รีวิวโทรศัพท์มือถือ Apple iPhone 12 Mini - แอปเปิ้ล

iPhone 12 Mini เหลี่ยมเล็กเดอะซีรี่ย์ พร้อมให้บริการด้านความเล็กกะทัดรัดถึงมือคุณ ใครที่ชอบใช้สมาร์ทโฟนที่มีขนาดเล็ก ดีไซน์สวยหรู ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง แต่มีการใช้งานสุดราบลื่น ก็ไม่ควรมองความ iPhone 12 Mini เป็นอย่างยิ่ง เพราะมีการขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง A14 Bionic รองรับสัญญาณ 5G ซึ่งเป็นชิปเซ็ตตัวเดียวกับรุ่นพี่อีก 3 รุ่น ไม่พอแค่นั้นยังได้ใช้หน้าจอ Super Retina XDR ที่เป็นพาแนลแบบ OLED ส่งผลให้การแสดงผลมีความสว่างขึ้น และให้สีสันที่สดคมชัด สำหรับ iPhone 12 Mini มีราคาเริ่มต้นที่ 25,900 บาท

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ขนาดตัวเครื่องของ iPhone 12 Mini มีขนาด 131.5x64.2x7.4 มิลลิเมตร และน้ำหนักเพียง 133 กรัม เรียกว่าไซน์มินิของแท้ จับใช้งานในมือเดียวได้แบบสบายๆ และยังมีดีไซน์ขอบเหลี่ยมสะดุดตา

หน้าจอแสดงผล Super Retina XDR พาแนล OLED กว้าง 5.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340x1080 พิกเซล) มีดีไซน์รอยแหว่งขนาดใหญ่

เหนือหน้าจอแสดงผลในบริเวณรอยแหว่ง มีกล้องหน้าความละเอียด 12MP ตรงกลางเป็นลำโพงเสียงใช้สนทนา และมีเสียงเพลงออกทั้งคู่ นอกจากนี้ภายในยังมีแผงเซนเซอร์สำหรับการสแกนใบหน้า 3 มิติ หรือ Face ID

ใต้หน้าจอแสดงผลไม่มีปุ่ม Touch ID หรือปุ่มโฮม จะใช้การสั่้งการแบบท่าทางแทน

ข้างซ้ายตัวเครื่องจะเป็นสีด้านตามตัวเลือกสีที่เลือก ปุ่มบนสุดเป็นปุ่ม Toggle สำหรับสลับเปลี่ยนโหมดเปิดปิดเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่มเพิ่มเสียง และลดเสียง จากนั้นล่างสุดเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ด โดยถาดรองรับซิมแบบ Nano SIM 1 ช่อง (ส่วนอีกซิมจะเป็นแบบ eSIM)

ข้างขวาตัวเครื่อง มีเพียงปุ่มเพาเวอร์สำหรับพักหน้าจอแสดงผล หรือกดค้างเพื่อเรียกใช้งาน Siri ส่วนการปิดเครื่องต้องกดปุ่มเพาเวอร์ และเพิ่มเสียงค้างเอาไว้

ส่วนบนตัวเครื่อง ไม่มีพอร์ต หรือปุ่มการใช้งานใดๆ

ส่วนล่างตัวเครื่อง มีพอร์ต USB Lightning อยู่ตรงกลาง ทางซ้ายเป็นไมโครโฟน และทางขวาเป็นลำโพงเสียง

ผลิกมาที่ฝาหลังของ iPhone 12 Mini มีการติดตั้งกล้องหลัง 2 เลนส์ ความละเอียด 12+12MP เป็นเลนส์กว้าง และเลนส์กว้างพิเศษ พร้อมไฟแฟลชกับไมโครโฟน ทั้งนี้ยังมีการจัดเรียงกล้องแบบ iPhone 11 Series โดยมีการวางกล่องบนโมดุลสี่เหลี่ยม ส่วนตรงกลางฝาหลังมีสัญลักษณ์ Apple วางอยู่

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเครื่อง iPhone 12 Mini
  • สาย USB Lightning To Type-C
  • คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคของ iPhone 12 Mini

  • ขนาดตัวเครื่อง : 131.5x64.2x7.4 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 133 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล : Super Retina XDR พาแนล OLED กว้าง 5.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340x1080 พิกเซล) และมีดีไซน์รอยแหว่งขนาดใหญ่
  • ชิปเซ็ต : A14 Bionic แบบ 5 นาโนเมตร
  • ROM : 64 / 128 / 256GB
  • ระบบปฏิบัติการ : iOS 14
  • กล้องหลัง 2 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช
    - เลนส์กว้าง ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/1.6
    - เลนส์กว้างพิเศษ ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.4
  • กล้องหน้า ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.2
  • เครือข่าย : 5G รองรับซิมแบบ Nano SIM 1 ช่อง และ eSIM
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 6 (2.4/5G), NFC,  GPS, GLONAS, Bluetooth 5.0, พอร์ต USB Lightning
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น : IP68
  • ระบบความปลอดภัย : Face ID
  • แบตเตอรี่ : เล่นวิดีโอได้สูงสุด 15 ชั่วโมง สนับสนุนชาร์จเร็วผ่านสาย 20W, ชาร์จไร้สายผ่าน MagSafe สูงสุด 15W และชาร์จไร้สายผ่าน Qi สูงสุด 7.5W

ระบบปฏิบัติการ
iPhone 12 Mini จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 14 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ที่มีการประแต่งให้มีความเร็วขึ้น และเพิ่มเติมฟีเจอร์ต่างๆ ขึ้นมามากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นวิดเจ็ตในหน้าโฮม, หน้าคลังแอป, การแจ้งเตือนเมื่อมีสายเรียกเข้าแบบหน้าต่างป็อปอัพ, หรือแม้แต่ Memoji ก็มีตัวเลือกหลากหลายสไตล์

หน้าจอหลัก และ Control Panel
ทั้งหน้าจอหลัก และ Control Panel ยังคงไว้ลายหน้าตาให้เป็นแบบฉบับ iOS เช่นเดิม ด้วยการดีไซน์ที่เน้นเป็นรูปแบบสี่เหลี่ยมขอบมน แต่ส่วนที่เพิ่มความน่าสนใจให้กับ iPhone ที่รันบน iOS 14 เห็นจะเป็นการเพิ่มวิดเจ็ตมาบนหน้าโฮมได้ด้วย

วิดเจ็ต
นี้คือสิ่งที่เพิ่มลูกเล่นให้กับหน้าโฮมของ iPhone 12 Mini และ iPhone รุ่นอื่นๆ ที่รันบน iOS 14 โดยวิดเจ็ตจะเป็นการบอกข้อมูลจากแอพฯ อื่นๆ ไว้บนหน้าโฮม และสามารถจัดรูปแบบการวางได้ตามใจ ส่วนวิธีการนำวิดเจ็ตมาใช้งานก็เพียง กดค้างบนพื้นที่วางบนหน้าจอหลัก > กดเครื่องหมาย + มุมบนซ้าย > จากนั้นจะมีวิดเจ็ตมาให้เลือกตกแต่ง

คลังแอป
จากเดิมระบบปฏิบัติการ iOS จะนำแอปทั้งหมดมารวมไว้ในหน้าจอหลัก แต่สำหรับ iOS 14 จะมีหน้าคลังแอป ไว้สำหรับแบ่งประเภทแอปแยกเป็นโฟลเดอร์ โดยคลังแอปจะอยู่หน้าสุดท้ายของหน้าจอหลัก (ปัดซ้ายไปเรื่อยๆ)

โหมดมืด
โหมดมืดของ iPhone 12 Mini จะมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้น เพราะนอกจะช่วยให้ใช้งานในตอนกลางคืนได้อย่างสบายตา ยังช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงาน เพราะหน้าจอของ iPhone 12 Mini เป็นพาแนล OLED นั้นเอง

True Tone
โหมด True Tone จะเป็นการปรับภาพหน้าจอ ให้เข้ากับสภาพแสงในขณะนั้นแบบอัตโนมัติ เพื่อจอแสดงผลสามารถแสดงภาพได้ดี แหละถนอมสายตาไปในตัว โดยจอภาพอาจจะเป็นออกสีออกเหลืองๆ ส้มๆ ในบางครั้ง

สุขภาพแบตเตอรี่
ผู้ใช้งานสามารถดูสุขภาพของแบตเตอรี่ได้ด้วจตนเอง โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > แบตเตอรี่ > สุขภาพแบตเตอรี่ จากนั้นก็ดูที่เมนู ความจุสูงสุดว่าเหลืออยู่กี่เปอร์เซนต์ หากมีเปอร์เซ็นต์ที่น้อย การใช้งานก็จะน้อยลงต้องทำการชาร์จบ่อยๆ ซึ่งหากเกิดอาการแบบนี้ ก็ควรนำไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่ศูนย์บริการ

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพตัวเครื่องด้วย AnTuTu Benchmark v8.3.7 ได้ 508,718 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย 3DMark Wild Life Unlimited ได้ 6,541 คะแนน

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ตัวเครื่องเหลี่ยม วัสดุชั้นดี
Apple ตัดสินใจนำดีไซน์ขอบเหลี่ยมกลับมาใช้อีกครั้งกับ iPhone 12 Series หลังจากห่างหายไปนอนตั้งแต่ปี 2016 กับ iPhone SE (2016) โดย iPhone 12 Mini จะมีขนาดเล็กที่สุดตามชื่อมินิ ส่วนวัสดุที่ใช้เป็นแบบ Ceramic Shield พร้อมผสมกับกระจก ทำให้ดูเงาวาวสวยงาม ทนแรงตกกระแทกได้ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ขอบตัวเครื่องยังเป็นอะลูมิเนียม เกรมเดียวกับอุตสาหกรรมอวกาศ

ชิปเซ็ต A14 Bionic รองรับสัญญาณ 5G
iPhone 12 Mini จะมาพร้อมชิปเซ็ต A14 Bionic เหมือนกับ iPhone 12 Series รุ่นอื่นๆ โดยเป็นชิปเซ็ตตัวใหม่ขนาด 5 นาโนเมตร พร้อมพกความแรงแบบจัดเต็ม และมีการประมวลผล AI จาก Neural Engine ที่ฉลาดขึ้น ทั้งนี้ยังมีระบบ Smart Data Mode ที่ช่วยให้ใช้งานสัญญาณ 5G อย่างสมเหตุสมผล ซึ่งระบบจะปรับเปลี่ยนเป็น 4G หรือ 5G ให้แบบอัตโนมัติ ขึ้นอยู่กับการใช้งานในเวลานั้นๆ โดยเป็นการช่วยประหยัดแบตเตอรี่ให้อีกทาง

หน้าจอ Super Retina XDR พาแนล OLED
ใช่ว่า iPhone 12 Mini ที่เป็นน้องเล็กสุดจะได้หน้าจอพาแนล LCD เหมือนรุ่นก่อนๆ โดยมารอบนี้ได้ใช้หน้าจอ Super Retina XDR พาแนล OLED เหมือนอีก 3 รุ่นพี่ ทำให้หน้าจอมีความคมชัดแสดงสีได้สด และสว่างมากขึ้น ที่สำคัญมีความละเอียด FHD+ อีกด้วย แต่จุดสังเกตุก็คือ ด้วยความกว้างเพียง 5.4 นิ้ว ทำให้การแสดงผลดูไม่เต็มตาเท่าที่ควร เห็นได้จากการใช้งาน Youtube ที่รอยแหว่งมีจะเข้ามาบังตัวเลขวินาทีอยู่ แต่ก็ไม่น่าจะส่งผลมากกับคนที่ชื่นชอบไซน์เล็กๆ พกพาสะดวกแบบนี้

ทดสอบการเล่นเกม
สำหรับการเล่นเกมบน iPhone 12 Mini ย่อมเล่นได้ทุกเกมอยู่แล้ว เพราะความแรงของชิปเซ็ต A14 Bionic โดยการทดสอบได้ใช้เกม PUBG Mobile, LOL Wild Rift และ Genshin Impact ในการทดสอบ ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่เยี่ยมมากๆ

เกม PUBG Mobile สามารถดาวน์โหลดกราฟฟิก Ultra HD มาใช้งานได้ ซึ่งจะทำให้ภาพสวยขึ้นเป็นพิเศษ แต่หากจะเล่นจริงจัง ก็แนะนำว่าปรับเป็น HDR HD จะดีกว่า เพราะสามารถดันเฟรมเรตได้ถึงระดับสูงสุด

ต่อมาเป็นเกม LOL Wild Rift ด้านกราฟฟิกสามารถปรับได้แบบสูงสุดในระดับ Ultra HD พร้อมเปิดเงา เปิดรายละเอียด และดันเฟรมเรตที่ 60fps ได้ด้วย ซึ่งในการปะทะใช้สกิลกันหนักๆ เฟรมเรตก็ยังนิ่ง ไม่มีอาการกระตุกให้เห็น แต่ตัวเครื่องจะร้อนอยู่พอสมควร

สุดท้ายเป็นเกม Genshin Impact อีกเกมที่กินสเปคมากทีเดียว ซึ่ง iPhone 12 Mini ก็สามารถเล่นได้ในความระเอียดระดับสูงสุด พร้อมดันเฟรมเรตไปที่ 60fps ได้ แต่ตัวเครื่องจะร้อนมาก ทำให้เกิดอาการ fps ตกเป็นช่วงๆ หากจะให้แนะนำก็ควรเล่นที่ความละเอียดสูง และปรับเฟรมเรตที่ 30fps ก็พอ

Face ID
Face ID ยังคงเป็นระบบความปลอดภัยของ iPhone 12 Mini ซึ่งการทำงานจะมีความรวดเร็วมากขึ้นจาก iPhone รุ่นก่อนๆ และยังสแกนได้อย่างแม่นยำไม่ว่าสภาพแสงเป็นแบบไหน หรือผู้ใช้มีการสวมหมวก หรือแว่นตา นอกจากนี้สามารถจดจำใบหน้าได้สูงสุด 2 ใบหน้าอีกด้วย

Memoji Sticker ส่งแอพฯ อื่นก็ได้
อานิสงส์จาก iOS 14 ทำให้ Memoji Sticker บน iPhone 12 Mini มีการปรับแต่งที่มากขึ้น และยังเปิดให้ใช้งานกับแอปแชทอื่นๆ ได้แล้วด้วย ไม่ว่าจะเป็น Line หรือ Facebook Messenger ด้วยการใช้คีย์บอร์ด และกดปุ่ม Emoji

แบตเตอรี่
ทาง Apple ไม่ได้มีการบอกแบตเตอรี่ของ iPhone 12 Mini มาเป็นตัวเลข แต่จากการทดสอบก็พบว่า สามารถใช้ดูวิดีโอ Youtube ความละเอียด 1080p ระยะเวลาประมาณ 50 นาที จากแบตเตอรี่ 79% ลดลงมาเหลือ 71% เท่านั้น ส่วนการชาร์จผ่านสาย จะรองรับการชาร์จเร็วสูงสุด 20W แต่ในการรีวิวจะใช้อะแดปเตอร์ PD 3.0 จ่ายไฟสูงสุด 18W โดยพบว่าจากแบตเตอรี่ 1% ใช้เวลาชาร์จไป 1 ชั่วโมง ได้แบตเตอรี่มาที่ 80%

การใช้งานกล้องถ่ายรูป
iPhone 12 Mini อาจจะไม่โดดเด่นในเรื่องของกล้องถ่ายรูปมากนัก แต่การทำงานโดยรวมถือว่าค่อนข้างดีเยี่ยม โดยการทำงานส่วนใหญ่จะเป็นแบบอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นโหมดกลางคืน, HDR อัตโนมัติ, และ Deep Fusion ที่สำคัญยังสามารถใช้งานได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง ส่วนเรื่องของความละเอียด กล้องหลังจะมาพร้อมกัน 2 เลนส์ เป็นเลนส์กว้าง และเลนส์กว้างพิเศษ ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล ด้านกล้องหน้าก็มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เช่นเดียวกัน สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุดที่ 4k 60fps

มุมกว้าง
ในการใช้งานโหมดมุมกว้างจากเลนส์กว้างพิเศษ จะเป็นการเพิ่มมุมกว้างให้ 120 องศา ซึ่งจะช่วยเก็บรายละเอียดภาพได้มากขึ้น ที่สำคัญภาพที่ออกมาดูไม่บิดเบี้ยว ซึ่งปกติแล้วเลนส์กว้างพิเศษ เมื่อถ่ายออกมาภาพจะมีเบี้ยวๆ โค้งๆ เล็กน้อย ถือว่า iPhone 12 Mini มีการปรับแต่งภาพที่ดีเยี่ยมทีเดียว

โหมดกลางคืน
การใช้งานโหมดกลางคืนจะเป็นการใช้งานแบบอัตโนมัติ เมื่อระบบมองว่ากำลังอยู่ในสภาพแสงน้อย ก็จะทำการเข้าโหมดมืดให้ทันที และผู้ใช้งานสามารถเลือกระยะเวลาการประมวลผลได้เอง หรือจะให้ระบบทำการแบบอัตโนมัติก็ได้เช่นกัน แต่ยิ่งประมวลผลนาน ภาพก็ยิ่งออกมาดูดีมากยิ่งขึ้น ส่วนภาพจริงที่ออกมาก็พบว่า ให้แสงสีในบรรยากาศค่ำคืนได้สวยงาม แสงสีสดใส และเปิดเผยรายละเอียดในส่วนมุมมืดได้ดี

ภาพถ่ายบุคคล
แม้ว่า iPhone 12 Mini จะมีกล้องหลังเพียง 2 เลนส์ แต่การถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอถือว่าทำได้ดีเกินคาด มีการเบลอพื้นหลังตัดกับส่วนหน้าได้อย่างเนียนกริ๊บ พร้อมกับการเบลอที่สุดเป็นธรรมชาติ ตรงนี้คงต้องยกความดีให้กับระบบซอฟแวร์ และขุมพลัง A14 Bionic ที่ทำการเบลอพื้นหลังได้อย่างสุดยอด

 

บันทึกวิดีโอแบบ Dolby Vision
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า iPhone 12 Mini สามารถถ่ายวิดีโอแบบ Dolby Vision ได้ เพราะปกติแล้วเทคโนโลยีนี้จะต้องถ่ายทำในสตูดิโอระดับฮอลลีวูดเท่านั้น ซึ่งวิดีโอที่ถ่ายทำออกมาจะมีสีสันที่คมชัดถึง 700 ล้านสี และบันทึกวิดีโอระดับ 10 บิต แต่สามารถถ่ายทำได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K 30fps 

คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง

  • ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหลัง : 4032 x 3024 (4:3), 4032 x 2268 (16:9) 3024 x 3024 (จัตุรัส) พิกเซล
  • ความละเอียดของภาพถ่ายจากกล้องหน้า : 4032 x 3024 (4:3), 4032 x 2268 (16:9) 3024 x 3024 (จัตุรัส) พิกเซล
  • ซูมแบบ Optical ได้ 2 เท่า และดิจิตอล 5 เท่า
  • โหมดกล้อง : ภาพถ่ายบุคคล, จัตุรัส, พาโน, กลางคืน
  • ไฟแฟลช : อัตโนมัติ, เปิด, ปิด
  • Live Photo : เปิด, ปิด
  • ตั้งเวลาถ่ายภาพ : ปิด, 3, 10 วินาที
  • ฟิลเตอร์ : ต้นฉบับ, แจ่มใส, แจ่มใสโทนอุ่น, แจ่มใสโทนเย็น, ดราม่า, ดราม่าโทนอุ่น, ดราม่าโทนเย็น, ขาวและดำ, โทนสีเงิน, ฟิล์มนัวร์
  • รูปแบบ : ประสิทธิภาพสูง, เข้ากันได้มากที่สุด
  • การตั้งค่าใช้งานล่าสุด : โหมดกล้อง, การควบคุมแบบสร้างสรรค์, Live Photo
  • ใช้ปุ่มเพิ่มระดับเสียงสำหรับภาพถ่ายต่อเนื่อง : เปิด, ปิด
  • สแกนรหัส QR : เปิด, ปิด
  • เส้นตาราง : เปิด, ปิด
  • กลับข้างกล้องด้านหน้า : เปิด, ปิด
  • ดูนอกกรอบ : เปิด, ปิด
  • การตรวจจับฉาก : เปิด, ปิด
  • การปรับแก้เลนส์ : เปิด, ปิด
  • HDR อัจฉริยะ : เปิด, ปิด

คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ

  • ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหลัง : 1280 x 720 (720p HD ที่ 30fps), 1920 x 1080 (1080p HD ที่ 30fps), 1920 x 1080 (1080p HD ที่ 60fps), 3840 x 2160 (4K ที่ 24fps), 3840 x 2160 (4K ที่ 30fps), 3840 x 2160 (4K ที่ 60fps) พิกเซล
  • ความละเอียดของภาพวีดีโอจากกล้องหน้า : 1280 x 720 (720p HD ที่ 30fps), 1920 x 1080 (1080p HD ที่ 30fps), 1920 x 1080 (1080p HD ที่ 60fps), 3840 x 2160 (4K ที่ 24fps), 3840 x 2160 (4K ที่ 30fps), 3840 x 2160 (4K ที่ 60fps) พิกเซล
  • ซูม : 0.5 - 3 เท่า
  • แฟลช : อัตโนมัติ, เปิด, ปิด
  • บันทึกเสียงสเตอริโอ : เปิด, ปิด
  • โหมดการถ่ายวิดีโอ : ปกติ, สโลว์โมชั่น, ไทม์แลปส์

Samsung

ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ : iPhone 12 Mini
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=463357

แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/spec/apple/iphone_12_mini.htm

อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข้อมูลมือถือ

รีวิวโดย: ปิตุภูมิ นันทวิทยา ภาพโดย: สิรภพ ผิวทอง
วันที่ 14 ธันวาคม 2563

VIEWS

แบ่งปันบทความ

สินค้าออนไลน์

ขึ้นด้านบน