, ย่อ/ขยาย
  • เสียงชัตเตอร์ : ปิด, เปิด
  • ตำแหน่ง : ปิด, เปิด
  • รูปเซลฟี่กลับด้าน : เปิด, ปิด
  • ลักษณะท่าทางการเรียกใช้ด่วน : เปิด, ปิด
  • แตะเพื่อถ่ายรูป : ปิด, เปิด
  • เส้นตาราง : ปิด, เปิด
  • ภาพลายน้ำ : ปิด, เปิด (รุ่นของโทรศัพท์, กำหนดเอง, วันเวลา, ตำแหน่ง)

คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ

  • ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหลัง : 1920 x 1080 (1080P-30fps), 1280 x 720 (720P-30fps) พิกเซล
  • ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหน้า : 1920 x 1080 (1080P), 1280 x 720 (720P) พิกเซล
  • ไฟแฟลช : ปิด, เพิ่มแสง
  • ฟิลเตอร์ : R1 - R10
  • ปุ่มความดัง : ระดับเสียง, ชัตเตอร์, ย่อ/ขยาย
  • เสียงชัตเตอร์ : ปิด, เปิด
  • ตำแหน่ง : เปิด, ปิด
  • รูปเซลฟี่กลับด้าน : เปิด, ปิด
  • ลักษณะท่าทางการเรียกใช้ด่วน : เปิด, ปิด
  • เส้นตาราง : เปิด, ปิด
  • ภาพลายน้ำวิดีโอ

ราคา และการจัดจำหน่าย
OPPO A73 เปิดตัวด้วยราคา 6,999 บาทเท่านั้น พร้อมรับส่วนลด E-VIP Card ทันที 500 บาท, และประกันหน้าจอแตก 1 ปี มูลค่า 3,000 บาท

  • ของสมนาคุณ เมื่อซื้อที่ Lazada, Shopee, JD Central และ Thisshop หรือ สามารถซื้อแพ็คคู่พร้อมกับ OPPO Enco W11 ได้ในราคาพิเศษ 7,998 บาท จากราคาปกติ 8,298 บาท ที่ OPPO Online Official ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 
  • หรือ สามารถเป็นเจ้าของในราคาเริ่มต้นเพียง 2,690 บาท เมื่อซื้อที่ผู้ให้บริการเครือข่าย ดีแทค ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ดูรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติมของแต่ละช่องทางได้ที่

- Lazada : https://bit.ly/34jCPct 
- Shopee : https://bit.ly/3m4s6si
- JD Central : https://bit.ly/34CoJTs
- Thisshop : https://bit.ly/2HuBfeY 
- Dtac : https://bit.ly/327kFJo 
- OPPO Online Official : https://bit.ly/2HluuMw

ขอขอบคุณ : OPPO

ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ : OPPO A73
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=460839

แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/spec/oppo/a73_(2020).htm

อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข้อมูลมือถือ

รีวิวโดย: ปิตุภูมิ นันทวิทยา ภาพโดย: สิรภพ ผิวทอง
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2563

VIEWS

แบ่งปันบทความ

สินค้าออนไลน์

ขึ้นด้านบน