สมาร์ทโฟนจากค่าย vivo มีอะไรให้ตื่นเต้นอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดเป็น vivo X60 Pro 5G สมาร์ทโฟนระบบกันสั่นแบบ Gimbal พร้อมจับมือกับแบรนด์ดังอย่าง ZEISS เพื่อร่วมพัฒนากล้องถ่ายรูป แถมยังนำเลนส์แบบ Optical ของ ZEISS มาใช้กับกล้อง vivo X60 Pro 5G อีกด้วย เรียกว่าจัดเต็มทั้งเรื่องถ่ายวิดีโอ และการถ่ายภาพนิ่ง ใครที่เน้นการใช้งานกล้องถ่ายรูปเป็นหลัก ต้องห้ามพลาดอย่างยิ่ง ส่วนผลลัพธ์ทั้งการถ่ายภาพ และการใช้งานจริงจะออกมาเป็นอย่างไร ตามมาดูในการรีวิวกันได้เลย
vivo X60 Pro 5G (สี Shimmer Blue) มีขนาดรอบตัวเครื่องอยู่ที่ 158.58x73.24x7.69 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 179 กรัม แต่หากเป็น Vivo X60 Pro (สี Midnight Black) ตัวเครื่องจากบางลง และน้ำหนักเบาไปอีก ด้วยขนาด 158.58x73.24x7.59 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 177 กรัม
หน้าจอแสดงผลเป็นจอโค้งพาแนล AMOLED กว้าง 6.56 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2376x1080 พิกเซล) มีอัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz และใช้ดีไซน์รอยแหว่งแบบจอเจาะรู
เหนือหน้าจอแสดงผล ในรอยแหว่งมีกล้องหน้า ความละเอียด 32MP และขอบหน้าจอด้านบนมีช่องลำโพงสำหรับการสนทนา
หน้าจอแสดงผลด้านล่าง ไม่มีปุ่มการใช้งานแบบฮาร์ดแวร์ โดยปุ่มนำทางจะมาในรูปแบบซอฟแวร์ และสนับสนุนการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
ข้างซ้ายตัวเครื่อง ไม่มีปุ่มการใช้งานใดๆ
ข้างขวาตัวเครื่อง จะพบกับปุ่มยาวสำหรับเพิ่มเสียง หรือลดเสียง ถัดลงมาด้านล่างเป็นปุ่มเพาเวอร์สำหรับเปิดปิดเครื่อง หรือพักหน้าจอ ทั้งนี้ตรงปุ่มเพาเวอร์จะใส่ดีเทลแบบขรุขระ เพื่อใส่สัมผัสแล้วรู้ว่าเป็นปุ่มเพาเวอร์
ส่วนบนตัวเครื่อง มีรูไมโครโฟน และเขียนข้อความไว้ว่า Professional Photography
ส่วนใต้ตัวเครื่อง ตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C ทางซ้ายมีรูไมโครโฟน ตามมาด้วยช่องใส่ถาดซิมการ์ด โดยถาดเป็นแบบ 2 ช่องรองรับซิมแบบ Nano SIM ส่วนทางขวาเป็นลำโพงเสียง
พลิกมาดูฝาหลังตัวเครื่อง จะติดตั้งกล้องหลังมาด้วยกัน 3 เลนส์บนโมดูลสี่เหลี่ยมผืนผ้า พร้อมกำกับด้วยโลโก้ ZEISS ที่มุมบนขวา ทั้งนี้ยังมีไฟแฟลช และข้อความ ZEISS Vario-Tessar 1.48-2.5/16-50 ASPH ส่วนมุมล่างซ้ายของฝาหลังจะพบกับโลโก้ Vivo
- เลนส์หลัก ความละเอียด 48MP รูรับแสง f/1.48
- เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 13MP รูรับแสง f/2.2
- เลนส์ Telephoto ความละเอียด 13MP รูรับแสง f/2.46
อุปกรณ์ภายในกล่อง
สเปคของ vivo X60 Pro 5G
RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน
ตัวเลือก RAM และ ROM ของ vivo X60 Pro 5G จะมีตัวเลือกเดียวคือ 12GB + 256GB ซึ่ง RAM 12 GB ถือว่ามากทีเดียว แถมระบบปฏิบัติการ FuntouchOS 11.1 ยังมีฟังก์ชั่น RAM ส่วนขยาย ช่วยเพิ่ม RAM ให้อีก 3 โดยส่วนนี้จะเป็น RAM สำรองเผื่อเวลาใช้งานไม่เพียงพอ
ระบบปฏิบัติการ
vivo X60 Pro 5G จะรันบนระบบปฏิบัติการ FuntouchOS 11.1 บนพื้นฐาน Android 11 โดยมีการปรับแต่งให้อะนิเมชั่นดูรวดเร็ว และลื่นตา พร้อมกับการทำงานที่เข้ากับฮาร์ดแวร์ได้อย่างดี ส่วน UI ก็เน้นดูง่ายน่าใช้งาน พร้อมกับมีฟีเจอร์ต่างๆ ช่วยให้ใช้งานได้สะดวก
หน้าจอหลัก
ในส่วนหน้าจอหลักของ vivo X60 Pro 5G จะเน้นหน้าตา UI ที่เป็นแบบกลมๆ ขอบมนๆ เป็นหลัก ซึ่งให้ความรู้สึกนุ่มนวลน่าใช้ ส่วนการเก็บแอพฯ จะมีทั้งไว้ในหน้าจอหลัก และถาด ซึ่งมีการใช้ 2 อย่างพร้อมกัน
Wallpaper และธีม
การเปลี่ยน Wallpaper ก็สามารถเปลี่ยนได้ทั้งปกติ และแบบ Live รวมไปถึงธีม ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดเพิ่มเติมมากมาย สามารถเข้าไปที่ การตั้งค่า > หน้าจอล็อกและวอลเปเปอร์
การนำทาง
เริ่มแรกมา vivo X60 Pro 5G มาพร้อมปุ่มนำทางแบบ 3 ปุ่ม แต่ก็สามารถเข้าไปเปลี่ยนเป็น การนำทางด้วยท่าทางสัมผัส ได้เช่นกัน โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > ระบบ > การนำทางของระบบ
เอฟเฟ็กต์แแบบไดนามิก
เอฟเฟ็กต์ต่างๆ ในเครื่องไม่ว่าจะเป็น เอฟเฟคหลังจากปลดล็อกเครื่องเข้าสู่หน้าจอหลัก, ภาพเคลื่อนไหวไอคอนสแกนลายนิ้วมือ, ภาพเคลื่อนไหวจดจำลายนิ้วมือ, ภาพเคลื่อนไหวการจดจำใบหน้า, ภาพเคลื่อนไหวการชาร์จ, แทรกภาพเคลื่อนไหว USB, และภาพเคลื่อนไหวหน้าจอสว่าง/หน้าจอดับ ซึ่งทั้งหมดสามารถปรับแต่งเป็นรูปแบบอื่นๆ ได้ โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > เอฟเฟ็กต์แบบไดนามิก
โหมดมืด
โหมดมืดจะเป็นการปรับแต่งพื้นหลังเป็นสีดำ และใช้ตัวหนังสือสีขาว ซึ่งช่วยให้ใช้งานในตอนกลางคืนได้สบายตา ทั้งนี้ vivo X60 Pro 5G ยังมีหน้าจอพาแนล AMOLED ทำให้การใช้งานโหมดกลางคืน เป็นการประหยัดพลังงานในอีกทาง
วิธีปรับอัตรา Refresh Rate
หน้าจอของ vivo X60 Pro 5G จะรองรับอัตรา Refresh Rate สูงสุดที่ 120Hz แต่หากผู้ใช้งานต้องการลดลงมาเป็น 60Hz ได้ เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ หรือจะเปิดใช้ระบบปรับอัตโนมัติเพื่อให้ระบบเลือกใช้เองตามความเหมาะสม ก็สามารถเข้าไปที่ การตั้งค่า > การแสดงผลและความสว่าง > การทดสอบการรีเฟรชหน้าจอ
Always On Display
โหมด Always On Display จะมีมาใน vivo X60 Pro 5G ด้วย ซึ่งจะเป็นการแสดงข้อมูลบางส่วนเวลาหน้าจอถูกพัก ที่สำคัญมีตัวเลือกปรับแต่งดีไซน์ ตามความต้องการได้ด้วย โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > หน้าจอล็อกและวอลเปเปอร์ > แสดงบนหน้าจอตลอด
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้
ตัวเครื่องสวยงามตามดีไซน์เก่งของ Vivo
vivo X60 Pro 5G ยังมาพร้อมดีไซน์เก่งของ Vivo โดยใช้ฝาหลังเป็นสีแบบด้าน ทำให้ดูพรีเมี่ยม และน่าจับใช้งานอย่างมาก ไม่พอแค่นั้นยังมีตัวเครื่องที่โค้งบางจับใช้งานได้ถนัด ซึ่งมีความบางสูงสุดเพียง 7.59 มิลลิเมตรเท่านั้น
หน้าจอ AMOLED พร้อมอัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz
ความลื่นยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เนื่องจากหน้าอัตรา Refresh Rate ของ vivo X60 Pro 5G จะมีให้สูงสุดถึง 120Hz ทำให้การแสดงผล และการเคลื่อนไหวต่างๆ ในหน้าจอ ดูมีความลื่นตามากทีเดียว ทั้งนี้ยังมีหน้าจอพาแนล AMOLED กว้าง 6.56 นิ้ว ทำให้ภาพดูกว้าง และสีสดอีกด้วย เหมาะกับการดูซีรี่ย์อย่างยิ่ง แต่เสียดายที่ลำโพงเป็นลำโพงตัวเดียว หากจะใช้ดูซีรี่ย์ก็แนะนำให้ใช้หูฟังจะดีกว่า
สเปคจัดหนักขึ้นด้วยขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 870
ในตอนเปิดตัวที่ประเทศจีน vivo X60 Pro 5G จะใช้ขุมพลัง Exynos 1080 แต่รุ่นที่ขายในประเทศไทยจะใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 870 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตขนาด 5 นาโนเมตร และแม้ว่าจะเป็นรุ่นเล็กกว่า Qualcomm Snapdragon 888 แต่เอาเข้าจริงการทำงานถือว่ารวดเร็วพอสมควร และใช้งานในระดับสูงได้สบาย
ทดสอบการเล่นเกม
ในการเล่นเกมถือว่าทำได้ดีมากๆ แม้ว่าจะได้ชิปเซ็ตไม่ใช่ตัวท็อปสุด แต่ Qualcomm Snapdragon 870 ก็พา vivo X60 Pro 5G เล่นเกมภาพสวยๆ ได้สบาย แถมยังมีโหมด Game Turbo ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม อย่างเช่นโหมด E-Sport ที่ช่วยให้เฟรมเรตนิ่งมากขึ้น และยังมีการจัดการการแจ้งเตือนต่างๆ
โดยเกม PUBG Mobile สามารถปรับความละเอียดสูงถึง Ultra HD ซึ่งจะได้ภาพที่สวยงามสูงสุด แต่หากจะเล่นจริงจังเน้นความลื่นเป็นหลัก ก็แนะนำให้ปรับเป็น HDR HD จะดีกว่า เพราะจะดันอัตรา FPS ได้ที่สูงสุด
ส่วนอีกเกมอย่าง Genshin Impact เกมมือถือจอมกินสเปค ซึ่งก็เล่นได้อยู่ แต่แนะนำว่าให้ปรับเป็นแบบปานกลาง หากต้องการเล่น 60fps
Asphalt 9 เกมแข่งรถภาพสวยก็ไม่มีปัญหา จัดเต็มกราฟิกได้เลย
ระบบความปลอดภัย สแกนใบหน้า และสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
vivo X60 Pro 5G มาพร้อมระบบความปลอดภัยทั้ง การสแกนใบหน้า และสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ โดยการสแกนใบหน้ามีความรวดเร็ว และสแกนใบที่มืดได้ด้วย เพราะจะได้แสงจากหน้าจอช่วย ส่วนการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ก็รวดเร็ว และแม่นยำ สามารถจดจำลายนิ้วมือได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ
ทดสอบแบตเตอรี่ 4,200mAh ชาร์จเร็ว 33W
vivo X60 Pro 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,200mAh ซึ่งจากการใช้งานจริง ด้วยการดู Live บน Facebook ความละเอียด 1080p ปรับความสว่างสูงสุด เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต Wi-Fi 5GHz เป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง จากแบตเตอรี่ 100% ลดลงมาเหลือ 84% ส่วนการชาร์จเร็วจะสนับสนุน 33W โดยการทดสอบชาร์จจาก 0% ใช้เวลา 1 ชั่วโมง แบตเตอรี่ก็กลับมาถึง 95%
ทดสอบใช้งานกล้องถ่ายรูป
ไฮไลท์เด่นประจำเครื่อง vivo X60 Pro 5G จะอยู่ที่การใช้งานกล้องถ่ายรูปนี้เลย โดยกล้องหลังติดตั้งมา 3 เลนส์ ประกอบไปด้วยเลนส์หลัก ความละเอียด 48MP, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 13MP, และเลนส์ Telephoto ความละเอียด 13MP ที่สำคัญมีการใช้เลนส์แบบ Optical จากแบรนด์ ZEISS ไม่พอแค่นั้นทั้ง 2 แบรนด์ยังมีการร่วมพัฒนา เพื่อให้การถ่ายภาพออกมาดูโดดเด่นกว่าเคยในการใช้งานในโหมดต่างๆ ส่วนกล้องหน้าก็มีความละเอียด 32MP ถ่ายเซลฟี่ได้อย่างมั่นใจ รองรับโหมดการปรับหน้าสวย, สไลต์ และเอฟเฟ็กส์แสง
