รีวิว OPPO Reno7 5G จอ AMOLED มือถือ 5G กล้องสวย ถ่ายพอร์ตเทรตได้อย่างมืออาชีพเสมือนกล้อง DSLR

OPPO Reno7 5G สมาร์ทโฟน 5G ที่อัพเกรดตัวเองขึ้นทุกๆด้านในราคาที่ถูกลงกว่ารุ่นก่อน โดยมีกล้องถ่ายภาพชั้นเยี่ยม ถ่ายพอร์ตเทรตได้อย่างมืออาชีพเสมือนกล้อง DSLR ดีไซน์บางเฉียบ เฉดสีสวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จอใหญ่ชัดฉบับ AMOLED มีฟีเจอร์การถ่ายพอร์ตเทรตอย่าง Bokeh Flare Portrait ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการถ่ายภาพพอร์ตเทรต ดั้งสโลแกน “The Portrait Expert” ของรุ่น ขับเคลื่อนด้วย MediaTek Dimensity 900 มีการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ยาวนานมากขึ้น พร้อมเทคโนโลยีชาร์จไว 65W SUPERVOOC ได้รับการรับรอง TÜV SÜD 36-month fluency rating A ที่สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นหลังจากใช้งาน 36 เดือนอีกด้วย

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

OPPO Reno7 5G มาพร้อมตัวเครื่องความบางเพียง 7.81 มม. น้ำหนักเบา 173 กรัม ฝาหลังมีดีไซน์แบบ 3 มิติ จับถือได้สบายมือ ทั้งยังดูสวยงามพรีเมี่ยม

จอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความคมชัดระดับ FHD+ (2400x1080 พิกเซล) มองเห็นได้อย่างชัดเจนเต็มตา รองรับอัตรา Refresh Rate 90Hz และ Touch Sampling Rate สูงสุดถึง 180Hz แสดงผลได้สมูทลื่นไหล ตอบสนองต่อการสัมผัสได้รวดเร็ว

ส่วนบนของหน้าจอ OPPO Reno7 5G เป็นดีไซน์รอยเจาะที่มุมซ้าย ติดตั้งกล้องหน้า ความละเอียดสูงถึง 32 ล้านพิกเซล

จอด้านล่างมีการระบบนำทางแบบซอร์ฟแวร์ สามารถปรับเปลี่ยนได้ที่การตั้งค่าในภายหลัง พร้อมกับรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอเพื่อปลดล็อคด้วย

ด้านขวาของตัวเครื่อง OPPO Reno7 5G เป็นปุ่ม Power ที่มีขีดสีเขียวตัดกับสีของกรอบเครื่อง ช่วยให้มองเห็นได้อย่างเด่นชัด

เครื่องทางด้านซ้ายเป็นช่องใส่ซิมการ์ด รองรับการใส่ Nano SIM ได้จำนวน 2 ช่อง และมีช่องใส่ MicroSD Card อีก 1 ช่อง ถัดลงมาเป็นปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง

ด้านบนของตัวเครื่อง OPPO Reno7 5G มีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน

ด้านล่างของตัวเครื่องมาพร้อมพอร์ตแบบ USB C อยู่ตรงกลาง ช่วยให้การเสียบสายเชื่อมต่อมีความง่ายขึ้น ด้านข้างเป็นลำโพงเสียง และไมโครโฟน

สำหรับฝาหลัง OPPO Reno7 5G ใช้เทคนิคการให้สีแบบ OPPO Glow ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ ช่วยให้ตัวเครื่องมีความระยิบระยับ จับถือก็ไม่เกิดรอยนิ้วมือ ทั้งยัง.ใช้เทคโนโลยี Laser Direct Imagine (LDI) ที่นำมาใช้บนดีไซน์ฝาหลังของสี Starlight Blue ซึ่งเป็นครั้งแรกในอุตสหกรรมของสมาร์ทโฟน ช่วยแกะสลักฝาหลังให้เป็นลวดลายที่สวยงาม เปรียบดั่งดาวตกนับล้าน พร้อมเอฟเฟ็กต์เฉดสีที่แตกต่างกันตามแสงสะท้อน มีความเปล่งประกายระยิบระยับ เป็นเอกลักษณ์ที่สวยงามโดดเด่นไม่เหมือนใคร กล้องหลังติดตั้งมาให้ 3 เลนส์ โดยเลนส์หลักมีความละเอียด 64MP, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8MP และเลนส์ Macro ความละเอียด 2MP

สเปคของ OPPO Reno7 5G

ขนาดตัวเครื่อง : 160.0x73.2x8.8 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 173 กรัม
จอแสดงผล : หน้าจอ AMOLED กว้าง 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400x1080 พิกเซล) รองรับ 90Hz Refresh Rate และ 180Hz Touch Sampling Rate
ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 900 5G
ชิปกราฟฟิก : Adreno GPU 642L
RAM : 8GB LPDDR4x พร้อมเทคโนโลยี RAM Expansion
ROM : 256GB แบบ UFS 2.2
ระบบปฏิบัติการ : ColorOS 12 บนพื้นฐาน Android 11
กล้องหลัง 3 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช
- เลนส์หลัก ความละเอียด 64MP รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ Wide-Angle ความละเอียด 8MP รูรับแสง f/2.2
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2MP รูรับแสง f/2.4
กล้องหน้า ความละเอียด 32MP รูรับแสง f/2.4
เครือข่าย : 5G / 4G / 3G / 2G รองรับ Nano SIM 2 ช่อง
การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, NFC, GPS, พอร์ต USB Type-C
ระบบความปลอดภัยไบโอเมตริกซ์ : สแกนใบหน้า, สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
แบตเตอรี่ : 4,500mAh รองรับชาร์จเร็ว 65W SUPERVOOC
สีตัวเครื่อง : สี Startrails Blue และสี Starry Black

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

ชิปเซ็ตและหน่วยความจำ

OPPO Reno7 5G ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 900 5G ขนาด 6 นาโนเมตร ความเร็ว 2.4GHz รองรับสัญญาณ 5G และ Wi-Fi 6 ให้การเชื่อมต่อที่รวดเร็วขึ้น และประหยัดพลังงานได้มากขึ้นกว่าเดิม มาพร้อมกับ RAM ขนาดใหญ่ถึง 8GB + ROM 256GB รองรับเทคโนโลยี RAM Expansion เพิ่ม RAM เสมือนจริงได้อีก 5GB ช่วยเพิ่มพื้นที่ RAM ให้มากขึ้น ทำให้การทำงานลื่นไหล และยังสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอก MicroSD Card ได้อีก 256GB การใช้งานพื้นฐาน การเล่นเกม หรือใช้แอปพลิเคชั่นต่างๆ มีการตอบสนองที่รวดเร็ว ไม่กระตุก หรือเกิดอาการหน่วงในการใช้งาน

ระบบปฏิบัติการ

OPPO Reno7 5G มาพร้อมระบบปฏิบัติการ ColorOS 12 บนพื้นฐาน Android 11 ซึ่งได้ปรับแต่งให้ฟีเจอร์ต่างๆ เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ออกแบบมาได้เรียบง่ายสวยงาม แต่ยังคงเอกลักษณ์ที่โดดเด่น โดยมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจมาให้ใช้งานอย่างมากมาย

พื้นหลังที่สร้างสรรค์

นอกจากวอลเปเปอร์ปกติที่ OPPO Reno7 5G มีมาให้เลือกแล้ว ยังสร้างมาสร้างพื้นหลังแบบใหม่ โดยเข้าไปที่ ตั้งค่า > การปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ > วอลเปเปอร์ > ภาพพื้นหลังที่สร้างสรรค์ จากนั้นระบบจะทำการประมวลผล โดยจับเฉดสีจากรูปภาพที่เราเลือกมา เพื่อทำการสร้างเป็นวอลเปเปอร์ในรูปแบบใหม่ ให้เราได้เลือกใช้ได้ตามความต้องการ

OPPO Omoji

เปิดจินตนาการและสร้างสรรค์อิโมจิแบบเคลื่อนไหว 3 มิติแบบไร้ขีดจำกัดด้วย OPPO Omoji ที่มีอยู่ใน ColorOS 12 สามารถเลือกสีผิว รูปทรงใบหน้า ตกแต่งความสวยด้วยเครื่องประดับสุดเก๋กว่า 200 รายการ โดยอัลกอริธึม Face Capture ชั้นนำของ OPPO จะช่วยให้อวตารของคุณแสดงสีหน้าและอารมณ์ได้หลากหลายมากขึ้น

เข้าไปสร้าง Omoji โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > บัญชีผู้ใช้ > OMOJI จากนั้นก็ครีเอตอวตารได้ตามสไตล์ความชอบของคุณ จากนั้นคุณสามารถตั้ง Omoji เป็นรูปโปรไฟล์บนแอคเคาท์ หรือตั้งเป็น Always-On Display ของคุณได้เลย

การแสดงผลหน้าจอตลอดเวลา

การแสดงผลหน้าจอตลอดเวลา หรือที่เราคุ้นหูกันว่า Always-On Display จะเป็นในส่วนของการแสดงข้อมูลของวัน, เวลา และการแจ้งเตือนสำคัญ ซึ่งจะปรากฏบนหน้าจอของโทรศัพท์ตลอดเวลา หรือตามความต้องการใช้งานที่ได้ตั้งค่าได้ โดยใน OPPO Reno7 5G มีรูปแบบมาให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย ดังนี้

รูปแบบกำหนดเอง จะเป็นการสร้างสรรค์ภาพกราฟฟิคขึ้นมาเอง โดยสามารถเลือกสีสัน รูปแบบของแปรงสี รวมถึงรูปร่างของกราฟฟิคได้ ซึ่งจะได้ภาพ Always-On Display ที่ไม่เหมือนใคร

ข้อความ คุณสามารถพิมพ์ข้อความที่คุณต้องการลงไปได้ ไม่ว่าจะเป็นชื่อคุณ ชื่อขอคนรัก หรือนัดสำคัญในวันนั้น เพื่อให้คุณไม่พลาดในทุกโอกาสพิเศษ โดยสามารถเลือกสีสัน ขนาดตัวอักษร และลักษณะของการจัดวางได้

ข้อความพร้อมรูปภาพ มีความพิเศษมากกว่าข้อความธรรมดาตรงที่ คุณสามารถเพิ่มรูปภาพที่คุณชอบลงไปได้เพิ่มเติม เลือกความโค้งมนของกรอบภาพ และสัสันพร้อมตำแหน่งการวางของตัวอักษรได้

ซิลูเอทจากภาพบุคคล สำหรับใครที่ชอบความ abstract หน่อย ก็เลือกใช้เป็นการซิลูเอทจากภาพบุคคลที่เราชื่นชอบได้ โดยระบบจะทำการวาดเป็นลายเส้นให้เรานำไปใช้แทนภาพแบบเต็มๆ นั่นเอง

โหมดกลางคืน

OPPO Reno7 5G มาพร้อมโหมดกลางคืน ที่จะเปลี่ยนธีมของ UI เป็นธีมมืด และปรับตัวอักษรให้มีความสว่างมาขึ้น โดยสามารถเลือกได้ 3 รูปแบบ คือ ขั้นสูง, กลาง และอ่อนโยน เมื่อเลือกเป็นขั้นสูงที่มีความเข้มมากที่สุด เมื่อบวกกับความเป็นจอ AMOLED ของ OPPO Reno7 5G ยิ่งทำให้ส่วนที่เป็นสีดำนั้นดำสนิท ช่วยให้มองเห็นตัวอักษรได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น แม้อยู่ในสถานที่ที่สภาวะแสงไม่เอื้ออำนวย

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v9.0.5-OB ได้ 430,346 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 4 ได้คะแนน Single-Core ที่ 712 และคะแนน Multi-Core ที่ 2 137 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย 3DMark (Wild Life) ได้ 2 011 คะแนน
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Gyroscope Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

The Portrait Expert ขั้นสุดของการถ่ายพอร์ตเทรต

OPPO Reno7 5G มาพร้อม AI 3 กล้องหลัง โดยมีเลนส์หลัก ความละเอียด 64MP, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8MP และเลนส์ Macro ความละเอียด 2MP ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพร่วมกับ AI ขั้นสูงของ OPPO ทำให้กล้องภ่ายภาพสามารถเก็บภาพได้อย่างมืออาชีพ เสมือนได้กล้อง DSLR บนสมาร์ทโฟน การรับแสงทำได้ค่อนข้างดี ช่วยให้ภาพที่ออกมาสมจริง ไม่ผิดเพี้ยนจากที่ตามองเห็น

ภาพมุมกว้าง

สำหรับเลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.25 มุมมองกว้าง 118 องศา สามารถเก็บภาพมุมกว้างได้ครบองค์ประกอบ ความบิดเบี้ยวน้อยมาก เก็บแสงได้สวยงามแม้ในพื้นที่แสงน้อย

ภาพมาโคร

เลนส์ Macro ความละเอียด 2MP รูรับแสง f/2.4 จับโฟกัสภาพใกล้สุดในระยะ 4 เซนติเมตร ได้ภาพที่มีรายละเอียดที่ค่อนข้างชัดเจน สวยงามดี

ภาพกลางคืน

การจับภาพองค์ประกอบและดวงไฟมีความสว่างที่ดี รายละเอียดต่างๆ เก็บได้ค่อนข้างชัดเจน การให้แสงสีและพื้นผิวดูใกล้เคียงกับความจริง

Portrait Mode ถ่ายภาพสวยเหมือนกล้อง DSLR ในคลิ๊กเดียว

OPPO Reno7 5G จะสามารถปรับขนาดรูรับแสงได้ถึง 25 ระดับ ตั้งแต่ F0.95 ถึง F16 จึงสามารถปรับระยะชัดลึกได้แม่นยำ เพื่อให้รูปออกมาพอดีตามที่เราต้องการมากยิ่งขึ้น โดยอัลกอริธึม AI ของ OPPO จะเลียนแบบคุณสมบัติของกล้อง DSLR เพื่อสร้างดวงไฟโบเก้ที่มีขนาด สี และความสว่างที่แตกต่างกันตามระยะทางและระยะชัดลึก เมื่อลองปรับความเบลอสุด พบว่าสามารถตัดขอบของบุคคลได้ดีขึ้น เก็บรายละเอียดของปอยผมได้เรียบร้อย ใบหน้ายังคงสวยงามมีมิติ ตัวบุคคลไม่ลอยออกจาก Background มากนัก ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

Bokeh Flare Portrait ทั้งภาพถ่ายและวิดีโอ

นอกจากนี้ ในการถ่าย Bokeh Flare Portrait ก็สามารถจับภาพของดวงไฟโบเก้ได้สวยงามตามคุณลักษณะของแสงบนพื้นหลัง โดยจะเห็นความกลมของดวงไฟ ขนาดที่แตกต่าง รวมไปถึงสีสันซึ่งเป็นสีเดียวกันกับจุดกำเนิดแสง อีกทั้งยังเก็บภาพบุคคลในภาพได้อย่างสว่างชัดเจน เห็นรายละเอียดบนใบหน้า แสงตกกระทบในมุมมองที่เปลี่ยนไป มีฟีเจอร์ "Portrait Retouching ทำให้ภาพสวยเป๊ะเหมือนรีทัชอย่างมืออาชีพ" นอกจากนนี้ยังตรวจจับโทนสีผิว และการปรับแต่งรายละเอียดที่เหมาะสม ช่วยให้บุคคลไม่เพียงโดดเด่น แต่ยังออกมาสวยงามสมบูรณ์แบบ

Portrait Mode และ Bokeh Flare Portrait บน OPPO Reno7 5G สามารถถ่ายพอร์ตเทรตด้วยเอฟเฟกต์เสมือนกล้อง DSLR ได้ด้วยสมาร์ทโฟน แม้ว่าจะเป็นสถาพแสงแบบไหน แสงจ้าที่ลอดช่องต้นไม้ แสงน้ำที่สะท้อนระยิบระยับ หรือไฟประดับยามค่ำคืน ก็ถ่ายภาพออกมาได้อย่างสวยงามทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ

วิธีการใช้งาน

ภาพนิ่ง : กล้อง > Portrait > แตะไอคอนรูรับแสงที่มุมล่างซ้าย เพื่อปรับระดับรูรับแสงตามความต้องการ
วิดีโอ : กล้อง > วิดีโอ > แตะไอคอนตั้งค่าที่มุมล่างขวา > ฟิลเตอร์ > Bokeh Flare Portrait

Portrait Retouching

Portrait Mode ใน OPPO Reno7 5G นอกจากจะมีฟีเจอร์การปรับแต่งภาพที่ช่วยตรวจจับ ช่วยคงพื้นผิวของวัตถุให้ดูมีมิติ โทนสีผิวที่เป็นธรรมชาติแล้ว ยังมาพร้อม retouching effects เพื่อปรับแต่งภาพเพิ่มเติม ให้ภาพพอร์ตเทรตที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

การถ่ายวิดีโอ

AI Highlight Video

OPPO Reno7 5G มาพร้อม AI Highlight Video ที่เปิดใช้งานได้โดยอัตโนมัติบนกล้องหลัง เข้ามาช่วยในเรื่องของการถ่ายภาพวิดีโอที่สภาพแสงไม่เอื้ออำนวย เช่น การถ่ายย้อนแสงหรือการถ่ายภาพในที่แสงน้อย โดย AI Highlight Video จะตรวจจับแสงโดยรอบ และปรับภาพโดยอัตโนมัติเพื่อให้ได้ภาพที่สว่างและสมบูรณ์มากขึ้น

AI Color Portrait Video

สำหรับ AI Color Portrait OPPO Reno7 5G สามารถใช้งานได้ทั้งการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ AI Color Portrait Video จะทำการตรวจจับวัตถุบนภาพอัตโนมัติ โดยใช้ฟิลเตอร์โมโนโทนบนพื้นหลัง และยังคงสีสันของตัวแบบให้โดดเด่นเช่นเคย

Dual-View Video

OPPO Reno7 5G ในโหมด Dual-View Video จะสามารถบันทึกวิดีโอทั้งจากกล้องหน้าและหลังได้พร้อมกัน ด้วยเฟรมการแบ่งหน้าจอ 3 รูปแบบ โดยเข้าไปที่ กล้อง > เพิ่มเติม > เลือก Dual-View Video

กล้องหน้า

กล้องหน้า ความละเอียด 32MP ของ OPPO Reno7 5G นอกจากจะถ่ายเซลฟี่ได้สวยงามเป็นธรรมชาติ อย่างที่ทำได้ดีเยี่ยมมาตลอดแล้ว ยังมาพร้อมกับอัลกอริธึม AI smart sensor ที่ช่วยตรวจจับใบหน้าของผู้ใช้งานให้คงแสงสว่างบนหน้าจอ เมื่อคุณกำลังดูหน้าจอแต่ไม่ได้มีการโต้ตอบหรือสัมผัสมือถือ เช่น ขณะอ่านบทความหรือ E Book เป็นต้น

ดีไซน์บางเฉียบในรูปลักษณ์อันโดดเด่น

OPPO Reno7 5G มาพร้อมดีไซน์ดีไซน์บางเฉียบ ด้วยความหนาของตัวเครื่องที่ 7.81 มม. น้ำหนักเบาเพียง 173 กรัม มีการใช้เทคโนโลยี Laser Direct Imaging (LDI) บนฝาหลังของสี Startails Blue ทำให้เกิดลายเส้นที่สวยงาม เสมือนมีดาวตกที่สวยงามกำลังพาดผ่านไป โดย OPPO Reno7 5G ทั้งสี Startrails Blue และ Starry Black จะมาพร้อมกับดีไซน์แบบ OPPO Glow ที่มาพร้อมความระยิบระยับ สวยงามเป็นเอกลักษณ์ และลดการเกิดรอยนิ้วมือบนตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี

สี Startrails Blue สีสันที่ไม่หยุดนิ่ง เปลี่ยนเฉดสีไปตามมุมมองต่างๆ ที่โดนแสงตกกระทบ มอบเอฟเฟกต์ระยิบระยับเปล่งประกายดั่งสะเก็ดดาวนับล้านบนฝาหลังของโทรศัพท์
สี Starry Black เป็นเกรเดียนท์ที่ไล่ระดับระหว่างดำกับน้ำเงินได้อย่างลงตัว ดั่งดวงดาวที่เคลื่อนไหวไปมา มีความระยิบระยับเล็กๆ สวยหรูพรีเมี่ยม เหมาะกับคนที่ต้องการความเรียบแต่หรู เข้ากันได้กับทุกสไตล์

จอคุณภาพสูง คมชัดทุกมุมมอง

OPPO Reno7 5G มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความคมชัดระดับ FHD+ รองรับ 90Hz Refresh Rate ที่ทำให้การแสดงผลมีความลื่นไหล สีสันที่ได้สดสมจริง สำหรับการตอบสนองก็รวดเร็วด้วยอัตรา Touch Sampling Rate ระดับ 180Hz ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 ที่แข็งแกร่ง จอกว้างมองเห็นได้ชัด ดีไซน์หน้าจอรอยเจาะมุมซ้าย ไม่มีความเกะกะตาในการรับชมคอนเทนต์หรือเล่นเกม

ประสิทธิภาพการใช้งาน

OPPO Reno7 5G เลือกใช้ MediaTek Dimensity 900 5G SoC ขนาด 6 นาโนเมตร ความเร็ว 2.4GHz รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 5G และ Wi-Fi 6 เพื่อการเชื่อมต่อที่รวดเร็วขึ้น ให้การทำงานที่ทรงประสิทธิภาพ มาพร้อม RAM ขนาด 8GB และ ROM 256GB มีเทคโนโลยี RAM Expansion ที่พัฒนาขึ้นเองจาก OPPO ไว้ให้เพิ่มพื้นที่ RAM ให้เพียงพอต่อความต้องการใช้งาน โดยจะปรับเปลี่ยน ROM บางส่วนที่มีอยู่ในตัวเครื่องให้เป็น RAM เสมือน และ RAM Expansion ใน OPPO Reno7 5G ยังสามารถเลือกจำนวน RAM ที่ต้องการเพิ่มได้ที่ 2GB, 3GB และ 5GB อีกด้วย เพื่อให้ไม่เกินความจำเป็นต่อความต้องการ จึงไม่ต้องกังวลแม้คุณจะเล่นเกมหนักๆ หรือเปิดแอปหลายๆ แอปพร้อมกัน

ฟีเจอร์ใหม่บน ColorOS 12

การใช้งานแบบไร้สัมผัส Hands-Free Control

Air Gestures เป็นการตั้งค่าเพื่อให้คุณสามารถควบคุม OPPO Reno7 5G ได้โดยไม่ต้องแตะหน้าจอ เลื่อนแอปโซเชียลและวิดีโอยอดนิยมขึ้นและลงได้จากระยะไกล ด้วยการโบกมือปัดขึ้น-ลง หรือรับสายโทรศัพท์ รวมถึงปิดเสียงเรียกเข้า โดยไม่ต้องสัมผัสโทรศัพท์

ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย

สำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว สามารถเปิดใช้งาน Anti-peeping Notifications ไว้ได้ ด้วย AI-enhanced Smart Sensor บน ColorOS 12 หากโทรศัพท์ตรวจพบว่ามีคนอื่นกำลังดูหน้าจอของคุณอยู่ เมื่อมีข้อความปรากฏขึ้น รายละเอียดของข้อความนั้นจะถูกซ่อนไว้ เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวให้คุณ

แบตใหญ่ พร้อม 65W SUPERVOOC

OPPO Reno7 5G ให้แบตเตอรี่มาที่ความจุ 4,500mAh แถมพ่วงมากับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SUPERVOOC สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ 100% ในเวลาเพียง 31 นาที จากการทดลองชาร์จ ก็ใช้เวลาประมาณเท่ากัน เรียกว่าเป็นไปตามที่ทางแบรนด์เคลมไว้ เครื่องไม่ร้อน ชาร์จเต็มหนึ่งครั้งใช้งานปกติได้ทั้งวัน แต่หากมีเล่นเกม 2 ชั่วโมง หรือเชื่อมต่อ 5G ก็อาจต้องชาร์จระหว่างวันบ้าง

ราคาวางจำหน่าย

OPPO Reno7 5G นับว่าเป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่น่าสนใจเป็นอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ ด้วยความโดดเด่นของดีไซน์ ขึ้นแท่นกล้องถ่ายพอร์ทเทรตระดับมืออาชีพ ทั้งยังอัปเกรดสเปคมาให้ยกแผง ในราคา 16,990 บาท และสามารถจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายทั้ง 3 ค่ายในราคาเริ่มต้น 6,990 บาท ใครที่สนใจ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3Jcufxz