รีวิว OPPO Find X3 Pro 5G ครั้งแรกของโลก! สมาร์ทโฟนแฟล็กชิพที่สุดแห่งพันล้านสี และดีไซน์แห่งอนาคต

รีวิว OPPO OPPO Find X3 Pro 5G สมาร์ทโฟนแฟล็กชิพที่สุดแห่งพันล้านสี ที่มาพร้อมสโลแกน “Awaken Colour” ปลุกพลังแห่งสีสันทั้งกล้องและหน้าจอ ดีไซน์บางเบาแบบไร้รอยต่อที่ได้แรงบันดาลใจจากอวกาศ จอโค้ง AMOLED กว้าง 6.7 นิ้ว QHD+ รองรับสีแบบ 10-bit มีเทคโนโลยี true adaptive 120Hz กล้องหลัก 2 ตัวพร้อมเซ็นเซอร์ Sony IMX766 ทั้งคู่ ความลึกสีระดับ 10-bit ทั้งการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ และกล้อง 60x Microlens ที่เหมือนยกกล้องจุลทรรศ์มาไว้ในสมาร์ทโฟน เร็วแรงด้วยขุมพลัง Snapdragon 888 รองรับเทคโนโลยี 5G แบตเตอรี่ ความจุ 4,500mAh กับชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0 ชาร์จได้ 40% ในเวลาเพียง 10 นาที ปลอดภัยไร้กังวลด้วยการรับรองจาก TÜV

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

OPPO Find X3 Pro 5G มีขนาดตัวเครื่อง 163.6 x 74 x 8.26 มม. น้ำหนัก 193 กรัม เรียกได้ว่าบางและเบามาก เมื่อเทียบกับการเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธง ดีไซน์ได้รับแรงบันดาลใจจากอวกาศ กระจกหน้าเป็น Gorilla Glass 5 ส่วนด้านหลังมีพื้นผิวคล้ายเซรามิกเคลือบเงา กระจกสีดำไร้รอยต่อ ดูสวยงามพรีเมียม

หน้าจอโค้งชนกับกรอบตัวเครื่องที่เป็นโลหะ จอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความคมชัด QHD+ (3216x1440 พิกเซล) อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 92.7% ความสว่างสูงสุด 1300 nit รองรับ Adaptive Refresh Rate 120Hz

ดีไซน์หน้าจอ Punch Hole Display ที่มุมด้านซ้าย ซึ่งเป็นตำแหน่งของกล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล f/2.4 ตรงกลางเป็นลำโพงเสียง

ส่วนล่างของหน้าจอเป็นปุ่มนำทางโดยระบบซอร์ฟแวร์ สามารถตั้งค่าได้ภายหลัง รองรับการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ

ด้านบนตัวเครื่องมีไมโครโฟนอยู่ทางด้านซ้าย

ด้านซ้ายของเครื่องเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง

ด้านขวาของเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิด และล็อคหน้าจอ เพิ่มความโดดเด่นด้วยขีดสีเขียวที่ตัดกับสีกรอบของเครื่อง

ด้านล่างของตัวเครื่อง มีพอร์ตแบบ USB Type-C อยู่ตรงกลาง ฝั่งซ้ายเป็นลำโพงเสียง ฝั่งขวาเป็นไมโครโฟน ถัดไปเป็นช่องใส่ถาดซิมแบบ Dual SIM รองรับ Nano SIM จำนวน 2 ซิม เพิ่มหน่วยความจำ MicroSD Card ไม่ได้ และไม่มีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม.

ด้านหลังของตัวเครื่องมีพื้นผิวแบบเงางาม เป็นกระจกชิ้นเดียวที่ไร้รอยต่อ โค้งไปตามโมดูลกล้อง กล้องหลังมี 4 เลนส์ ประกอบด้วย กล้องหลักซึ่งเป็นกล้อง Wide-angle ด้วย ความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ Sony IMX766, กล้องหลักอีกหนึ่งตัว เป็นกล้อง Ultra-wide-angle ด้วย ความละเอียด 50MP, กล้อง Telephoto ความละเอียด 13MP และกล้อง 60x Microlens ความละเอียด 3MP พร้อม Ring Flash

สเปกเบื้องต้นของ OPPO Find X3 Pro 5G

• ขนาดตัวเครื่อง : 163.6 x 74 x 8.26 มม.
• น้ำหนัก : 193 กรัม
• หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 3216x1440 พิกเซล มีโหมดอ่านหนังสือ และโหมดกลางคืน เลือกปรับอัตรารีเฟรชเรทได้ (60Hz/120Hz) มีอัตราตอบสนองทัชสกรีน 240Hz ให้แสงสว่างสูงสุด 1300 nits
• ชิปเซ็ต : Snapdragon 888
• GPU : Adreno 660
• RAM : 12GB LPDDR5 (3200MHz 4 x 16 บิต )
• พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 256GB UFS 3.1
• MicroSD Card : ไม่รองรับ
• ระบบปฏิบัติการ : ColorOS 11.2 บนพื้นฐาน Android 11
• กล้องหลัง 4 เลนส์
  
  • เลนส์หลัก Wide ความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ Sony IMX766 รูรับแสง f/1.8 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS และระบบโฟกัส PDAF รองรับระดับสี 10-bit
  • เลนส์หลัก Ultra Wide มุมมอง 110 องศา ความละเอียด 50MP เซนเซอร์ Sony IMX766 รูรับแสง f/2.2 และระบบโฟกัส PDAF รองรับระดับสี 10-bit
  • เลนส์ 60x Microlens ความละเอียด 3MP กำลังขยาย 60 เท่า รูรับแสง f/2.4
  • เลนส์ Telephoto ความละเอียด 13MP รูรับแสง f/2.4 ซูมภาพ 5 เท่า แบบ Hybrid Optical Zoom กับซูมภาพปกติ 20 เท่า
• กล้องหน้า : ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
• การเชื่อมต่อ : 5G, 4G, 3G, WiFI 6, Wi-Fi 2.4GHz+5GHz, Bluetooth 5.2 - BLE, TWS+ (SBC/AAC/APTX/APTX HD/LDAC HD Audio), NFC, Wi-Fi Direct, GPS, GLONASS
• พอร์ต USB Type-C 2.0
• เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า
• แบตเตอรี่ :  ความจุ 4,500mAh รองรับ ชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0, ชาร์จไร้สาย 30W AirVOOC Wireless Flash Charge และระบบ 10W Reverse Wireless Charging

 

 

 

 

 

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

ชิปเซ็ตและหน่วยความจำ

OPPO Find X3 Pro 5G ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 888 octa-core ความเร็วของ CPU สูงถึง 2.84Ghz รวมถึงมี Adreno 660 GPU ทำงานผสานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เครื่องประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งยังประหยัดพลังงานอีกด้วย RAM ความจุ 12GB และ ROM ความจุ 256GB UFS 3.1 ไม่สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้ รองรับคลื่นความถี่ 5G ได้มากถึง 13 แบบ และรองรับ 5G แบบ Dual-mode ได้อีกด้วย

 

ระบบปฏิบัติการ

ระบบปฏิบัติการ ColorOS 11.2 พื้นฐาน Android11 ให้การทำงานที่ลื่นไหลไม่มีสะดุด ดูมีชีวิตชีวา มีระบบความเป็นส่วนตัวที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น พร้อม Always On Display ที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของคุณ และที่พิเศษยิ่งขึ้น คือได้นักแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ เจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง Hans Zimmer มาแต่งเพลงริงโทนเฉพาะให้กับ OPPO Find X3 Pro 5G ด้วย

หน้าจอหลัก

 

หน้าจอล็อค

แถบการใช้งานด้านบน

 

แถบการใช้งานด้านข้าง

 

การปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ

OPPO Find X3 Pro 5G มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Color OS11.2 ใหม่ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งรูปแบบที่ต้องการได้ตามความต้องการอย่างหลากหลาย หน้าตา UI ดูมีชีวิตชีวา ใช้งานง่าย และสวยงาม เข้ากันได้อย่างลงตัวกับดีไซน์ของเครื่อง

 

 

 

ลักษณะไอคอน

สามารถเลือกใช้ได้ทั้ง ค่าเริ่มต้น ปรับแต่งความเล็กใหญ่ หรือรูปร่างของไอคอนได้ ตามความต้องการของคุณ

 

 

การซ่อนรูกล้องหน้า

สามารถเข้าไปปรับให้หน้าจอเป็นสี่เปลี่ยนแบบเต็มได้ เพื่อให้หน้าจอไม่ดูมีรอยแหว่ง แต่อาจทำให้พื้นที่การแสดงผลเล็กลง

Always-On Display

OPPO Find X3 Pro 5G สามารถปรับแต่งหน้า Always-On Display ของคุณเองได้ตามจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของคุณ โดยรูปแบบที่หลากหลายทั้งข้อความ และเลย์เอาท์ในเทมเพลตของคุณได้ง่ายๆ หรือจะเลือกใช้ตามที่มีรูปแบบกำหนดไว้ก็ได้เช่นเดียวกัน

 

 

Dark Mode

OPPO Find X3 Pro 5G ยังคงมาพร้อมกับโหมดมืด (Dark Mode) ที่ทำการเปลี่ยนธีมสีของหน้าจอให้มืดลง และปรับความสว่างของสีตัวอักษร เพื่อเป็นการถนอมสายตาเมื่อต้องใช้หน้าจอใหนที่มืด หรือสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการใช้งานในโหมดนี้ เพื่อความสบายตา แต่ที่พิเศษคือ Dark Mode ใน OPPO Reno5 Series 5G มีโทนสีเข้มให้เลือก 3 รูปแบบ คือ โทนเทา, มืด และมืดดำสนิท และยังสามารถตั้งค่าเวลาที่ต้องการใช้งานโหมดนี้ได้อีกด้วย

 

 

 

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง OPPO Find X3 Pro 5G

• ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v8.5.2 ได้ 548,313 คะแนน
• ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 5 ได้คะแนน Single-Core ที่ 743 และคะแนน Multi-Core ที่ 2 973 คะแนน
• ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย 3DMark (Wild Life) ได้ 5 639 คะแนน
• ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

 

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ ดังนี้

• Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
• Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
• Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
• Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
• Gyroscope Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
• Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
• Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ดีไซน์ล้ำแรงบันดาลใจจากอวกาศ

เรียกได้ว่าการดีไซน์ตัวเครื่องด้านหลังของ OPPO Find X3 Pro 5G ดูล้ำนำเทรนด์สมาร์ทโฟนทั่วไปพอสมควร ด้วยการใช้ฝาหลังเชื่อมรวมกันเป็นชิ้นเดียวไปกับกล้องที่เรียกว่า Gradient Arc Camera ไร้รอยต่อ ได้รับแรงบันดาลใจจากอวกาศ มี Control points กว่า 2,000 จุด ทำให้ควบคุมเส้นโค้งในกระจกได้อย่างแม่นยำ รับกับมือได้พอดี ตัวเครื่องมีความบาง 8.26 มม. และน้ำหนัก 193 กรัม ซึ่งถือว่าค่อนข้างเบาบางเมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธง

OPPO Find X3 Pro 5G มีมาให้เลือก 2 สี นั่นคือ สี Gloss Black ที่มีความเงางามประดุจเคลือบด้วยเซรามิค และสี Blue ที่ใช้วัสดุ frost matte แบบด้าน มีสัมผัสคล้ายแก้วที่อ่อนนุ่มดุจผ้าไหม พร้อมลดการเกิดรอยนิ้วมือได้ดี ทั้งยังมีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 มาไว้ให้ด้วย

จอชัดพันล้านสี

OPPO Find X3 Pro 5G มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ขนาดกว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (3216 x 1440 พิกเซล) ความหนาแน่นของพิกเซล 526 พิกเซลต่อนิ้ว อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 92.7% ความสว่างสูงสุด 1300 nits การแสดงผลลื่นไหลด้วยเทคโนโลยี true adaptive 120Hz ช่วยปรับอัตรารีเฟรชเรท 5-120 Hz ได้อัตโนมัติให้เหมาะกับการใช้งานในตอนนั้น เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด และช่วยประหยัดพลังงาน พร้อมทั้งรองรับ HDR10 + รับชมคอนเทนต์ HDR บนออนไลน์และออฟไลน์ได้

นอกจากนี้ หน้าจอของ OPPO Find X3 Pro 5G ยังสามารถแสดงผลได้มากถึงพันล้านสี (10-bit colour) เมื่อเทียบกับหน้าจอซึ่งเป็นแบบ 8 bit จะพบความแตกต่างจากการให้สีสัน และความคมชัด เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับหน้าจอสมาร์ทโฟนระดับเรือธง ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นสีให้กับผู้ที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นสี ให้สามารถมองเห็นสีสันที่แท้จริงได้อย่างใกล้เคียงที่สุดด้วย Colour Vision Enhancement เพื่อปรับการรับรู้ของสีที่เฉพาะเจาะจงของผู้ใช้งานได้

 

 

 

ขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 888 5G

ชิปประมวลผลตัวแรงที่สมาร์ทโฟนแฟล็กชิพ OPPO Find X3 Pro 5G เลือกใช้ก็คือ Snapdragon 888 5G Octa Core ชิปรุ่นเรือธงของ Qualcomm เช่นกัน มีความเร็วของ CPU สูงถึง 2.84Ghz ทำงานผสานกันกับ Adreno 660 GPU พร้อม RAM 12GB +  ROM 256GB ช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น 35% และยังประหยัดพลังงานมากกว่า 20% จากรุ่นเดิม รองรับการเล่นเกมที่ต้องการใช้สเปคสูงๆ ได้อย่างสบาย ดันกราฟฟิคสูงสุด เล่นได้ไม่มีสะดุด การใช้งานทั่วไปลื่นไหลตามแบบฉบับเรือธง

รองรับ 5G แบบ Dual-mode

OPPO Find X3 Pro 5G มาพร้อมกับชิปประมวลผล Snapdragon 888 5G ซึ่งรองรับเทคโนโลยี 5G โดยรองรับคลื่นความถี่ 13 ช่วง ทั้งแบบ SA และ NSA อีกทั้งยังรองรับ Dual-SIM 5G + 5G dual reception ทำให้สามารถใส่ซิม 5G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม รับสัญญาณได้อย่างเป็นอิสระของตัวเองโดยไม่มีผลกระทบใดๆ ตอกัน ช่วยให้มีความหลากหลายของคลื่นสัญญานและจับเครือข่ายที่ดีที่สุดให้กับการใช้งาน และรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 จึงสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้พร้อมกัน 2 แอปฯ ผ่านทาง WiFi และเซลลูลาร์

ปลดล็อคง่ายๆ บนหน้าจอ

OPPO Find X3 Pro 5G รองรับการปลดล็อคด้วยการสแกนใบหน้าที่รวดเร็ว แต่ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่เราต้องใส่หน้ากากอนามัย การปลดล็อคด้วยใบหน้าอาจสร้างความไม่สะดวกเมื่อต้องใช้งานในที่สาธารณะ การปลดล็อคด้วยการสแกนลายนิ้วมือ จึงดูเป็นทางเลือกที่ดีในสถาณการณ์เช่นนี้ โดยสามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็วที่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่อยู่ภายใต้หน้าจอ รองรับลายนิ้วมือได้สูงสุดที่ 5 ลายนิ้วมือ ตั้งค่าได้ทั้งการปลดล็อคเพื่อเข้าใช้งานเครื่อง รวมถึงการเข้าใช้งานแอปพลิเคชั่นที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ทั้งยังมีเอฟเฟ็คเท่ห์ ให้เลือกใช้เวลาที่สแกนลายนิ้วมือด้วย

 

 

