iPad Air 2020 แท็บเล็ตตัวพริ้วแห่งปี ค.ศ. 2020 โดยมาพร้อมดีไซน์ใหม่แบบหน้าจอทั้งหมด ตัดปุ่มโฮมออก แต่ยังมีระบบ Touch ID ที่ปุ่มเพาเวอร์ ส่วนที่ว่าพริ้วๆ ก็เพราะได้ชิปเซ็ต A14 Bionic มาขับเคลื่อนให้ แน่นอนว่าการทำงานมีประสิทธิภาพระดับสูง รวดเร็วทันใจไม่ว่าทำงาน หรือเล่นเกม และยังรองรับการเชื่อมต่อแบบทันใจทั้ง Wi-Fi 6 และ LTE ไม่พอแค่นั้นอุปกรณ์เสริมก็มาเพิ่มสีสันการใช้งานได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น Apple Pencil รุ่นที่ 2 และ Magic Keyboard
ขนาดตัวเครื่องของ iPad Air 2020 มีขนาด 247.6x178.5x6.4 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 458 กรัม (รุ่น Wi-Fi), 460 กรัม (รุ่น Wi-Fi+Cellular) ดีไซน์เป็นแบบขอบเหลี่ยมเหมือน iPhone 12 Series
หน้าจอแสดงผล Liquid Retina พาแนล IPS-LCD กว้าง 10.9 นิ้ว ความละเอียด 2360x1640 พิกเซล รองรับการใช้งานร่วมกับ Apple Pencil รุ่นที่ 2
ส่วนเหนือหน้าจอแสดงผล มีกล้องหน้า ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล
ส่วนล่างหน้าจอแสดงผล จะไม่มีปุ่มโฮมอีกต่อไป และการควบคุมการใช้งานจะเป็นแบบ Gesture หรือท่าทางในการควบคุม
ข้างซ้ายตัวเครื่องไม่มีปุ่มการใช้งานใดๆ
ข้างขวาตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่มเสียง และลดเสียงอยู่ด้านบนสุด ถัดลงมาตรงกลางเป็นแถบแม่เหล็กสำหรับติด และชาร์จ Apple Pencil ส่วนล่างสุดเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบ Nano SIM 1 ช่อง
บนตัวเครื่อง มีลำโพงเสียง 2 ตัวทางซ้าย และขวา ตรงกลางเป็นรูไมโครโฟน ส่วนทางขวาสุดเป็นปุ่มเพาเวอร์ สามารถใช้งาน Touch ID ได้ด้วย
ใต้ตัวเครื่อง ตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C ส่วนทางซ้าย และขวาเป็นลำโพงเสียง
ผลิกมาที่ด้านหลังกันบ้าง มุมบนซ้ายจะเป็นกล้องหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ใต้กล้องมีรูไมโครโฟน ถัดมาตรงกลางเป็นสัญลักษณ์ Apple สะท้อนเงา และล่างสุดเป็นแถบแม่เล็ก 3 วง สำหรับติดกับเคสอย่างเช่น Magic Keyboard
อุปกรณ์ภายในกล่อง
สเปคของ iPad Air 2020
ระบบปฏิบัติการ
iPad Air 2020 จะได้ใช้งาน iPadOS 14 ตั้งแต่แกะกล่อง ซึ่ง iPadOS 14 จะมีความแปลกใหม่ต่างจาก iOS ที่ใช้บน iPhone โดยจะเน้นไปที่การใช้งานง่ายๆ มีอินเตอร์เฟสรองรับการใช้งานหน้าจอใหญ่ ที่สำคัญยังรองรับการใช้งานกับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 อีกด้วย
หน้าจอหลัก
หน้าจอหลักของ iPad Air 2020 ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมมากนัก โดยยังมีถาด Dock อยู่ข้างล่าง ปัดหน้ามุมขวาลงเพื่อเปิด Control Panel และปัดหน้าจอข้างบนลงล่างเพื่อดูการแจ้งเตือน
วิดเจ็ต
วิดเจ็ตเป็นอีกลูกเล่นที่เพิ่มเข้ามา แต่จะใช้งานไม่เหมือน iOS โดยวิดเจ็ตจะอยู่ทางซ้ายของหน้าจอหลัก สามารถปรับแต่งเลือกวิตเจ็ตได้ตามใจ และเลือกได้ว่าจะให้โชว์ทางซ้ายตลอดเวลา หรือปัดหน้าจอไปทางขวา 1 ที เพื่อเปิดถาดวิดเจ็ดออกมา
Dock
ถาด Dock จะอยู่ทางด้านล่างของหน้าจอหลัก ซึ่งเป็นถาดเพื่อเปิดแอพฯ ที่ใส่ไว้ในนั้น และยังเปิดแอพฯ ที่ใช้งานล่าสุดได้ทันที หากมีการใช้งานแอพพลิเคชั่นอื่นอยู่ก็สามารถเปิดถาด Dock ออกมาได้เช่นกัน โดยการปัดหน้าจอด้านล่างขึ้น ทั้งนี้ Dock ยังมีไว้แบ่งหน้าจอ และเปิดแอพฯ แบบ Pop Up ได้อีกด้วย
การแบ่งหน้าจอ
การแบ่งหน้าจอต้องใช้ Dock ช่วยเพื่อแบ่งหน้าจอ เมื่อเปิดใช้งานแอพฯ ใดแอพฯ หนึ่งอยู่ ให้ปัดหน้าจอด้านล่างขึ้นเพื่อเปิดถาด Dock จากนั้นกดค้างแอพฯ ที่ต้องการจะแบ่งหน้าออกมานอก Dock และเลื่อนไปทางซ้าย หรือขวาของหน้าจอ ก็จะเป็นการแบ่งหน้าจอทันที นอกจากนี้ยังแบ่งหน้าจอแบบ Pop up ได้อีกด้วย เพียงลากออกมาจาก Dock และปล่อยทันที
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ดีไซน์หน้าจอเต็มๆ ไม่มีปุ่ม Home
iPad Air 2020 จะเป็นหน้าจอแบบเต็มๆ ไร้ปุ่มโฮม พร้อมหน้าจอ Liquid Retina กว้าง 10.9 นิ้ว ความละเอียด 2360x1640 พิกเซล ภาพรวมก็ถือว่ามีความสวยงามมากขึ้นเมื่อนำปุ่มโฮมออกไป ส่วนการสแกนลายนิ้วมือ หรือ Touch ID จะเปลี่ยนไปอยู่ปุ่มเพาเวอร์แทน
ชิปเซ็ต A14 Bionic พริ้วสุดๆ
เรื่องของความรวดเร็วในการใช้งานแทบไม่ต้องเป็นกังวล เพราะ iPad Air 2020 ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตตัวแรงอย่าง A14 Bionic ไม่ว่าจะทำงานด้านกราฟฟิก หรือตัดต่อวิดีโอรัดับ 4K ก็มีการทำงานที่รวดเร็ว และยังใช้เล่นเกมได้แบบสบายๆ อีกด้วย
ทดสอบการเล่นเกม
การเล่นเกมไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะ iPad Air 2020 มีชิปเซ็ตอย่าง A14 Bionic ขับเคลื่อนให้อยู่ แน่นอนว่าการเล่นเกมที่ต้องสเปคหนักๆ ก็ยังปรับสุดได้อยู่ ซึ่งในการทดสอบก็ใช้เกม PUBG Mobile และ Genshin Impact ในการทดสอบ
ซึ่งเกม PUBG Mobile สามารถปรับได้ถึงระดับ Ultra HD และ Genshin Impact สามารถปรับได้ระดับสูงสุด แต่ตัวเครื่องจะมีความร้อนสูง ซึ่งแนะนำในเล่นในระดับปานกลางจะดีกว่า
Touch ID
แม้ว่าจะไม่มีปุ่มโฮมอีกต่อไป แต่การใช้งาน Touch ID ยังคงอยู่ โดยย้ายไปอยู่กับปุ่มเพาเวอร์แทน ซึ่งการสแกนก็ยังมีความรวดเร็วพอสมควร และสามารถจดจำลายนิ้วมือได้สูงสุด 3 ลายนิ้วมือ
แบตเตอรี่
เป็นเรื่องปกติที่ Apple จะไม่บอกขนาดแบตเตอรี่ในอุปกรณ์ต่างๆ แต่จากที่ลองใช้งานดูไลฟ์ผ่าน Facebook เป็นเวลา 30 นาที ผ่านการเชื่อมต่อ Wi-Fi จากแบตเตอรี่ 74% ลดลงมาเหลือ 62% ส่วนการชาร์จแบตเตอรี่จะรองรับการชาร์จเร็ว 20W
Apple Pencil รุ่นที่ 2
การใช้งาน iPad Air 2020 จะขาดสีสันไปเลย หากไม่ได้ใช้งานร่วมกับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 ใครที่ชอบการวาดภาพ หรือทำงานสายกราฟฟิกไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง โดย Apple Pencil รุ่นที่ 2 นี้จะมีความหน่วงที่น้อยลงมาแทบไม่รู้สึกถึงความหน่วง และยังมีการทำงานแบบสัมผัสเพื่อเปลี่ยนเครื่องมือ ส่วนการดีไซน์จะมีด้านหนึ่งเป็นผิวเรียบ เพื่อยึดติดกับแม่เหล็กชาร์จได้สะดวก
Magic Keyboard
ส่วนตัวค่อนข้างชอบ Magic Keyboard มากทีเดียว เพราะใช้งานเข้ากับ iPad Air 2020 ได้ดีมากๆ พร้อมเปลี่ยน iPad Air 2020 เป็นเครื่องแท็บเล็ตได้ง่ายๆ แถมยังมี Touch Pad ที่ใช้งานได้ดีเยี่ยมเหมือน MacBook เลย แป้นพิมพ์ก็มีการรองรับภาษาไทย และไฟ LED ใต้คีย์บอร์ดสามารถใช้งานในตอนกลางคืนได้สบาย
การใช้งานกล้องถ่ายรูป
กล้องถ่ายรูปของ iPad Air 2020 จะถูกติดตั้งกล้องหลังมา 1 เลนส์ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เป็นเลนส์ชุด 5 ชิ้น พร้อมไฟแฟลช สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4k ที่ 60fps ส่วนกล้องหน้า FaceTime จะมีความละเอียด 7 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 1080p ที่ 60fps
การถ่ายรูปจากกล้องหลัง
ก็ถือว่าตามสภาพสำหรับกล้องหลังที่มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และมีแค่เลนส์เดียวทำให้ลูกเล่น หรือฟังก์ชั่นการใช้งานจะมีน้อย แต่ก็ยังถ่ายภาพออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง และไปเน้นในการบันทึกวิดีโอมากกว่า
การถ่ายรูปจากกล้องหน้า
การถ่ายเซลฟี่ก็เป็นอีกสิ่งที่ไม่เน้นมากนัก และจะเน้นให้ใช้งานในทาง FaceTime เสียมากกว่า ขอให้ภาพตัวอย่างเล่าเรื่องก็แล้วกัน
คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง
คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ
ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ : iPad Air 2020
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=463225
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/spec/apple/ipad_air_(2020).htm
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท