realme 9 Pro+ และ realme 9 Pro สองสมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นใหม่ ที่ให้สเปคมาแบบไม่ธรรมดา หน้าจอ Super AMOLED 90Hz คมชัด จัดเต็มกับกล้องหลังที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX766 มาให้ในรุ่นใหญ่ ซึ่งเป็นกล้อง Sony IMX766 OIS รุ่นแรกในสมาร์ทโฟนระดับ Mid-range มาพร้อมดีไซน์ฝาหลังแบบ Light Shift Design เปลี่ยนสีได้ เมื่อฝาหลังกระทบกับแสงแดด แบตเตอรี่สุดอึดแถมระบบชาร์จเร็ว 60W SuperDart Charge

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ตัวเครื่องของทั้ง 2 รุ่น มีมุมโค้งมน ด้านหลังมีความโค้งเล็กๆ ถือจับได้กระชับมือ realme 9 Pro+ มีขนาดเล็กกว่า realme 9 Pro ซึ่งเป็นรุ่นรองลงมา และมีหน้าจอที่ขนาดเล็กกว่าด้วย ใช้งานมือเดียวได้สบายๆ ด้วยน้ำหนักที่เบา และตัวเครื่องที่ไม่หนามาก

โดย realme 9 Pro+ มาพร้อมหน้าจอแสดงผล AMOLED กว้าง 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400x1080 พิกเซล) อัตรา Refresh Rate สูงสุด 90Hz รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และยังสามารถวัดการเต้นของหัวใจได้ด้วย

 

ในขณะที่ realme 9 Pro มีหน้าจอขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด 2412x1080 พิกเซล และมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz ซึ่งสูงกว่าในรุ่นพี่ และมีอัตราตอบสนองทัชสกรีน 240Hz

มุมบนซ้ายของหน้าจอเป็นดีไซน์รอยแหว่งแบบจอเจาะรู เป็นตำแหน่งของกล้องหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ทั้งคู่ และเหนือขึ้นไปตรงกลางเป็นลำโพงเสียง

การจัดวางปุ่มและตำแหน่งของพอร์ตต่างๆ ของ realme 9 Pro+ และ realme 9 Pro เรียกได้ว่าเหมือนกัน จะต่างกันเพียงเล็กน้อยคือในส่วนของปุ่ม Power ที่อยู่ทางด้านขวามือ โดยในรุ่น realme 9 Pro จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคด้วย ส่วน realme 9 Pro+ ไม่มี เพราะเซ็นเซอร์จะติดตั้งอยู่ที่ใต้หน้าจอแล้ว

ส่วนด้านซ้าย realme 9 Pro+ มีปุ่มเพิ่มลดเสียง และถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM 2 ช่อง รองรับการใช้งาน 5G ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอก MicroSD Card ได้

ส่วน realme 9 Pro จะมีช่องใส่ซิมแบบไฮบริด รองรับ Nano SIM จำนวน 2 ช่อง และสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอก MicroSD Card ได้สูงสุด 265GB

ตัวเครื่องด้านบนมีไมโครโฟนตัดเสียง

ด้านล่างของเครื่องมีพอร์ตแบบ USB C ตรงกลาง ฝั่งซ้ายเป็นไมโครโฟน และช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม. ส่วนฝั่งขวาเป็นลำโพงเสียง

สำหรับด้านหลังของ realme 9 Pro+ ติดตั้งกล้องหลัง 3 เลนส์ ประกอบด้วย เลนส์หลักที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX766 ความละเอียด 50MP พร้อมระบบกันสั่น OIS + เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8MP มุมมองกว้าง 119 องศา และเลนส์ Macro ความละเอียด 2MP พร้อมไฟแฟลช จัดวางอยู่ในโมดูลกล้องทางมุมบนซ้ายของเครื่อง

ส่วน realme 9 Pro ก็ติดตั้งกล้องหลังมาให้ 3 เลนส์เช่นเดียวกัน โดยมีเลนส์หลัก ความละเอียด 64MP + เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8MP และเลนส์ Macro ความละเอียด 2MP พร้อมไฟแฟลช จัดวางอยู่ในโมดูลกล้องทางมุมบนซ้ายของเครื่อง

ความพิเศษของดีไซน์แบบ Photochromism ด้านหลังเครื่อง realme 9 Pro สี Sunrise Blue (เครื่องที่ได้มารีวิว) ใช้เทคนิคที่เรียกว่า Light Shift Design ซึ่งฝาหลังตัวเครื่องจะสามารถเปลี่ยนสีได้เมื่อสัมผัสโดนเข้ากับแสงแดด

สรุปสเปกของ realme 9 Pro และ realme 9 Pro+

  • ข้อมูลเบื้องต้น realme 9 Pro

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

หน่วยประมวลผลและหน่วยความจำ

realme 9 Pro+ มาพร้อมขุมพลัง MediaTek Dimensity 920 5G ความเร็ว 2.5 GHz ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่เลือกใช้ชิปเซ็ตรุ่นนี้ รองรับการเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยี 5G ที่มีความเร็วแรง และให้ประสิทธิภาพการใช้งานแบบจัดเต็ม มาพร้อมความจุ RAM 8GB + ROM 256GB ส่วนใน realme 9 Pro จะใช้ชิปเซ็ตของ Qualcomm Snapdragon 695 รองรับสัญญาณ 5G ได้เช่นกัน แต่มีมาให้เลือก 2 ความจุด้วยกัน ได้แก่ RAM 6GB + ROM 128GB และ RAM 8GB + ROM 128GB โดยทั้ง 2 รุ่นนั้น จะรันบนระบบปฏิบัติการ realme UI 3.0 บนพื้นฐาน Android 12 ที่มีความลื่นไหล ใช้งานง่าย จัดเต็มได้ทั้งความบันเทิงและการเล่นเกมที่คุณชื่นชอบ

  • realme 9 Pro+ 5G

 

  • realme 9 Pro 5G

 

วอลเปเปอร์สร้างสรรค์เอง

สามารถครีเอตวอลเปเปอร์ตามเฉดสีของการแต่งกายหรือโทนของรูปภาพที่คุณชื่นชอบได้ โดยเข้าไปที่ ตั้งค่า > การปรับเปลี่ยนในรูปแบบคุณ > วอลเปเปอร์ >วอลเปเปอร์ที่สร้างสรรค์เองเพื่อสร้างสรรค์ภาพพื้นหลังที่ไม่เหมือนใครได้เลย

 

 

 

 

ฟีเจอร์พิเศษ

สำหรับฟีเจอร์พิเศษมีให้เลือกหลากหลายฟังก์ชั่น ช่วยให้การใช้งานมีความง่าย และตรงกับความต้องการแต่ละลักษณะมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การใช้งานสำหรับเด็กหรือผู้สูงอายุ เป็นต้น

  • หน้าต่างที่ยืดหยุ่น

เป็นการใช้งานหน้าต่างลอย เพื่อให้สะดวกในเวลาที่ต้องการใช้งานอย่างรวดเร็ว เพียงปัดด้วยนิ้วเดียว

 

 

  • การเรียกใช้งานด่วน

เป็นฟังก์ชั่นเพื่อกดเรียกใช้งานแอปพลิเคชั่นที่ใช้งานบ่อยๆ จำนวน 3 แอปพลิเคชั่น ด้วยการกดค้างบนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือหน้าจอ เพื่อเลือกเมนูที่ต้องการ

 

  • แถบการใช้งานด้านข้าง

เป็นการเปิดใช้งานแอปพลิเคชั่นหรือเครื่องมือให้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องกดเข้าไปเลือกหาในหน้าลิ้นชักแอปฯ หรือไอคอนใดๆ เพื่อการใช้งานอย่างเร่งด่วน

 

  • พื้นที่สำหรับเด็ก

สำหรับผู้ปกครองที่มีความจำเป้นจะต้องให้เครื่องเด็กๆ ในการใช้งาน หรือการเล่นเกม คุณสามารถเข้าใช้งานฟังก์ชั่นนี้ เพื่อเป้นการจำกัดแอปพลิเคชั่น และกำหนดเวลา ในการใช้งานมือถือให้กับเด็กๆ ได้

 

 

  • โหมดเรียบง่าย

ส่วนใครที่ต้องการนำสมาร์ทโฟนไปให้ผุ้สุงอายุใช้งาน คุณสามารถเปิดใช้ "โหมดเรียบง่าย" เพื่อหน้าตา UI ของมือถือจะมีความขยายใหญ่ และดูใช้งานง่ายมากขึ้นนั่นเอง

 

O-Haptics

เป็นความพิเศษของเสียงและการสั่นของตัวเครื่อง ซึ่งจะทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ เข้ากับการแสดงผลบนหน้าจอสมาร์ทโฟนที่ปรากฏขณะนั้น ด้วยลำโพงสเตอริโอคู่พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos พร้อมระบบสั่นด้วย X-axis Motor Tactile Engine เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกม ทำให้เรามีอารมณ์ร่วมกับภาพและเสียงที่เกิดขึ้นยิ่งขึ้น

 

 

