รีวิว realme GT 5G สมาร์ทโฟนเรือธงเร็วแรวเต็มสปีด มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ Super AMOLED 120Hz กว้าง 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ การแสดงผลลื่นไหลไม่มีสะดุด ชาร์จแบตเตอรี่ด้วย 65W Super DartCharge ที่รวดเร็วและปลอดภัย พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4500mAh ในราคาไม่ถึงสองหมื่นบาท
ตัวเครื่องของ realme GT 5G มีขนาด 158.5 x 73.3 x 8.4 มิลลิเมตร น้ำหนัก 186 กรัม มีความบางลงจากรุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด สัมผัสดี น้ำหนักพอเหมาะ จับถือนานๆ ได้สบายมือ
จอแสดงผลแบบ Super AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ( 2400x1080 พิกเซล) มีอัตรา Refresh Rate สูงสุดที่ 120Hz รองรับ Touch Samping Rate 360Hz มองเห็นสีสันได้สวยงาม ชัดเจนแม้ที่แสงจ้า
ส่วนบนของหน้าจอมีกล้องหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5 อยู่ทางด้านซ้าย เหนือจอขึ้นไปตรงกลางเป็นลำโพงเสียง
ด้านล่างของหน้าจอเป็นปุ่มนำทางแบบระบบ สามารถตั้งค่าได้ในภายหลัง มีเซ็นเซอร์รองรับการสแกนนิ้วใต้หน้าจออยู่ด้วย
ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัดเสียงอยู่
ด้านขวาของเครื่อง มีปุ่ม Power ใช้สำหรับเปิด-ปิด เครื่อง รวมถึงการล็อคหน้าจอ
ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบ 2 ช่อง ที่รองรับ Nano SIM ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำ MicroSD Card ได้
ตัวเครื่องด้านล่างมีพอร์ต USB Type C ตรงกลาง ทางฝั่งขวามือเป็นลำโพงเสียง ส่วนทางซ้ายเป็นไมโครโฟนตัวที่ 1 และช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม.
ด้านหลังตัวเครื่องมีแถบกระจกสีดำคาดยาวไปจนถึงโมดูลกล้องหลัง ที่จัดมาให้ด้วยกัน 3 เลนส์ ประกอบด้วย กล้องหลัก 64MP + เลนส์ Ultra-Wide Angle 8MP + เลนส์ Macro 2MP พร้อมไฟแฟลช
สำหรับฝาหลังหนังสีเหลืองคาดดำที่มีดีไซน์แบบ Racing Pattern ถือว่าโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มาก เมื่อมองดูก็ทำให้นึกถึงรถแข่งที่มาพร้อมความแรง ความเท่ห์ สมกับสโลแกน “เรือธงเร็วแรงเต็มสปีด”
ข้อมูลสเปคพื้นฐานของ realme GT 5G
หน่วยความจำและหน่วยประมวลผล
realme GT 5Gใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888 5G ที่รองรับเครือข่าย 5G แบบ Dual-mode การประมวลผลเร็วแรงระดับเรือธง มาพร้อมกับ RAM ประเภท LPDDR5 ขนาด 8/12GB มีเทคโนโลยีพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน UFS 3.1 ความจุ 256GB แม้ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ แต่ก็มีพื้นที่พอเหลือๆ ให้เก็บไฟล์ได้อย่างจุใจ ผสานการทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบปฏิบัติการ
realme GT 5G รันบนระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย realme UI 2.0 เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างเต็มรูปแบบ หน้าตา UI ดูมีความทันสมัย ใช้งานง่าย และมีความลื่นไหลคล่องตัว สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการใช้งาน
หน้าจอล็อค
หน้าจอหลัก
แถบการใช้งานด้านบน
แถบด้านข้างอัจฉริยะ
การปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ
ในส่วนนี้ เราสามารถปรับรูปแบบของวอลเปเปอร์, ธีม, ไอคอน, ตัวอักษร, สี และเอ็ฟเฟคการเคลื่อนไหวของการปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือ รวมถึง "การแสดงผลหน้าจอตลอดเวลา" เพื่อความสะดวกในการใช้งาน และความชอบของแต่ละบุคคลได้ด้วย
โหมดกลางคืน
ในโหมดกลางคืนจะเป็นการปรับสีพื้นหลังให้เป็นสีทึบลงมา โดยสามารถเลือกได้ 3 โทนสี คือ ขั้นสูง(ดำสนิท), กลาง(เทาเข้น) และอ่อนโยน(เทาอ่อน) ตามความถนัดของผู้ใช้งาน เพื่อให้การใช้งานในที่มืดมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น แต่ช่วยถนอมสายตาเมื่อต้องจ้องหน้าจอในที่แสงน้อยนั่นเอง
โหมดสีหน้าจอ
แม้หน้าจอของ realme GT 5G จะมีความสดใสคมชัดอยู่แล้ว แต่ก็สามารถปรับการตั้งค่าสีหน้าจอให้เป็นในลักษณะที่เราต้องการได้มากยิ่งขึ้น เพื่อการใช้งานตามความถนัดและความชอบของแต่ละบุคคล อีกทั้งให้เข้ากับคอนเทนต์ที่เราต้องการรับชมในขณะนั้นด้วย
การนำทาง
เมื่อเปิดเครื่อง realme GT 5G ขึ้นมา การนำทางที่ถูกตั้งค่าไว้จะเป็นแบบ 3 ปุ่มตั้งแต่เริ่มแรก หากต้องการปรับเปลี่ยนปุ่มตามความถนัดซ้าย-ขวา หรือไม่ต้องการให้มีปุ่มเสมือนขึ้นอยู่บนหน้าจอเลย ก็สามารถเข้าไปเปลี่ยนได้ที่ การตั้งค่า > เครื่องมืออำนวยความสะดวก > การนำทาง แล้วเลือกตามความต้องการใช้งาน
หน้าจอแบ่งส่วน
realme GT 5G สามารถแยกหน้าจอเพื่อความสะดวกในการใช้งานแอปพลิเคชั่น 2 แอปฯ ไปพร้อมๆ กัน แต่ต้องเป็นแอปฯ ที่รองรับการใช้งานหน้าจอแบ่งส่วนเท่านั้น
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง realme GT 5G
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้
ดีไซน์โฉบเฉี่ยว
realme GT 5G มาพร้อมกับการออกแบบให้สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นนี้เป็นที่โดดเด่น ด้วยการดีไซน์แบบ Racing Pattern ใช้เทคโนโลยีพิเศษ Dual-tone Leather Design ให้เกิดความแปลกใหม่ ผสมผสานกับความหรูหราอย่างลงตัว ฝาหลังหนัง vegetal เจเนอเรชันใหม่ที่มีความอ่อนนุ่มน่าสัมผัส ป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือและรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี ตัดกับสีดำแบบเมทริกซ์ของกล้องหบัง ขยายออกไปด้านล่างอย่างไม่สิ้นสุด แสดงถึงการออกแบบไบโอนิคของไฟหน้ารถแข่งที่มาพร้อมความเร็วเต็มสปีด
ตัวเครื่องมีความบางเพียง 8.4 มม. และน้ำหนักเบาเพียง 186 กรัม จับถนัดกระชับมือ มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 สี คือ Dashing Blue, Dashing Silver และ Racing Yellow (เครื่องรีวิว) สีเหลืองสดใส แสดงถึงความเป็นคนรุ่นใหม่ ที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วอย่างเต็มที่นั่นเอง
จอใหญ่ ลื่นไหลเต็มสปีด
realme GT 5G มาพร้อมหน้าจอแบบ Super AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความคมชัดระดับ FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) การแสดงผลลื่นไหลด้วยอัตรา Refresh Rate ที่สูงถึง 120Hzอีกทั้งยังมาพร้อมกับ 360Hz Touch Sampling Rate ตอบรับการสัมผัสได้อย่างรวดเร็ว หมดปัญหาทัชช้า ให้คุณเต็มที่กับทุกการใช้งาน โดยเฉพาะการเล่นเกมที่เต็มสปีดจัดเต็มได้ในทุกสนาม หน้าจอกว้างคมชัดมองเห็นได้เต็มตา สีสันสวยสดสมจริง รองรับ HDR 10+ เพิ่มอรรถรสให้กับทุกความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบ
ชิปเซ็ต Snapdragon 888
realme GT 5G จัดเต็มกับชิปประมวลผล Snapdragon 888 ตัวท็อปสุดของ Qualcomm ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 5 นาโนเมตร มีความเร็วแรงยิ่งขึ้น และประหยัดพลังงานได้มากกว่าเดิม ทำงานร่วมกันกับ RAM ประเภท LPDDR5 มีหน่วยความจำ UFS 3.1 ซึ่้งเป็นสเปคในระดับท็อป จึงมั่นใจได้ว่าคุณจะได้สัมผัสความเร็วในการประมวลผลสูงสุดของสมาร์ทโฟนอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ยังรองรับเทคโนโลยี 5G แบบ Dual-mode รับรู้สภาพแวดล้อมสัญญาณโดยรอบและเปลี่ยนจาก 4G เป็น 5G ได้อย่างชาญฉลาด สามารถใช้งานได้ทั้ง 5G, WiFi 6, Bluetooth 5.2 และ NFC เพื่อมอบการเชื่อมต่อที่ดีที่สุด มีประสิทธิภาพมากที่สุดให้กับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน
ทดสอบการเล่นเกม
ระบบความปลอดภัย
realme GT 5G มีระบบป้องกันความปลอดภัยแบบพื้นฐานมาให้อย่างครบครัน และเพิ่มความสะดวกในการเข้าใช้งาน ด้วยการสแกนลายนิ้วมือใต้จอเพื่อปลดล็อค รองรับลายนิ้วมือได้สูงสุดที่ 5 ลายนิ้วมือ ใช้งานได้ง่าย รวดเร็ว เพียงทาบนิ้วมือที่ลงทะเบียนไว้ ก็ปลดล็อคมือถือได้เพียงไม่กี่วินาที สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น
แบตเตอรี่
สามารถใช้งาน realme GT 5G ได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน ด้วยแบตเตอรี่ที่มีความจุ 4500mAh มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0%-100% โดยใช้ระยะเวลาเพียง 35 นาทีเท่านั้น มีความปลอดภัยด้วยชิปเซ็ตป้องกัน 5 เลเยอร์ ที่มีทั้งการควบคุมกระแสไฟฟ้า และอุณหภูมินั่นเอง
กล้องถ่ายภาพ
สำหรับกล้องถ่ายภาพ แม้จะไม่ได้เน้นหนักอะไรมากนัก แต่ก็จัดกล้องหลังของ realme GT 5G มาให้ด้วยกันถึง 3 เลนส์ โดยมีเลนส์หลัก ที่ให้ความคมชัดมาสูงสุดถึง 64 ล้านพิกเซลกันเลย
กล้องหลัก ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง F/1.8 ช่วยให้ถ่ายภาพได้อย่างคมชัด แม้จะซูมเข้าไปใกล้ๆ ก็ยังคงความละเอียดได้อย่างชัดเจน
เลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพเก็บวิวโดยรอบอย่างครบถ้วน ด้วยมุมมองกว้าง 119 องศา ภาพสวย ไม่บิดเบี้ยว ดูอินเทรนด์
เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ช่วยให้ถ่ายภาพได้เข้าใกล้วัตถุมากยิ่งขึ้น
สำหรับการถ่ายภาพบุคคล (Trendy Portrait) realme GT 5G จะใช้อัลกอริทึม AI Portrait มาช่วยให้การถ่ายภาพดูสวยงามและมีมิติมากขึ้น จับโฟกัสของตัวแบบ และเบลอฉากหลังให้เนียนเป็นธรรมชาติ พร้อมการเบลแบบใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ภาพดูมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น
realme GT 5G เพิ่มความโดเด่นและลูกเล่นให้กับภาพถ่ายยามค่ำคืนได้ ด้วยการใช้ฟิลเตอร์ 3 ฟิลเตอร์นี้ ได้แก่ สีทองทันสมัย, ไซเบอร์พังก์ และฟลามิงโก ที่นอกจากจะถ่ายภาพยามค่ำคืนได้สวยงามสว่างชัดแล้ว ยังมีสีสีนแปลกตา ช่วยให้ภาพดูมีความอาร์ทมากขึ้นด้วย
realme GT 5G มาพร้อม กล้องหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ช่วยถ่ายภาพเซลฟี่สวยๆ ได้อย่างชัดเจน พร้อมปรับผิวหน้าให้ดูเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ ทั้งยังถ่ายภาพเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอได้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ก็เพิ่มความเก๋กับ AI Color Portrait ย้อมพื้นหลังให้เป็นโมโนโทน เพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวคุณมากขึ้น
ถ่ายวิดีโอ
realme GT 5G ยังสามารถถ่ายภาพวิดีโอได้ด้วยความชัดระดับ 4K รองรับการถ่ายภาพแบบ Dual view จับภาพพร้อมกันได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง แชร์โมเม้นท์ระหว่างผู้ภ่ายกับบรรยากาศข้างหน้าไปด้วยกัน นอกจากนี้ยังถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอ ปรับใบหน้าสวยอย่างเป็นธรรมชาติ และเพิ่มความพิเศษให้กับวิดีโอด้วย AI Color Portrait ที่จะจับเอาเฉพาะสีหลักที่ต้องการอย่าง เขียว, แดง และฟ้า ไว้ แล้วย้อมสีอื่นๆ ให้เป็นแนวโมโนโทน
ขอขอบคุณ : realme Thailand
ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ : realme GT 5G
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=464211
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/spec/realme/gt_5g.htm
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท