Redmi

รีวิวโทรศัพท์มือถือ Redmi Note 11 Pro - เรดหมี่

Redmi Note 11 Pro สมาร์ทโฟน 4G ถูกเปิดตัวเพื่อมาเป็นทางเลือกให้กับคนที่มองว่าเครือข่าย 5G ยังไม่จำเป็นเท่าไหร่ ซึ่งถือว่า Redmi Note 11 Pro เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยราคาที่ถูกกว่า Redmi Note 11 Pro 5G แต่มีสเปคทั้ง หน้าจอ AMOLED แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 67W กล้องถ่ายรูป ความละเอียดสูงสุด 108MP และรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกันอย่างกับแกะ โดยมีการเปลี่ยนแปลงตรงชิปเซ็ต ใช้เป็น MediaTek Helio G96 และรองรับเครือข่าย 4G เท่านั้น ส่วนราคาจะอยู่เพียง 8,690 บาท ถือว่าตัดไปเพียงสัญญาณ 5G แต่ได้สเปคมาระดับนี้มีคุ้มแน่นอน

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

Redmi Note 11 Pro มีดีไซน์ และขนาดตัวเครื่องเหมือนกับ Redmi Note 11 Pro 5G เหมือนเป๊ะๆ โดยมีดีไซน์ตัวเครื่องแบบขอบแบน ส่วนเหลี่ยมตามขอบก็ยังทำเป็นโค้งๆ ไม่เหลี่ยมจัด ทำให้จับใช้งานได้ถนัด โดยมีตัวเครื่องที่ 164.19x76.1x8.12 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 202 กรัม

หน้าจอแสดงผลพาแนล AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400x1080 พิกเซล) ช่วงสีกว้าง DCI-P3 ความหนาแน่นพิกเซล 395ppi ปรับความสว่างได้สูงสุด 1200nits และมีอัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz

เหนือหน้าจอแสดงผล ใช้ดีไซน์รอยแหว่งแบบจอเจาะรู ในนั้นมีกล้องหน้า ความละเอียด 16MP และขอบหน้าจอด้านบนเป็นลำโพงเสียงสำหรับการสนทนา

ล่างหน้าจอแสดงผล ไม่มีปุ่มการใช้งานใดๆ โดยปุ่มเป็นแบบซอฟแวร์ในหน้าจอแสดงผล

ข้างซ้ายตัวเครื่องไม่มีปุ่มใช้งานใดๆ

ข้างขวาตัวเครื่อง จะพบกับปุ่มใช้งานมาตรฐาน โดยปุ่มยาวเป็นปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง และปุ่มเล็กเป็นปุ่มเพาเวอร์ และยังเป็นที่สแกนลายนิ้วมือ

ส่วนบนตัวเครื่อง ทางซ้ายสุดเป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ถัดมาทางขวาเป็นลำโพงเสียง รูไมโครโฟน และเซนเซอร์ IR อินฟราเรต

ส่วนใต้ตัวเครื่อง ทางซ้ายสุดเป็นช่องใส่ซิมการ์ด ซึ่งการ์ดเป็นแบบ Hybrid รองรับ Nano SIM 2 ช่อง หรือเปลี่ยน 1 ช่องเป็น MicroSD Card ได้สูงสุด 1TB ถัดมาตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C และรูไมโครโฟน ส่วนขวาสุดเป็นลำโพงเสียงอีกตัว

พลิกมาที่ฝาหลังตัวเครื่อง กล้องหลังทั้ง 3 เลนส์จะอยู่ที่มุมบนซ้าย โดยอยู่บนโมดูลแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า และเลนส์หลักจะอยู่บนโมดูลที่สูงขึ้นมาอีกชั้น สำหรับกล้องหลังประกอบไปด้วย เลนส์หลัก ความละเอียด 108MP, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8MP และเลนส์ Macro ความละเอียด 2MP

ทั้งนี้ดีไซน์ฝาหลังของ Redmi Note 11 Pro ที่ได้มาจะเป็นสีดำ ซึ่งมีผิวแบบด้านแอบสะท้อนแสงเล็กน้อย เพราะมีการใช้วัสดุกระจกเสริมความแข็งแกร่ง และมุมล้างซ้ายจะเขียนกำกับว่า Redmi

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเครื่อง Redmi Note 11 Pro
  • อะแดปเตอร์จ่ายไฟ 67W
  • สาย USB Type-C To Type-A
  • เคสซิลิโคน
  • เข็มนำถาดซิมออก
  • คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคของ Redmi Note 11 Pro

  • ขนาดตัวเครื่อง : 164.19x76.1x8.12 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 202 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล : AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400x1080 พิกเซล) ช่วงสีกว้าง DCI-P3 ความหนาแน่นพิกเซล 395ppi ปรับความสว่างได้สูงสุด 1200nits และมีอัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz
  • ชิปเซ็ต : MediaTek Helio G96 ความเร็ว 2.05GHz
  • RAM : 6 / 8GB LPDDR4X
  • ROM : 64 / 128GB แบบ UFS 2.2 เพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 1TB
  • ระบบปฏิบัติการ : MIUI 13 บนพื้นฐาน Android 11
  • กล้องหลัง 3 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช
    - เลนส์หลัก เซนเซอร์ขนาด 1/1.52 นิ้ว ความละเอียด 108MP รูรับแสง f/1.9
    - เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8MP มุมกว้าง 118 องศา รูรับแสง f/2.2
    - เลนส์ Macro ความละเอียด 2MP รูรับแสง f/2.4
  • กล้องหน้า ความละเอียด 16MP รูรับแสง f/2.4
  • เครือข่าย : 4G/3G/2G สนับสนุน Nano SIM 2 ช่อง
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 2.4/5GHz, Bluetooth 5.1, NFC, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต USB Type-C
  • ระบุตำแหน่ง : GPS: L1 | GLONASS: G1 | เข็มทิศ: B1I
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่ Stereo
  • ระบบความปลอดภัยไบโอเมตริก : สแกนใบหน้า, สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง
  • แบตเตอรี่ : 5,000mAh สนับสนุนชาร์จเร็วผ่านสาย 67W

RAM และที่เก็บข้อมูลภายใน
ตัวเลือก RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลภายในของ Redmi Note 11 Pro จะให้เลือกเหมือนกับ Redmi Note 11 Pro 5G คือ 6GB+64GB / 6GB+128GB / 8GB+128GB โดยเครื่องที่ได้มารีวิวเป็นรุ่น 8GB+128GB ซึ่ง Redmi Note 11 Pro มีระบบส่วนขยายหน่วยความจำ ทำให้เพิ่มได้อีก 3GB รวมๆ แล้วจะมี RAM ทั้งหมด 11GB นอกจากนี้เมื่อเปิดเครื่องมาครั้งแรก ระบบจะมีการกินพื้นที่เก็บข้อมูลภายในไปกว่า 23.0GB ทำให้เลือกพื้นที่ใช้งานจริงๆ ประมาณ 105GB หากยังไม่พอใช้งานก็สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้อีกสูงสุด 1TB

ระบบปฏิบัติการ
Redmi Note 11 Pro รันบนระบบปฏิบัติการ MIUI 13 บนพื้นฐาน Android 11 ซึ่ง MIUI 13 จะเน้นเพิ่มความรวดเร็วในการใช้งาน และใช้งานแอพฯ ที่ดาวน์โหลดมาใช้งานได้รวดเร็วขึ้น ส่วนฟังก์ชั่นการใช้งานก็ยังเน้นให้ผู้ใช้งาน สามารถปรับแต่ง และมีความสะดวกมากขึ้น เหมือนกับ Redmi Note 11 Pro 5G

หน้าจอหลัก
หน้าจอหลักเริ่มแรกจะเป็นแบบคลาสสิก ซึ่งมีการรวมแอพฯ ทั้งหมดไว้ที่หน้าจอหลัก และมีไอคอนแอพฯ แบบสี่เหลี่ยมขอบมน แต่ทั้งหมดก็สามารถปรับแต่งได้เอง ไม่ว่าจะเป็นขยายไอคอน หรือปรับให้เป็นแบบลิ้นชัก โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > หน้าจอหลัก ทั้งนี้หน้าจอหลักยังสามารถเปิดดูการแจ้งเตือน ด้วยการปัดหน้าจอมุมบนซ้ายลง และดูแผงควบคุมด้วยการปัดหน้าจอมุมบนขวาลง

ธีม และ Wallpaper
การเปลี่ยนธีม และ Wallpaper จะมีให้เลือกมากมาก โดย MIUI 13 จะมีสโตร์ดาวน์โหลดของพวกเขาเอง และได้ถูกเพิ่มรูปแบบใหม่ๆ เข้ามามากมาย ทั้งภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว Live

ปุ่มการนำทาง
การตั้งค่าเริ่มต้น ปุ่มนำทางจะเป็นรูปแบบ ปุ่มนำทาง 3 ปุ่มคือ ปุ่มแอพฯ ก่อนหน้า, ปุ่มโฮม, ปุ่มย้อนกลับ แต่หากผู้ใช้มองว่าปุ่มนำทางแบบนี้บังหน้าจอ ก็สามารถเปลี่ยนเป็นท่าทางสัมผัสได้ โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > หน้าจอหลัก > การนำทางของระบบ

แถบด้านข้าง
แถบด้านข้างจะอยู่ที่ขอบหน้าจอทางซ้าย หรือขวา (ตามการตั้งค่า) ซึ่งภายในแถบจะมีแอพฯ ไว้สำหรับเปิดใช้งาน เมื่อเปิดใช้งานจะมาในรูปแบบหน้าต่างๆ Pop-Up สามารถไปตั้งค่าได้ที่ การตั้งค่า > คุณลักษณะพิเศษ > แถบด้านข้าง

การแบ่งหน้าจอ
วิธีแบ่งหน้าจอ ให้เข้าไปที่แอพฯ ก่อนหน้า จากนั้นกดค้างที่แอพฯ และเลือกเมนูแบ่งหน้าจอ

โหมดมืด
โหมดมืดจะเป็นการปรับเปลี่ยนธีมเป็นสีดำ และใช้ตัวหนังสือสีขาว ช่วยให้ใช้งานได้สบายตามากขึ้นเวลาอยู่ในที่แสงน้อย นอกจากนี้ Redmi Note 11 Pro ยังมีหน้าจอพาแนล AMOLED หากใช้งานในโหมดมืด จะเป็นการประหยัดพลังงานได้อีกทาง โดยการเปิดใช้งานโหมดมืดให้เข้าไปที่ การตั้งค่า > การแสดงผล > โหมดมืด

Always On Display
Redmi Note 11 Pro จะรองรับโหมด Always On Display ซึ่งจะช่วยบอกข้อมูลเมื่อพักหน้าจอเช่น วัน เวลา การแจ้งเตือน และเปอร์เซนต์แบตเตอรี่เป็นต้น แต่โหมด Always On Display จะไม่ได้แสดงตลอดเวลา ต้องแตะหน้าจอเพื่อปลุกเพื่อดูข้อมูล ทั้งนี้สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ ทั้งดีไซน์ และสีของตัวหนังสือ โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > จอแสดงผลแบบเปิดตลอดและหน้าจอล็อก > จอแสดงผลแบบเปิดตลอด

เอฟเฟคแสงการแจ้งเตือน
ลูกเล่นการแจ้งเตือนไม่ได้มีแค่หน้าต่างลงมาเท่านั้น ยังมีแสงไฟเอฟเฟคที่ขอบหน้าจอ ช่วยให้ดูสวยงามมากขึ้น โดยเข้าไปเปิดใช้งาน และเลือกรูปแบบเอฟเฟคได้ที่ การตั้งค่า > จอแสดงผลแบบเปิดตลอดและหน้าจอล็อก > เอฟเฟคแสงการแจ้งเตือน

การปรับอัตรา Refresh Rate
Redmi Note 11 Pro มีหน้าจออัตรา Refresh Rate สูงสุดที่ 120Hz ซึ่งเป็นอีกฟีเจอร์ที่เหมือนกับ Redmi Note 11 Pro 5G โดยเข้าไปปรับเพิ่ม หรือลดได้ที่ การตั้งค่า > การแสดงผล > อัตราการรีเฟรช อย่างไรก็ตามยังมีข้อเสียอยู่ 1 อย่างคือ ไม่มีระบบปรับอัตรา Refresh Rate แบบอัตโนมัติ ซึ่งหากเปิดใช้งาน 120Hz ตลอดเวลาก็จะเป็นการสิ้นเปลืองแบตเตอรี่ ถ้าหากแบตเตอรี่เหลือน้อยก็แนะนำให้เข้าไปปรับเป็น 60Hz จะประหยัดแบตเตอรี่ได้ดี

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark v9.3.3 ได้ 315,255 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 5 ได้คะแนน Single-Core ที่ 482 และคะแนน Multi-Core ที่ 870 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย 3DMark Wild Life ได้คะแนน 972 คะแนน
  • ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

  • Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
  • Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
  • Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
  • Gyroscope Sensor ตรวจวัดการทรงตัว
  • Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
  • Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ตัวเครื่องดีไซน์ขอบแบน ฝาหลังกระจก ดูสวยได้ในราคาคุ้มๆ
ทั้งดีไซน์ และขนาดตัวเครื่องของ Redmi Note 11 Pro ยังเป็นแบบขอบแบน และใช้วัสดุกระจกเสริมความแข็งแกร่งให้ฝาหลัง ซึ่งเหมือนกับ Redmi Note 11 Pro 5G ทุกกระเบียดนิ้ว เรียกว่าสวยโดดเด่นแบบคุ้มๆ กันไปเลย

หน้าจอ AMOLED อัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz
Redmi Note 11 Pro มาพร้อมหน้าจอแสดงผล พาแนล AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ช่วงสีแบบ DCI-P3 เรียกว่าเป็นอีกหน้าจอคุ้มๆ ที่ได้ทั้งสีที่สดสวยงาม แถมยังมีความกว้าง และความละเอียดที่สูง ช่วยให้ใช้งานดูหนังดูซีรี่ย์ได้อย่างสบายๆ ส่วนรอยแหว่งก็ไม่บังมากนักเพราะเป็นแบบ DotDisplay หรือจอเจาะรู

นอกจากนี้การแสดงผลก็ยังลื่นตา ด้วยอัตรา Refresh Rate สูงสุดถึง 120Hz แต่เสียดายที่ไม่มีระบบไดนามิก ปรับอัตรา Refresh Rate ให้แบบอัตโนมัติ ใครที่อยากได้หน้าจอลื่นตลอดเวลา แต่กินแบตเตอรี่มากขึ้นก็ให้ปรับเป็น 120Hz และใครที่ต้องการประหยัดแบตเตอรี่ ไม่เน้นใความลื่นนัก ก็เข้าไปปรับเป็น 60Hz กันได้

อีก 1 ความคุ้ม ด้วยลำโพงคู่ Stereo และมีช่องเสียบหูฟัง 3.5mm
คุณภาพด้านเสียงจะมีการติดตั้งลำโพงคู่ Stereo มาให้ ทำให้เสียงออกมามีมิติแบ่งข้างซ้ายขวาได้ชัดเจน ถือว่าเป็นความคุ้มกับสมาร์ทโฟนราคาไม้เกิน 10,000 บาท  ทั้งนี้ยังมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ช่วยให้หาหูฟังมาใช้งานได้ง่าย หรือจะต่อหูฟังไร้สายก็ทำได้ดีเช่นกัน เพราะรองรับระบบ Bluetooth 5.1

ชิปเซ็ต MediaTek Helio G96 รองรับเครือข่าย 4G เท่านั้น
ตรงชิปเซ็ตเป็นจุดแตกต่างระหว่าง Redmi Note 11 Pro และ Redmi Note 11 Pro 5G โดย Redmi Note 11 Pro ได้เปลี่ยนมาใช้ MediaTek Helio G96 ทำให้รองรับสัญญาณเพียง 4G เท่านั้น แต่เรื่องของกระสิทธิภาพจากที่ลองใช้ก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก ยังให้ความลื่น และความรวดเร็วในการใช้งานแบบพื้นฐาน แม้ว่าผลคะแนนทดสอบต่างๆ จะน้อยกว่า นอกจากนี้อาจจะกินแบตเตอรี่กว่าเล็กน้อย เพราะเป็นสถาปัตยกรรมขนาด 12 นาโนเมตร

ทดสอบการเล่นเกม
Redmi Note 11 Pro ที่ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G96 ก็สามารถใช้เล่นเกมได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถกราฟฟิกระดับสูงได้ ซึ่งประสิทธิภาพก็ไม่ได้แตกต่างจาก Redmi Note 11 Pro 5G เล่นเกม PUBG Mobile และ ROV ได้พอๆ กัน ทั้งนี้ยังมีระบบ Game Turbo เป็นเครื่องมือช่วยระหว่างเล่นเกม เช่น ปิดการแต้งเตือน, แคปหน้าจอ, บันทึกหน้าจอแบบวิดีโอ และเพิ่มประสิทธิภาพ (ช่วยให้เฟรมเรตนิ่งขึ้น แต่กินเครื่องจะร้อน และกินแบตเตอรี่มากขึ้น)

  • PUBG Mobile : ในเกม PUBG Mobile สามารถปรับความละเอียดได้สูงสุดที่ HD แต่แนะนำให้ปรับเป็นสมดุล และเฟรมเรต Ultra ก็สามารถเล่นได้แบบลื่นๆ

  • ROV : ก็ยังสามารถเล่นในความละเอียดที่สูงได้ พร้อมกับดันเฟรมเรตไปที่สูงสุดได้เช่นกัน ซึ่งการเล่นจริงก็ถือว่ามีความลื่น และเลี้ยงเฟรมเรตได้ระดับ 56-60 ตลอดเวลา 

ระบบระบายความร้อน LiquidCool
แม้ว่าจะเป็นรุ่นเล็กกว่า ราคาถูกกว่า แต่ Redmi Note 11 Pro ก็ยังมาพร้อมระบบระบายความร้อนอย่าง LiquidCool ซึ่งประกอบไปด้วย ท่อฮีทไปค์รูปวงแหวน และแผ่นแกรไฟต์หลายเลเยอร์ ซึ่งจากที่ทำสอบเล่นเกมแบบปรับประสิทธิภาพให้สูงขึ้น เครื่องก็ยังมีอุ่นๆ อยู่บ้าง แต่ก็เป็นเรื่องปกติของการใช้เล่นเกมนานๆ

ระบบความปลอดภัยไบโอเมตริก
Redmi Note 11 Pro มาพร้อมระบบไบโอเมตริก 2 แบบคือ สแกนใบหน้า และสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มเพาเวอร์ โดยการสแกนใบหน้าก็ถือว่าใช้งานได้ดี จดจำใบหน้าได้ 2 แบบ และสแกนในที่แสงน้อยได้ด้วย ส่วนการสแกนลายนิ้วมือจะอยู่ที่ปุ่มเพาเวอร์ ก็ใช้งานได้แบบไม่มีปัญหา สแกนได้อย่างรวดเร็ว และจดจำลายนิ้วมือได้ถึง 5 ลายนิ้วมือ

แบตเตอรี่
Redmi Note 11 Pro ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh ซึ่งจากการทดสอบเล่นเกม ROV ปรับกราฟฟิกสูง และดันเฟรมเรตระดับสูงสุด จากแบตเตอรี่ 71% ลดลงมาเหลือ 55% ในระยะเวลาการเล่น ก็ถือว่ายังอึดใช้ได้ เพราะเล่นไปประมาณ 3 แมตช์ได้ ส่วนการชาร์จก็ยังรองรับการชาร์จเร็วผ่านสาย 67W โดยได้ทดสอบจากแบตเตอรี่ 3% ใช้เวลา 1 ชั่วโมงก็กลับมาเต็ม 100% แล้ว (ในระหว่างชาร์จระบบมีการอัปเดตระบบปฏิบัติการแบบอัตโนมัติ ซึ่งอาจจะมีการกินแบตเตอรี่ไปส่วนหนึ่ง)

ทดสอบการใช้งานกล้องถ่ายรูป
กล้องถ่ายรูปของ Redmi Note 11 Pro จะเหมือนกับ Redmi Note 11 Pro 5G ทั้งหมด โดยได้กล้องหลัง 3 ตัว ประกอบไปด้วยเลนส์หลัก เซนเซอร์ Sony IMX766 ขนาด 1/1.52 นิ้ว ความละเอียดสูงถึง 108MP ซึ่งเป็นเซนเซอร์ระดับเรือธงเลยทีเดียว ต่อมาเป็น Ultra-Wide ความละเอียด 8MP เปิดมุมกว้างได้สูงถึง 118 องศา ส่วนอีกเลนส์เป็น Macro ความละเอียด 2MP สำหรับการถ่ายภาพระยะใกล้ๆ สำหรับเทคโนโลยีกล้องถ่ายรูปมาพร้อม Dual Native ISO, การรวมพิกเซลแบบ 9 in 1 และทำงานร่วมกับ AI การปรับแต่งภาพให้สวยงาม ทั้งโหมดกลางคืน, Portrait และการปรับแต่งหน้าสวย ส่วนการบันทึกวิดีโอทำความละเอียดสูงสุด 1080p ที่ 30fps

 

ต่อมาเป็นกล้องหน้าจะมี 1 ตัว ความละเอียด 16MP ซึ่งยังถ่ายเซลฟี่ได้ดีระดับหนึ่ง พร้อมโหมดการใช้งานเช่น Portrait ซึ่งยังมีการเบลอพื้นหลังที่เนียนใช้ได้ ทั้งนี้การปรับแต่งหน้าสวยยังมีการปรับแต่งเพิ่มเติม โดยไม่ได้ปรับแต่ความเนียนเท่านั้น ยังมีโหมดปรับแต่งใบหน้าแยกเป็นส่วนเช่น ความเนียน, หน้าเรียว, ตาโต เป็นต้น ส่วนการบันทึกวิดีโอทำได้สูงสุดที่ 1080p ที่ 30fps เช่นกัน

 

 

Redmi

ขอขอบคุณ : Xiaomi Thailand

ข้อมูลผู้ใช้ ร่วมแสดงความเห็นกับ : Redmi Note 11 Pro
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=465784

แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/spec/redmi/note_11_pro.htm

อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข้อมูลมือถือ

รีวิวโดย: ปิตุภูมิ นันทวิทยา ภาพโดย: สิรภพ ผิวทอง
วันที่ 7 เมษายน 2565

VIEWS

แบ่งปันบทความ

สินค้าออนไลน์