OPPO Watch Free สมาร์ทวอทช์ราคาไม่แรง แต่มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ครบ จัดเต็มทั้งโหมดออกกำลังกายกว่า 100 โหมด และยังมีฟีเจอร์ติดตามสุขภาพให้แบบเต็มอิ่ม โดยเฉพาะโหมดติดตามการนอนหลับ OSleep ที่ให้รายละเอียดแบบเกินราคา นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักเบาสวมใส่ได้สบายเพียง 32.6 กรัม และมีหน้าจอ AMOLED ให้สีสันที่สดสวยงาม ที่สำคัญยังมีระบบ AI Outfit Watch Face ซึ่งเป็นระบบที่ปรับเปลี่ยนสีหน้าปัด เพื่อให้เข้ากับชุดที่ใส่ในแต่ละวัน

ฟังก์ชันการใช้งานด้านสุขภาพ
ด้านการใช้งานฟังก์ชันสุขภาพ ก็มีมาให้แบบเน้นๆ ทั้ง ติดตามการเต้นของหัวใจ, ติดตามการนอนหลับ, และวัดค่าออกซิเจนในเลือด SpO2 ถือว่าคุ้มมากๆ กับ OPPO Watch Free ที่มีราคาเบาๆ 2,999 บาทเท่านั้น

  • ติดตามการเต้นของหัวใจ : เรียกว่าเป็นฟังก์ชั่นพื้นฐานไปแล้วในสมาร์ทวอทช์ในปัจจุบัน ซึ่ง OPPO Watch Free จะมีให้เลือกติดตามทั้งแบบ เรียลไทม์ หรือปรับเวลาให้วัดทุกๆ 6 หรือ 2 นาที (สามารถตั้งค่าเองได้ในแอพฯ Hey Tap Health) และจะวัดเองเมื่อไหร่ก็ได้ผ่าน OPPO Watch Free ส่วนข้อมูลทั้งจะถูกซิงค์ไปยัง Hey Tap Health เช่นเคย

  • ติดตามการนอนหลับ OSleep : โหมดติดตามการนอนหลับ หรือ OSleep ถือว่าดีงาม เพราะมีการติดตามพฤติกรรมระหว่างการนอนถึง 4 อย่างคือ การหลับลึก, การหลับๆ ตื่นๆ, REM และการตื่น นอกจากนี้ยังมีการประเมินการหายใจระหว่างนอน วัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจน และพฤติกรรมการนอนกรน ทั้งหมดทำให้ผู้ใช้งานทราบถึงพฤติกรรมขณะนอนในแต่ละช่วงเวลา และรู้ว่าร่างกายกำลังมีปัญหาอย่างไรในเบื้องต้น

  • วัดค่า SpO2 : การวัดค่าออกซิเจนในเลือด หรือ SpO2 เป็นการวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด ถ้าหากมีความ % ที่น้อยก็เป็นการวินิจฉัยเบื้องต้นว่า ร่างกำลังผิดปกติ สามารถไปพบแพทย์ได้ทันที นอกจากนี้ วัดค่า SpO2 ยังสามารถปรับให้วัดแบบเรียลไทม์ ในขณะนอนได้ด้วย

รูปร่าง และดีไซน์
OPPO Watch Free เป็นสมาร์ทวอทช์ตัวเรือนสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด 46x29.7x10.6 มิลลิเมตร สายรัดข้อมือจะเป็นแบบซิลิโคน มีน้ำหนักรวมสายรัดข้อมือเพียง 32.6 กรัม  และมีให้เลือก 2 สีคือ Vanilla และ Black นอกจากนี้ OPPO Watch Free จะไม่มีปุ่มสั่งการด้านข้าง สามารถสั่งการใช้งานต่างๆ ด้วยการสัมผัส หรือปัดบนหน้าจอ ส่วนด้านหลังตัวเรือน เป็นแผงเซนเซอร์ใช้วัดค่าต่างๆ

 

การเชื่อมต่อครั้งแรก
วิธีการเริ่มใช้งานครั้งแรก จะต้องทำการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ที่เป็นระบบปฏิบัติการ Android 6.0 หรือ iOS 10.0 ขึ้นไป พร้อมดาวน์โหลดแอพฯ ที่ชื่อว่า Hey Tap Health หลังจากนั้นก็ทำการเพิ่มอุปกรณ์ ด้วยการกดเครื่องหมาย + ทางด้านบนขวา และเลือก OPPO Watch Free จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนที่ระบบแนะนำได้เลย โดยการเชื่อมต่อถือว่ามีความรวดเร็ว และเมื่อ 2 อุปกรณ์อยู่ใกล้กัน ทั้งคู่ก็จะจับคู่ให้กันแบบอัตโนมัติ หากมีการจับคู่มาแล้วในครั้งแรก ซึ่งระบบเชื่อมต่อไร้สายจาก Bluetooth 5.0 ถือว่ารวดเร็วทันใจทีเดียว

หน้าปัดนาฬิกา
ในส่วนหน้าปัดของ OPPO Watch Free จะเป็นรูปแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า พาแนล AMOLED กว้าง 1.64 นิ้ว ความละเอียด 456x280 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 326ppi และความกว้างของสี DCI-P3 ซึ่งการแสดงผลก็ทำได้ดี เห็นตัวหนังสือชัด และสีสันก็สวยงาม ทั้งนี้ระบบการใช้งานต่างๆ ของ OPPO Watch Free ยังรองรับภาษาไทย ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น

ปรับดีไซน์หน้าปัดให้เข้ากับชุด ด้วย AI Outfit Watch Face
ดีไซน์หน้าปัดนาฬิกา ก็มีให้เลือกแบบ Dynamic กว่า 40 แบบ ซึ่งก็มีให้เลือกทั้งแบบสวยงาม, ทันสมัย, คลาสสิก, หรือแม้แต่แสดงค่ากิจกรรมต่างๆ โดยการเปลี่ยนหน้าปัดสามารถทำได้โดย กดค้างที่หน้าจอ 2 วินาที แต่หากต้องการหน้าปัดรูปแบบต่างๆ เพิ่มเติม ก็ให้เข้าไปในแอพฯ Hey Tap Health เพิ่มเลือกหน้าปัดรูปแบบอื่นๆ ได้ทันที

 

แต่สิ่งที่น่าสนใจของ OPPO Watch Free จะอยู่ที่ระบบ AI Outfit Watch Face ซึ่งเป็นการถ่ายรูปเครื่องแต่งกายของผู้ใช้งาน จากนั้นระบบจะมีการจัดทำหน้าปัดที่มีโทนสี และทีมคล้ายๆ กับเครื่องแต่งกายที่ถ่ายไป ทำให้สวมใส่ OPPO Watch Free เข้ากับชุดในแต่ละวันไปอย่างสวยงาม ส่วนการเริ่มใช้งาน AI Outfit Watch Face ให้เข้าไปที่แอพฯ Hey Tap Health > จัดการ (เมนูด้านล่าง) > หน้าปัดนาฬิกาข้อมือ > AI Outfit

การสั่งการด้วยการปัด
ด้านตัวเรือนของ OPPO Watch Free ที่ไม่มีปุ่มควบคุมด้านข้าง ทำให้การสั่งการต่างๆ จะเป็นการปัดบนหน้าจอแสดงผล โดยแต่ละการปัดมีการสั่งการดังต่อไปนี้

  • ปัดลง = ไปที่ศูนย์ควบคุม
  • ปัดขึ้น = ดูการแจ้งเตือน
  • ปัดขวา = ไปที่เมนูแอพฯ
  • ปัดซ้าย = ไปศูนย์สุขภาพ
  • กดค้างที่หน้าจอหลัก 2 วินาที = เปลี่ยนดีไซน์หน้าปัด
  • ปัดไปทางขวา (เวลาไม่ได้อยู่ที่หน้าจอหลัก) = ย้อนกลับ
  • เอามือบังหน้าปัด = พักหน้าจอ

 

โหมดออกกำลังกาย
ถือว่าจัดเต็มทีเดียวกับโหมดการออกกำลังกายบน OPPO Watch Free ซึ่งมีให้เลือกใช้งานกว่า 100 แบบ และยังมีโหมดออกกำลังกายแบบอัตโนมัติอีก 4 โหมดเช่น การวิ่ง, การเดิม, เครื่องดึง, และเครื่องเดินวงรี ส่วนโหมดที่ได้ทดลองใช้งานคือโหมดการเดิน โดยภายในโหมดก็มีการบอก ระยะทาง, ระยะเวลา, การเผาผลาญ, การเต้นของหัวใจเฉลี่ย, จำนวนก้าว เป็นต้น ทั้งนี้ข้อมูลทั้งหมดยังถูกซิงค์ไปยังแอพฯ Hey Tap Health เพื่อเป็นการบันทึกข้อมูลในแต่ละวัน แต่ละครั้งอีกด้วย

 

กันน้ำมาตรฐาน 5ATM
ใช้ว่า OPPO Watch Free ที่มีราคา 2,999 บาท จะไม่สามารถออกกำลังกายทางน้ำได้ ซึ่ง OPPO Watch Free มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำ 5ATM ทำให้กันน้ำที่มีแรงดันได้ลึกถึง 50 เมตร แน่นอนว่าการว่ายน้ำ และใส่ OPPO Watch Free ไปด้วยทำได้สบายๆ แถมมีโหมดออกกำลังกายว่ายน้ำมาให้อีกด้วย

 

ฟังก์ชันอื่นๆ ที่น่าสนใจเมื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
ในตัว OPPO Watch Free เมื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน จะสามารถรับการแจ้งเตือนได้ และยังสามารถควบคุมการเล่นเพลงได้ทันที ทำให้ไม่พลาดการแจ้งเตือน และควบคุมเพลงได้ด้วยในระหว่างออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังมีโหมดค้นหาโทรศัพท์ และใช้ OPPO Watch Free เป็นปุ่มชัตเตอร์ถ่ายรูปก็ได้เช่นกัน

แบตเตอรี่
เรื่องของแบตเตอรี่ถือว่าอึดเอาเรื่อง จากที่ OPPO เคลมไว้สามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 14 วัน แต่เอาจริงๆ เราก็ต้องเปิดใช้งานโหมดโน่นโหมดนี้ หรือเปิดระบบการตรวจจับการเต้นของหัวใจตลอดเวลา ซึ่งเป็นการดูดแบตเตอรี่ไปพอสมควรตามการใช้งาน แต่ภาพรวมก็ถือว่าหากเปิดใช้งานแบบเต็มก็อยู่ได้เกือบ 1 อาทิตย์ ส่วนการชาร์จก็ไม่ธรรมดา มีความรวดเร็วพอสมควร และชาร์จเพียง 5 นาทีก็อยู่ใน 1 วันเต็มๆ (แบบใช้งานไม่หนัก)

สรุปราคา OPPO Watch Free
สมาร์ทวอทช์คุ้มเกินราคาแบบนี้ อย่าไปช้ารีบไปจัด OPPO Watch Free กันได้แล้วตอนนี้ โดยเจ้าตัวมีให้เลือกด้วยกัน 2 สีคือ สีดำ และ สีวานิลา พร้อมกับราคาเพียง 2,999 บาท พิเศษหากซื้อ OPPO Watch Free คู่กับ OPPO Reno7 Z 5G หรือ สมาร์ทโฟนที่ร่วมรายการ รับส่วนลดทันที 500 บาท

OPPO Watch Free จะวางจำหน่าย ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ตามช่องทางดังนี้

ตัวอย่างภาพจากกล้อง Sample & Photo

ข้อมูลสเปคSpecification

6.9 นิ้ว

จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล

50MP + 2MP (Depth)

กล้องหน้า 16MP

Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core

Android

Android 13

หน่วยความจำ

RAM 8 GB
ROM 256 GB

แบตเตอรี่

4,310 mAh
ชาร์จไว 33W

nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท

รุ่นใกล้เคียงRecommend

Samsung Galaxy Z Flip 3

  • หน้าจอ : 6.7 นิ้ว Dynamic AMOLED 2X , 1.9 นิ้ว Super AMOLED
  • ระบบปฏิบัติการ : One UI 3.5 based on Android 11
  • หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 888 Octa Core
  • กล้องหลัง : 12MP(Wide), 12MP(Ultrawide)
  • กล้องหน้า : 10MP
  • หน่วยความจำ : RAM 8 GB | ROM 128/256 GB
  • แบตเตอรี่ : 3,300 mAh

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รีวิวโดย: ปิตุภูมิ นันทวิทยา ภาพโดย: สิรภพ ผิวทอง
วันที่ 7 มีนาคม 2565

VIEWS

แบ่งปันบทความ

สินค้าออนไลน์