ในงาน Apple Event เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา ทาง Apple ได้ประเดิมเปิดตัว iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max สีใหม่ ซึ่งเป็นสีเขียวอัลไพน์ (Alpine Green) ทำให้รวมๆ แล้วจะมีตัวเลือกสีให้เลือกทั้งหมด 5 สีด้วยกัน อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะสีใหม่เข้ามา แต่ขนาดตัวเครื่อง กับสเปคทั้งหมด ยังคงเหมือนเดิมทั้งหมด ส่วนรุ่นที่ได้พรีวิวจะเป็น iPhone 13 Pro สีเขียวอัลไพน์

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

iPhone 13 Pro สีเขียวอัลไพน์ ยังมีการออกแบบตัวเครื่องเหมือนสีอื่นๆ โดยใช้ดีไซน์แบบสี่เหลี่ยมขอบเรียบ พร้อมกับขนาดตัวเครื่อง 146.7x71.5x7.65 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 203 กรัม

หน้าจอแสดงผล Super Retina XDR พาแนล OLED กว้าง 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2532x1170 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 460ppi สนับสนุนเทคโนโลยี ProMotion สูงสุด 120Hz (Refresh Rate สูงสุด 120Hz)

เหนือหน้าจอแสดงผล ในรอยแหว่ง Notch มีกล้อง TrueDepth ความละเอียด 12MP พร้อมเซนเซอร์เพื่อการใช้งาน FaceID และบริเวณขอบหน้าจอด้านบนเป็นช่องลำโพงเสียง พร้อมกับไมโครโฟน

ล่างหน้าจอแสดงผล ไม่มีปุ่มการใช้งานใดๆ โดยการสั่งการจะเป็นแบบท่าทาง หรือ Gesture ซึ่งใช้งานด้านการออกท่าทางการปัดในหน้าจอแสดงผล

ข้างซ้ายตัวเครื่อง บนสุดเป็นปุ่ม Toggle สำหรับปรับโหมดเสียง (ปรับเปลี่ยนได้ในการตั้งค่า) ถัดลงมาเป็นปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง และล่างสุดเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ด โดยรองรับ Nano SIM 1 ช่อง

ข้างขวาตัวเครื่อง มีเพียงปุ่มเพาเวอร์เพียงปุ่มเดียว

ส่วนบนตัวเครื่อง ไม่มีพอร์ต หรือปุ่มการใช้งานใดๆ

ส่วนใต้ตัวเครื่อง ตรงกลางเป็นพอร์ต USB Lightning ขนาบข้างด้วยลำโพงเสียง และรูไมโครโฟน

ฝาหลังมุมบนซ้ายจะเป็นโมดูลกล่องทรงสี่เหลี่ยม บนนั้นมีกล้องหลังอยู่ 3 เลนส์ ประกอบไปด้วย เลนส์ Wide, เลนส์ Telephoto, เลนส์ Ultra-Wide ทั้งหมดมีความละเอียด 12MP นอกจากนี้ยังมีไฟแฟลชแบบ True Tone และเซนเซอร์ LiDAR ถัดลงมาตรงกลางฝาหลัง เป็นโลโก้ Apple

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเครื่อง iPhone 13 Pro
  • สาย USB Lightning To USB Type-C
  • ที่นำถาดซิมออก
  • สติ๊กเกอร์ Apple
  • คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน

สเปคของ iPhone 13 Pro

  • ขนาดตัวเครื่อง : 146.7x71.5x7.65 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 203 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล : Super Retina XDR พาแนล OLED กว้าง 6.1 ความละเอียด 2532x1170 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 460ppi ความสว่างสูงสุด 1,200nits เทคโนโลยี ProMotion 120Hz และรอยแหว่ง Notch Design
  • ชิปเซ็ต : A15 Bionic
  • พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 128, 256, 512GB, 1TB
  • ระบบปฏิบัติการ : iOS 15
  • กล้องหลัง 3 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช
    - เลนส์ Wide ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/1.6 ชุดเลนส์ 7 ชิ้น
    - เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.4 มุมกว้าง 120 องศา ชุดเลนส์ 5 ชิ้น
    - เลนส์ Telephoto ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.8
    - เซนเซอร์ LiDAR
    - ซูมแบบ Optical ได้สูงสุด 6 เท่า
  • กล้องหน้า ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.2
  • เครือข่าย : 5G สนับสนุน eSIM และ Nano SIM 1 ช่อง
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 6 (2.4/5GHz), Bluetooth 5.0, NFC, GPS, พอร์ต USB Lightning
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น : IP68
  • ระบบความปลอดภัย : FaceID
  • แบตเตอรี่ : ใช้ได้นานขึ้น 1.5 ชั่วโมง (เทียบกับ iPhone 13 Pro ) สนับสนุนชาร์จเร็วผ่านสาย 20W, ไร้สาย Qi 7.5W และ MagSafe 15W

ว่ากันด้วยเรื่องสีเขียวอัลไพน์
iPhone 13 Pro สีเขียวอัลไพน์ (Alpine Green) ไม่ได้มีเฉดสีเขียว (Midnight Green) เหมือนกับ iPhone 11 Pro โดยสีเขียว (Midnight Green) จะมีเป็นสีเขียวที่มีโทนออกเป็นสีเทาๆ หน่อยๆ แต่สำหรับสีเขียวอัลไพน์ของ iPhone 13 Pro จะดูเป็นสีเขียวที่สดเข้มกว่า แต่ยังเป็นแบบผิวแบบด้านเหมือนเดิม ส่วนขอบตัวเครื่องทั้ง 4 ด้าน จะเป็นโทนสีเขียวแบบสะท้อนเงา รวมไปถึงโมดูลกล้องหลัง ก็ยังใช้สีเขียวเหมือนกับตัวเครื่อง

 

 

ราคา และการวางจำหน่าย
สำหรับสีเขียวอัลไพน์ ตอนนี้ก็เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าผ่านทาง Apple Store ประเทศไทย โดยมีให้เลือกทั้ง iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2565 ซึ่งเรื่องของราคาจะเหมือนเดิมทั้งหมด สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิ้งค์ตรงนี้เลย https://apple.co/3CSoseI

Samsung

ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ : iPhone 13 Pro
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=465373

แคตตาล็อกตัวเครื่อง iPhone 13 Pro
https://www.siamphone.com/spec/apple/iphone_13_pro.htm

อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข้อมูลมือถือ

รีวิวโดย: ปิตุภูมิ นันทวิทยา ภาพโดย: สิรภพ ผิวทอง
วันที่ 23 มีนาคม 2565

VIEWS

แบ่งปันบทความ

สินค้าออนไลน์

ขึ้นด้านบน