Apple Watch SE จะเป็นรุ่นพิเศษของ Apple Watch ในปี ค.ศ. 2020 แต่ก็เป็นตามหลักสูตรของ Apple พอเห็นคำว่า SE ปุ๊บ ก็รู้ทันทีว่าเป็นรุ่นคุ้ม ราคาถูกกว่ารุ่นปกติ และโดนลดฟีเจอร์บางส่วนออกไป แม้ว่าจะโดนลดฟีเจอร์บางส่วนออกไป แต่ Apple Watch SE ก็ยังมีการใช้งานที่ครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นด้านการออกกำลังกาย ด้านสุขภาพ ใช้งานมัลติมีเดีย และการรับสายวางสาย ที่สำคัญมีตัวเลือกรุ่นรองรับการใช้งานแบบ GPS+Cellular ทำให้ใช้แบบเดียวๆ ได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับ iPhone ตลอดเวลา ส่วนฟีเจอร์ที่โดนตัดออกไปส่วนตัวก็มองว่าไม่ค่อยได้ใช้งาน และไม่จำเป็นเท่าไหร่ โดยเฉพาะการวัดกระแสไฟฟ้าจากการเต้นของหัวใจอย่าง ECG ก็ยังไม่ได้รับอนุญาติให้ใช้งานในประเทศไทย

ตัวเรือนของ Apple Watch SE เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมขอบมน มีให้เลือกทั้งแบบ 44 มิลลิเมตร และ 40 มิลลิเมตร แต่ตัวที่ได้มารีวิวเป็น 40 มิลลิเมตร ส่วนวัสดุที่ใช้จะมีเฉพาะอะลูมิเนียมเท่านั้น และมีให้เลือก 3 สีคือ สีเทา, สีเมาสเปซเกรย์ และสีทอง

หน้าจอแสดงผลเป็นแบบสัมผัส Retina Display ใช้กระจก Ion-X ที่มีความทนทาน และเป็นหน้าจอแบบขอบโค้งทรงสี่เหลี่ยม

ข้างซ้ายตัวเรือน มีลำโพงเสียง

ข้างขวาตัวเรือน มีแป้นหมุนสำหรับเลื่อนเมนู (Digital Crown) และเป็นปุ่มกดเข้าสู่แอพฯ ทั้งหมด ถัดลงมาข้างล่างเป็นรูไมโครโฟน และล่างสุดเป็นปุ่มเพาเวอร์

ด้านหลังตัวเรือน จะเป็นแผงเซนเซอร์ต่างๆ และเป็นที่ชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเรือน Apple Watch SE
  • สายรัดข้อมือซิลิโคน
  • แท่นชาร์จไร้สาย USB Type-A
  • คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน

สเปคของ Apple Watch SE

  • ขนาดตัวเรือน : 44 มิลลิเมตร และ 40 มิลลิเมตร
  • ตัวเรือน : อะลูมิเนียม
  • หน้าจอ : Retina Display
  • ชิปเซ็ต : SiP รุ่น S5 Dual‑core 64 บิต
  • กันน้ำลึก : 50 เมตร
  • โทรฉุกเฉินทั่วโลก
  • GPS
  • มีลำโพง + ไมโครโฟน ในตัว
  • รองรับคุณสมบัติ "การตั้งค่าครอบครัว" เฉพาะรุ่น GPS+Cellular
  • ตัวเลือกสี : สีเทา, สีเมาสเปซเกรย์ และสีทอง

หน้าจอ Retina Display
Apple Watch SE จะใช้หน้าจอแบบ Retina Display ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่ารุ่นก่อนๆ ถึง 30% และเป็นหน้าจอแบบเดียวกับ Apple Watch Series 6 ที่มีราคาแพงกว่าอีกด้วย จากที่ได้ลองใช้งาน สีและการแสดงผลของหน้าจอ ก็ถือว่ายังสวยอยู่ และมีการสัมผัสที่ลื่น

แต่ Apple Watch SE จะไม่รองรับการใช้งาน Always On Display ซึ่งตรงนี้มองว่าไม่มีก็ไม่เป็นไร เพราะแค่ผลิกข้อมือก็เป็นการปลุกนาฬิกาขึ้นมาดูเวลาได้เหมือนกัน และยังมีอีกอย่างคือการสัมผัสแบบ Force Touch จะโดนตัดออกไป และใช้การกดค้างเข้ามาแทน

เริ่มใช้งาน และการเชื่อมต่อ
การเริ่มใช้งานครั้งแรก ให้จับ Apple Watch SE ชาร์จแบตเตอรี่ไว้ จากนั้นจะมีสัญลักษณ์ให้เชื่อมต่อกับ iPhone จากนั้นเมิ่อเปิด iPhone ระบบจะมีการแจ้งเตือนให้เชื่อมต่อกับ Apple Watch SE แบบอัตโนมัติ  เพียงแค่นี้ก็เริ่มใช้งานได้เลย โดยความสำเร็จการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว และฉลาดแบบนี้ เป็นเพราะภายใน Apple Watch SE มีชิป U1 ซึ่งจะช่วยในการจับคู่ และเชื่อมต่อแบบรวดเร็ว

การเปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกา
การเปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกา จะต้องใช้แอพพลิเคชั่น Apple Watch ใน iPhone เป็นตัวช่วย โดยเข้าไปในแอพฯ จากนั้นเลือกเมนู แกลเลอรี่หน้าปัด ทางด้านล่าง จากนั้นก็เลือกได้ตามสบายใจ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ

จากนั้นหน้าปัดรูปแบบที่เราเลือก จะซิงค์ไปอยู่ใน Apple Watch SE เมื่อต้องการเปลี่ยน และปรับแต่งให้กดค้างที่หน้าโฮม หากเราเลือกรูปแบบหน้าปัดนาฬิกาที่สามารถปรับแต่งได้ จะมีเมนูแก้ไขอยู่ด้านล่าง ทำให้เราสามารถเลือกโชว์การตรวจจับต่างๆ ไว้ในหน้าจอหลักได้ เช่น อุณหภูมิ, กิจกรรม, วันที่ หรือการเต้นของหัวใจ เป็นต้น

ดาวน์โหลดแอพฯ ผ่าน App Store
Apple Watch SE จะให้ผู้ใช้งานเลือกใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ได้อย่างอิสระ เพราะมี App Store เพื่อดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นได้ด้วยตนเอง ซึ่งในนั้นก็จะมีแอพฯ ที่เหมาะใช้งานกับ Apple Watch มากมาย ซึ่งต่างจากสมาร์ทวอทช์จากแหล่งอื่นๆ

โหมดออกกำลังกาย
ตัวเลือกโหมดออกกำลังกายใน Apple Watch SE จะมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบครบถ้วน ไม่ว่าจะในร่ม หรือกลางแจ้ง เช่น วิ่ง, ว่ายน้ำ, ต่อยมวย, คาร์ดิโอ, เครื่องออกกำลังกาย, ปีนเขา, เทนนิส, หรือแม้แต่ตกปลาก็ยังมี ที่ว่ามายังเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น

ส่วนการใช้งานจริง (ลองใช้งานเฉพาะวิ่งกลางแจ้ง) จะมีการจับเวลา ระยะทางทั้งหมด และการเต้นของหัวใจ เมื่อเสร็จกิจกรรมระบบจะคำนวณค่าเฉลี่ยของแต่ละอย่าง รวมไปถึงจำนวนแคลอรี่ที่เผาผลาญไป ทั้งนี้ระบบจะมีการบันทึกสถิติพร้อมซิงค์ไปยังแอพฯ สุขภาพ เพื่อนำมาดูย้อนหลังได้ และสามารถนำสถิตินั้นไปเปรียบเทียบแข่งขันกับเพื่อนๆ ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามผู้ใช้งานยังสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นอื่นๆ เพื่อมาใช้ในการออกกำลังกายได้เช่นกัน อย่างเช่นแอพฯ Nike เป็นต้น

ตรวจจับสุขภาพ
Apple ได้สร้าง Apple Watch ขึ้นมาเพื่อต้องการใส่เรื่องของสุขภาพผู้ใช้เป็นหลัก ซึ่งนอกจากจะเป็นอุปกรณ์คู่กายสำหรับออกกำลังกายแล้ว ยังเป็นเครื่องตรวจจับสุขภาพของผู้ใช้ด้วย โดย Apple Watch SE จะมีทั้ง ตรวจจับการเต้นของหัวใจ, ติดตามการนอนหลับ, ตรวจจับเสียบรบกวน, กำหนดลมหายใจ หรือการตรวจเช็คประจำเดือนสำหรับท่านผู้หญิง และสามารถดาวน์โหลดแอพฯ ตรวจสุขภาพอื่นๆ ผ่าน App Store มาใช้งานได้อีก

สำหรับ Apple Watch SE จะไม่รองรับการใช้งานตรวจออกซิเจนในเลือด (Blood Oxygen) และตรวจจับสุขภาพผ่านกระแสไฟฟ้าของการเต้นหัวใจ หรือ ECG แต่ก็ถือว่าไม่เสียหายเท่าไหร่ เพราะ ECG ยังไม่มีการอนุญาติให้ใช้งานในประเทศไทยอยู่ดี

  • ตรวจจับการเต้นของหัวใจ
    ระบบตรวจจับการเต้นของหัวใจ จะมีให้เลือกแบบวัดตลอดเวลา หรือเลือกช่วงเวลาในการวัดก็ได้ นอกจากนี้ระบบจะบอกค่าเฉลี่ย, การเต้นต่ำสุด, การเต้นสูงสุด และขณะพักได้ด้วย

  • ติดตามการนอนหลับ
    แอพพลิเคชั่นการนอนหลับที่ติดตั้งตอนมาตั้งแต่เริ่มต้นของ Apple Watch SE ยังดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะมีแค่การตั้งเวลาเตือนเพื่อให้นอน ตั้งเวลาปลุก และดูเวลาการนอนทั้งหมดในแต่วัน และดูค่าเฉลี่ยการเต้นของหัวใจในขณะหลับเท่านั้น ซึ่งหากใครที่ต้องการให้ Apple Watch SE ลงลึกรายละเอียด ติดตามการนอนหลับแบบทุกลมหายใจ ก็ควรดาวน์โหลกแอพฯ ติดตามการนอนหลับมาเพิ่มเติมเอง ซึ่งยังมีแอพฯ อื่นๆ ที่มากมาย ที่สามารถติดตามการนอนหลับในทุกช่วงเวลานอน และบอกพฤติกรรมว่าช่วงเวลานั้นผู้ใช้งาน หลับสนิทหรือไม่, REM ช่วงไหน และบอกพฤติกรรมการนอนในแต่ละช่วงเวลา

  • ตรวจจับเสียงรบกวน
    แอพฯ นี้ไม่มีอะไรมาก เป็นแค่ตรวจจับเสียงดัง หรือเสียงรบกวนรอบตัวเราว่ามีความดังมากแค่ไหน หากดังมากกว่า 80 เดซิเบล จะมีการแต้งเตือนให้ออกจากบริเวณนั้นด่วน เพราะไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ

  • กำหนดลมหายใจ
    ความเครียดเกิดขึ้นไปตลอดเวลา ฉะนั้น Apple Watch SE เลยมีแอพพลิเคชั่นฝึกการหายใจ เพื่อคลายเข้าเครียดมาให้ การใช้งานก็เพียงตั้งระยะเวลาการฝึกลมหายใจ จากนั้นก็หายใจเข้าออกตามจังหวะอนิเมชั่นที่ปรากฏ

  • Activity หรือกิจกรรม
    จากทั้งหมดทั้งมวล ทุกกิจกรรม ทุกย่างก้าว จะมีการบันทึกลงมายัง Activity หรือกิจกรรม ซึ่งจะมีการบันทึก การออกกำลังกาย, การเคลื่อนไหว, การยืน โดยทั้งหมดจะมีการบันทึกสถิติในแต่ละวัน และสรุปออกมาเป็นรายสัปดาห์ เพื่อให้รู้ว่าผู้ใช้งานได้เฝาผลาญแคลอรี่ไปล้วเท่าไหร่ จำนวนเฉลี่ยต่างๆ แถมยังนำสถิติเหล่านั้นไปวัดกับเพื่อนๆ ได้อีกด้วย

