ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทวอทช์สายลุยแบบทนๆ พร้อมกับฟีเจอร์ด้านออกกำลังกาย และสุขภาพแบบครบๆ ก็ขอแนะนำรุ่นนี้นเลย Amazfit T-Rex Pro สมาร์ทวอทช์คู่กายสายลุยโดยเฉพาะ สำหรับ Amazfit T-Rex Pro ได้รับมาตรฐาน MIL-STD-810G ซึ่งได้รับการทดสอบทางทหารมากว่า 15 ครั้งมั่นใจความถึกทนได้แน่นอน นอกจากนี้ด้านฟีเจอร์เด่นๆ สำหรับการเป็นสมาร์ทวอทช์ก็มาครบ ทั้งการออกกำลังกายกว่า 100 แบบ กันน้ำได้ลึกถึง 100 เมตร และยังมีฟังก์ชั่นด้านติดตามสุขภาพ ส่วนแบตเตอรี่ก็สามารถใช้งานได้นานสุดถึง 18 วัน
ตัวเรือนจะเป็นรูปแบบวงกลม มีขนาดอยู่ที่ 47.7x47.7x13.5 มิลลิเมตร น้ำหนัก 59.4 กรัม (รวมสายแล้ว) และใช้วัสดุ Polycarbonate จากที่ลองจับยกขึ้นมาถือว่าเป็นน้ำหนักที่เบาพอสมควร
หน้าปัดเป็นทรงกลมเช่นกัน โดยใช้พาแนล AMOLED กว้าง 1.3 นิ้ว ความละเอียด HD (360x360 พิกเซล) รองรับโหมด Always-on Diaplay ที่ขอบหน้าปัดจะเป็นชอบนูนขึ้น พร้อมใช้สีแบบโลหะทำให้ดูเท่มากยิ่งขึ้น
ข้างซ้ายตัวเรือนจะมีปุ่มใช้งาน 2 ปุ่ม สำหรับเลื่อนเมนูขึ้น หรือลง
ข้างขวาตัวเรือนจะมีปุ่มใช้งาน 2 ปุ่มเช่นกัน โดนเป็นปุ่มเลือก และปุ่มย้อนกลับ
พลิกมาที่ด้านหลังตัวเรือน จะพบกับแผงเซนเซอร์สำหรับตรวจจับร่างกายของผู้ใช้งาน โดยแสงไฟเซนเซอร์จะไฟสีเขียว และสีแดง
สายของ Amazfit T-Rex Pro จะเป็นยางซิลิโคน พร้อมกับตัวล็อก และที่เก็บสาย ซึ่งมีดีไซน์ดูเท่ๆ เข้ากับตัวเรือนได้ดี
อุปกรณ์ภายในกล่อง
การเชื่อมต่อ
ในการใช้งาน Amazfit T-Rex Pro ครั้งแรก จะต้องใช้สมาร์ทโฟนสแกน QR Code เพื่อเริ่มใช้งาน จากนั้นระบบจะพาไปดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Zepp เพื่อทำการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับ Amazfit T-Rex Pro
แอพฯ Zepp
สำหรับแอพพลิเคชั่น Zepp จะมีไว้เชื่อมต่อ และซิงค์ข้อมูลจาก Amazfit T-Rex Pro มายังสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ยังไว้บอกข้อมูลเชิงละเอียด รวมไปถึงตั้งค่ารายละเอียดต่างๆ ให้กับ Amazfit T-Rex Pro สามารถแอพฯ Zepp ดาวน์โหลดมาใช้งานได้ทั้ง iOS 10.0 และ Android 5.0 ขึ้นไป
หน้าปัด และการเปลี่ยนดีไซน์หน้าปัด
การเปลี่ยนดีไซน์หน้าปัดนาฬิกา จะสามารถเปลี่ยนได้ทันทีด้วยการ กดค้างหน้าปัด Amazfit T-Rex Pro แต่หากต้องการดีไซน์อื่นๆ เพิ่มเติม สามารถเข้าไปที่แอพฯ Zepp จากนั้นไปที่เมนู สนุก ที่อยู่ด้านล่าง และเลือกหัวข้อ หน้าปัดนาฬิกา ซึ่งในนั้นจะมีให้เลือกปรับแต่งมากมาย แต่แบบเริ่มต้นที่ให้มาจะดูเท่ที่สุด และมีการบอกข้อมูลอื่นๆ นอกจากเวลา อย่างเช่น วันเวลา, เปอร์เซ็นแบตเตอรี่, อัตราการเต้นของหัวใจ, จำนวนก้าว
รองรับโหมด Always-on Display
หน้าปัดของ Amazfit T-Rex Pro จะสามารถใช้งานโหมด Always-on Display ได้ด้วย ซึ่งเอฟเฟคเวลาเปิดโหมด Always-on Display จะมีการปิดภาพพื้นหลัง และไฟแสงสีต่างๆ แต่ยังมีการบอกข้อมูลสำคัญในหน้าปัดนาฬิกาอยู่
การใช้งานฟังก์ชั่นออกกำลังกาย
Amazfit T-Rex Pro มาพร้อมฟังก์ชั่นการออกกำลังกายให้เลือกใช้ถึง 100 กว่าโหมด ซึ่งในแต่ละโหมดการออกกำลังกายก็มีการบอกข้อมูลแบบเรียลไทม์เช่น ความเร็ว, ระยะทาง, การเต้นของหัวใจ, และจำนวนแคลโลรี่ที่เผาผลาญไป เป็นต้น ทั้งนี้สายปีนเขาก็ไม่ควรพลาด เพราะมีฟังก์ชั่น บารอมิเตอร์ ช่วยในการดูความกดอากาศ และความสูงได้ทันที
กันน้ำได้ลึกถึง 100 เมตร และมี GPS ในตัว
Amazfit T-Rex Pro ยังเหมาะกับใช้ออกกำลังกายทางน้ำ เพราะเจ้าตัวได้รับมาตราฐานกันน้ำระดับ 10 ATM ทำให้กันน้ำได้ลึกถึง 100 เมตร ไม่ว่าจะเป็นกีฬาเซิร์ฟ, ว่ายน้ำ หรืออะไรที่เกี่ยวกับน้ำ ก็สามารถนำ Amazfit T-Rex Pro ไปลุยด้วยได้เลย ทั้งนี้ภายในของ Amazfit T-Rex Pro ยังมี GPS ติดตั้งมาให้ทันที ซึ่งสามารถใช้ในการติดตามได้อย่างแม่นยำ และยังรองรับระบบ GPS แบบ Global ถึง 4 แบบ
การใช้งานฟังก์ชั่นสุขภาพ
ด้านสุขภาพก็เป็นอีกสิ่งที่ Amazfit T-Rex Pro นำมาให้ใช้งาน และก็มีฟังก์ชั่นมาให้ครบเครื่อง เพื่อติดตามสุขภาพของผู้ใช้งานได้ทันที ซึ่งจะช่วยตรวจพบสิ่งผิดปกติในร่างกาย และยังรักษาความฟิตเพื่อออกกำลังกายได้ดีขึ้น
ดีไซน์หล่อเท่ และแข็งแรงทนทาน
ในการดีไซน์ของ Amazfit T-Rex Pro ถือว่าจงใจทำออกมาให้ดูเท่ เหมาะกับสายลุย ที่สำคัญยังมีน้ำหนักไม่มาก ทำให้ใส่ไปพร้อมทำกิจกรรมต่างๆ ได้คล่องตัว นอกจากนี้ความแข็งแกร่งก็ยังมีระดับที่สูง เพราะได้มาตรฐาน MIL-STD-810G ซึ่งเป็นมาตรฐานทางทหาร และถูกการทดสอบมาแล้วกว่า 15 ครั้ง ทำให้ Amazfit T-Rex Pro ทนร้อนทนหนาวได้ดี โดยทนความร้อนได้ถึง 70 องศา ทนความเย็นได้ถึง -40 องศา ใช้งานในที่เป็นน้ำแข็งหรือพายุหิมะได้ และป้องกันการสั่นสะเทือนอีกด้วย
แบตเตอรี่อึดได้มากสุดถึง 18 วัน
Amazfit T-Rex Pro มีแบตเตอรี่ขนาด 390mAh หากใช้งานแบบไม่เต็มสูบ ใส่ดูเวลารับการแจ้งเตือนเฉยๆ ก็จะใช้งานได้ถึง 18 วัน แต่หากมีการเปิดใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ที่หนักๆ เช่น เปิดตรวจจับการเต้นของหัวใจแบบ 24 ชั่วโมง ก็จะทำให้ระบะเวลาในการใช้งานลดลง ส่วนการชาร์จก็รวดเร็ว ใช้เวลาเพียง 1.5 ชั่วโมง ก็นำกลับมาใช้ได้ยาวๆ เกือบครึ่งเดือน
สรุปราคา และตัวเลือกสี
ตอนนี้ Amazfit T-Rex Pro ก็มีการวางขายในประเทศไทยไปแล้ว ซึ่งสามารถหาซื้อได้ทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ โดยมีให้เลือก 3 สีคือ สีดำ, สีฟ้า และสีเทา พร้อมกับราคากลางอยู่ที่ 5,590 บาท
Moto G04s น่าใช้ขึ้นด้วยกล้อง 50MP เทคโนโลยี Quad pixel และลำโพง Do...
สรุปจุดเด่นและสเปค realme 12+ 5G หน้าจอ 120Hz กล้องหลัง 50MP มี OIS...
Samsung ครองแชมป์จำหน่ายสมาร์ทโฟนมากสุดไตรมาสแรก 2024 ขณะที่ iPhone...
Redmi Turbo 3 แรงฉบับนักฆ่าเรือธง Snapdragon 8s Gen 3 พร้อมรุ่นพิเศ...
Google Vids ปลดล็อกพลังการสร้างวิดีโอด้วย AI บน Google Workspace
รีวิวโทรศัพท์มือถือ Redmi Note 13 5G - เรดหมี่ สมาร์ทโฟน Redmi Note 13 5G หน้าจอแสดงผลยกระดับไปอีกขั้น กลายเป็นรุ่นที่โดดเด่นกว่ารุ่นอื่นในช่วงราคาเดียวกัน กับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2400x1080 พ...