แบตใหญ่กับชาร์จเร็ว 65W SuperVooc 2.0

แม้ว่า OPPO Find X3 Pro 5G จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ ความจุ 4,500mAh ที่สามารถใช้งานอย่างเพียงพอตลอดทั้งวัน แต่ก็ยังให้เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0 ที่สามารถชาร์จแบตฯได้ 40% ในเวลาเพียง 10 นาที มาให้ด้วย เพื่อความคล่องตัวในการใช้งานตามวิถีของคนสมัยใหม่ ซึ่งบางทีลืมชาร์จ หรือใช้งานหนักจริงๆ อย่างดาวน์โหลดไฟล์ใหญ่ๆ จากการที่ใช้ 5G ได้ ทำให้แบตหมดเร็วขึ้น อีกทั้งยังมีการชาร์จไร้สาย 30W AirVOOC Wireless Flash Charge ชาร์จ OPPO Find X3 Pro 5G ได้เต็มในเวลาเพียง 80 นาที และชาร์จให้กับอุปกรณ์อื่นได้ด้วยระบบ 10W Reverse Wireless Charging โดยได้รับรองความปลอดภัยจาก TÜV Rheinland

กล้องหลังถ่ายภาพพันล้านสี

OPPO Find X3 Pro 5G มีระบบการประมวลสี 10-bit Full-path Colour Engine ที่ให้มาครบทั้งการแสดงผลบนหน้าจอและการถ่ายภาพ ในส่วนของกล้องหลัง 4 เลนส์ มีกล้องหลักคู่ ความละเอียด 50MP แบบ 1 Billion Colour Dual Primary Cameras เป็นครั้งแรกของโลก โดยแบ่งเป็นเลนส์ Wide และ Ultra-wide มุมมอง 110 องศา พร้อมกันนั้น ทั้งสองกล้องยังใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX766 ที่เป็นตัวท็อปมาช่วยให้การถ่ายภาพมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมุมแบบปกติหรือมุมกว้าง ก็ไม่ถูกลดทอนความละเอียด จะถ่ายมุมไหนก็ชัดเจน และยังสามารถจับภาพสีสันพันล้านสีแบบ 10-bit ได้อย่างสวยงาม หากดูภาพผ่านหน้าจอซึ่งรองรับ 10 bit จะเห็นได้ว่าสีสันมีความเนียนละเอียดและใกล้เคียงกับความจริงมากขึ้นกว่าเดิม

นอกจากนี้ ยังมีกล้อง Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 รองรับการซูมไฮบริดแบบออปติคอล 5 เท่า, ซูมดิจิตอล 20 เท่า และกล้อง 60x Microlens ความละเอียด 3 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/3.0 สามารถซูมได้ 60 เท่า เผยให้เห็นรายละเอียดของวัตถุได้อย่างชัดเจน

• ภาพมุมมองกว้างพิเศษ

  ด้วยเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ ความละเอียด 50MP ของกล้อง Wide-Angle และ Ultra-wide-angle ใน OPPO Find X3 Pro 5G ช่วยให้สามารถถ่ายภาพมุมกว้าง 110 องศาได้อย่างสวยงาม ความบิดเบี้ยวน้อยลง การจับสีสันสม่ำเสมอ และมีความคมชัดของภาพไม่ว่าจะเป็นการถ่ายย้อนแสงจ้าในตอนแดดจัด หรือแสงน้อยในที่มืด

60x Microlens

OPPO Find X3 Pro 5G ได้ทำการยกกล้องจุลทรรศน์ขนาดย่อมๆ เข้ามาไว้ในสมาร์ทโฟน ด้วยเลนส์ 60x Microlens ความละเอียด 3MP ขยายจากที่ตาเราเห็น 60 เท่า ให้เราได้ถ่ายภาพมุมมองใหม่ เก็บรายละเอียดของวัตถุเสมือนได้ถ่ายด้วยกล้องจุลทรรน์กันเลยทีเดียว โดยสามารถเข้าไปเลือกใช้โหมด "กล้องจุลทรรศน์" ได้ในส่วนเพิ่มเติมของกล้อง เมื่อเปิดใช้โหมดนี้ แสงไฟ Ring Flash จะเปิดขึ้นอัตโนมัติ

มากกว่าด้วย RAW+

OPPO Find X3 Pro 5G ยังสนับสนุนการถ่ายภาพในรูปแบบ RAW+ ซึ่งมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าไฟล์ RAW แบบปกติ ด้วยการถ่ายภาพแบบ ไฟล์ RAW+ HDR สามารถให้รายละเอียดภาพที่มากยิ่งขึ้น ขยายขอบเขตในการปรับแต่งที่มากกว่ามาตรฐานของไฟล์ RAW ทั่วไป ทั้งยังช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยสว่างคมชัดขึ้น ชูความโดดเด่นของจุดโฟกัสที่อยู่ด้านหน้า แต่ก็เก็บรายละเอียดวัตถุที่อยู่ด้านหลังไว้ได้อย่างชัดเจน

ภาพ Portrait

ในส่วนของการถ่ายภาพบุคคลของ OPPO Find X3 Pro 5G ก็ทำได้ค่อนข้างดีมาก ด้วยการจับจุดโฟกัสที่ตัวบุคคลให้โดดเด่น เบลอฉากหลังได้ค่อนข้างเนียน เก็บรายละเอียดของส่วนเล็กๆ อย่างปรอยผมได้ดีขึ้น สีสันมีความสดสมจริง

กล้องหน้าเซลฟี่

OPPO Find X3 Pro 5G มาพร้อมกล้อง ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.4 มี AI Beauty 2.0 ช่วยปรับแต่งใบหน้าให้มีความสวยงามตามธรรมชาติ ไม่หลอกตา แม้แต่ในเวลากลางคืน ก็ถ่ายเซลฟี่สวยๆ เผยความงามของใบหน้าได้อย่างสว่างชัด

 

 

 

 

การถ่ายวิดีโอ

• Cinematic mode

ด้วยการจับภาพ 1 พันล้านสีที่มีใน OPPO Find X3 Pro 5G จึงสามารถดึงประโยชน์จากรายละเอียดแบบ 10-bit คมชัดระดับ 4K, รองรับช่วงสี BT.2020, HDR และ log recording มาใช้ในรการถ่ายวิดีโอให้เป็นระดับโปรมากขึ้น ด้วยโหมดภาพยนตร์ (Cinematic mode) ที่ปรับสัดส่วนของวิดีโอให้เท่ากับจอหนัง ควบคุม ISO, White balance, ความเร็วของชัตเตอร์ และโฟกัส แบบ Manual ทั้งหมด ช่วยตอบโจทย์ความต้องการถ่ายวิดีโอระดับมืออาชีพได้ด้วยสมาร์ทโฟนในมือคุณ

• AI Highlight Video

  AI Highlight Video ของ OPPO Find X3 Pro 5G จะช่วยให้การถ่ายภาพวิดีโอเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น เพราะจะช่วยปรับแต่งภาพด้วยการเปิดใช้ HDR การใช้โหมดกลางคืน, การซูมเสียง ควบคุมการสั่นด้วยระบบ Ultra Steady Stabilization ได้โดยอัตโนมัติ ตรวจจับฉากต่างๆ ได้กว่า 17 ฉาก ไม่ว่าจะเป็นบุคคล, ผู้คน, ท้องฟ้า, ต้นไม้, ใบหญ้า สัตว์ต่างๆ หรือแม้กระทั่งอาหารได้อย่างแม่นยำ

OPPO Find X3 Pro 5G มีมาให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือ สี Gloss Black (แบบเงา) และสี Blue (แบบด้าน) วางจำหน่ายในราคา 33,990 บาท

จองได้ตั้งแต่ วันนี้ – 2 เม.ย. 64 ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ พร้อมรับของสมนาคุณสุดพิเศษ OPPO Premium Service, Kevlar Case และ OPPO AirVOOC Wireless Charger 45W  มูลค่ารวม 13,498 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3bV7q3P 

พิเศษ! เมื่อจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย รับส่วนลดสูงสุดถึง 15,000 บาทเลยทีเดียว