พรีวิว iPhone 13 สีใหม่! น้องเขียวสาหร่ายวากาเมะ รอให้สัมผัสแล้ววันนี้

นอกจาก iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max จะมีสีใหม่อย่างสีเขียวอัลไพน์ ทั้ง 2 รุ่นเล็กก็ไม่ขอน้อยหน้า มาพร้อมสีเขียวใหม่ด้วยเช่นกัน ตามปกติ iPhone 13 และ iPhone 13 Mini จะเน้นสีสันสวยงาม โดยมีตัวเลือกสีให้เลือกถึง 5 สี และตอนนี้ถูกเพิ่มสีเขียวเข้ามาอีก 1 สี ทำให้มีตัวเลือกทั้งหมด 6 สีด้วย ส่วนสเปคต่างๆ ขนาดตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล ของสีเขียวใหม่ ยังคงเหมืนกับสีอื่นๆ ทั้งหมด โดยรุ่นที่ได้มาพรีวิวจะเป็น iPhone 13

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

iPhone 13 สีเขียวใหม่ ยังมีดีไซน์ตามแบบฉบับ iPhone 13 สีอื่นๆ คือ เป็นดีไซน์สี่เหลี่ยมขอบเรียบ โดยมีขนาดรอบตัวเครื่องอยู่ที่ 146.7x71.5x7.65 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 173 กรัม

หน้าจอแสดงผลก็เหมือนเดิม เป็นแบบ Super Retina XDR พาแนล OLED กว้าง 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2532x1170 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 460ppi

เหนือหน้าจอแสดงผล มีรอยแหว่งตามฉบับ iPhone ในนั้นมีกล้องหน้า ความละเอียด 12MP และเซนเซอร์ TrueDepth เพื่อการใช้งาน FaceID ทั้งนี้ตรงขอบหน้าจอด้านบนยังมีลำโพง Stereo และไมโครโฟน

ล่างหน้าจอแสดงผลไม่มีปุ่ม Home แบบฮาร์ดแวร์ โดยการสั่งการเป็นแบบ Gesture ในหน้าจอแสดงผล

ข้างซ้ายตัวเครื่อง iPhone 13 บนสุดเป็นปุ่ม Toggle เพื่อสลับโหมดเสียง (ปรับเปลี่ยนได้ภายหลัง) ถัดลงมาเป็นปุ่มเพิ่มเสียง และลดเสียง ล่างสุดคือช่องใส่ถาดซิมการ์ด โดยถาดเป็นแบบ Nano SIM 1 ช่อง ส่วนอีกซิมเป็นรูปแบบ eSIM

ข้างขวาตัวเครื่องเป็นปุ่มพักหน้าจอแสดงผล หรือเรียกใช้งาน Siri ด้วยการกดค้าง

ส่วนบนตัวเครื่อง ไม่มีพอร์ต หรือปุ่มการใช้งานใดๆ

ส่วนล่างตัวเครื่อง ตรงกลางเป็นพอร์ต USB Lightning พร้อมกับไมโครโฟนในตัว และลำโพงเสียง Stereo อีก 1 ตัว

ฝาหลังตัวเครื่อง iPhone 13 สีเขียว มุมบนซ้ายเป็นโมดูลกล้องหลังแบบสี่เหลี่ยม ในนั้นมีกล้องหลัง 2 ตัว คือเลนส์ Wide ความละเอียด 12MP และเลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 12MP ถูกจัดวางเป็นแนวทแยง นอกจากนี้ยังมีไฟแฟลช และไมโครโฟนอยู่บนโมดูล ส่วนตรงกลางฝาหลังเป็นโลโก้ Apple

อุปกรณ์ภายในกล่อง

ตัวเครื่อง iPhone 13 สีเขียว
สาย USB Type-C To Lightning
เข็มนำถาดซิมออก
สติ๊กเกอร์ Apple
คู่มือการใช้งาน

สเปคของ iPhone 13

ขนาดตัวเครื่อง : 146.7x71.5x7.65 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 173 กรัม
หน้าจอแสดงผล : Super Retina XDR พาแนล OLED กว้าง 6.1 ความละเอียด 2532x1170 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 460ppi ความสว่างสูงสุด 1,200nits และรอยแหว่ง Notch Design
ชิปเซ็ต : A15 Bionic
พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 128, 256, 512GB
ระบบปฏิบัติการ : iOS 15
กล้องหลัง 2 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช
- เลนส์ Wide ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/1.6 ชุดเลนส์ 7 ชิ้น
- เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.4 มุมกว้าง 120 องศา ชุดเลนส์ 5 ชิ้น
- ซูมแบบ Optical ได้ 2 เท่า
กล้องหน้า ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.2
เครือข่าย : 5G สนับสนุน eSIM และ Nano SIM 1 ช่อง
การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 6 (2.4/5GHz), Bluetooth 5.0, NFC, GPS, พอร์ต USB Lightning
มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น : IP68
ระบบความปลอดภัย : FaceID
แบตเตอรี่ : ใช้ได้นานขึ้น 2.5 ชั่วโมง (เทียบกับ iPhone 12) สนับสนุนชาร์จเร็วผ่านสาย 20W, ไร้สาย Qi 7.5W และ MagSafe 15W

สีเขียวใหม่เป็นอย่างไร ?
iPhone 13 สีเขียวใหม่ ฝาหลังยังเป็นแบบอะลูมิเนียม และกระจก โดยมีความเงาสะท้อนเหมือนกับสีอื่นๆ ไม่ได้เป็นแบบสีด้านเหมือน 2 รุ่นพี่ ส่วนขอบเรียบด้านข้างทั้ง 4 ด้านจะเป็นแบบสีเขียวด้าน ตัดกับฝาหลังได้สวยงาม ส่วนสีเขียวที่นำมาใช้ เอาตามตรงจากการมองฝาหลังครั้งแรก แอบคล้ายๆ สีเขียวสาหร่ายวากาเมะ โดยเขียวเป็นแบบสีเขียวเข้มๆ

ราคา และการจัดจำหน่าย
สีเขียวใหม่จะมีให้เลือกทั้ง iPhone 13 และ iPhone 13 Mini ซึ่งตอนนี้ทาง Apple Store ประเทศไทย ก็เปิดให้สั่งจองแล้วผ่านทาง Apple Store Online และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2565 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิ้งค์ตรงนี้เลย https://www.apple.com/th/iphone-13/