- Portrait กลางคืน
นอกจากโหมดกลางคืนมีไว้ถ่ายภาพทิวทัศน์แล้ว ยังสามารถใช้ร่วมกับโหมดภาพคน หรือโหมด Portrait ได้อีกด้วย ซึ่งใบหน้าจะดูสว่างชัดเจน และมีการเบลอพื้นหลังในยามค่ำคืน ถือว่า vivo X60 Pro 5G ทำออกมาได้ดีมากๆ
- มุมกว้างกลางคืน
โหมดตอนกลางคืนแต่อยากถ่ายแบบมุมกว้างๆ vivo X60 Pro 5G ก็จัดให้ โดยสามารถใช้งานโหมดตอนกลางคืน ร่วมกับโหมดกว้างได้ ซึ่งได้ทั้งมุมกว้าง และบรรยากาศตอนกลางคืนที่สวยงาม
โหมดภาพคน
ด้วยการที่กล้องของ vivo X60 Pro 5G เป็นแบบ Optical จาก ZEISS จึงทำให้มีความยาวโฟกัส หรือ Focal length อยู่ที่ 50 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นระยะที่เทียบเท่ากับสายตามนุษย์ ทำให้การถ่ายภาพ Portrait มีความสวยงามระดับมืออาชีพ นอกจากนี้ยังปรับแต่งภาพให้มีความสวยงามมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฟิลเตอร์, เอฟเฟ็กต์แสง, สไตล์ต่างๆ และปรับความเบลอได้ตามใจชอบ นอกจากนี้โหมดภาพคนยังใช้งานได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง รวมไปถึงปรับความเบลอได้ภายหลังในคลังรูป
สไตล์ ZEISS Biotar ช่วยเพิ่มความคมชัดในส่วนตรงกลาง และยังใช้โบเก้เบลอที่เป็นหมุนๆ ในส่วนพื้นหลัง ซึ่งใบหน้าของนางแบบจะดูโดดเด่นเป็นอย่างมาก
การถ่ายเซลฟี่
แม้ว่าการถ่ายเซลฟี่จะมีแค่เลนส์เดียว แต่การทำงานร่วมกับซอฟแวร์ก็ถือว่าทำได้ดีในโหมดภาพคน ซึ่งมีการเบลอพื้นหลังที่เนียน ใบหน้าโดดเด่นด้วยการปรับแต่งหน้าสวย และยังสนุกได้หลากหลายมากขึ้นด้วยภาพฟิลเตอร์ หรือเอฟเฟ็กต์แสง
โหมดมาโคร
การถ่ายระยะใกล้ถือว่าเผยรายละเอียดออกมาได้ดี ใครที่ชอบแนวธรรมชาติ หรือการถ่ายภาพระยะใกล้ๆ น่าจะชอบโหมดนี้
โหมดชัตเตอร์ช้า หรือ Long Exposure Mode
การใช้งานในโหมดชัตเตอร์ช้า จะเป็นการจับภาพที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ให้ออกมาดูสวยงาม อย่างเช่นภาพน้ำตก, ภาพแสงไฟรถวิ่งตามท้องถนน หรือถ่ายภาพแสงไฟที่เคลื่อนที่เป็นเส้นๆ
ถ่ายวิดีโอ พร้อมเปิดโหมดกันสั่นพิเศษ (Gimbal)
การถ่ายวิดีโอด้วยกันสั่น Gimbal ถือว่ามีความนิ่งแบบน่าประทับใจ ให้ความรู้สึกแบบกล้องแอ็คชั่น แต่จะถูกล็อกความละเอียดไว้ที่ 1080p ที่ 60fps โดย vivo X60 Pro 5G จะถูกอัปเกรดในส่วนนี้ โดยใช้ระบบ Gimbal Stabilization 2.0 ทำให้ภาพมีความนิ่งกว่ารุ่นก่อน
ราคาวางจำหน่าย
โดย vivo X60 Pro 5G วางจำหน่ายในราคา 24,999 บาท เริ่มวางขายตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป ที่ vivo Brand Shop รวมถึงตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
ข้อมูลผู้ใช้ ร่วมแสดงความเห็นกับ : vivo X60 Pro 5G
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=463839
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/spec/vivo/x60_pro.htm
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท