พรีวิว OPPO Find X3 Pro 5G สมาร์ทโฟนแฟล็กชิพรุ่นล่าสุดของ OPPO มาพร้อมที่สุดแห่งสีสันหนึ่งพันล้านสี เก็บทุกประสบการณ์ให้สวยสดสมจริง ทั้งหน้าจอที่คมชัดและภาพถ่ายที่เสมือนจริงด้วยสี 10-bit แบบพันล้านสี มาพร้อมกับการออกแบบที่สวยล้ำแรงบันดาลใจจากจักรวาล อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ลำ้กว่าใครๆ ในแบบฉบับของ Find Series บนขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 888 แบตเตอรี่ 4500mAh ใช้ได้ยาวนานและ 65W SuperVOOC 2.0 ให้ชาร์จได้อย่างรวดเร็ว
เริ่มกันที่ตัวเครื่องบางเพียง 8.26 มม. ซึ่งถือว่าทำได้บางมากในความเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธง และมีน้ำหนักเพียง 193 กรัม ดีไซน์ได้รับแรงบันดาลใจจากอวกาศ ไร้รอยต่อ จับถือได้อย่างพอดีมือ ดูหรูหรา
หน้าจอเป็นกระจกโค้งชนกับกรอบตัวเครื่องที่เป็นโลหะ ใช้จอแสดงผล AMOLED กว้าง 6.7 นิ้ว ความคมชัด QHD+ (3216x1440 พิกเซล) อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 92.7% ความสว่างสูงสุด 1300nit รองรับอัตรารีเฟรชเรตสูงสุด 120Hz
ส่วนบนของหน้าจอเป็นแบบ Punch Hole Display รอยเจาะที่มุมซ้าย เป็นตำแหน่งของกล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล f/2.4 ตรงกลางเป็นลำโพงเสียง
ส่วนล่างของหน้าจอไม่มีปุ่มใดๆ เป็นปุ่มควบคุมแบบซอร์ฟแวร์ รองรับการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
ด้านบนตัวเครื่องมีไมโครโฟนอยู่ทางด้านซ้าย
ด้านซ้ายของเครื่องเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง
ด้านขวาของเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิด และล็อคหน้าจอ โดยมีดีไซน์ขีดสีเขียวเพิ่มความโดดเด่น
สำหรับตัวเครื่องด้านล่าง มีพอร์ตแบบ USB Type-C อยู่ตรงกลาง ฝั่งซ้ายเป็นลำโพงเสียง ส่วนทางฝั่งขวาจะเป็นไมโครโฟนและช่องใส่ถาดซิมแบบ Dual SIM รองรับ Nano SIM จำนวน 2 ซิม เพิ่มหน่วยความจำ MicroSD Card ไม่ได้ และไม่มีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม.
ด้านหลังของเครื่องดูหรูหราพรีเมี่ยมมาก เป็นกระจกชิ้นเดียวที่ไร้รอยต่อ มีความต่อเนื่องไปกับความโค้งของโมดูลกล้อง กล้องหลังมี 4 เลนส์ ประกอบด้วย กล้องหลักซึ่งเป็นกล้อง Wide-angle ด้วย ความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ Sony IMX766, กล้องหลักอีกหนึ่งตัว เป็นกล้อง Ultra-wide-angle ด้วย ความละเอียด 50MP, กล้อง Telephoto ความละเอียด 13MP และกล้อง 60x Microlens ความละเอียด 3MP พร้อม Ring Flash
สำหรับ OPPO Find X3 Pro 5G นับว่าเป็นครั้งแรกของโลกที่สามารถถ่ายภาพและแสดงผลได้หนึ่งพันล้านสีบนสมาร์ทโฟน นับเป็นนวัตกรรมที่ทาง OPPO ได้พัฒนาและนำมาใช้กับสมาร์ทโฟนเรือธงของปีนี้ จอโค้ง AMULED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ มีเทคโนโลยี true adaptive 120Hz ช่วยปรับอัตรารีเฟรชเรท 5-120 Hz ได้อัตโนมัติตามความเหมาะสม เพื่อความลื่นไหลของการใช้งาน และยังช่วยประหยัดแบตเตอรี่ด้วย
อีกไฮไลท์ที่น่าสนใจของหน้าจอ OPPO Find X3 Pro 5G ซึ่งจะไม่เอ่ยถึงไม่ได้เลย ก็คือความสามารถในการแสดงผลที่ได้มากถึงพันล้านสี (10-bit colour) เพิ่มชีวิตชีวาให้กับการแสดงภาพ สีสันสวยคมชัดกว่าที่เคย และหน้าจอของ OPPO Find X3 Pro 5G ยังรองรับ HDR10+ ช่วยให้รับคอนเทนต์ HDR บนออนไลน์และออฟไลน์ได้
OPPO Find X3 Pro 5G มาพร้อมกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว กล้องหลัก 2 ตัว มีความละเอียด 50MP ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX766 ทั้งคู่ โดยเป็นเลนส์ Wide และ Ultra-wide มุมมอง 110 องศา สามารถจับภาพสีสันพันล้านสีแบบ 10-bit ถ่ายภาพได้ได้อย่างสวยงามทุกมุมมอง ทุกสภาพแสง
ส่วนกล้อง Telephoto มีความละเอียด 13MP รองรับ 5X Hybrid zoom และ 20x Digital Zoom อีกเลนส์คือกล้อง Microlens ความละเอียด 3MP กำลังขยายสูงสุด 60x ขยายกว่าที่เรามองเห็นแบบปกติได้ 60 เท่า เสมือนกับถ่ายด้วยกล้องจุลทรรน์กันเลยทีเดียว
OPPO Find X3 Pro 5G ใช้ขุมพลังตัวแรงอย่าง Snapdragon 888 รองรับเทคโนโลยี 5G โดยรองรับคลื่นความถี่ 13 ช่วง ทั้งแบบ SA และ NSA มาพร้อมแบตเตอรี่ ความจุ 4,500mAh กับชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0 ชาร์จ 40% ในเวลาเพียง 10 นาที รับรองความปลอดภัยจาก TÜV อีกทั้งยังมีการชาร์จไร้สาย 30W AirVOOC Wireless Flash Charge และระบบ 10W Reverse Wireless Charging ที่ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้อย่างรวดเร็วและไม่ทำให้เครื่องร้อนด้วย
OPPO Find X3 Pro 5G มีเฉดสีให้เลือก 2 สี 2 สไตล์ สีที่เรานำมาพรีวิวนี้ คือ สี Gloss Black มีพื้นผิวคล้ายเซรามิกเคลือบเงา กระจกสีดำมีความสะท้อนดูหรูหรา อีกสี คือ สี Blue ใช้วัสดุ frost matte แบบด้าน สัมผัสแบบแก้วที่มีความนุ่มนวล ป้องกันการเกิดรอยเปื้อนและรอยนิ้วมือได้ดี
สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนจอง OPPO Find X3 Pro 5G ในรอบ Exclusive Blind Booking จะได้รับของสมนาคุณ ไม่ว่าจะเป็น แท่นชาร์จไร้สาย OPPO AirVOOC Wireless Charger 45W, เคส KEVLAR, พรีเมี่ยมการ์ด และหูฟังไร้สาย OPPO EncoX มูลค่ารวม 19,497 บาท
โดยเฉพาะหูฟังไร้สาย OPPO EncoX หูฟังคุณภาพระดับแฟล็กชิพ ที่ทาง OPPO ร่วมมือกับ Dynaudio ผู้นำด้านเครื่องเสียงจากเดนมาร์คช่วยกันพัฒนาขึ้น ขับเคลื่อนด้วย Dynamic Balance Enhanced Engine 3.0 (DBEE 3.0) Sound System ของ OPPO ให้พลังเสียงที่ทรงประสิทธิภาพ สามารถตัดเสียงรบกวนได้ถึง 4 รูปแบบ ตามการใช้งาน โทรได้อย่างคมชัดในทุกสถานการณ์ รองรับการ์ชาร์จแบบ Qi Wireless charging และ reverse wireless charging การใช้งานได้นานถึง 25 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็มในเคสหนึ่งครั้ง
สามารถพรีออร์เดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 – 17 มีนาคม 2564 และยืนยันสิทธิ์ผ่านอีเมลในวันที่ 18 - 23 มีนาคม 2564 ผ่านทาง https://bit.ly/3r8gJCO จากนั้นรอรับเครื่องได้ ในวันที่ 27 มีนาคม 2564 เวลา 10.00 น. – 17.00 น. ที่ OPPO Biggest Flagship Store ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่ทางบริษัทกำหนด
OPPO Find X3 Pro 5G จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย วันที่ 18 มีนาคม 2564 นี้ รอร่วมสัมผัสสมาร์ทโฟนที่สุดแห่งพันล้านสี และลุ้นราคาไทย ไปพร้อมกัน เร็วๆ นี้
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท