OPPO สานต่อความสำเร็จของ Reno Series ด้วย OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G สองสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ใน OPPO Reno5 Series 5G ที่มาพร้อมสโลแกน "Picture Life Together" จัดเต็มการถ่ายภาพและวิดีโอพอร์ตเทรตที่สวยงามแตกต่าง ไม่มีใครเหมือน ช่วยบันทึกช่วงเวลาอันงดงามของเราและผู้ที่อยู่ร่วมด้วยไปพร้อมๆ กัน โดดเด่นด้วยดีไซน์บางเฉียบ เฉดสีที่มีเอกลักษณ์ ใช้งานบนหน้าจอที่ลื่นไหล Refresh Rate 90Hz สามารถรองรับเครือข่าย 5G ที่เร็วแรง ใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบในราคาที่คุ้มค่า

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ดีไซน์ตัวเครื่องของ OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G ยังคงชูจุดเด่นในเรื่องของความเบาและบางเป็นพิเศษ โดยมีน้ำหนักเบาเพียง 171 กรัม มีความหนาเพียง 7.7 มม. ในรุ่น OPPO Reno5 สี Starry Black (เครื่องพรีวิวสีดำ) ส่วน OPPO Reno5 5G สี Galactic Silver (เครื่องพรีวิวสีเงิน) มีน้ำหนัก 180 กรัม และบางเพียง 7.9 มม. ฝาหลังโค้งแบบ 3 มิติและขอบจอแสดงผลเป็นแบบ 2.5D ตัวเครื่องรับกับมือ และด้วยความบางเบาจึงใช้งานมือเดียวได้อย่างสบายๆ

จอแสดงผลของ OPPO Reno5 Series 5G เป็นหน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400x1080 พิกเซล) มีรอยเจาะตรงมุมซ้ายบนเพื่อใช้เป็นตำแหน่งของ รองรับอัตรา Refresh Rate สูงสุดที่ 90Hz และรองรับค่า Touch Sampling Rate ที่ 180Hz การแสดงผลของจอจึงมีความสว่างคมชัด ลื่นไหล มองได้เต็มตามากยิ่งขึ้น

มุมบนซ้ายของหน้าจอเป็นรอยเจาะ ใช้สำหรับวางกล้องหน้า ซึ่งใน OPPO Reno5 5G มีความละเอียด 44 ล้านพิกเซล และ Reno 5 Pro 5G ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล

ส่วนล่างของหน้าจอเป็นปุ่มควบคุมแบบซอร์ฟแวร์ระบบ มีขนาดลดลงเหลือ 3.98 มม. ทำให้มีพื้นที่หน้าจอมากขึ้น

ตัวเครื่องด้านบนมีไมโครโฟนตัดเสียง

ตัวเครื่องด้านซ้าย ด้านบนเป็นช่องใส่ถาดซิม ถัดลงมาเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง

ตัวเครื่องด้านขวาเป็นปุ่ม Power มีดีไซน์เป็นขีดสีเขียวตัดกับตัวปุ่ม ทำให้สังเกตุเห็นได้ง่ายขึ้น

ด้านล่างของตัวเครื่องมีพอร์ตชาร์จแบบ USB Type-C ฝั่งขวาเป็นลำโพงเสียง ส่วนฝั่งซ้ายเป็นไมโครโฟน ถัดไปเป็นช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม.

สำหรับด้านหลังของเครื่องมีกล้องหลังอยู่ ซึ่งทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับกล้อง 4 เลนส์ ประกอบด้วย กล้องหลัก ความละเอียด 64MP, เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8MP ให้มุมมองกว้าง 119 องศา, เลนส์ Marco ความละเอียด 2MP และเลนส์ Mono ความละเอียด 2MP พร้อมไฟแฟลช วางอยู่ในโมดูลสี่เหลี่ยมผืนผ้าตรงมุมบนซ้ายของเครื่อง ดูสวยงามเข้ากับดีไซน์เครื่อง ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป

ปรับดีไซน์ใหม่กับลูกเล่นสีที่เป็นเอกลักษณ์

สำหรับดีไซน์สีของ OPPO Reno5 5G ได้นำเทคโนโลยี Diamond Spectrum Process มาใช้ให้สี Galactic Silver บนฝาหลังเครื่อง สามารถสะท้อนสีสันได้นับพันสีจากแต่ละมุมมองที่ต่างกัน แต่สีที่เห็นได้ชัดจะมีทั้งหมด 5 สีด้วยกัน ได้แก่ สีเขียว สีเหลือง สีฟ้า สีม่วง และ สีส้ม ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยเทคนิค Reno Glow รุ่นใหม่ ที่ใช้กระบวนการ AG glassซึ่งออกแบบโดย OPPO ช่วยให้มีความระยิบระยับมากขึ้นถึง 35% ทั้งยังป้องกันรอยนิ้วมือและคราบมันได้ดีกว่าเดิม

กล้องที่เป็นที่สุดของวิดีโอ Portrait

จุดเด่นที่น่าจับตามองของ OPPO Reno5 Series 5G จะเป็นในเรื่องของการถ่ายวิดีโอพอร์ตเทรด ที่มีโหมด Dual-view Video และ AI Mixed Portrait ที่เพิ่มเข้ามาเพื่อสร้างความสนุกสนาน แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ให้วิดีโอของคุณเป็นที่สุดของวิดีโอ Portrait

  • โหมด Dual-view Video ของ OPPO Reno5 Series 5G สามารถถ่ายวิดีโอได้พร้อมกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง มีรูปแบบการแบ่งหน้าจอที่มีมาให้เลือก 3 แบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบ Split คือแบ่งอย่างละครึ่งจอ, แบบ Round แบ่งกล้องหน้าเป็นวงกลม และแบบ Rectangle แบ่งกล้องหน้าเป็นสี่เหลี่ยม คราวนี้ก็สามารถเก็บภาพวิวหรือบุคคลที่อยู่เบื้องหน้า รวมถึงเก็บภาพใบหน้าและความรู้สึกของผู้ถือกล้องได้ไปพร้อมๆ กัน

  • โหมด AI Mixed Portrait ที่มีอยู่ใน OPPO Reno5 เป็นครั้งแรกของโลกที่สมาร์ทโฟนนำเอาโหมดนี้มาใช้กับกล้องถ่ายวิดีโอ ด้วยการนำวิดีโอ Portrait มาซ้อนทับกับวิดีโออื่น เพื่อเกิดเอฟเฟกต์วิดีโอที่สวยงาม ช่วยให้วิดีโอของคุณมีความแตกต่างจากที่เคย และด้วยอัลกอริทึม AI ขั้นสูง ทำให้สามารถตัดขอบตัวบุคคลได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในโหมดนี้ ก็มีรูปแบบให้เลือกอีก 2 รูปแบบ คือ Shilhouette Mode และ Blend mode นั่นเอง

ยืนหนึ่งเรื่องการถ่ายภาพ Portrait

นอกจากในส่วนของกล้องวิดีโอแล้ว สำหรับการถ่ายภาพนิ่งก็ได้พัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ด้วย Image-clear Engine (ICE)ช่วยให้ OPPO Reno5 Series 5G ถ่ายภาพ Portrait ได้ดียิ่งขึ้น จับภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวได้ชัดเจน คมชัดในทุกรายละเอียด 5ถ่ายภาพกลางคืนได้อย่างสวยงาม ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแสงใดๆ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ Night Flare Portrait ที่คงความสว่างคมชัดให้กับบุคคล แล้วเบลอดวงไฟด้านหลังให้สวยงามด้วยเอฟเฟกต์ bokeh ช่วยให้ภาพมีความลงตัวอย่างเป็นธรรมชาติ

สำหรับด้านประสิทธิภาพของการทำงาน OPPO Reno5 มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 720G ส่วนใน OPPO Reno5 5G มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 765G ที่รองรับเทคโนโลยี 5G มีหน่วยความจำ RAM อยู่ที่ 8GB และ ROM 128GB เพิ่มหน่วยความจำภายในได้สูงสุด 256GB มอบประสิทธิภาพการใช้งานที่ลื่นไหล

ในส่วนของแบตเตอรี่ OPPO Reno5 มีความจุ 4,310 mAh เทคโนโลยี 50W Flash Charging ชาร์จแบตเต็ม 100% ได้ในเวลา 48 นาที และใน OPPO Reno5 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,300 mAh รองรับชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0 สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็มในเวลาเพียง 35 นาที เท่านั้น ตอบโจทย์คนยุคใหม่ ที่ต้องการความรวดเร็วได้อย่างดี

พิเศษ! สำหรับผู้ที่สั่งจอง OPPO Reno5 ล่วงหน้า จะได้รับของแถมสุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะ Smart Scale และ E-VIP Card ส่วนผู้ที่จอง OPPO Reno5 5G จะได้รับ เครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะ Smart Scale, Bluetooth Speaker และ E-VIP Card ไปพร้อมกันเลย

ซึ่ง OPPO พร้อมเปิดตัว OPPO Reno5 Series 5G สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ในสโลแกน “Picture Life Together” พร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 26 มกราคมนี้ ตั้งแต่เวลา 19.00 เป็นต้นไป ในรูปแบบออนไลน์ที่ช่องทาง Facebook, YouTube และ Line official ของ OPPO Thailand อย่าลืมรับชมกัน พร้อมติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/oppothai

อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข้อมูลมือถือ

รีวิวโดย: ปภัสสร อมรประสิทธิ์ ภาพโดย: สิรภพ ผิวทอง
วันที่ 23 มกราคม 2564

VIEWS

แบ่งปันบทความ

สินค้าออนไลน์