โหมดตรวจจับการล้ม
โหมดนี้ไม่กล้าลองกับตัวเองจริงๆ แต่อย่างไรก็ตามน่าจะเหมาะกับผู้สูงอายุที่อาจจะเกิดเหตุการแบบนี้ขึ้นได้ โดยระบบของ Apple Watch SE จะมีการโทรออกฉุกเฉินให้ทันที หากผู้ใส่มีการล่ม โดยจะส่งข้อความ หรือโทรออก ตามเลขหมายที่ตั้งค่าเอาไว้

 

รับสายวางสาย พร้อมรับการแจ้งเตือน
Apple Watch SE จะรองรับการรับสายวางสายได้ทันที โดยไม่ต้องหยิบ iPhone ขึ้นมา และสามารถพูดคุย พร้อมฟังเสียงจาก Apple Watch SE ได้อีกด้วย เพราะตัวเรือนมีทั้งไมโครโฟน และลำโพงมาให้ ทั้งนี้จะสะดวกมาขึ้นหากเป็นรุ่น Cellular เพราะไม่ต้องเชื่อมต่อกับ iPhone ตลอดเวลา เดินห่างจาก iPhone ก็ยังรับสายได้ทันที

ส่วนข้อความแชท หรือข้อความแจ้งเตือนต่างๆ ก็จะถูกส่งมายัง Apple Watch SE ทำให้เรารับรู้ข้อมูลต่างๆ โดยไม่ต้องหยิบ iPhone ขึ้นมา หากเป็นการแชทสนทนาก็สามารถตอบกลับได้ทันที

ใช้งานมัลติมิเดีย
แน่นอนว่าการควบคุมการเล่นเพลง Apple Watch SE ก็สามารถทำได้ โดยการใช้คลังเพลง Apple Music เหมาะกับการใช้ฟังเพลงระหว่างออกกำลังกาย หรือควบคุมเพลงใน iPhone ก็ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีแอพฯ ที่เปลี่ยน Apple Watch SE ให้เป็นปุ่มกดชัตเตอร์ เวลาถ่ายรูปก็ไม่ต้องไปกดชัตเตอร์ที่ iPhone เพิ่มความสะดวกสบายไปอีกระดับ

ประสิทธิภาพใช้งานแบตเตอรี่
จากที่ทดลองใช้งานติดต่อกันโดยชาร์จเต็มในช่วงเข้า ก็พบว่า Apple Watch SE สามารถใช้งานได้ประมาณ 1 วัน (ช่วงเย็นๆ ก่อนนอนจะเหลือราวๆ 20%) โดยหลักๆ ได้ใช้งานออกกำลังกาย ตรวจจับการเต้นของหัวใจตลอดเวลา และโหมดนอนหลับ ในขณะที่การชาร์จใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก็จะได้แบตเตอรี่ 100%

ความแตกต่างระหว่าง Apple Watch SE กับ Apple Watch Series 6

  • Apple Watch SE ไม่มีฟีเจอร์ ECG, Always On Display, Blood Oxygen
  • Apple Watch SE มีเพียงตัวเรือนอะลูมิเนียม
  • Apple Watch SE ใช้ชิป S5 ซึ่งเร็วน้อยกว่าเล็กน้อยจาก Apple Watch Series 6

ราคา Apple Watch SE

  • รุ่น 40 มิลลิเมตร (GPS) ราคา 9,400 บาท
  • รุ่น 40 มิลลิเมตร (GPS+Cellular) ราคา 10,900 บาท
  • รุ่น 44 มิลลิเมตร (GPS) ราคา 10,400 บาท
  • รุ่น 44 มิลลิเมตร (GPS+Cellular) ราคา 11,900 บาท

Apple

ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ : Apple Watch SE

แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/smartwatch/apple/watch-se

อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข้อมูลนาฬิกา

รีวิวโดย: ปิตุภูมิ นันทวิทยา ภาพโดย: สิรภพ ผิวทอง
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2563

VIEWS

แบ่งปันบทความ

สินค้าออนไลน์

ขึ้นด้านบน