รีวิว OnePlus 10 Pro 5G สมาร์ทโฟนเรือธง กล้อง Hasselblad แรงไปให้สุดกับชิป Snapdragon 8 Gen 1

โดย ปภัสสร อมรประสิทธิ์ โดย สิรภพ ผิวทอง

ปรับขนาดตัวอักษร - ก +ก

รีวิว OnePlus 10 Pro 5G สมาร์ทโฟนเรือธงแห่งปี พร้อมกล้องที่ร่วมพัฒนากับ Hasselblad ชูโรงกล้องคุณภาพ หน้าจอ 120Hz Fluid AMOLED ลื่นไหลคมชัด ทรงพลังด้วยชิป Snapdragon 8 Gen 1 ที่ทำงานร่วมกับ RAM LPDDR5 ที่สูงสุดถึง 12 GB รองรับ 5G และ Wi-Fi 6 ตอบโจทย์การใช้งานสุดแรง แบตเตอรี่ ความจุ 5,000 mAh กับการชาร์จเร็ว SUPERVOOC 80W ที่ทรงพลัง

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

OnePlus 10 Pro 5G มีขนาดตัวเครื่อง 163.0 x 73.9 x 8.55 มม. และน้ำหนัก 200.5 กรัม การถือจับรับกับมือ ให้สัมผัสที่ดี รูปลักษณ์ดูสวยงามทันสมัย

จอแสดงผลใช้พาเนลแบบ Fluid MOLED ความกว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (3216 x 1440 พิกเซล) แสดงผลสีแบบ 10-bit และเป็นจอแสดงผลแรกในอุตสาหกรรมที่มี Dual Color Calibration การปรับเทียบเพื่อให้ได้สีที่แม่นยำและเป็นธรรมชาติ หน้าจอจึงมีทั้งความสว่างชัดเจน สีสันสวยสดสมจริง สีดำมืดสนิท สู้แสงภายนอกเวลากลางวันได้เป็นอย่างดี ทั้งยังสมูทลื่นไหลด้วยอัตรารีเฟรชเรทที่ 120Hz

ส่วนบนของหน้าจอแสดงผล OnePlus 10 Pro 5G ทางมุมซ้ายบนติดตั้งกล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล และมีลำโพงเสียงอยู่ตรงกลาง

จอด้านล่างเป็นการนำทางระบบแบบซอร์ฟแวร์ สามารถตั้งค่าให้เป็นแบบ 3 ปุ่ม หรือแบบสัมผัสได้

ตัวเครื่องด้านบน OnePlus 10 Pro 5G มีไมโครโฟนตัวที่ 2

ฝั่งซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง

ฝั่งขวาของตัวเครื่อง OnePlus 10 Pro 5G ยังให้ปุ่ม Alert Slider ที่ใช้ในการเลื่อนเพื่อปรับโหมดเสียงมาให้ เมื่อปรับไปที่บนจะเป็นโหมดเงียบ, กลางจะเป็นระบบสั่น, ล่างสุดจะเป็นการเปิดเสียง และถัดลงมาเป็นปุ่ม Power ใช้สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง

ตัวเครื่องด้านล่างมีพอร์ต USB Type-C อยู่ตรงกลาง ขนาบข้างด้วยช่องใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่อง ซึ่งในรุ่นนี้ไม่มีช่องสำหรับใส่ MicroSD Card, ไมโครโฟนตัวที่ 1 และลำโพงเสียง

ด้านหลัง OnePlus 10 Pro 5G จะมีโมดูลกล้องดีไซน์ 3 มิติ ซึ่งให้ความโค้งมนและเชื่อมกับตัวเครื่องแบบไร้รอย ติดตั้งกล้องหลัง 3 เลนส์ ประกอบด้วย เลนส์หลัก ความละเอียด 48MP, เลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 50MP, เลนส์ Telephoto ความละเอียด 8MP พร้อมไฟแฟลช 2 ดวง

สเปคพื้นฐานของ OnePlus 10 Pro 5G

ขนาดตัวเครื่อง : 163.0 x 73.9 x 8.55 มม.
น้ำหนัก : 200.5 กรัม
จอแสดงผล : หน้าจอ 120Hz Fluid AMOLED พร้อม LTPO 2.0 ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (3216 x 1440 พิกเซล), 525 PPI, อัตราส่วน 20.1:9, รองรับ Refresh Rate 1-120Hz, แสดงผลสี 10-bit และครอบทับด้วย Corning Gorilla Glass Victus
ระบบปฏิบัติการ : Android 12 ครอบทับด้วย OxygenOS 12
หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 Octa-core ความเร็ว 3.0GHz
GPU : Adreno 730
RAM : 12GB LPDDR5
ROM : 1256GB UFS 3.1 2-LANE
กล้องหลัง 3 เลนส์ พัฒนาร่วมกับ Hasselblad
- เลนส์หลัก : ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 รองรับเทคโนโลยีกันสั่น OIS เซ็นเซอร์ Sony IMX789
- เลนส์ Ultra-Wide Angle : ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 150 องศา, เซ็นเซอร์ JN1
- เลนส์ Telephoto 3.3x : ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 รองรับเทคโนโลยีกันสั่น OIS
กล้องหน้า : ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รองรับเทคโนโลยีกันสั่น EIS และเซ็นเซอร์ IMX615
การเชื่อมต่อ : รองรับ 5G SA/NSA, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2
ลำโพงคู่ระบบ Dolby ATMOS, NFC
รองรับพอร์ต USB Type-C
แบตเตอรี่ : ความจุ 5000mAh รองรับ 80W SUPERVOOC, 50W AIRVOOC และชาร์จย้อนกลับ

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

หน้าจอล็อค

หน้าจอหลัก

Always-On Display

นาฬิกาบนหน้าจอ หรือ Always-On Display ที่ทาง OnePlus 10 Pro 5G มีรูปแบบให้เลือกใช้ได้อย่างหลากหลายตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบนาฬิกาที่ต่างกัน หรือแบบ Insight ที่จะช่วยให้คุณดูพฤติกรรมการใช้งานสมาร์ทโฟน เพื่อจัดการกับเวลาได้ดีขึ้นฃล

นอกจากนี้ ยังมีรูปแบบพิเศษของลวดลายแบบ Canvas ที่จะใช้รูปที่เราชื่นชอบมาเป็นพื้นหลังของ AOD โดยอัตโนมัติได้ด้วย

โหมดกลางคืน

สำหรับโหมดกลางคืน (Night Mode) สามารถตั้งเวลาเปิดปิดอัตโนมัติได้ โดยกำหนดเวลาไว้ อีกทั้งยังตัดความคมของตัวอักษร ที่ปกติจะมีความสว่างจ้าออกมาจากธีมที่มืด ช่วยให้มองได้สบายตามากยิ่งขึ้น ทั้งยังมีรูปแบบความเข้มของธีม ให้เลือกอีก 3 รูปแบบ เพื่อให้ตรงกับความต้องการใช้มากขึ้น

วิดเจ็ต

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง OnePlus 10 Pro 5G

ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 5 ได้คะแนน Single-Core ที่ 969 และคะแนน Multi-Core ที่ 3440 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย 3DMark (Sling Shot) ได้ 9 730 คะแนน
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Gyroscope Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ดีไซน์ดุดันสุดพรีเมี่ยม น่าค้นหา

OnePlus 10 Pro 5G มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่สุดแปลกตา ดูดุดัน คลาสิก และน่าค้นหา สมกับการเป็นสมาร์ทโฟนเรือธง ใช้กระบวนการผลิตแบบ 3D Nano-Microcrystalline ทำให้ฝาด้านหลังมีความเงา และมีพื้นผิวด้านที่พรีเมี่ยมให้ความรู้สึกดีเมื่อสัมผัส และยังมีความทนทานถึง 8.5 Mohs ซึ่งมากกว่าแบบสแตนเลสถึง 30%

ตัวเครื่องมีความเพรียวบาง ด้วยความหนาเพียง 8.55 มม. และน้ำหนักที่ถือจับใช้งานได้สบายๆ แม้จะมีขนาดหน้าจอที่กว้าง พร้อมบรรจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า 5000mAh ก็ตาม อีกทั้งยังมีโมดูลกล้องหลังขนาดใหญ่แบบ 3 มิติ ออกแบบให้มีความโค้งมนแบบไร้รอยต่อไปกับตัวเครื่อง ดูสวยงามสะดุดตา เข้ากับดีไซน์โดยรวมของตัวเครื่อง และสีดำ Volcanic Black ประกายระยิบระยับเล็กๆ ได้เป็นอย่างดี

หน้าจอ Fluid AMOLED ใหญ่ชัดระดับ QHD+

OnePlus 10 Pro 5G ใช้จอแสดงผลแบบ Fluid AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (3216 x 1440 พิกเซล) รองรับ 525PPI และการแสดงผลสีแบบ 10-bit ช่วยให้หน้าจอมีความสว่างคมชัด สีสันสวยสดสมจริง สู้แสงแดดอันร้อนแรงของไทยได้สบาย บวกกับความลื่นไหลแบบฉบับ Refresh Rate 120Hz ที่รองรับ LPTO 2.0 สามารถปรับได้อัตโนมัติระหว่าง 1-120Hz เพื่อความเหมาะสมในการใช้งานแต่ละคอนเทนต์ ทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus ที่มีความแข็งแรงทนทาน ป้องกันจากการตกกระแทกและรอยขีดข่วนได้ดี

ประสิทธิภาพ

OnePlus 10 Pro 5G จัดสเปคมาให้แบบจัดเต็ม ด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1 ทำงานร่วมกับ RAM แบบ LPDDR5 ขนาด 12GB และ ROM ความจุ 256GB ซึ่งรองรับการใช้งานบนเครือข่าย 5G แบบ Dual Mode อีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ การประมวลผลมีความรวดเร็วและลื่นไหล เปิดแอปพลิเคชั่นสลับไปมา ไม่พบการกระตุกหรือหน่วงช้า ส่วนการเล่นเกมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ROV, PUBG Mobile ก็สามารถเปิดกราฟฟิคภาพสูงสุดได้ทั้งหมด ตัวเครื่องมีความร้อนเกิดขึ้นบ้าง แต่ก็มีระบบระบายความร้อนมารองรับ ซึ่งก็ทำได้ในระดับดี

แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จไว 80W SuperVOOC

OnePlus 10 Pro 5G ให้แบตเตอรี่มาแบบจุใจที่ 5,000mAh พร้อมรองรับชาร์จไว 80W SuperVOOC Flash Charge ซึ่งเคลมว่าสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% – 100% ภายในระยะเวลาเพียง 32 นาที มีอะแดปเตอร์ชาร์จเร็วมาให้ในกล่อง และยังรองรับระบบชาร์จไวไร้สาย 50W AirVOOC ที่ชาร์จแบตจาก 0 – 100% ในเวลาเพียง 47 นาที อีกด้วย

กล้องถ่ายภาพ

นอกจากดีไซน์ที่โดดเด่นสะดุดตาแล้ว ความสามารถของกล้องหลัง OnePlus 10 Pro 5G ก็ไม่น้อยหน้า ด้วยการจับมือพัฒนากับ Hasselblad ให้กล้องถ่ายภาพมีคุณภาพระดับเทพขึ้นไปอีก โดยให้กล้องหลังมาทั้งหมด 3 เลนส์ ประกอบด้วย เลนส์หลัก ความละเอียด 48MP เซนเซอร์ Sony IMX789, เลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 50MP ให้มุมมองกว้าง 150 องศา และเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8MP พร้อมไฟแฟลช 2 ดวง มีการกรีนสัญลักษณ์ P2D 50T และ Hasselblad ซึ่งหมายถึงกล้องสมาร์ทโฟน Hasselblad รุ่นที่ 2 พร้อมความละเอียด 50 ล้านพิกเซล นั่นเอง ส่วนกล้องหน้า มีความละเอียดที่ 32 ล้านพิกเซล

ความน่าสนใจของกล้อง Hasselblad ใน OnePlus 10 Pro 5G นอกจากจะมีความละเอียดสูงและเซนเซอร์ขนาดใหญ่แล้ว ยังเอาใจสาวกแบรนด์กล้องในตำนานอย่าง Hasselblad ที่ใส่ทั้งฟิลเตอร์ของการถ่ายภาพอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และการจัดวางอัตราส่วนของภาพที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นโหมด XPAN จากใน Hasselblad XPAN ที่ปรับอัตราส่วนของภาพให้เป็น 65:24 และจัดวางภาพถ่ายให้เป็นภาพแนวสตรีท ปรับแต่งโทนของสีภาพให้เป็นสีปกติหรือขาวดำตามสไตล์ของ Hasselblad โดย Master Style จะมีด้วยกัน 3 รูปแบบ ได้แก่ ประกาย (Radiance), ละมุน (Serenity) และมรกต (Emerald) นั่นเอง

OnePlus 10 Pro 5G ยังรองรับ OnePlus Billion Color Solution เป็นการถ่ายภาพแบบ 10-bit ซึ่งภาพที่ได้จะมีสีตรงตามมาตรฐาน DCI-P3 ให้สีสันและความคมชัดที่สมจริงมากๆ สามารถใช้ได้ในโหมดภาพถ่ายปกติ และโหมดกลางคืนเท่านั้น

ราคาวางจำหน่าย

OnePlus 10 Pro 5G (RAM 12 + ROM 256GB) วางจำหน่ายแบบ Exclusive เฉพาะทาง AIS เท่านั้น ในราคาเริ่มต้นเพียง 24,990 บาท เป็นโปรโมชั่นเมื่อสั่งซื้อผ่านช่องทางผู้ให้บริการเครือข่ายอย่าง AIS พร้อมแพ็คเกจรายเดือน Hot Deal 5G Max Speed Exclusive ส่วนราคาเฉพาะเครื่องเปล่าไม่ติดแพ็กเก็จ มีราคาอยู่ที่ 35,990 บาท โดยมีให้เลือกสีเดียว คือ สีดำ Volcanic Black นั่นเอง