พรีวิว vivo X80 Series 5G เรือธงรุ่นใหม่ ชิปเซ็ตคู่ทรงพลัง กับกล้อง ZEISS บนโมดูลใหม่ คุณภาพระดับมืออาชีพ

โดย ปภัสสร อมรประสิทธิ์ โดย สิรภพ ผิวทอง

ปรับขนาดตัวอักษร - ก +ก

vivo เปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธงแห่งปีอย่าง X Series มาพร้อมกันถึง 2 รุ่น ได้แก่ vivo X80 Pro 5G และ vivo X80 5G ที่โดดเด่นด้วยสเปคที่จัดเต็ม รุ่นโปรมาพร้อมจอ E5 AMOLED ความละเอียด WQHD+ อัตรารีเฟรชเรตสูงสุด 120Hz มีเทคโนโลยี LTPO 2.0 ช่วยในการปรับอัตรา Refresh Rate ตามความเหมาะสมในการใช้งาน รองรับการสแกนนิ้วมือใต้หน้าจอด้วยเทคโนโลยี Ultrasonic ชิปเซ็ตคู่ Snapdragon 8 Gen 1 และ vivo V1+ และพลังกล้อง ZEISS ความคมชัด 50MP บนโมดูลดีไซน์ใหม่ ตอบโจทย์การถ่ายภาพระดับโปรซึ่งนับเป็นไฮไลต์เด่นใน vivo X80 Series ก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังมีสเปกระดับไฮเอนด์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่น่าสนใจมาให้อีกเพียบ

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ดีไซน์ การจัดวางตำแหน่งปุ่ม และพอร์ตต่างๆ ของ vivo X80 Pro 5G และ vivo X80 5G เรียกได้ว่าเหมือนกันเลย แตกต่างกันที่โมดูลกล้องด้านหลังเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

vivo X80 Series 5G มีขนาด 164.57 × 75.30 ×9.10 มม. น้ำหนัก 219 กรัม ใช้วัสดุกระจกเกรดดี เสริมให้ตัวเครื่องดูมีความหรูหราสวยงาม ตัวเครื่องบางเบา จับถือใช้งานได้สะดวก

vivo X80 Pro 5G มาพร้อมหน้าจอ E5 AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด WQHD+ (3200x1440 พิกเซล) ส่วนในรุ่นรองลงมาอย่าง vivo X80 5G ก็เลือกใช้พาเนล AMOLED และมีขนาดความกว้างเท่ารุ่นโปร แต่ปรับความละเอียดลงมาที่ระดับ FHD+ และทั้งคู่ยังรองรับ 120Hz Refresh Rate ให้การแสดงผลที่ไหลลื่น ภาพคมชัด สีสันสวยงามชัดเจน เพิ่มความพรีเมี่ยมด้วยขอบจอที่โค้งลงแบบ 3D

ส่วนบนของหน้าขอมาพร้อมดีไซน์รอยเจาะ เป็นตำแหน่งของกล้องหน้า ความละเอียดสูง 32 ล้านพิกเซล (f/2.45) เหนือขึ้นไปเป็นลำโพงเสียง

ส่วนล่างของหน้าจอเป็นซอร์ฟแวร์การนำทางระบบ ซึ่งในรุ่นโปร vivo X80 Pro 5G จะมีเซนเซอร์สแกนนิ้ว 3D Ultrasonic ไว้ที่ใต้หน้าจอด้วย

ตัวเครื่องด้านบนมีดีไซน์แบบเหลี่ยมตัด มีรูไมโครโฟนตัดเสียงอยู่

ฝั่งขวามีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง พร้อมปุ่ม Power ที่ใช้สำหรับเปิด-ปิด หรือล็อคหน้าจอ อีกทั้งยังตั้งค่าให้เป็นปุ่มเรียกใช้งานด่วนได้ในภายหลังด้วย

ด้านล่างของตัวเครื่อง ตรงกลางจะมีพอร์ต USB Type C สำหรับชาร์ตและเชื่อมต่อ ถัดมาทางฝั่งขวาจะเป็นลำโพงเสียง ส่วนทางซ้ายเป็นไมโครโฟนตัวที่ 1 และช่องใสถาดซิมการ์ด

ช่องใส่ซิมการ์ดเป็นแบบ 2 slot รองรับ Nano SIM ได้ 2 ซิม ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอก MicroSD Card ได้

เมื่อพลิกมาด้านหลังของตัวเครื่อง จะต้องสะดุดตากับโมดูลกล้องขนาดใหญ่ ที่ทำให้กล้องดูมีความเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้น ด้วยโมดูลแบบวงกลม และมีสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่รองอีกชั้น ซึ่งในรุ่น vivo X80 Pro 5G ติดตั้งกล้องหลังมาให้ 4 เลนส์ กล้องหลัก ความละเอียด 50MP เซนเซอร์ Samsung ISOCELL GNV ขนาด 1/1.3 นิ้ว, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 48MP, เลนส์ Pro Portrait เซนเซอร์ Sony IMX663 ความละเอียด 12MP พร้อมระบบกันสั่น OIS และเลนส์ Ultra-Telephoto ความละเอียด 8MP โดยแต่ละเลนส์ยังมีการเคลือบด้วยเทคโนโลยี ZEISS T* ด้วย

สำหรับ vivo X80 5G ก็มีโมดูลกล้องแบบเดียวกัน แต่ติดตั้งกล้องหลังมาให้ 3 เลนส์ ประกอบด้วย กล้องหลัก ความละเอียด 50MP เซนเซอร์ Sony IMX866 ขนาด 1/1.49 นิ้ว พร้อมกันสั่น OIS ความละเอียด 50MP, กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 12MP, และกล้อง Pro Portrait ความละเอียด 12MP เคลือบด้วยเทคโนโลยี ZEISS T* เช่นกัน

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

กล้อง ZEISS บนโมดูลใหม่ คุณภาพระดับมืออาชีพ

ไฮไลท์เด่นของรุ่นนี้ ที่ต้องหยิบยกมาพูดเป็นอันดับแรก ก็คือกล้องหลังอันทรงพลังของ vivo X80 Series 5G ซึ่งพัฒนาร่วมกับแบรนด์เลนส์กล้องชื่อดังอย่าง ZEISS และกล้องทุกเลนส์มีการเคลือบด้วยเทคโนโลยี ZEISS T* ซึ่งจะช่วยปรับปรุงให้การถ่ายภาพมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ให้ค่าสีที่แม่นยำ ทำให้ทุกภาพมีสีสันสวยสดสมจริง พร้อมกับมีความคมชัดในระดับมืออาชีพ

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับกล้องหลัง ความคมชัดสูงสุด 50MP ของเลนส์กล้อง ZEISS ที่จับคู่กับ vivo Pro Imaging chip V1+ ชิปพิเศษที่พัฒนาขึ้นโดย vivo ซึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพการถ่ายวิดีโอในตอนกลางคืน และให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นแม้ถ่ายในที่แสงน้อย

สำหรับกล้องหลัง vivo X80 Pro 5G ติดตั้งมาทั้งหมด 4 กล้อง ประกอบไปด้วย กล้องหลัก เซนเซอร์ Samsung ISOCELL GNV ขนาด 1/1.3 นิ้ว ความละเอียด 50MP, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 48MP, เลนส์ Pro Portrait เซนเซอร์ Sony IMX663 ความละเอียด 12MP พร้อมระบบกันสั่น OIS และเลนส์ Ultra-Telephoto ความละเอียด 8MP ในขณะที่กล้องหน้ามีความละเอียด 32MP

ส่วนใน vivo X80 5G ติดตั้งกล้องหลัง 3 เลนส์ ประกอบด้วย กล้องหลัก เซนเซอร์ Sony IMX866 ความละเอียด 50MP และมีระบบกันสั่นแบบ OIS, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 12MP และเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12MP ในขณะที่กล้องหน้ามีความละเอียด 32MP เช่นเดียวกัน

ดีไซน์จอโค้ง E5 AMOLED รองรับ 120Hz Refresh Rate

vivo X80 Pro 5G และ vivo X80 5G มาพร้อมหน้าจอดีไซน์โค้งแบบ 3D ให้รูปลักษณ์ที่สวยงามหรูหรา ทั้งยังมีความกว้างถึง 6.78 นิ้ว ทั้งคู่ มีความชัดเจนคมชัดฉบับ E5 AMOLED สีสันสวยสดสมจริง รองรับอัตรา Refresh Rate ได้สูงสุดถึง 120Hz ส่งผลให้การแสดงผลมีความสมูทตามากขึ้น และยังสามารถปรับอัตรา Refresh Rate แบบอัตโนมัติ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน และใน vivo X80 Pro 5G ยังฝังเซนเซอร์สแกนนิ้ว 3D Ultrasonic มาให้ที่หน้าจอ ช่วยให้การสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคทำงานได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว แม้สภาพแสงภายนอกจะจ้ามาก หรือมือมีความเปียกชื้นอยู่นั่นเอง

หน่วยประมวลผลระดับเรือธง

vivo X80 Series 5G ทั้งสองรุ่นเลือกใช้หน่วยประมวลผลระดับเรือธงที่ต่างกัน ซึ่งมาจาก 2 ค่ายชั้นนำ โดยในรุ่น vivo X80 Pro 5G เลือกใช้เป็น Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 ที่การันตีความเร็วแรงด้วยสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปของปี 2022 มาแล้ว ส่วนใน vivo X80 5G ก็ไม่น้อยหน้ารุ่นพี่ มาพร้อมชิปแรงๆ อย่าง MediaTek Dimensity 9000 ซึ่งปรับปรุงประสิทธิภาพของ CPU ขึ้น 45% และ GPU เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทำคะแนน Antutu ไปทะลุล้าน สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการ Flagship ส่วน RAM สูงสุด 12GB LPDDR5 และ ROM สูงสุด 512GB UFS 3.1 รันบนระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 12 บนพื้นฐาน Android 12 ช่วยให้การทำงานต่างๆ ลื่นไหลไม่มีสะดุด

ใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน ด้วยแบตเตอรี่ความจุ 4500mAh ในรุ่น vivo X80 5G และความจุใหญ่ขึ้น 4700mAh ในรุ่น vivo X80 Pro 5G ซึ่งรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 80W Flash Charge แบบผ่านสาย และไร้สาย 50W

ราคาและวันวางจำหน่าย

เปิดให้จอง vivo X80 Series 5G แบบสุดพิเศษแล้ว ตั้งแต่วันนี้ - 18 พฤษภาคม 2565 เมื่อจองวันนี้! รับส่วนลดค่าเครื่อง 1,000.- ทั้งสองรุ่น พร้อมเลือกรับ ...

vivo TWS 2 ANC, Gaabor Air fryer และ VIP Card มูลค่ารวมกว่า 15,888.- สำหรับการจอง X80 5G
หรือ vivo TWS 2 ANC, vivo 50W Vertical Wireless Flash Charger และ VIP Card มูลค่ารวมกว่า 16,997.- สำหรับการจอง X80 Pro 5G

จองได้ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขา ผู้ให้บริการเครือข่าย AIS, TRUE, DTAC และตัวแทนจำหน่าย BaNANA, IT CITY, CSC, Jaymart, TG FONE, KINGKONG, BKK, Big C, Advice, STAMP, MAXLINK, Powerbuy, Lotus และ Power Mall ทุกสาขาทั่วประเทศ

หรือจองทางออนไลน์ที่ vivo official store: https://bit.ly/38abZbs

เตรียมรับชมงานเปิดตัว vivo X80 Series สุดเอกซ์คลูซิฟ ในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ ผ่านทาง Facebook vivo Thailand, YouTube vivo Thailand ตั้งแต่เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป