Amazfit หลายคนอาจไม่คุ้นเคย แต่เป็นแบรนด์ที่ชื่อดังในตลาดต่างประเทศและได้รับการยอมรับกว้างขวาง โดยพวกเขาได้เข้ามาลุยตลาดในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 เป็นเวลากว่าหลายปีแล้ว ดังนั้นมั่นใจได้เลย กับจุดมุ่งหมาย ที่อัตลักษณ์แบรนด์ มุ่งเน้นให้ผู้ใช้สามารถแสดงความเป็นตัวตนได้อย่างอิสระ ด้วยการสนับสนุนเป้าหมายด้านสุขภาพและการออกกำลังกายของผู้คน ผสมผสานเทคโนโลยีอันชาญฉลาดเข้ากับคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้คุณใช้ชีวิตอย่างเต็มที่โดยที่มีผลิตภัณฑ์ Amazfit คอยดูแลเคียงข้างคุณ....!
ความเคลื่อนไหวล่าสุด Amazfit ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เปิดตัวสมาร์ทวอทช์ 3 รุ่นใหม่ ได้แก่ GTR 3 Pro, GTR 3 และ GTS 3 เพื่อดูแลสุขภาพง่ายขึ้น ช่วยให้ผู้สวมใส่ยกระดับสุขภาพของตนเอง และอัปเกรดไลฟ์สไตล์ สมัยใหม่ ใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างเต็มที่ มีพลังบวกในทุก ๆ สถานการณ์ สำหรับราคาแต่ละรุ่น มีดังนี้....
ในบทความนี้จะพามาทำความรู้จักรุ่นเล็ก Amazfit GTS 3 แต่ผมไม่เล็กนะครับ!
ดีไซน์โดยรวมก็ตามคอนเซ็ปต์ คือ มีอรรถประโยชน์และแฟชั่นในตัว จึงเหมาะสวมใส่ได้ทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นทำงาน, เที่ยวเล่น หรือ Hang Out ก็ตอบโจทย์ ด้วยความพรีเมียม เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์สมัยใหม่
วัสดุตัวเรือนนาฬิกา ส่วนใหญ่ราคานี้จะเป็นวัสดุพลาสติก หรือยางสังเคราะห์ ทว่า Amazfit GTS 3 ผลิตจากวัสดุเกรดคุณภาพสูงด้วยอะลูมิเนียมอัลลอยด์มาตรฐานอากาศยานให้ความแข็งแรงทนทาน พร้อมตัวเรือนหนาเพียง 8.8 มิลลิเมตร น้ำหนัก 24.4 กรัม ถือว่าไม่เทอะทะเลย ดังนั้นสามารถสวมใส่ได้ทุกเพศ ทุกวัย
สายนาฬิกาเป็นวัสดุซิลิโคน มีความยืดหยุ่น เช็ดทำความสะอาดได้ พร้อมคุณสมบัติป้องกันแบคทีเรีย นอกจากนี้สายนาฬิกามีห่วงให้อีกด้วยสองอัน จึงรัดแน่น ไม่หลวม เหมาะกับทุกสรีระ นอกจากนี้ยังสามารถถอดเปลี่ยนได้ด้วย ดังนั้นคุณแค่เลือกตัวเรือนให้ถูกใจที่สุด แต่ถ้าอยากเพิ่มความหลากหลาย ก็แค่เปลี่ยนสายเอง
หน้าจอของนาฬิกามีขนาด 1.75 นิ้ว ลักษณะหน้าปัดเหลี่ยม จึงแสดงผลข้อมูลและตัวหนังสือ ชัดเจนกว่าหน้าปัดกลม มาพร้อมเทคโนโลยีการแสดงผล AMOLED ความหนาแน่นต่อพิกเซล 341ppi มีความสว่างสูงสุด 1,000nits ใช้งานกลางแจ้ง หายห่วง
การตั้งค่าหน้าจอแสดงผล จุดที่น่าสนใจคือ สามารถเปลี่ยนหน้าปัดได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นธีมต่างๆ 100 แบบ หรืออัพโหลดรูปภาพที่คุณชอบ ตั้งเป็นหน้าจอแสดงผลก็ได้เช่นกัน
เม็ดมะยมที่ด้านข้างตัวเรือน ก็ใช้งานได้ง่าย หมุนเลือกโหมดการใช้งานได้เลย ขึ้น-ลง และกด เพื่อตกลงใช้งานที่เมนูนั้นๆ มาพร้อมฟังก์ชั่นสั่นสะเทือนเล็กน้อย เพื่อตอบสนองการใช้งาน
ตัวเรือนนาฬิกา Amazfit GTS 3 สามารถชาร์จได้ด้วยแท่นชาร์จแม่เหล็ก มีแบตเตอรี่ความจุ 250mAh ใช้ระยะเวลาชาร์จประมาณ 2-2.5 ชั่วโมง แบ่งตามลักษณะการใช้งาน ดังนี้...
ข้อมูลทางเทคนิค Amazfit GTS 3
ระบบปฏิบัติการ Zepp OS เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน
สำหรับสเปคสมาร์ทวอช และระบบปฏิบัติการ ต้องบอกว่าทำงานได้ไหลลื่น ตอบสนองรวดเร็ว ไม่ขัดใจ ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชั่น Zepp OS เพื่อตั้งค่าต่างๆ และตรวจสอบ เช่น การวัดออกซิเจนในเลือด, ความเครียด, อัตราการเต้นของหัวใจ, ระยะเวลาในการนั่ง หรือไม่เคลื่อนที่ รวมถึงตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นต่างๆ ในแอปพลิเคชั่น ที่สำคัญเลยตัวนาฬิการมีเมนูภาษาไทยด้วย ดังนั้นใช้งานสะดวกหายห่วง
เทคโนโลยี BioTracker วัดค่าแม่นยำ เชี่ยวชาญเรื่องสุขภาพ
สำหรับเทคโนโลยี 6PD (six photodiodes) เป็นตัวบ่งชี้ค่า BioTracker PPG 3.0 biometric sensor ทำงานด้วยเซนเซอร์ ตรวจวัดข้อมูลทางกายภาพด้านต่าง ๆ ของร่างกายคุณผ่านการตรวจจับด้วยแสงออปติคอล
โหมดออกกำลังกายมากกว่า 150 ประเภท แบ่งออกเป็น 13 สไตล์ ดังนี้..
มาตรฐานกันน้ำที่ระดับ 5 ATM
Amazfit GTS 3 สมาร์ทวอทช์ที่มีมาตรฐานการกันน้ำระดับ 5ATM ทนต่อแรงดันน้ำได้ที่ระดับ 50 เมตร สวมใส่ได้ทุกสถานการณ์ อาทิ ใส่อาบน้ำ, ว่ายน้ำ, เดินป่า หรือสปา เป็นต้น เพื่อให้คุณเคลื่อนตัวไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ทันที ไร้กังวล
การตรวจวัดประสิทธิภาพการนอนหลับ
การนอนหลับในทุก ๆ วัน ถือเป็นเรืองสำคัญ เพราะหากคุณนอนหลับเต็มอิ่ม จะทำให้วันใหม่ของคุณ เดินหน้าลุยได้เต็มที่ ความเครียดลดลง โดยนาฬิกามีประสิทธิภาพการตรวจวัด เช่น การนอนหลับ, การหายใจระหว่างนอนหลับ Amazfit GTS 3 พร้อมให้ข้อแนะนำจุดที่ต้องปรับปรุงพฤติกรรมการนอนหลับของคุณให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
การติดตามรอบเดือน
คาดการณ์รอบเดือนและวางแผนล่วงหน้า Amazfit GTS 3 สามารถบันทึกช่วงเวลามีประจำเดือน พร้อมคาดการณ์เวลาและระยะเวลาของการมีประจำเดือนได้จากพฤติกรรมที่เคยเป็น
รองรับการใช้งานคำสั่งเสียง
สำหรับสมาร์ทวอช Amazfit GTS 3 จะรองรับการใช้งานคำสั่งเสียง Alexa Built-in โดยเป็นผู้ช่วยเสียงออนไลน์และออฟไลน์เพื่อความสะดวกสบายของคุณ ทว่าคุณอาจไม่ได้ยินเสียงโต้ตอบ เพราะตัวเรือนไม่มีลำโพง
ข้อควรที่ต้องพิจารณา : Amazfit GTS 3 มีอะไรบ้าง
Amazfit GTS 3 สมาร์ทวอชรุ่นดังกล่าว วางจำหน่ายในราคา 5,390 บาท สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้แล้วที่ช่องทางออนไลน์
แตกต่างอย่างไร! ระหว่าง vivo Y100 4G vs vivo Y100 5G ราคาต่างกัน 1,...
DRONE รุ่นใหม่ล่าสุด DJI Avata 2 ประสบการณ์การบินที่สมจริงอย่างเต็ม...
Xiaomi ต้อนรับ Payday จัดโปรโมชันพิเศษที่ Shopee ส่วนลดสูงสุด 50%
ทำความรู้จัก vivo Y100 4G หน้าจอ 120Hz กล้องหลัง 3 เลนส์ ระบบเสียง ...
เครื่องเป่าผม Dyson Supersonic สีพิเศษ Ceramic Pink และ Rose Gold ใ...
Moto G64 5G สมาร์ทโฟนรุ่นแรกใช้ Dimensity 7025 พร้อมกล้อง 50MP กันส...
รีวิวโทรศัพท์มือถือ Redmi Note 13 5G - เรดหมี่ สมาร์ทโฟน Redmi Note 13 5G หน้าจอแสดงผลยกระดับไปอีกขั้น กลายเป็นรุ่นที่โดดเด่นกว่ารุ่นอื่นในช่วงราคาเดียวกัน กับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2400x1080 พ...