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง realme 9 Pro+

  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v9.0.5-OB ได้ 495,918 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 4 ได้คะแนน Single-Core ที่ 815 และคะแนน Multi-Core ที่ 2 314 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย 3DMark (Wild Life) ได้ 2 291 คะแนน
  • ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

 

 

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v9.0.5-OB ได้ 398,287 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 4 ได้คะแนน Single-Core ที่ 689 และคะแนน Multi-Core ที่ 1 975 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย 3DMark (Wild Life) ได้ 1 211 คะแนน
  • ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

 

 

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ ดังนี้

  • Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
  • Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
  • Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
  • Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
  • Gyroscope Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
  • Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
  • Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ดีไซน์ฝาหลังเปลี่ยนสีได้

realme 9 Proและ realme 9 Pro+ มาพร้อมกับดีไซน์ดีไซน์แบบ Photochromism ที่เป็นเอกลักษณ์ ผิวสัมผัสเรียบลื่นเพิ่มความหรูหราให้กับตัวเครื่อง มีเอ็ฟเฟคความระยิบระยับพร้อมแสงที่ลอดผ่าตรงกลางเครื่องเหมือนการเคลื่อนไหวของดวงดาว และบนสี Sunrise Blue ที่ใช้เทคนิค Light Shift Design ทำให้ฝาหลังสามารถเปลี่ยนสีได้เมื่อกระทบโดนกับแสงแดด ซึ่งจะเปลี่ยนสีจากสีฟ้าเป็นสีชมพูอย่างโดดเด่นภายใน 3 วินาที และหากไม่มีแสงแดด สีฝาหลังจะจางลงใน 2-5 นาที เป็นลูกเล่นของสีฝาหลังที่ทำได้อย่างโดดเด่นเลยทีเดียว โดย realme 9 Pro Series มีมาด้วยกัน 2 สี ได้แก่ Sunrise Blue และ Arora Green นั่นเอง

จอใหญ่ดูซีรีส์ สุดโปรดสบายๆ

สำหรับจอแสดงผลของ rrealme 9 Pro+ เลือกใช้พาเนล AMOLED ที่มีความคมชัด ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ มีอัตรารีเฟรชเรทที่ 90Hz สามารถรับชมคอนเทนต์ต่างๆ โดยเฉพาะซีรี่ย์สุดโปรดของเราได้อย่างเต็มสายตา ชัดเจน ลื่นไหล และสีสันสว่างสดใส รองรับการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ แล้วยังใช้เซ็นเซอร์ตรงนี้ในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อีกด้วย

ส่วนรุ่นน้องอย่าง realme 9 Pro แม้ไม่ได้มากับจอ AMOLED แต่ก็มีขนาดจอที่ใหญ่กว่า ด้วยความกว้าง 6.6 นิ้ว ความละเอียด 2412x1080 พิกเซล และมีอัตรารีเฟรชเรทสูงกว่าอยู่ที่ 120Hz และอัตราตอบสนองทัชสกรีน 240Hz ช่วยให้การแสดงผลลื่นไหล ดูสมูทมากขึ้น การตอบสนองต่อการสัมผัสมีความรวดเร็ว จะใช้งานหรือเล่นเกมก็เต็มที่เต็มอรรถรส

 

ตรวจวัดการเต้นหัวใจได้ด้วย

เรียกว่าเป็นฟีเจอร์ที่เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด เพราะ นอกจากความสามารถในการรองรับการปลดล็อคบนหน้าจอแล้ว realme 9 Pro+ ยังสามารถตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อีกด้วย ซึ่งการเข้าไปใช้งานต้องติดตั้งแอปฯ realme Lab ก่อน จากนั้นเข้าไปใช้งาน โดยการวางนิ้วลงบริเวณเซ็นเซอร์ และรอให้ตัวเครื่องทำการตรวจวัดและประมวลผล ช่วยให้คุณดูแลสุขภาพของคุณเองได้ง่ายๆ บนหน้าจอสมาร์ทโฟนเลย

ชิปประมวลผลที่ไม่ใช่แค่ชิปมั้ง

realme 9 Pro+ ติดตั้งชิปประมวลผล MediaTek  Dimensity 920 5G กระบวนการทำงานขั้นสูงด้วยชิป 6nm มีประสิทธิภาพสูงสุดในรุ่นระดับเดียวกัน ซึ่งช่วยให้การทำงานต่างๆ มีการประมวลผลที่เร็วแรง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการเล่นเกมหรือกล้องถ่ายภาพ ทั้งยังรองรับเทคโนโลยี 5G ที่มีการอัปโหลดดาวน์โหลดที่รวดเร็ว ส่วน realme 9 Pro เลือกใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 695 5G ทำงานร่วมกับ RAM 8GB และ ROM 256GB นั่นเอง

โดยทั้ง 2 รุ่น ยังรองรับเทคโนโลยี Virtual RAM ที่สามารถแปลง ROM เป็น RAM เพิ่มได้สูงสุดถึง 5GB รวมจากเดิมที่มีอยู่ 8GB ก็จะได้พื้นที่ถึง 13GB เลยทีเดียว ช่วยให้การเปิดปิดสลับแอปฯ หรือเปิดแอปพลิเคชั่นต่างๆ ค้างไว้ไม่เกิดความหน่วงช้า และเรียกขึ้นมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ realme 9 Pro+ ยังมาพร้อมระบบระบายความร้อนแบบ Liquid Cooling System ช่วยลดอุณหภูมิได้ และทำให้สมาร์ทโฟนอยู่ในสถานะการใช้งานที่มีประสิทธิภาพสูง ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานพื้นฐาน หรือการเล่นเกมที่จะต้องใช้ความแรงในการประมวลผลลื่นไหล ไม่มีสะดุด

แบตเยอะแถมชาร์จไว

realme 9 Pro+ มาพร้อมกับแบตเตอรี่ ความจุ 4500mAh ใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน และในเวลาเร่งด่วน ก็รองรับการชาร์จไว 60W SuperDart Charge สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 – 100 เปอร์เซ็นได้ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง และสำหรับรุ่นเล็กอย่าง realme 9 Pro ก็ให้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่าที่ ความจุ 5,000nAh แต่รองรับการชาร์จเร็วที่ 33W เท่านั้น จึงใช้เวลาในการชาร์จนานกว่า แต่ก็ใช้งานได้ยาวนานขึ้นนั่นเอง

 

กล้องแฟล็กชิปในสมาร์ทโฟนระดับกลาง

กล้อง realme 9 Pro+

realme 9 Pro+ ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟน Mid-range รุ่นแรก ที่ใช้เซ็นเซอร์กล้องระดับโปรฯ อย่าง Sony IMX766 ขนาด 1/1.56 นิ้ว ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่และพิกเซลมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ จึงทำให้การถ่ายภาพมีประสิทธิภาพและความคมชัดที่ดีขึ้น ผสานการทำงานกับเทคโนโลยีกันสั่นคู่ OIS & EIS Dual Stabilization ช่วยลดความสั่นไหวให้กับภาพนิ่งรวมถึงภาพวิดีโอ เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกที่นำกล้องแฟล็กชิปมาไว้ในสมาร์ทโฟน Mid-range เลยทีเดียว

สเปคกล้องใน realme 9 Pro+

  • กล้องหลัก : ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 เซนเซอร์ Sony IMX766 มุมมองภาพ 84.4 องศา
  • เลนส์ Ultra-Wide : ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมมองกว้าง 119 องศา
  • เลนส์ Macro : ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 จับระยะวัตถุใกล้ 4 ซ.ม.
  • กล้องหลังรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดระดับ 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 มุมมอง 78 องศา
  • กล้องหน้ารองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดระดับ FullHD ที่ 30 เฟรมต่อวินาที

  • กล้องมุมกว้าง

ในส่วนของเลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ให้ภาพมุมกว้าง 119 องศา สามารถเก็บองค์ประกอบได้ครบถ้วน ความบิดเบี้ยวที่เกิดขึ้นน้อยมาก ถือว่าทำออกมาได้ในระดับที่ดี

  • โหมด Street

สำหรับใครที่ชอบความร่วมสมัย หรืออยากได้ภาพแนวสตรีทอาร์ต realme 9 Pro Series ก็มาพร้อมโหมดการถ่ายภาพแบบ Street ที่จะช่วยคุมโทนภาพถ่ายให้ออกมาสวยงามได้ตามแนวทางที่คุณต้องการ เพียงแค่กดชัตเตอร์ ทำให้ภาพถ่ายดูมีสไตล์ แตกต่างอย่างลงตัว

  • ภาพกลางคืน

ในส่วนของการถ่ายภาพกลางคืนก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดีมาก ด้วยการจับภาพวัตถุต่างๆ ที่มีความสว่างชัดเจนและลดนอยส์ได้ดีขึ้น อีกทั้งการถ่ายภาพดวงไฟท้ายรถที่เป็นเส้นๆ หรือเก็บรายละเอียดพื้นผิวของบุคคล อาคารสถานที่ก็ทำได้ดีแม้ไม่มีขาตั้งกล้อง

  • มาโคร

ด้วยเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ช่วยจับระยะวัตถุใกล้ 4 ซ.ม. ถ่ายภาพขยายแบบมาโครออกมาได้สวยงาม

  • Portrait

สำหรับการถ่ายภาพบุคคลใน realme 9 Pro+ ทำออกมาได้เกือบสมบูรณ์เหมือนกล้องมืออาชีพ ด้วยการตัดขอบตัวบุคคล และเบลอพื้นหลังได้เนียนอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ปรับใบหน้าให้สวยงาม เพิ่มโฟกัสให้บุคคลดูโดดเด่น

 

 

 

กล้อง realme 9 Pro+

สำหรับ realme 9 Pro แม้กล้องหลังจะไม่ได้ใช้เซนเซอร์ Sony IMX766 เหมือนตัวรุ่นพี่ แต่ก็มาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ ที่มีกล้องหลักความละเอียดสูง โดยเลนส์หลัก มีความละเอียด 64MP, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8MP และเลนส์ Macro ความละเอียด 2MP ถ่ายภาพได้อย่างคมชัดในทุกสภาพแสง

สเปคกล้องใน realme 9 Pro

  • กล้องหลัก : ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.79  มุมมองภาพ 79 องศา
  • เลนส์ Ultra-Wide : ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมมองกว้าง 119 องศา
  • เลนส์ Macro : ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 จับระยะวัตถุใกล้ 4 ซ.ม.
    กล้องหลังรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดระดับ 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.05 มุมมอง 79.3 องศา
    กล้องหน้ารองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดระดับ FullHD ที่ 30 เฟรมต่อวินาที

 

 

 

กล้องหน้าเซลฟี่

สำหรับกล้องหน้าของ realme 9 Pro Series ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ให้ภาพถ่ายเซลฟี่ที่มีความชัดเจน อีกทั้งยังมี AI อัจฉริยะช่วยปรับแต่งใบหน้าและผิวของคนในภาพให้ดูสวยงามขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และยังสามารถเลือกถ่ายภาพในโหมดพอร์ตเทรตแบบหน้าชัดหลังเบลอได้เหมือกล้องหลังอีกด้วย

 

 

ราคาวางจำหน่ายและโปรโมชั่น

realme 9 Pro Series มีมาด้วยกัน 2 สี ได้แก่ Sunrise Blue และ Arora Green เตรียมเป็นเจ้าของ realme 9 Pro Series พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ ตามรายละเอียดดังนี้

  • realme 9 Pro (6+128) วางจำหน่ายในราคา 8,999 บาท (จำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ realme Official Global Store บน Lazada เท่านั้น)

ราคารอบพิเศษ Early bird เฉพาะผู้ที่สั่งซื้อผ่านช่องทาง Lazada เท่านั้น เหลือเพียง 8,499 บาท ตั้งแต่วันที่ 3 – 5 มีนาคมนี้

  • realme 9 Pro (8+128) วางจำหน่ายในราคา 9,999 บาท

ราคารอบพิเศษ Early bird เฉพาะผู้ที่สั่งซื้อผ่านช่องทาง Lazada เท่านั้น เหลือเพียง 9,499 บาท ตั้งแต่วันที่ 3 -11 มีนาคมนี้

  • realme 9 Pro+ (8+256) วางจำหน่ายในราคา 12,999 บาท

ราคารอบพิเศษ Early bird เฉพาะผู้ที่สั่งซื้อผ่านช่องทาง JD Central เท่านั้น เหลือเพียง 12,499 บาท ตั้งแต่วันที่ 3 -11 มีนาคมนี้

พิเศษ! สำหรับผู้ที่สั่งจอง realme 9 Pro Series ที่ realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 - 11 มีนาคมนี้ จะได้รับของสมนาคุณ รวมทั้งสิ้นมูลค่ากว่า 6,000 บาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.เซ็ท  realmeow Special Gift  2.realme smart scale 3. ประกันหน้าจอแตกตลอด 1 ปี และ 4. ผ่อน 0% นาน 6 เดือน

สามารถดูรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fanpage : realmeTH

realme

ขอขอบคุณ : realme Thailand

ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ : realme 9 Pro & realme 9 Pro+
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : 

https://www.siamphone.com/spec/realme/9_pro.htm

https://www.siamphone.com/spec/realme/9_pro_plus.htm

อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข้อมูลมือถือ

รีวิวโดย: ปภัสสร อมรประสิทธิ์ ภาพโดย: สิรภพ ผิวทอง
วันที่ 1 มีนาคม 2565

VIEWS

แบ่งปันบทความ

สินค้าออนไลน์

ขึ้นด้านบน