HUAWEI Vision S Beyond TV มาพร้อมหน้าจอไร้ขอบแบบ UHD คมชัดระดับ 4K มีอัตรารีเฟซเรทสูงถึง 120Hz รันบนระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ที่ลื่นไหล ให้ทุกการใช้งานไม่มีสะดุด ติดตั้ง Magnetic Camera ความละเอียด 13MP เพื่อรองรับการใช้งานสุดไฮเทค ไม่ว่าจะเป็น MeeTime Video Call คมชัดระดับ 1080P หรือบันทึกภาพมุมมอง 180 องศาได้อย่างสวยงาม จัดเต็มความบันเทิงกับลำโพง 4 ตัวและระบบเสียงที่ทรงพลัง
HUAWEI Vision S Beyond TV มีเข้ามาจำหน่ายในไทยด้วยกัน 2 ขนาด คือ หน้าจอ 55 นิ้ว และหน้าจอ 65 นิ้ว โดยเครื่องที่เราได้มารีวิวนั้นจะเป็นขนาดใหญ่สุด HUAWEI Vision S รุ่น 65 นิ้ว มีความเรียบหรูดูดี ขอบจอบางสุดประมาณ 5 มิลลิเมตรเท่านั้น สามารถวางหรือติดตั้งได้อย่างลงตัวกับทุกสถานที่ ไม่ดูใหญ่เทอะทะ แม้จะมีจอขนาดใหญ่ถึง 65 นิ้ว ก็ตาม
ขนาดและน้ำหนักของเครื่องเมื่อไม่รวมฐาน จะอยู่ที่ ไม่รวมฐาน 1449.3 x 837.2 x 72.1 มม. น้ำหนัก 19.5 กก. กรอบเครื่องเป็นพลาสติกที่มีความแข็งแรงทนทาน
ตัวฐานทำมาจากโลหะสแตนเลสคุณภาพสูงเคลือบสีดำด้าน มีความแข็งแรงและน้ำหนักเบา ช่วยให้การเคลื่อนย้ายหรือการติดตั้งเป็นเรื่องง่ายขึ้น โดยน้ำหนักทีวีรวมฐานจะอยู่ที่ประมาณ 20 กิโลกรัม
หน้าจอเป็น LCD UHD ขนาดความกว้าง 65 นิ้ว ความละเอียด 4K อัตราส่วนภาพ 16:9 ขอบเขตสี 92% DCI-P3 และมีอัตรารีเฟรชสูงถึง 120Hz การแสดงผลจึงลื่นไหลดูสมูท มีสีสันที่คมชัดสมจริง ขอบจอเรียกได้ว่าบางมาก ให้คุณชมคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างเต็มตา
ด้านบนของหน้าจอ สามารถติดตั้งกล้อง Magnetic Camera ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ตัวกล้องมุมมองกว้าง 180 องศา รองรับการใช้งาน MeeTime Video Call และเป็นกล้องถ่ายภาพได้อีกด้วย
ส่วนล่างของหน้าจอจะมีความหนากว่าด้านอื่นๆ เล็กน้อย เพราะจะมีในส่วนของปุ่ม Power และมีไมโครโฟน 6 ตัว ที่ขนาบข้างด้วยลำโพงอีก 4 ตัวนั่นเอง
ด้านหลังฝั่งซ้ายจะเป็นในส่วนของพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ ประกอบไปด้วย USB 3.0, HDMI 2.0, AV In, LAN และ SPDIF (coaxial) ส่วนฝั่งขวาจะเป็นที่เสียบปลั๊กไฟ ตรงกลางเป็นช่องระบายความร้อน และมีส่วนที่ไว้ใช้ยึดเกาะผนังอยู่ด้วย
ข้อมูลสเปค HUAWEI Vision S Beyond TV รุ่น 65 นิ้ว
อุปกรณ์ภายในกล่อง
จอใหญ่ ภาพลื่นไหล ในดีไซน์มินิมอล
HUAWEI Vision S มาพร้อม 2 ขนาด ได้แก่ HUAWEI Vision S 65" และ HUAWEI Vision S 55" มีดีไซน์บางเบา เข้าได้กับทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะตั้งวางไว้บนโต๊ะ หรือยึดติดกับฝาผนัง เต็มอิ่มเต็มอรรถรสกับหน้าจอ HUWEI FullView Display ไร้ขอบแบบ UHD คมชัดระดับ 4K อัตราส่วนของหน้าจอเป็น 16:9 เหมาะกับการดูหนังมากๆ อัตราส่วนหน้าจอตัวเครื่องสูงถึง 94% เรียกว่าให้ดูกันได้อย่างเต็มตาเลยทีเดียว การแสดงผลลื่นไหลด้วยอัตรารีเฟรชเรทสูงถึง 120Hz มีช่วงสีที่สดใสคมชัดด้วยการรองรับช่วงสี DCI-P3 ที่สูงถึง 92% ทั้งยังมีเทคโนโลยีช่วยลดแสงสีฟ้า ซึ่งผ่านการรองรับโดย TÜV Rheinland Certified และยังลดการกระพริบของภาพได้ดีอีกด้วย
ระบบเสียง HUAWEI Sound
สำหรับลำโพง 10W จำนวน 4 ตัว ประกอบด้วย ลำโพงความถี่แบบ Full Frequency 2 ตัว และลำโพงทวีต 2 ตัว พร้อมตู้ลำโพง 1L ขนาดใหญ่ ระบบเสียง HUAWEI Sound รองรับนวัตกรรมอัลกอริธึมเสียง HUAWEI Histen ที่ล้ำสมัย ช่วยให้เสียงดังกระหึ่มรอบทิศทาง คุณภาพครบทุกมิติเสียง เปิดเสียงในห้องขนาด 5 x 5 เมตร แค่ระดับ 30 - 40 ก็ให้เสียงที่ดังกระหึ่มแล้ว เหมือนมีโฮมเธียเตอร์ขนาดย่อมๆ ติดตั้งมาพร้อมกับทีวีเลยทีเดียว
ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ใช้งานง่าย ไร้รอยต่อ
HUAWEI Vision S Beyond TV มาพร้อมระบบปฏิบัติการ HarmonyOS สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ของ HUAWEI และสมาร์ทโฟน Android 8.0 ขึ้นไป ได้อย่างง่ายดายไร้รอยต่อ เพียงติดตั้งแอปพลิเคชั่น HUAWEI Vision เอาไว้ คุณจะได้รับประสบการณ์การใช้งานอัจฉริยะ ภายใต้แนวคิด Seamless AI Life ซึ่งมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
คุณสามารถส่งภาพจากสมาร์ทโฟนของคุณให้แสดงบน HUAWEI Vision S Beyond TV ได้ทันทีด้วย OneHop Projection โดยนำสมาร์ทโฟนวางไว้บริเวณไอคอน HUAWEI Share ที่รีโมทคอนโทรล ภาพหน้าจอสมาร์ทโฟนก็จะถูกแสดงไปยังหน้าจอทีวี ช่วยให้คุณมองภาพได้ใหญ่ขึ้น อีกทั้งยังซ่อนข้อความส่วนตัวและการแจ้งเตือน ระหว่างที่กำลังฉายภาพแบบไร้สายได้อีกด้วย
ในกรณีที่คุณหารีโมทไม่เจอ หรือต้องการใช้สมาร์ทโฟนที่อยู่ในมือแทนรีโมท คุณสามารถควบคุมหน้าจอ HUAWEI Vision ผ่าน Mirror Control โดยจะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นทัชแพดที่พร้อมใช้งานได้ทันที อีกทั้งควบคุมได้ง่ายดายกว่าเดิมด้วย
สำหรับคนที่ชอบเล่นเกมต้องถูกใจฟีเจอร์นี้ เพราะ คุณสามารถส่งภาพบนสมาร์ทโฟนไปแสดงที่ HUAWEI Vision S Beyond TV แล้วควบคุมการเล่นเกมผ่านสมาร์ทโฟนในมือได้เลย ทำให้คุณได้มุมมองการเล่นเกมที่กว้างเต็มตา ความหน่วงของภาพต่ำ เล่นเกมได้มันส์เต็มอรรถรสยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังสามารถแชร์ไฟล์ภาพ วิดีโอ เพลง และแอปพลิเคชั่น จากสมาร์ทโฟนไปยัง HUAWEI Vision S Beyond TV ได้อย่างสะดวกสบาย ผ่านการส่งข้อมูลแบบไร้สายของ HUAWEI Share ซึ่งความเร็วขึ้นอยู่กับระยะห่างของสมาร์ทโฟนจากเราเตอร์ Wi-Fi และหากมีภาพที่คุณชื่นชอบ คุณยังเลือกเอาไปตั้งเป็นสกรีนเซฟเวอร์ได้อีกด้วย
คุยกันเห็นหน้าผ่าน MeeTime
HUAWEI Vision S Beyond TV ยังรองรับการใช้งาน MeeTime Video Call ความละเอียด 1080P ได้ด้วย เพียงแค่ติดตั้งกล้อง Magnetic Camera ที่ด้านบนของตัวเครื่อง เปิดฟีเจอร์ MeeTime Video Call ซึ่งใช้ได้บนสมาร์ทโฟน HUAWEI ที่ใช้ EMUI 10.1 หรือใหม่กว่า และเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi เดียวกัน ก็สามารถสนทนากับคนในครอบครัว หรือประชุมงาน ผ่านหน้าจอทีวีได้เลย เสียงพูดมีความชัดเจนดี แม้อยู่ในระยะห่าง 2-3 เมตร เพราะมีไมโครโฟนถึง 6 ตัวที่อยู่ด้านหน้านั่นเอง
HUAWEI Vision S Beyond TV สามารถถ่ายภาพ ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ด้วยกล้อง Magnetic Camera ความละเอียด 13MP ภาพที่ได้มีความสวยงามชัดเจนดี กล้องหมุนได้ 180 องศา เก็บภาพได้ครบทุกมุมมอง และยังติดตั้งหรือถอดออกได้อย่างง่ายดาย
ความบันเทิงเต็มอรรถรส
ต้องขอบอกก่อนว่า HUAWEI Vision S Beyond TV นี้ ไม่ได้รองรับมาตรฐานของการออกอากาศแบบ DTMB DVB ATSC และ ISDB เนื่องจากไม่มีอินเทอร์เฟซระบบจูนเนอร์ แต่คุณสามารถรับชมคอนเทนต์บน HUAWEI Vision S Beyond TV ผ่านอุปกรณ์ Set-Top Box ไม่ว่าจะเป็น กล่อง TrueID TV หรือ AIS PLAYBOX รวมไปถึงพวก Chromecast และ Apple TV เพื่อดูรายการทีวีของช่องต่างๆ หรือบริการอื่นๆ เช่น Netlix, Disney+ หรือ YouTube อย่างไม่มีปัญหา และจะได้ภาพที่มีความคมชัดกว่ามากด้วย
สำหรับตัวรีโมทคอนโทรล ก็มีดีไซน์เรียบง่าย และปุ่มการใช้งานก็มีมาให้ไม่เยอะ เน้นที่การใช้งานสำคัญ เช่น ปุ่มเปิดปิด, เพิ่ม-ลดเสียง, ปุ่มเข้าเมนูหลัก เป็นต้น สามารถสั่งงานได้ด้วยเสียง ซึ่งตอนนี้ยังไม่รองรับภาษาไทย
ซีเลีย (Celia) ผู้ช่วยอัจฉริยะที่มีอยู่ใน HUAWEI Vision S Beyond TV จะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานขึ้นอีกระดับ เพียงพูด “Hey Celia” หรือดปุ่มไมค์ที่อยู่บนรีโมทคอนโทรล เพื่อเรียกระบบผู้ช่วยขึ้นมา ก็สามารถสั่งงานเพื่อค้นหาแอปฯ หาข้อมูล หรือสั่งปิดทีวีได้ ซึ่งตอนนี้ยังรองรับเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
ราคาวางจำหน่าย
HUAWEI Vision S มาพร้อม 2 ขนาด สำหรับรุ่น 55 นิ้ว วางจำหน่ายในราคา 22,990 บาท และรุ่น 65 นิ้ว จำหน่ายในราคา 29,990 บาท
พิเศษ ! เมื่อสั่งจองช่วง Pre-Order ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 – 18 ธันวาคม 2564 รับของสมนาคุณรวมมูลค่าสูงสุด 11,480 บาท ทั้งกล่องรับสัญญาณ True ID Box และ HUAWEI MatePad 4 GB + 64 GB อีกด้วย สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
Moto G04s น่าใช้ขึ้นด้วยกล้อง 50MP เทคโนโลยี Quad pixel และลำโพง Do...
สรุปจุดเด่นและสเปค realme 12+ 5G หน้าจอ 120Hz กล้องหลัง 50MP มี OIS...
Samsung ครองแชมป์จำหน่ายสมาร์ทโฟนมากสุดไตรมาสแรก 2024 ขณะที่ iPhone...
Redmi Turbo 3 แรงฉบับนักฆ่าเรือธง Snapdragon 8s Gen 3 พร้อมรุ่นพิเศ...
Google Vids ปลดล็อกพลังการสร้างวิดีโอด้วย AI บน Google Workspace
รีวิวโทรศัพท์มือถือ Redmi Note 13 5G - เรดหมี่ สมาร์ทโฟน Redmi Note 13 5G หน้าจอแสดงผลยกระดับไปอีกขั้น กลายเป็นรุ่นที่โดดเด่นกว่ารุ่นอื่นในช่วงราคาเดียวกัน กับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2400x1080 พ...