ช่วงส่งท้ายปีแบบนี้ ถ้าใครกำลังมองหาของขวัญให้ลูกๆ หรือหนูน้อยที่รู้จัก ต้องบอกว่า Huawei WATCH KIDS 4 PRO เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก เพราะมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน คุ้มค่า อีกทั้งยังช่วยให้ติดตามเด็กๆ ได้ด้วย จุดเด่นมีอะไรบ้าง มาติดตามกันเลย
สำหรับ Huawei WATCH KIDS 4 PRO ได้รับมาตรฐานความปลอดภัย TÜV Rheinland ว่าสามารถใช้งานได้อย่างไร้กังวล ตั้งแต่ วัสดุตัวเรือน, หน้าจอแสดงผล, แสงสีฟ้า หรือแม้แต่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ก็เพื่อให้เด็กๆ ปลอดภัย และคุณพ่อคุณแม่ได้สบายใจ
สายนาฬิกาผลิตมาจากวัสดุ Silica Gel ที่มีความนุ่ม ยืดหยุ่น และอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองต่อผิวของเด็ก ๆ อีกทั้งสามารถล้างทำความสะอาดได้
สมาร์ทวอทช์ที่ออกแบบมาสำหรับเด็กๆ โดยเฉพาะ Huawei WATCH KIDS 4 PRO จึงเน้นไปที่คุณสมบัติความทนทานเป็นพิเศษ เพื่อให้เด็กๆ สามารถสวมใส่ขณะทำกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างเต็มที่ หรือแม้แต่สวมใส่ลงไปว่ายน้ำในสระก็ไม่ต้องกังวล เพราะทนน้ำถึงระดับมาตรฐาน 5ATM หรือป้องกันที่ความลึกได้ 50 เมตร
หน้าจอแสดงผลประเภท AMOLED สามารถทัชสกรีนได้ มีขนาด 1.41 นิ้ว ความละเอียดระดับ 320x360 พิกเซล ขอบด้านข้างหน้าปัดมีไฟ LED ที่สามารถกระพริบได้หลากสี เพิ่มความสนุกสนานให้กับเด็กๆ เวลาเห็น และเป็นจุดสังเกตในเวลากลางคืน มีฟังก์ชั่นกระพริบเมื่อนาฬิกาปลุกดังขึ้น หรือแจ้งเตือนต่างๆ
เหนือหน้าจอแสดงผล บริเวณขอบบนของหน้าปัด มาพร้อมกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล มุมมอง 85 องศา จึงให้มุมมองภาพบริเวณกว้าง เหมาะสำหรับวิดีโอแชท หรือถ่ายภาพเซลฟี่ได้
ด้านซ้ายมาพร้อมถาดใส่ซิมการ์ด (ต้องใช้ไขควงหัวแฉกไขก่อน) โดยสามารถใส่ซิมการ์ดเพื่อรับสาย-โทรออก, วิดีโอคอล รวมถึงรับ-ส่งข้อความ ผ่านระบบ 4G LTE ได้จากสมาร์ทวอทช์โดยที่ไม่ต้องพกสมาร์ทโฟน
ด้านขวาของนาฬิกา มาพร้อมปุ่มควบคุม ได้แก่ HOME สำหรับใช้เรียกดูฟีเจอร์ต่าง ๆ ในสมาร์ทวอทช์ ถัดมาเป็นปุ่ม FUN สำหรับเข้าถึงกิจกรรมสนุก ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เช่น การตรวจวัดค่าแสดงผลการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็น กระโดดเชือก, Sit-up หรือเดิน เป็นต้น
ด้านหลังนาฬิกา Huawei WATCH KIDS 4 PRO มีขั้วไฟฟ้าที่ยึดด้วยแรงแม่เหล็ก (พอร์ตชาร์จแบตเตอรี่ POGO PIN) มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ 800mAh ใช้งานได้นานประมาณ 2 วัน สามารถชาร์จแบตฯ เร็ว โดยใช้เวลาชาร์จแค่ 20 นาทีก็ให้แบตเตอรี่เต็มได้ 50%
วิธีการใช้งาน คือ การเชื่อมต่อ Huawei WATCH KIDS 4 PRO จะต้องใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน HUAWEI FamCare เท่านั้น เมื่อดาวน์โหลดแล้วก็ใช้แอปพลิเคชั่นสแกนบนหน้าปัดนาฬิกาได้เลย ก็จะจับคู่กันอัตโนมัติ
จากนั้นทำการใส่หมายเลขโทรศัพท์ของซิมการ์ดที่ใส่ไว้ในนาฬิกา Huawei WATCH KIDS 4 PRO พร้อมกับกรอกเลขรหัสยืนยัน ก็เป็นอันเสร็จสิ้น เมื่อจับคู่เสร็จสิ้นแล้ว แนะนำว่าควรกรอกข้อมูลส่วนตัวของเด็กให้เรียบร้อยครบถ้วน ทั้งนี้ยังตั้งค่าสิทธิ์ผู้ดูแลจัดการข้อมูล ต่าง ๆ บนสมาร์ทวอทช์ได้ด้วยตนเอง
นาฬิกา Huawei WATCH KIDS 4 PRO รองรับการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน
อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วย
ฟีเจอร์ Unique Call Light ID สามารถตั้งค่าโชว์รูปภาพอัตโนมัติ เมื่อผู้ปกครองโทรเข้า ซึ่งเด็กจะเห็นหน้าก็จำได้ทันทีว่าผู้ปกครองโทรมา
ฟังก์ชั่นสร้างกรุ๊ปแช็ตกับเพื่อน ๆ หรือผู้ปกครองได้ด้วยการเขย่า Huawei WATCH KIDS 4 PRO ใกล้ๆ กัน ซึ่งต้องเปิดการตั้งค่าเชื่อมต่อก่อน เพื่อเพิ่มเพื่อน จากนั้นจะสามารถส่งทั้งภาพ วิดีโอ ข้อความเสียง หรือวิดีโอคอลหากันผ่านนาฬิกาได้อย่างอิสระ
โหมดออกกำลังกายมีให้เลือกหลากหลายโหมด ซึ่งแน่นอนว่าด้วยคุณสมบัติป้องกันน้ำลึก ก็จะสามารถใส่ว่ายน้ำได้ สำหรับติดตามการออกกำลังกายแบบว่ายน้ำสำหรับเด็ก ๆ โดยเฉพาะ
เซนเซอร์ตรวจวัดความเข้มข้นของระดับแสง UV อีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญที่จะช่วยให้เด็กๆ ของคุณไม่ให้โดนความเข้มข้นของแสงแดดจนมากเกินไป เมื่อทำกิจกรรมกลางแจ้ง อันเป็นอันตรายต่อผิวหนัง
ฟีเจอร์ One-Step SOS Call สามารถส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปยังหมายเลขฉุกเฉินที่ตั้งค่าไว้อัตโนมัติ ด้วยการกดปุ่ม FUN ค้าง 5 วินาที จะโทรออกและถ่ายภาพส่งไปยังผู้ปกครองเพื่อให้ทราบสถานการณ์ที่เด็กกำลังเผชิญอยู่ได้ทันที
โหมด Find Watch เพื่อค้นหานาฬิกาผ่านแอปพลิเคชัน HUAWEI FamCare ที่สามารถระบุตำแหน่งของเด็ก ๆ ได้ ผ่าน GPS ที่มีอยู่ใน Huawei WATCH KIDS 4 PRO
โดยแอปพลิเคชัน HUAWEI FamCare สามารถตรวจสอบตำแหน่งปัจจุบันได้ทุก ๆ 120 วินาที ด้วยเทคโนโลยี 9-System AI Positioning ที่ตรวจสอบสัญญาณระหว่าง GPS, Beidou, GLONASS, A-GPS, WLAN Positioning, Base Station Positioning, Roaming Position, Accelerometer-assisted positioning และ SOS Camera Assisted Positioning เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้รู้ตำแหน่งได้แม่นยำ เพิ่มความปลอดภัยให้กับลูก ๆ หลาน ๆ ได้หายห่วง
นาฬิกา Huawei WATCH KIDS 4 PRO มีให้เลือก 2 สี คือ สีน้ำเงินและสีชมพู วางจำหน่ายที่ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2564 ในราคา 6,490 บาท
สรุปจุดเด่นและสเปค realme 12+ 5G หน้าจอ 120Hz กล้องหลัง 50MP มี OIS...
Samsung ครองแชมป์จำหน่ายสมาร์ทโฟนมากสุดไตรมาสแรก 2024 ขณะที่ iPhone...
Redmi Turbo 3 แรงฉบับนักฆ่าเรือธง Snapdragon 8s Gen 3 พร้อมรุ่นพิเศ...
Google Vids ปลดล็อกพลังการสร้างวิดีโอด้วย AI บน Google Workspace
Samsung LPDDR5X RAM แรงทุบสถิติโลก 10.7Gbps เน้นใช้งานร่วมกับ AI เต...
รีวิวโทรศัพท์มือถือ Redmi Note 13 5G - เรดหมี่ สมาร์ทโฟน Redmi Note 13 5G หน้าจอแสดงผลยกระดับไปอีกขั้น กลายเป็นรุ่นที่โดดเด่นกว่ารุ่นอื่นในช่วงราคาเดียวกัน กับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2400x1080 พ...